วิธีการ ทำปอเปี๊ยะ

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

ทำปอเปี๊ยะสดสไตล์เวียดนาม

ทำปอเปี๊ยะทอดสไตล์จีน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

ปอเปี๊ยะคือเครื่องเคียงของอาหารแถบเอเชียต่างๆ หรือจะกินเป็นขนมขบเคี้ยวเปล่าๆ ก็ได้ ประหยัดเงินเอาไว้ และเพิ่มทักษะการทำอาหารด้วยของทอดรสเลิศนี้ ไม่ว่าจะเลือกลองทำปอเปี๊ยะสดเวียดนามหรือปอเปี๊ยะทอดของจีน ก็ให้ใช้วัตถุดิบที่สดใหม่เพื่อดึงทุกรสชาติออกมาให้ดีที่สุด

ส่วนประกอบ

ปอเปี๊ยะเวียดนาม

• ใบเมี่ยงเวียดนาม
• ใบมินต์สด 1 ถ้วย (250 มล.)
• กุ้งต้ม 1 ถ้วย (250 มล.)
• ผักกาดฉีก
• วุ้นเส้นลวก 2 ถ้วย (500 มล.) ทิ้งให้เย็น
• ถั่วงอกสด 3 ถ้วย (750 มล.)
• แครอทขนาดกลาง 1 ลูก

ปอเปี๊ยะจีน

• แผ่นปอเปี๊ยะทอด
• น้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะ (15 มล.)
• กระเทียมสับ 2 ช้อนชา (10 มล.)
• ขิงสับ 2 ช้อนชา (10 มล.)
• หัวหอมซอย ½ ถ้วย (125 มล.)
• พริกซอย ½ ถ้วย (125 มล.)
• แครอทซอย 1 ถ้วย (250 มล.)
• กะหล่ำปลีฝอย 1 ถ้วย (250 มล.)
• เส้นก๋วยเตี๋ยวแคะลวก ½ ถ้วย (125 มล.)
• ซอสเสฉวน 2 ช้อนชา (10 มล.)
• ซอสมะเขือเทศ 1 ช้อนชา (5 มล.)
• น้ำมันสำหรับทอด
• เกลือเพื่อเพิ่มรสชาติ

ขั้นตอน

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 2:

ทำปอเปี๊ยะสดสไตล์เวียดนาม

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   หั่นกุ้งและแครอท. แกะเปลือกกุ้งออกให้หมด ไม่ให้เหลือหางหรือขาอยู่เลย โดยเริ่มแกะจากกลางลำตัวที่มีขาอยู่ เมื่อแกะออกหมดแล้ว ก็ให้ค่อยๆ ผ่าตามแนวยาวออกครึ่งหนึ่ง ส่วนแครอทก็ให้หั่นหัวกับท้ายออกแล้วฝานเปลือกทิ้ง หั่นแครอทให้เป็นชิ้นเล็กๆ ประมาณชิ้นละสองนิ้ว ซึ่งแต่ละชิ้นก็ควรให้เล็กกว่าขนาดของไม้ขีดไฟ

   • ถ้าคุณชอบแตงกวา จะเพิ่มมันลงไปในส่วนผสมก็ได้นะ แตงกวาไม่เพียงแต่จะให้รสชาติ แต่ยังช่วยเพิ่มความกรุบกรอบให้กับปอเปี๊ยะอีกด้วย อย่าลืมปอกเปลือกแตงกวาและหั่นให้มีชิ้นขนาดเท่าไม้ขีดไฟล่ะ
2. 
   2
   รวมวัตถุดิบเข้าด้วยกัน. รวมวัตถุดิบต่างๆ เข้าด้วยกัน เพื่อที่จะห่อได้ไวขึ้น ก็คือให้เอาแครอท กุ้ง เส้นก๋วยเตี๋ยว ใบมินต์ ผักกาด และถั่วงอกกำรวมเป็นช่อเดียวกันเพื่อเตรียมนำไปห่อ

   • การเตรียมนำวัตถุดิบไปห่อจะช่วยในการทำปอเปี๊ยะได้ดีมาก โดยเฉพาะถ้าคุณทำปอเปี๊ยะจำนวนมาก หรือทำกับลูกๆ เพื่อให้การทำปอเปี๊ยะดูสนุก
3. 
   3
   แช่ใบเมี่ยงเวียดนามให้เปียก. เมื่อเปิดห่อใบเมี่ยงเวียดนามออกมา ก็จะพบกับแผ่นที่หน้าตาคล้ายกับกระดาษแข็ง ถ้าจะทำให้มันนิ่มลง ก็ต้องเติมน้ำอุ่นจำนวนหนึ่งลงในหม้อใบใหญ่หรือจานก้นลึก แล้ววางแผ่นใบเมี่ยงทีละแผ่นลงในภาชนะ ก่อนจะนับหนึ่งถึงห้าช้าๆ จากนั้นค่อยๆ ยกใบเมี่ยงขึ้นจากน้ำเมื่อเห็นว่ามันอ่อนตัวลงและดูยืดหยุ่น ก่อนจะนำไปวางบนผ้าขาวบาง จะใช้ปลอกหมอนผ้าฝ้ายหรือผ้าปูโต๊ะแทนก็ได้นะ

   • อย่าแช่ใบเมี่ยงเวียดนามนานเกินไป และแช่ทีละแผ่นพอ ถ้าแช่หลายแผ่นพร้อมกันในครั้งเดียว ก็จะทำให้แผ่นใบเมี่ยงติดกันได้ และถ้าแช่นานเกินไป ก็จะทำให้แผ่นใบเมี่ยงชุ่มน้ำและขาดยุ่ยได้ง่าย
4. 
   4
   เติมไส้ปอเปี๊ยะ. วางไส้ลงตรงกลางแผ่นใบเมี่ยงประมาณสองในสามของห่อ เริ่มที่เรียงใบมินต์ ใบมินต์จะมีรสชาติที่ค่อนข้างแรง ฉะนั้นให้ใช้สามถึงสี่ใบต่อการห่อหนึ่งครั้ง ขึ้นอยู่กับว่าชอบรสชาติของมันขนาดไหน ต่อมาก็เรียงกุ้งสี่ถึงห้าชิ้นไว้บนใบมินต์ ตามด้วยแครอทหรือผักชนิดอื่นๆ สุดท้ายก็คลุมผักเอาไว้ด้วยเส้นก๋วยเตี๋ยวและผักกาด

   • จำเอาไว้ว่าใบมินต์กับกุ้งจะทำให้เห็นสีทะลุออกมานอกใบเมี่ยง ลองเปลี่ยนที่วางเพื่อทำให้ปอเปี๊ยะดูสดและสวยงามดูก็ได้นะ
   • จัดให้ผักอยู่ตรงกลางปอเปี๊ยะเสมอ แผ่นใบเมี่ยงเป็นอะไรที่บอบบางและขาดง่าย ถ้าหุ้มผักเอาไว้ตรงกลาง แครอทแข็งๆ ก็จะไม่ทะลุผ่านแผ่นใบเมี่ยงออกมาได้นั่นเอง
   • ควรเติมไส้ประมาณ 60% ของความยาวปอเปี๊ยะ ตอนที่วางไส้ลงไป ต้องเหลือพื้นที่แต่ละด้านพอให้พับม้วนขึ้นมาแล้วห่อได้ด้วย
5. 
   5
   ห่อปอเปี๊ยะ. ยกแผ่นใบเมี่ยงห่อคลุมไส้มันเอาไว้ โดยห่อให้แน่นๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ไส้ร่วงออกมา อย่าดึงแรงเกินไป ไม่อย่างนั้นแผ่นใบเมี่ยงอาจเละได้ หลังจากที่ห่อพับไส้ได้เรียบร้อยแล้ว ก็ให้พับด้านทั้งสองสั้นๆ ปิดหัวท้ายให้สมบูรณ์ คราวนี้ก็จะได้ปอเปี๊ยะที่มีมุมพับเข้ามาสามมุมห่อไส้อยู่นั่นเอง จากนั้นก็ม้วนใบเมี่ยงและเก็บมุมที่เหลือเข้ามาให้หมด

   • ใช้ทั้งสองมือห่อป่อเปี๊ยะทุกครั้ง อาจต้องใช้ความเคยชินสักหน่อย และปอเปี๊ยะอันแรกๆ ก็อาจออกมาไม่ได้สวยที่สุด แต่ยิ่งม้วนไปก็จะยิ่งง่ายขึ้นนะ
6. 
   6
   ม้วนจนกว่าจะหมด. เมื่อจะเก็บปอเปี๊ยะ ก็ให้ค่อยๆ วางเอาไว้ด้านข้างพร้อมแรปพลาสติกที่ห่อเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ปอเปี๊ยะแยกตัวออกจากกันและทำให้ปอเปี๊ยะกลับไปอยู่ในสภาพที่ยังไม่เสร็จนั่นเอง ปอเปี๊ยะเวียดนามนั้นกินกันแบบไม่ได้นำไปทำให้สุกเพิ่มอยู่แล้ว ฉะนั้นปอเปี๊ยะเหล่านี้ก็สามารถกินได้เลยนะ

   • ลองเสิร์ฟปอเปี๊ยะชนิดนี้คู่กับซอสถั่วสิ โดยสามารถทำซอสชนิดนี้ได้จากการผสมซอสฮอยซินกับเนยถั่ว และน้ำอีกนิดหน่อย เติมซอสพริกถ้าอยากได้รสเผ็ด
   โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 2:

ทำปอเปี๊ยะทอดสไตล์จีน

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ทอดไส้ปอเปี๊ยะ. หลังจากที่อุ่นน้ำมันให้ร้อนแล้ว ก็ให้ผัดกระเทียมและขิงด้วยไฟแรงประมาณสามสิบวินาที ใส่หัวหอมและพริกหยวกลงไป จากนั้นก็ผัดอีกสองนาที ใส่แครอท เส้นก๋วยเตี๋ยว กะหล่ำปลี และผัดๆ คนๆ อีกสามนาที ให้คอยคนกระทะอยู่บ่อยๆ เพื่อไม่ให้ส่วนผสมไหม้ และเมื่อเสร็จแล้ว ก็ยกกระทะขึ้นจากเตาได้เลย

   • หั่นเส้นก๋วยเตี๋ยวก่อนที่จะใส่ลงไปในกระทะ เพื่อไม่ให้เส้นก๋วยเตี๋ยวยาวๆ เหนียวๆ หลุดออกมาจากปอเปี๊ยะนั่นเอง โดยหั่นให้ได้ความยาวประมาณ 2 นิ้ว (4 ซม.) เพื่อทำปอเปี๊ยะ
2. 
   2
   ใส่วัตถุดิบที่เป็นของเหลวลงไป. หลังจากที่ปิดเตาแก๊สแล้ว ก็ใส่ซอสมะเขือเทศ เกลือ และซอสเสฉวนตามลงไป คนวัตถุดิบในกระทะให้เข้ากันจนกว่าของเหลวจะคลุมพวกผักทั้งหมด จากนั้นก็เทไส้พักเอาไว้จนกว่าจะใช้มัน

   • ถ้าอยากใส่เนื้อลงไปด้วย อย่างหมูสับหรือไก่สับ ก็ให้ใส่ส่วนผสมดิบเหล่านั้นลงไปพร้อมๆ กับส่วนผสมที่เป็นของเหลวได้เลย
3. 
   3
   เติมไส้ลงในแป้ง. คลี่แป้งออกเป็นสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนวางตรงหน้า ตักไส้ขึ้นมาพูนช้อน แล้วใส่ลงไป ¾ ของแผ่นแป้งแต่ละห่อ แล้วพับคลุมไส้ขึ้นมาตามแนวนอน ใช้นิ้วพับส่วนปลายสั้นๆ กดให้แน่น แล้วไปม้วนปอเปี๊ยะยัดไส้ที่เหลืออยู่ซะ

   • ถ้าคุณมีปัญหาในการพับให้แน่น ก็ให้ใช้น้ำผสมกับแป้งเล็กน้อย จุ่มนิ้วลงไปในส่วนผสมนั้นแล้วแตะกดรอบๆ จุดที่จะผนึกปอเปี๊ยะเอาไว้ มันจะช่วยให้แผ่นแป้งปิดแน่นเอง
4. 
   4
   อุ่นน้ำมันที่จะใช้ทอด. อุ่นน้ำมันชั้นบางๆ ในกระทะด้วยไฟกลาง เมื่อน้ำมันเริ่มเดือด ก็ลงปอเปี๊ยะในกระทะได้เลย ทอดไปประมาณ 2 นาทีจนกว่าจะได้สีทอง และอย่าลืมคอยกลับด้านเพื่อให้ปอเปี๊ยะสุกเท่ากันด้วยล่ะ เมื่อทั้งสองด้านเป็นสีน้ำตาลทองสวยแล้ว ก็แปลว่าเสร็จแล้วนั่นเอง

   • ให้วางปอเปี๊ยะเอาไว้บนกระดาษที่ใช้ซับได้ อย่างทิชชู่ทั้งก่อนและหลังทอด มันจะช่วยซับน้ำออกก่อนที่จะลงไปทอด และช่วยซับน้ำมันส่วนเกินหลังจากทอดเสร็จเช่นกัน
   • ลองเสิร์ฟปอเปี๊ยะทอดของจีนคู่กับซอสถั่วเหลืองสิ
   โฆษณา

เคล็ดลับ

• ตอนที่ม้วนปอเปี๊ยะแล้ว ให้จิกปลายแผ่นแป้งเพื่อเพิ่มความแน่นของการห่อ
• เมื่อจะม้วนปอเปี๊ยะชนิดใดก็ตาม ม้วนมันให้แน่นไปเลย ถ้าเผลอทำมันขาดนิดหน่อยก็ไม่ต้องกลัวหรอกนะ

โฆษณา

คำเตือน

• การทำอาหารโดยใช้น้ำมันอาจอันตรายและทำให้เกิดแผลพุพองได้ ปิดฝาหม้อที่อยู่ใกล้ๆ และเตรียมถังดับเพลิงเอาไว้ด้วยก็ดีนะ
• ห้ามดับไฟกระทะด้วยน้ำล่ะ ยิ่งเทน้ำลงไปก็จะยิ่งทำให้น้ำมันและไฟกระจายตัวไปอีก ถ้าหากว่าไฟมันลามขึ้นมา ก็ให้เทผงฟูลงบนกระทะแล้วปิดฝาหากเป็นไปได้

โฆษณา