วิธีการ ใช้ i.e. ในประโยคภาษาอังกฤษ

ตัวย่อ “i.e.” หมายถึงสำนวนภาษาละติน “Id est” ซึ่งแปลว่า “in other word” หรือ “that is to say”^{[1]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} คุณอาจจะไม่แน่ใจว่าต้องใช้ “i.e.” อย่างไรเมื่อจะเขียนเรียงความส่งอาจารย์หรือเขียนเป็นตัวย่อในข้อเสนอทางธุรกิจ เริ่มจากการตัดสินใจว่า “i.e.”นี้จะช่วยให้ประโยคเข้าใจได้ดีขึ้นหรือไม่ หากใช่ให้ใส่ “i.e.” ลงในประโยคให้เหมาะสมแล้วมีลูกน้ำด้วยเพื่อให้ถูกตามหลักไวยากรณ์ ด้วยขั้นตอนไม่กี่ขั้นต่อนี้จะทำให้คุณสามารถใช้ “i.e.”ได้อย่างชำนาญโดยไม่เสียเวลา

ส่วน 1

ส่วน 1 ของ 2:

พิจารณาว่าเมื่อไรควรใช้ “i.e.”

ดาวน์โหลดบทความ

1
ใช้ “i.e.” เพื่อสื่อถึง “that is” หรือ “in other word”. ใช้ตัวย่อ “i.e.” เมื่อต้องการเพิ่มเข้าไปในส่วนแรกของประโยคและให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับผู้อ่าน ข้อมูลควรอธิบายส่วนแรกของประโยคด้วยข้อมูลที่เพิ่มขึ้นเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจได้ดีขึ้น^{[2]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ตัวอย่างเช่น คุณอาจจะเขียนว่า “I am a vegan, i.e., I do not eat any animal-based products” หรือ“He works the morning shift, i.e., from 6 am to 1 pm.”
2
ไม่ใช้ “He works the morning shift, i.e., from 6 am to 1 pm.” เพื่อกล่าวถึง “for example”หรือ “such as” . การย่อ“i.e.” ไม่ควรนำมาใช้หากต้องการยกตัวอย่างหรือทำให้เห็นภาพสิ่งที่คุณหมายถึงกับผู้อ่าน หากเป็นกรณีนี้ควรใช้ “E.g.” ซึ่งเป็นตัวย่อของสำนวนภาษษละตินที่ว่า “for the sake of example”^{[3]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ตัวอย่างเช่น คุณควรจะเขียนว่า “I do not like eating raw fish, i.e., sushi.” และ “I don't like Japanese food, e.g., sushi or ramen."
- หรืออาจจะเขียนว่า “She likes poetry about love, i.e., poems that explore matters of the heart”และ “She likes poetry about love, e.g., poems by the New Romantics.”
3
ใช้ตัวย่อนี้ในเอกสารที่ไม่เป็นทางการหรือการจดโน้ตย่อ. คุณอาจจะใช้ “i.e.” ในประโยคหากเป็นการเขียนอีเมล์หรือจดหมายถึงเพื่อน จดโน้ตจากในห้องเรียน หรือโน้ตทางธุรกิจที่รวดเร็ว หากคุณกำลังเขียนเอกสารทางธุรกิจที่เป็นทางการหรือรายงานวิชาการ ควรใช้เป็น “that is” หรือ “in other words” แทน^{[4]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ในบางกรณี การใช้ “i.e.”ในหัวข้อข่าว เรียงความ หรือรายงานทางวิชาการก็สามารถทำได้ ลองตรวจสอบอีกครั้งว่าอาจารย์ผู้สอนเห็นว่าเหมาะสมที่จะให้คำย่อนี้ลงไปในรายงานหรือเรียงความได้
โฆษณา

ส่วน 2

ส่วน 2 ของ 2:

การเขียน “i.e.”ลงในประโยค

ดาวน์โหลดบทความ

คำย่อ “i.e.” ควรเขียนด้วยตัวพิมพ์เล็กทั้ง“i” และ “e” ในประโยค โดยมีเว้นวรรคระหว่างสองตัวด้วย^{[5]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
คำย่อ“i.e.” ไม่จำเป็นต้องดัดแปลงรูปแบบอักษรให้ต่างจากตัวอื่นๆ ในเอกสารหรือรายงาน ให้ใช้ตัวอักษรปกติโดยไม่ขีดเส้นใต้หรือทำตัวหนา^{[6]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
3
ใส่ลูกน้ำทั้งก่อนและหลัง “i.e.”. สิ่งนี้จะช่วยให้บ่งบอกว่าเป็นคำย่อและทำให้ผู้อ่านรู้ว่าคุณกำลังจะให้ข้อมูลเพิ่มหลัง “i.e.” ^{[7]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ตัวอย่างเช่น คุณอาจจะเขียนว่า “He prefers native plants in the garden, i.e., plants that naturally grow in the area” หรือ “I have a soft spot for holiday music, i.e., songs that are about Christmas or Halloween.”
4
ใส่“i.e.” ในส่วนกลางประโยคและไม่ใส่ต้นหรือท้ายประโยค. คำย่อ“i.e.” ควรปรากฏอยู่หลังส่วนแรกของประโยค โดยอยู่ตรงกลางจึงจะถูกตามหลักไวยากรณ์^{[8]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ตัวอย่างเช่น ประโยค “I.e. he likes super heroes” หรือ “He likes super heroes, i.e.” เป็นประโยคที่ผิด ประโยคที่ถูกต้องควรเป็น “He likes super heroes, i.e., social misfits who save the world.”
โฆษณา