วิธีการ ฆ่าไวรัสในกระเพาะ

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

ปกติไวรัสในกระเพาะจะไม่ทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงแต่อย่างใด แต่อาจจะทำให้คุณต้องนอนซมไป 2 - 3 วันได้ สุดท้ายแล้วร่างกายจะกำจัดไวรัสออกไปได้ด้วยตัวเอง แต่ก็พอมี 2 - 3 วิธีที่คุณทำได้ เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสู้กับไวรัสจนคุณรู้สึกดีขึ้นได้ในเวลาไม่นาน บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำให้คุณเอง

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

ดูแลตัวเองหลักๆ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ให้ร่างกายได้น้ำจากน้ำแข็งก้อนและของเหลวใสๆ....
    ให้ร่างกายได้น้ำจากน้ำแข็งก้อนและของเหลวใสๆ. พอมีไวรัสในกระเพาะแล้วร่างกายจะเสี่ยงขาดน้ำได้ง่ายมาก เพราะงั้นสิ่งสำคัญที่ควรช่วยร่างกายต้านไวรัสอีกแรง คืออย่าให้ร่างกายขาดน้ำเด็ดขาด
    • ถ้าเป็นผู้ใหญ่ ให้ดื่มน้ำ 8 ออนซ์ (250 มล.) ทุก 1 ชั่วโมง ส่วนเด็กให้ดื่มน้ำ 1 ออนซ์ (30 มล.) ทุก 30 - 60 นาที[1]
    • ดื่มน้ำช้าๆ ค่อยๆ จิบไป อย่ากระดกทีละเยอะๆ น้ำจะได้ค้างอยู่ในกระเพาะนานกว่า เพราะค่อยๆ เข้าสู่ระบบ ไม่ได้มาพรวดเดียว
      How.com.vn ไท: Step 1 ให้ร่างกายได้น้ำจากน้ำแข็งก้อนและของเหลวใสๆ....
    • แต่การดื่มน้ำเปล่าเยอะไปช่วงรักษาตัวก็อาจไปเจือจางเกลือแร่ (อิเล็กโทรไลต์) ที่มีน้อยอยู่แล้ว เพราะงั้นพยายามดื่มน้ำเกลือแร่ด้วยระหว่างรักษาตัวจากไวรัสในกระเพาะ นอกจากร่างกายเสี่ยงเสียน้ำแล้ว ยังอาจเสียโซเดียม โพแทสเซียม และแร่ธาตุอื่นๆ ได้ด้วย เพราะงั้นน้ำเกลือแร่จะช่วยเติมแร่ธาตุส่วนที่เสียไปได้
    • เครื่องดื่มที่แนะนำก็เช่น น้ำผลไม้เจือจาง เครื่องดื่มเกลือแร่ (sports drinks) ที่เจือจางแล้ว ซุปใส และชาแบบไร้คาเฟอีน
      How.com.vn ไท: Step 1 ให้ร่างกายได้น้ำจากน้ำแข็งก้อนและของเหลวใสๆ....
    • อย่าดื่มอะไรหวานๆ เพราะถ้าเพิ่มน้ำตาลให้ร่างกายโดยไม่เพิ่มเกลือด้วย จะทำให้ท้องเสียหนักกว่าเดิม เพราะงั้นเครื่องดื่มที่ห้ามก็เช่น น้ำอัดลม คาเฟอีน และแอลกอฮอล์
      How.com.vn ไท: Step 1 ให้ร่างกายได้น้ำจากน้ำแข็งก้อนและของเหลวใสๆ....
    • ถ้าดื่มไม่ไหว ก็เปลี่ยนมาอมๆ ดูดๆ น้ำแข็งก้อนหรือหวานเย็นแทน
  2. How.com.vn ไท: Step 2 เริ่มกินอาหารรสอ่อน.
    พอกระเพาะแข็งแรงขึ้นพร้อมกินอาหารตามปกติอีกครั้ง ถึงไม่อยากกินก็ต้องกิน เพื่อให้ร่างกายได้สารอาหารที่สูญเสียไปกลับคืนมา ถึงจะไม่ได้มีหลักฐานงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์รับรองมากนัก ว่าอาหารรสอ่อนๆ จืดๆ นั้นย่อยง่ายสบายท้องกว่า แต่ร่างกายของคนส่วนใหญ่ที่ยังคลื่นไส้ค่อนข้างมาก ก็รับอาหารรสอ่อนได้ดีกว่า
    • อาหารรสอ่อนยอดนิยมของบ้านเราก็คือข้าวต้มหรือโจ๊ก ส่วนของฝรั่งเขามี BRAT คือกล้วย (banana), ข้าว (rice), แอปเปิ้ลบดละเอียด (applesauce) และขนมปังปิ้ง (toast) ส่วนเมนูอื่นที่แทนกันได้ก็คือ มันฝรั่งอบไม่ใส่เนย ขนมปังเบเกิล เพรทเซล และแครกเกอร์
    • แนะนำให้กินอาหารรสอ่อน 1 - 2 วันก็พอ เพราะถึงอาหารรสอ่อนจะกินง่ายย่อยง่ายกว่าอาหารอื่นๆ แต่ถ้ากินแต่อาหารรสอ่อนอย่างเดียวช่วงร่างกายฟื้นตัว ก็อาจจะขาดสารอาหารที่จำเป็นในการต่อสู้กับไวรัสได้
  3. How.com.vn ไท: Step 3 กลับไปกินอาหารปกติให้ได้เร็วที่สุด.
    พอประทังชีวิตด้วยอาหารรสอ่อนไปได้ไม่กี่วัน ควรกลับมากินอาหารปกติให้ได้เร็วที่สุด ถึงอาหารรสอ่อนจะอยู่ท้อง แต่ถ้ากินแต่อาหารรสอ่อนอย่างเดียว ระวังร่างกายจะไม่ได้รับสารอาหารที่จำเป็นเพียงพอจะต้านไวรัส
    • ค่อยๆ รวมอาหารปกติเข้ามาในมื้ออาหารประจำวัน ท้องจะได้ปรับตัวทัน
    • คาร์โบไฮเดรตน้ำตาลต่ำนี่แหละอาหารที่แนะนำในช่วงนี้ เช่น ซีเรียลหรือธัญพืชรสธรรมชาติ นอกจากนี้ก็ยังมีผลไม้ปอกเปลือก โปรตีนไขมันต่ำอย่างไข่ ไปจนถึงไก่ และปลา สุดท้ายคือผักสุก เช่น ถั่วแขก และแครอท[2]
    • ลองกินโยเกิร์ตหวานน้อยทีละนิด เพราะเขาว่าผลิตภัณฑ์นมแบบหมักจะช่วยให้สบายท้องขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว แถมแบคทีเรียในโยเกิร์ตยังเป็น "แบคทีเรียดี" ปรับสภาพกระเพาะให้แข็งแรง ร่างกายจะต่อสู้กับไวรัสได้ดี
      How.com.vn ไท: Step 3 กลับไปกินอาหารปกติให้ได้เร็วที่สุด.
  4. How.com.vn ไท: Step 4 รักษาความสะอาด.
    ไวรัสในกระเพาะนั้นอึดถึกทนมาก ถึงจะไม่นานนัก แต่ก็อยู่รอดได้นอกร่างกายมนุษย์ ที่แย่ไปกว่านั้นคือคุณติดไวรัสตัวเดิมจากคนอื่นได้ ทั้งๆ ที่เพิ่งรักษาตัวจนหายดีจากไวรัสตัวนั้น เพราะงั้นเพื่อป้องกันไม่ให้คุณป่วยด้วยไวรัสลงกระเพาะซ้ำซาก ก็ต้องแน่ใจว่าทั้งตัวคุณและบริเวณที่คุณอยู่อาศัย จะสะอาดเอี่ยมอ่องที่สุด
    • ถึงไวรัสลงกระเพาะจะแตกต่างจากอาหารเป็นพิษ แต่ก็แพร่ทางอาหารเหมือนกัน เพราะงั้นถ้ารู้ตัวว่าป่วยก็อย่าทำอาหารให้ใครกิน และล้างมือฟอกสบู่ให้สะอาดอยู่เสมอก่อนกินอาหาร[3]
      How.com.vn ไท: Step 4 รักษาความสะอาด.
  5. How.com.vn ไท: Step 5 พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ.
    ก็เหมือนอาการป่วยอื่นๆ การพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้รวดเร็ว เพราะตอนคุณนอน ร่างกายจะมุ่งกำจัดไวรัสในกระเพาะได้อย่างเต็มที่นั่นเอง
    • จริงๆ พอไวรัสลงกระเพาะแล้วควรหยุดทุกกิจวัตรประจำวัน ปกติตอนสุขภาพแข็งแรงดี ร่างกายจะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อคุณนอนหลับพักผ่อน 6 - 8 ชั่วโมงต่อวัน เพราะงั้นพอคุณป่วยขึ้นมา ก็ต้องนอนให้ได้อย่างน้อย 2 เท่าของเวลาปกติ
    • ข้อนี้อาจจะพูดง่ายทำยาก แต่บอกเลยว่าต้องปล่อยวางชั่วคราว อย่าไปคิดเครียดว่าพลาดอะไรไป ยังไม่ได้ทำอะไร เพราะยิ่งกังวลร่างกายก็ยิ่งตึงเครียด สูญเสียทรัพยากรอันมีประโยชน์ในการต้านไวรัสไป
      How.com.vn ไท: Step 5 พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ.
  6. How.com.vn ไท: Step 6 ปล่อยให้ตัวเองป่วยจนครบขั้นของอาการ.
    สุดท้ายแล้วที่คุณทำได้ในการเอาชนะไวรัสลงกระเพาะ ก็คือปล่อยให้ตัวเองป่วยไปจนครบขั้นของอาการ ขอแค่คุณไม่อาการหนักจนเป็นอันตรายต่อระบบภูมิคุ้มกัน รับรองร่างกายจะรักษาตัว สู้ไวรัสได้เองตามธรรมชาติ
    • แต่ระหว่างนั้นก็ต้องดูแลตัวเองไปตามวิธีการที่เราแนะนำด้วย ถึงจะหายดี ขั้นตอนต่างๆ ในบทความนี้ต่างก็มีเพื่อสนับสนุนกระตุ้นร่างกายให้แข็งแรงพร้อมสู้ไวรัสทั้งนั้น ถ้าไม่ดูแลตัวเองดีๆ จะทำให้ร่างกายสู้ไวรัสและฟื้นตัวได้ยาก
    • แต่ถ้ารู้ตัวว่าภูมิคุ้มกันบกพร่องในด้านใดด้านหนึ่ง ก็ควรหาหมอทันทีที่มีอาการแรกเริ่ม
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

วิธีทางเลือก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 กินขิง.
    [4] ปกติคนก็นิยมใช้ขิงแก้คลื่นไส้และตะคริวท้องอยู่แล้ว ส่วนน้ำขิงและจินเจอร์เอลก็ต้านไวรัสลงกระเพาะได้ดีมากเช่นกัน
    • วิธีทำน้ำขิงเองสดๆ ก็คือต้มขิงสดฝาน 2 - 4 ชิ้น (ชิ้นละประมาณ 1/2 นิ้ว (1 ซม. กว่าๆ)) ในน้ำ 8 ออนซ์ (250 มล.) นาน 5 - 7 นาที จากนั้นพักไว้ให้เย็นจนดื่มได้ แล้วค่อยๆ จิบไป
    • จินเจอร์เอล (Ginger ale) กับน้ำขิงซอง ปกติก็หาซื้อได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป
    • นอกจากน้ำขิงไว้ดื่มแล้ว จะใช้ขิงแบบแคปซูลหรือน้ำมันก็ได้ ปกติจะหาซื้อได้ตามมุมอาหารเสริมของร้านขายยาหรือร้านขายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ
  2. How.com.vn ไท: Step 2 บรรเทาอาการด้วยเปปเปอร์มินต์.
    เปปเปอร์มินต์มีสรรพคุณลดอาการเจ็บปวด คนเลยนิยมใช้แก้คลื่นไส้หรือตะคริวท้อง เปปเปอร์มินต์ใช้ได้ทั้งกินและทาภายนอกเลย
    • จะกินเปปเปอร์มินต์โดยจิบเป็นชา เคี้ยวใบเปปเปอร์มินต์ที่แน่ใจว่าสะอาด หรือกินเป็นอาหารเสริมแบบแคปซูลก็ได้ ชาสมุนไพรเปปเปอร์มินต์ก็หาซื้อได้ทั่วไปเหมือนกัน แต่ถ้าจะชงเองสดๆ ให้ต้มเปปเปอร์มินต์ 2 - 3 ใบในน้ำ 8 ออนซ์ (250 มล.) นาน 5 - 7 นาที
    • ใครอยากใช้เปปเปอร์มินต์ภายนอก ก็เอาผ้าขนหนูชุบชาเปปเปอร์มินต์เย็นๆ ให้ชุ่ม หรือหยดน้ำมันเปปเปอร์มินต์สัก 2 - 3 หยดที่ชุบน้ำเย็นแล้ว
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ลองใช้ถ่านกัมมันต์ (activated charcoal) แบบแคปซูล.
    [5] นอกจากร้านขายยาแล้ว ร้านขายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพบางทีก็มีถ่านกัมมันต์ หรือ activated charcoal ขายเป็นแผงในส่วนของอาหารเสริม เขาเชื่อกันว่าถ่านกัมมันต์จะไปดูดสารพิษในกระเพาะ ให้คุณหายปวดท้อง ท้องเสียได้
    • ให้กินถ่านกัมมันต์ตามคำแนะนำที่บรรจุภัณฑ์อย่างเคร่งครัด จะได้ไม่เผลอกินยาเกินขนาด แต่ปกติก็กินทีละหลายแคปซูลได้ แถมกินได้หลายครั้งในวันเดียว ยังไงปรึกษาคุณหมอหรือเภสัชกรดู
  4. How.com.vn ไท: Step 4 แช่น้ำผสมมัสตาร์ด.
    [6] อาจจะฟังดูแปลกๆ แต่น้ำอุ่นผสมผงมัสตาร์ดนิดหน่อยทำให้สบายตัวขึ้นได้บ้างจริงๆ อันนี้เป็นความเชื่อของคนเฒ่าคนแก่ ว่ามัสตาร์ดช่วยขับไล่สิ่งชั่วร้ายไปจากตัวเรา และกระตุ้นให้เลือดลมไหลเวียนดี
    • ถ้าไม่มีไข้ก็ใช้น้ำอุ่นได้ แต่ถ้ามีไข้ด้วย พยายามอาบน้ำธรรมดาไม่ร้อนไม่เย็น ไข้จะได้ไม่พุ่งสูงไปกว่านี้
    • ผสมผงมัสตาร์ด 2 ช้อนโต๊ะ (30 มล.) กับเบคกิ้งโซดา 1/4 ถ้วยตวง (60 มล.) ในอ่างที่เติมน้ำไว้แล้ว เอามือคนผสมจนมัสตาร์ดและเบคกิ้งโซดาละลายหมด แล้วค่อยลงไปแช่ในอ่างอาบน้ำประมาณ 10 - 20 นาที
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ใช้ผ้าอุ่นประคบท้อง.
    ถ้ากล้ามเนื้อท้องทำงานหนักจนกระตุกเกร็ง ให้บรรเทาอาการโดยใช้ผ้าอุ่นๆ หรือแผ่นประคบร้อน มาประคบที่หน้าท้อง
    • แต่ถ้าไข้สูง วิธีนี้อาจทำให้ยิ่งแย่ แนะนำให้เลือกใช้วิธีอื่นๆ ในบทความจะดีกว่า
    • คลายกล้ามเนื้อท้องที่กระตุกเกร็ง จะช่วยบรรเทาอาการไวรัสลงกระเพาะได้ พอความเจ็บปวดลดลง ก็รู้สึกดีขึ้น สบายไปทั้งตัว เท่ากับไปเพิ่มพลังให้ระบบภูมิคุ้มกันต่อสู้กับไวรัสได้ดียิ่งขึ้น หายเร็วขึ้น
  6. How.com.vn ไท: Step 6 กดจุด (acupressure) แก้คลื่นไส้.
    ตามทฤษฎีการกดจุดและฝังเข็ม (acupuncture) จะมีจุด pressure points ในมือและเท้า ที่กดแล้วช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด ไม่สบายกระเพาะและลำไส้ได้
    • เทคนิคหนึ่งที่ลองเองได้ง่ายๆ คือนวดเท้า การกดนวดที่ฝ่าเท้าเบาๆ ช่วยแก้อาการคลื่นไส้และท้องเสียได้ด้วย
    • ถ้าไวรัสลงกระเพาะแล้วปวดหัวร่วมด้วย ให้กดจุดที่มือดู โดยใช้นิ้วชี้กับนิ้วโป้งนวดบริเวณพังผืดระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ของอีกมือ เป็นเทคนิคที่ช่วยแก้ปวดหัวได้เป็นอย่างดี
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

กินยาหาหมอ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 อย่าถามหายาปฏิชีวนะ.
    เพราะยาปฏิชีวนะใช้ต้านแบคทีเรียต่างหาก ไม่มีผลหรือมีผลน้อยมากต่อไวรัสอย่างที่คุณเป็นอยู่ เพราะงั้นถ้าปวดท้อง ท้องเสีย เพราะไวรัสลงกระเพาะ กินยาปฏิชีวนะแล้วช่วยไม่ได้แน่นอน
    • และนี่ก็เป็นสาเหตุเดียวกันกับที่ไม่แนะนำให้กินยาต้านเชื้อราแก้อาการ
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ปรึกษาคุณหมอเรื่องใช้ยาแก้คลื่นไส้อาเจียน.
    ถ้ายังคลื่นไส้หนักหลังผ่านไป 12 - 24 ชั่วโมง คุณหมอมักจะสั่งยาแก้คลื่นไส้อาเจียนให้ท้องคุณสบายขึ้น จะได้ไม่ขาดน้ำและอาหารจนเป็นอันตราย
    • แต่ยาแก้คลื่นไส้อาเจียนก็ช่วยบรรเทาอาการได้ชั่วคราวเท่านั้น ฆ่าไวรัสไม่ได้ พอกินยาแก้คลื่นไส้แล้ว ร่างกายจะกักเก็บน้ำและอาหารไว้ได้มากขึ้น อย่างน้อยก็มีสารอาหารที่จำเป็นเพียงพอที่จะสู้ไวรัสด้วยตัวเอง
  3. How.com.vn ไท: Step 3 อย่าซื้อยาแก้ท้องเสียกินเอง.
    เว้นแต่คุณหมอบอกซื้อได้ไม่เป็นไร เพราะยาแก้ท้องเสียที่ขายตามร้านขายยานั้นเห็นผลดีก็จริง แต่ปัญหาก็คือดีเกินไป อย่างน้อยใน 24 ชั่วโมงแรก คุณควรปล่อยให้ร่างกายจัดการขับไวรัสจากระบบด้วยตัวเองก่อน ซึ่งทั้งอาการท้องเสียและอาเจียนนี่แหละ คิดกระบวนการขับพิษและไวรัสตามธรรมชาติของร่างกาย
    • พอร่างกายขับไวรัสออกจากสารบบแล้ว คุณหมอถึงจะให้กินยาแก้ท้องเสียได้ เพื่อรักษาอาการอื่นๆ ที่ยังหลงเหลือต่อไป
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้ารู้ว่าช่วงนี้โรคไวรัสลงกระเพาะกำลังระบาด ก็ต้องดูแลตัวเองป้องกันไว้แต่เนิ่นๆ โดยล้างมือให้สะอาดเรื่อยๆ และใช้เจลล้างมือเวลาไม่สะดวกจะฟอกสบู่และล้างมือด้วยน้ำร้อน หมั่นทำความสะอาดบ้าน โดยเฉพาะห้องน้ำ ยิ่งถ้าคนในบ้านติดไวรัสไปแล้วเรียบร้อยยิ่งต้องระวัง
  • ถ้าที่บ้านมีเด็ก ให้ปรึกษาคุณหมอเรื่องฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสชนิดต่างๆ ที่กำลังระบาดในช่วงนั้นไว้ก่อน
  • ถ้ารู้สึกคลื่นไส้ กำลังจะอาเจียน ก็อย่าไปกลั้น รีบหาถุงหรือห้องน้ำแล้วปล่อยออกมาเลย เพราะเป็นวิธีที่ร่างกายขับไวรัสในกระเพาะออกมาตามธรรมชาติ
โฆษณา

คำเตือน

  • อาการแทรกซ้อนที่พบบ่อยที่สุดหลังไวรัสลงกระเพาะ คืออาการขาดน้ำ ถ้าร่างกายขาดน้ำรุนแรง ก็ควรรีบไปโรงพยาบาล เพราะจะได้ทำการรักษาโดยให้น้ำเกลือทางเส้นเลือดต่อไป
  • ถึงจะทำให้ไม่สบายตัวไม่สบายใจไปบ้าง แต่ก็อย่าพยายามกลั้นหรือแก้อาการที่แสดงออกมา เช่น ท้องเสีย หรืออาเจียน เพราะจะไม่เป็นผลดีต่อร่างกาย ปล่อยให้อาการเป็นไปตามขั้นตอน และดูแลตัวเองให้ดีที่สุด พอร่างกายจัดการไวรัสตามธรรมชาติแล้ว เดี๋ยวจะรู้สึกดีขึ้นเอง
  • ถ้ามีไข้สูงหรือถ่ายแล้วมีเลือดหรือหนองผสม ต้องรีบไปหาหมอทันที
  • ให้รีบไปหาหมอ ถ้าเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 3 เดือนเป็นโรคไวรัสลงกระเพาะ หรือเด็กโตกว่า 3 เดือนแต่อาเจียนไม่หยุดมา 12 ชั่วโมง หรือท้องเสียนานเกิน 2 วัน
  • ถ้าคุณท้องเสียและอาเจียน แล้วไม่ดีขึ้นหลังผ่านไปได้ 48 ชั่วโมง ให้รีบไปหาหมอทันที[7]
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • น้ำใสๆ ที่มีเกลือแร่ (electrolytes)
  • น้ำแข็งก้อน
  • อาหารรสอ่อน
  • อาหารปกติ
  • โยเกิร์ต
  • สบู่
  • เจลล้างมือ
  • ขิง
  • เปปเปอร์มินต์
  • ถ่านกัมมันต์ (Activated charcoal)
  • ผงมัสตาร์ดกับเบคกิ้งโซดา
  • ผ้าขนหนูอุ่นๆ
  • ยาแก้คลื่นไส้อาเจียน (ตามหมอสั่ง)
  • ยาแก้ท้องเสียที่หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป (แต่ก็ควรปรึกษาคุณหมอก่อน)

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

วิกิฮาวเป็น "wiki" ซึ่งหมายความว่าบทความหลายๆ บทความของเรานั้นเป็นการร่วมมือกันเขียนของผู้เขียนหลายคน ในการเขียนบทความชิ้นนี้ ผู้คน 18 คน ซึ่งบางคนไม่ขอเปิดเผยตัว ได้ร่วมกันเขียนและปรับปรุงเนื้อหาของบทความอย่างต่อเนื่อง บทความนี้ถูกเข้าชม 1,660 ครั้ง
หมวดหมู่: สุขภาพ
มีการเข้าถึงหน้านี้ 1,660 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา