บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Kate Dreyfus. เคต ดรายฟัสเป็นโค้ชด้านความรักแบบองค์รวม ผู้บำบัดโดยการหยั่งรู้ และเจ้าของ Evolve and Empower เธอเชี่ยวชาญการจัดหาคู่ระดับนานาชาติ การเยียวยาโดยเน้นจิตใจเป็นสำคัญ การโค้ชความรัก และการโค้ชเสริมสร้างพลังด้วยประสบการณ์มากกว่าสิบปี เคตได้รับปริญญาศิลปศาสตร์บัณฑิต สาขาจิตวิทยา จากมหาวิทยาลัยแอริโซนา เธอยังเป็นสมาชิกของสถาบันสนามชีวภาพ สมาคมวิชาชีพการสัมผัสเพื่อการรักษา และสมาคมวิชาชีพการแพทย์พลังงาน
มีการอ้างอิง 13 ข้อที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ
บทความนี้ถูกเข้าชม 17,702 ครั้ง
จุดประสงค์ของกฎไม่ติดต่อคือการให้เวลาตัวเองได้จัดการความรู้สึกสับสนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับแฟนเก่า โดยทั่วไปกฎไม่ติดต่อคือการที่คุณตัดขาดแฟนเก่าทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการบล็อกเขาทางโซเชียลมีเดีย บล็อกเบอร์โทรศัพท์ และไม่ติดต่อเขาเลย คุณจะได้มีเวลาอยู่คนเดียวเพื่อเยียวยาแผลใจ ว่าแต่ต้องไม่ติดต่อกันนานแค่ไหนคุณถึงจะเริ่มรู้สึกดีขึ้น ต้องรอให้ผ่านไปนานแค่ไหนคุณถึงจะสามารถกลับไปคุยกับแฟนเก่าได้อย่างสะดวกใจ ในบทความนี้เราจะมาอธิบายทุกเรื่องเกี่ยวกับการให้เวลาตัวเองเยียวยาแผลใจ รวมถึงบอกวิธีใช้กฎการไม่ติดต่อที่ใช้ได้จริงและไม่เสียเวลาเปล่า ไม่ว่าจะเพื่อให้เขากลับมาหรือเพื่อคบกันต่อในฐานะอื่นก็ตาม
ขั้นตอน
- ถ้าทั้งคู่เห็นตรงกันว่าแยกทางกันไปน่าจะดีกว่า ให้เวลาตัวเองสัก 1 เดือนค่อยไปต่อ. เป้าหมายของกฎไม่ติดต่อในข้อนี้คือการจัดการกับความรู้สึกของตัวเองและใช้เวลาเยียวยา ทบทวน และก้าวต่อไป การได้อยู่คนเดียวสัก 4 สัปดาห์น่าจะมากพอให้คุณกลับไปใช้ชีวิตโสดได้ตามปกติอีกครั้ง แรกๆ คุณอาจจะสับสนและรู้สึกแปลกๆ แต่หลังจากผ่านไป 30 วันคุณอาจจะรู้สึกดีขึ้น[1]
- 30 วันคือระยะเวลาโดยทั่วไป ซึ่งแต่ละคนก็ใช้เวลาไม่เท่ากัน บางคนสามารถเดินหน้าต่อหลังผ่านการเลิกราได้อย่างรวดเร็ว แต่บางคนก็อาจจะต้องใช้เวลานานสักหน่อย ถ้าผ่านไปแล้ว 30 วันแต่คุณยังรู้สึกไม่พร้อม คุณก็สามารถยืดระยะเวลาไม่ติดต่อได้เลย
- บอกให้แฟนเก่ารู้ว่าคุณกำลังใช้กฎไม่ติดต่อ เรื่องจะได้ไม่บานปลาย. ถ้าคุณสองคนจากกันด้วยดีและคุณรู้ว่าตัวเองอาจจะอยากกลับไปเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าในวันข้างหน้า คุณบอกเขาได้เลยว่าคุณกำลังใช้กฎไม่ติดต่อ แค่ส่งข้อความไปหาและอธิบายว่าเขาจะติดต่อคุณไม่ได้สักระยะ ซึ่งเขาน่าจะเข้าใจ[2]
- คุณอาจจะบอกว่า “หวัดดี ฉันแค่ส่งข้อความมาบอกเฉยๆ ฉันจะบล็อกคุณในโซเชียลมีเดียสักพักและจะไม่รับโทรศัพท์คุณด้วย คุณไม่ได้ทำอะไรผิดนะ แต่ฉันแค่ต้องการพื้นที่ส่วนตัวให้ได้ทบทวนอะไรสักหน่อย”
โฆษณา
- ถ้าคุณสองคนคบกันมานานอย่างน้อย 6 เดือน ให้เว้นระยะ 2 เดือน. เวลาใช้กฎไม่ติดต่อ คุณต้องคำนึงถึงระยะเวลาที่คบกันด้วย ถ้าคุณคบกันมา 6-12 เดือน (หรือนานกว่านั้น) ให้เวลาตัวเองอย่างน้อย 60 วันก่อนคิดจะติดต่อเขา เวลาที่คุณเลิกกับคนที่คบกันมานาน ความรู้สึกต่างๆ อาจจะประดังประเดเข้ามาและคุณอาจจะต้องใช้เวลาสะสางนานสักหน่อย[3]
- ระหว่างนี้ทำอะไรก็ได้ที่ทำแล้วมีความสุขและเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเอง. อยู่กับเพื่อน ไล่ตามความฝันของตัวเอง และทำงานอดิเรก ให้เวลาตัวเองคร่ำครวญถึงการสูญเสียสัก 1-2 วัน จากนั้นพยายามกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ ออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และนอนหลับพักผ่อนเยอะๆ คุณมีสิทธิ์ที่จะรู้สึกอะไรก็ได้ในตอนนี้ และขอให้มั่นใจว่าเวลาจะเยียวยาทุกสิ่ง[4]
- คุณจะรู้ว่ากฎไม่ติดต่อที่เพิ่งใช้นั้นได้ผลหรือไม่ก็ต่อเมื่ออะไรๆ มันเริ่มเข้าที่เข้าทางหลังจากผ่านไปได้สัก 2-3 สัปดาห์ บางคนเข้าใจว่า “กฎไม่ติดต่อ” คือการ “ไม่คุยกับแฟนเก่า 1 สัปดาห์” แต่จริงๆ แล้วคุณควรให้เวลาตัวเองเยอะๆ
โฆษณา
เลิกติดต่อไปตลอดชีวิตหากคุณเลิกกันเพราะเขาทำร้ายจิตใจคุณมากเกินไป
- ถ้าเขาทำร้ายคุณหรือความสัมพันธ์มันแย่ตลอดเวลา ให้ตัดขาดจากเขาไปเลยตลอดชีวิต. การไม่ติดต่อเป็นสิ่งที่สำคัญมากหากคุณตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย เพราะมันจะทำให้คุณมองเห็นอะไรบางอย่างและรู้ว่าชีวิตของคุณดีแค่ไหนเมื่อไม่มีแฟนเก่านิสัยเสีย คุณคู่ควรกับสิ่งที่ดีกว่านี้ เพราะฉะนั้นไม่ต้องหันกลับไปมองจนกว่าคุณจะแน่ใจจริงๆ ว่าตัวเองต้องการแบบนั้น[7]
- ถ้าคุณโดนแฟนทำร้ายหรือเป็นไปได้ว่าเขาปั่นหัวคุณให้คิดว่าสิ่งต่างๆ เป็นความผิดของคุณ ความคิดนั้นมันอาจจะฝังอยู่ในหัวของคุณ รักตัวเองให้มากๆ และใช้เวลาเยียวยาตัวเองเท่าที่คุณต้องการ[8]
- อะไรบางอย่างต้องเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือก่อนกลับไปคุยกัน. ถ้าแฟนเก่าของคุณอยู่ด้วยแล้วเป็นพิษ การไม่ติดต่อเขาเลยตลอดชีวิตคือทางเลือกที่ดีที่สุด แต่ถ้าคุณยังอยากติดต่อเขาจริงๆ ในวันข้างหน้า (เช่น… ในอนาคตที่ไกลมากๆ) ให้ดูก่อนว่าอะไรๆ เปลี่ยนไปหรือยังค่อยกลับไปคุยกับเขา เช่น ถ้าเขาติดเหล้า เขาควรเข้ารับการบำบัด ถ้าเขาพูดจาทำร้ายจิตใจคุณ เขาก็ควรเรียนรู้การจัดการความโกรธ อย่ากลับไปหาคนที่ทำเลวกับคุณถ้าไม่ยอมเปลี่ยน[9]
- พูดให้ชัดเจนคืออาจต้องใช้เวลาหลายปี อย่าเพิ่งติดต่อหาแฟนเก่าที่เป็นพิษในอนาคตอันใกล้ แม้ว่าคุณจะอยากคุยกับเขามากๆ ก็ตาม
โฆษณา
- ถ้าคุณอยากให้แฟนเก่ากลับมา ลองติดต่อเขาหลังจากผ่านไป 1-2 สัปดาห์. บางคนใช้กฎ “ไม่ติดต่อ” เพื่อพยายามทำให้แฟนเก่ากลับมาหลังจากโดนบอกเลิก ซึ่งถือเป็นวิธีการที่ดีโดยเฉพาะหากคุณคิดว่าแฟนเก่ายังลังเลว่าจะเลิกกับคุณดีไหม รอสัก 1-2 สัปดาห์ให้เขาได้เห็นก่อนว่าชีวิตของเขาว่างเปล่าแค่ไหนเมื่อไม่มีคุณ จากนั้นค่อยส่งข้อความหรือโทรหาเขาเพื่อดูว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง[10]
- ถ้าระหว่างนี้เขาเป็นติดต่อหาคุณก่อน บอกเขาว่าคุณต้องการเวลาทบทวนว่าตัวเองต้องการอะไร ซึ่งมันเหมือนเป็นการส่งสัญญาณว่าคุณกำลังชั่งน้ำหนักตัวเลือกอยู่ และจะทำให้เขาอยากได้คุณกลับมายิ่งกว่าเดิม!
- ทำเฉยๆ เมื่อกลับไปคุยกันอีกครั้งหลังใช้กฎไม่ติดต่อ. ค่อยเป็นค่อยไปอย่าใจร้อน ย้ำให้เขารู้ว่าคุณออกไปสังสรรค์กับเพื่อนและสนุกกับชีวิต คุณไม่ได้อยากทำให้เขารู้สึกหมดหวัง แต่คุณก็ต้องไม่ทำให้เขารู้สึกว่าเขาถือไพ่เหนือคุณเช่นกัน ถ้าคุณสองคนจะได้กลับมาคบกันอีก นั่นเป็นเพราะว่าแฟนเก่าบอกเลิกคุณและเขาเสียใจที่ตัดสินใจแบบนั้น แต่ถ้าคุณรีบวิ่งแจ้นไปหาเขาแล้วบอกเขาว่า ชีวิตคุณว่างเปล่าแค่ไหนเมื่อไม่มีเขา เขาอาจจะไม่ได้รู้สึกว่าเขาต้องการคุณมากเหมือนที่คุณต้องการเขา[11]โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://undoabreakup.com/30-day-no-contact-rule/
- ↑ https://lovesagame.com/no-contact-rule/
- ↑ https://f01.justanswer.com/11012014Jah/ca302468-ee3b-4d77-866c-643adf207f84_therulesofnocontact.pdf
- ↑ https://www.helpguide.org/articles/grief/dealing-with-a-breakup-or-divorce.htm
- ↑ https://exgirlfriendrecovery.com/how-long-should-i-do-the-no-contact-rule/
- ↑ https://goodmenproject.com/featured-content/the-true-meaning-of-the-no-contact-rule/
- ↑ https://exbackpermanently.com/the-no-contact-rule/
- ↑ https://www.discovermagazine.com/mind/your-brains-response-to-your-ex-according-to-neuroscience
- ↑ https://www.revelist.com/real-talk/real-reason-you-get-over/2211/the-attachment/3
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.