ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความX
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย John Keegan. จอห์น คีแกนเป็นโค้ชด้านดารเดทและเป็นนักพูดสร้างแรงบันดาลใจในนิวยอร์ก เขาเปิด The Awakened Lifestyle ซึ่งเขาใช้ความเชี่ยวชาญด้านการเดท การทำตัวให้มีเสน่ห์ และแรงขับเคลื่อนทางโซเชียลมาช่วยผู้คนได้พบรัก เขาสอนและเปิดเวิร์คช็อปด้านการเดทไปทั่วโลก ตั้งแต่ลอสแองเจลิสไปลอนดอน และจากริโอเดอจาเนโรไปถึงปราก งานของเขาถูกเอ่ยถึงใน New York Times, Humans of New York, และ Men's Health
มีการอ้างอิง 7 ข้อที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ
บทความนี้ถูกเข้าชม 25,118 ครั้ง
อยากโทรหาผู้ชายที่ชอบแต่ก็ไม่รู้จะคุยอะไรเหรอ หรือคุณกำลังงงอยู่ใช่ไหมว่าจะคุยโทรศัพท์กับแฟนยังไง ไม่ว่าเขาจะเป็นแค่คนที่คุณแอบชอบหรือแฟนของคุณก็ตาม คุณก็อาจจะไม่รู้ว่าจะหาเรื่องอะไรมาคุยกันทางโทรศัพท์ดี บทความนี้จะมาบอกวิธีคุยโทรศัพท์กับหนุ่มคนพิเศษในชีวิตของคุณ
ขั้นตอน
คิดว่าจะคุยอะไรดี. ก่อนจะโทรไปหาเขา ให้นึกถึงเรื่องที่คุณคิดว่าเขาน่าจะสนใจก่อน การคุยเรื่องหนังที่เขาชอบ กีฬาที่เขาเล่น หรือวิดีโอเกมที่คุณรู้ว่าเขาเล่นเป็นวิธีที่จะทำให้เขาคุยกับคุณ และทำให้คุณได้รู้จักเขามากขึ้น คุณอาจจะเรียนห้องเดียวกันและอยากให้เขาช่วยเรื่องการบ้าน ลองเขียนรายการเรื่องที่จะคุยออกมา แต่ก็อย่ายึดรายการที่ว่านี้มากเกินไป คุณต้องปล่อยตัวตามสบายและไม่ต้องเตรียมตัวมาก- ถามเขาประมาณว่า "เมื่อคืนซ้อมเบสบอลเป็นไงบ้าง" หรือ "รายงานประจำเทอมของเธอเกี่ยวกับเรื่องอะไรเหรอ" เพื่อให้เขาได้พูดคุยเรื่องที่เขาชอบหรือรู้จัก คำถามเหล่านี้เปิดกว้างพอที่จะให้เขาได้อธิบายและทำให้เขาคุยต่อได้
- คุณต้องเน้นหัวข้อที่คุณเองก็มีความรู้ในเรื่องนั้นประมาณนึงเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นเวลาที่คุณคุยเรื่องพวกนี้มันจะดูปลอมหรือเหมือนซ้อมมาก่อน[1]
ผ่อนคลาย. เมื่อคุณวางแผนเรื่องที่จะคุยได้ 2-3 เรื่องแล้ว หายใจลึกๆ ถ้าคุณดูประหม่าหรือกระวนกระวายมากเกินไป เขาก็จะพลอยรู้สึกอึดอัดไปด้วยหรือไม่ก็กลัวคุณไปเลย ทำตัวตามปกติ เป็นตัวของตัวเอง และจำไว้ว่าเขาก็เป็นแค่ผู้ชายคนนึงเท่านั้นเอง- คุณต้องอยู่ในที่ๆ คุณรู้สึกสบายใจและไม่ถูกขัดจังหวะ เพราะคุณจะรู้สึกผ่อนคลายและมั่นใจเวลาพูดคุยมากกว่า
- คุณอาจจะไม่ได้ประหม่าอยู่ฝ่ายเดียวก็ได้ ถ้าคุณบอกใบ้ให้เขารู้มาบ้างแล้วว่าคุณชอบเขา เขาก็อาจจะรอสัญญาณที่ชัดเจนกว่านั้นว่าคุณชอบเขาจริงๆ ก็ได้ การโทรหาเขาเป็นวิธีที่จะทำให้เขาเข้าใจสิ่งที่คุณต้องการสื่อ[2]
หาคำทักทายที่เหมาะสม. ไม่ว่าจะเป็นเขาหรือคนอื่นที่รับสาย หรือว่าเขาไม่อยู่ ให้คิดไว้ก่อนว่าตัวเองจะพูดว่าอะไร เมื่อเขารับโทรศัพท์ ให้กล่าวคำทักทายแบบสบายๆ แต่ก็แสดงความตื่นเต้น เนื่องจากว่าคุณไม่เคยคุยโทรศัพท์กับเขามาก่อน คุณจึงต้องบอกก่อนว่าคุณเป็นใคร พูดทำนองว่า "หวัดดี นี่เมย์นะ เป็นไงบ้าง" โดยทั่วไปแล้วคนเราเวลาคุยโทรศัพท์จะฟังดูไม่เหมือนตัวจริง[3]- ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่เขารับสาย อย่ากลัวที่จะขอสายเขา แค่ถามอีกฝ่ายอย่างสุภาพว่าเขารับสายได้ไหม
- ถ้าโทรไปแล้วเจอข้อความเสียง อย่าเพิ่งตกใจ ฝากข้อความไว้ให้เขารู้ว่าคุณเป็นใคร เบอร์อะไร และคุณอยากให้เขาโทรกลับ ถ้าคุณคิดว่าคู่เดตของคุณเป็นคนบ๊องๆ หรือสนุกสนานประมาณนึง คุณอาจจะฝากข้อความขำๆ ไว้ให้เขาทำนองว่า "ถ้าโทรหาฉันไม่ติด แปลว่าฉันอาจจะออกไปข้างนอก หรือไม่ก็ถูกมนุษย์ต่างดาวจับตัวไป" มันทำให้เห็นว่าคุณรู้ว่าเขาเป็นคนแบบไหน และคุณเองก็ไม่ได้จริงจังมากเกินไปด้วย
ถามคำถามที่ชวนคุยต่อ. ถามคำถามที่ต้องการคำตอบมากกว่าคำเดียว เช่น "หนังที่เธอไปดูเสาร์อาทิตย์ที่แล้วเป็นไงบ้าง" หรือ "เกมใหม่ที่ฉันได้ยินว่าเธอซื้อมาน่ะตรงไหนที่สนุกที่สุด" ช่วงนี้คือช่วงเวลาที่คุณจะได้ใช้รายการเรื่องที่คุณเตรียมไว้ก่อนโทรหาเขา หาจังหวะเกริ่นเข้าเรื่องแล้วถามคำถามเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ วิธีนี้จะทำให้เขาได้พูดคุยในสิ่งที่เขาสนใจ และทำให้เขารู้ด้วยว่าคุณคอยสังเกตเขา[4]- อย่าถามคำถามประเภท "เป็นไง" หรือชอบสีอะไร เพราะมันเป็นคำถามที่กว้างมากและไม่ได้ทำให้บทสนทนาไปต่อได้
- ตัวอย่างคำถามที่ชวนคุยต่อได้ก็เช่น : “ฉันสังเกตว่าคุณเองก็ตามแฟชั่นอยู่เหมือนกันนะ เพราะว่าคุณแต่งตัวแท่ตลอดเลย สไตล์ของคุณมาจากไหนเหรอ” หรือ “คุณเป็นแฟนคลับ CHONBURI FC เหรอ ฉันเห็นคุณใส่เสื้อบอลทีมนี้ตลอดเลย ในทีมนี้ฉันชอบกฎษฎา”
เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญโจชัว ปอมปีย์เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ที่มีประสบการณ์ช่วยผู้คนสำรวจโลกของการหาคู่ออนไลน์มากว่า 10 ปี โจชัวตั้งบริษัทเองในปี 2009 โดยมีอัตราความสำเร็จถึง 99% งานของเขาเคยถูกพูดถึงทางรายการ CNBC, Good Morning America, Wired, และ Refinery29 และได้รับการอ้างอิงให้เป็นนักจับคู่เดทออนไลน์ที่ดีที่สุดในโลกผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์
Joshua Pompey
ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ลองคุยเรื่องเดตครั้งแรกสุดเห่ยเพื่อสร้างความคุ้นเคยแบบสนุกสนาน เกือบทุกคนต้องเคยมีเดตแย่ๆ ในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต หรือไม่คุณก็อาจจะเคยได้รับข้อความน่าขยะแขยงทางออนไลน์ การเล่าเรื่องพวกนี้นอกจากจะทำให้คุณมีเรื่องคุยแล้ว ในขณะเดียวกันมันยังช่วยทำให้เขาเห็นด้วยว่า คุณไม่ได้เป็นคนแบบนั้น
ฟัง. คุณคงไม่อยากเป็นฝ่ายพูดอยู่คนเดียว เพราะฉะนั้นคุณต้องฟังเขาให้มากพอๆ กับที่คุณพูดด้วย ไม่มีใครอยากถือโทรศัพท์ค้างไว้ตั้งแต่ต้นจนจบโดยที่หาจังหวะพูดไม่ได้เลยสักคำ นอกจากนี้ก็ให้ตั้งใจฟังเวลาที่เขาตอบคำถามคุณด้วย ตอบกลับสิ่งที่เขาพูด แสดงความคิดเห็นเมื่อจำเป็น หัวเราะเวลาเขาเล่นมุกหรือไม่ก็พูดอะไรตลกๆ
ตอบคำถามอย่างตั้งใจ. ตั้งใจฟังสิ่งที่เขาถาม ตอบกลับไปให้ยาวพอประมาณและครอบคลุมสิ่งที่เขาถามทั้งหมด ถ้าคุณตอบกลับไปสั้นๆ ห้วนๆ เขาอาจจะคิดว่าคุณไม่สนใจ คุณต้องทำให้เขารู้ว่าคุณกำลังตั้งใจฟังและอยากคุยกับเขาต่อ นอกจากนี้ให้พยายามพูดถึงสิ่งที่คุณสนใจเวลาที่ตอบกลับเขาด้วย อาจจะเป็นเรื่องชวนคุยอย่าง "ฉันไม่เคยเล่นวิดีโอเกมนั้นมาก่อนเลย แต่ว่าฉันชอบเล่นบอร์ดเกมกลยุทธ์มากเลยนะ" คำพูดประมาณนี้เป็นการบอกใบ้ให้เขารู้เกี่ยวกับตัวคุณเล็กน้อย และช่วยให้คุณสองคนรู้จักกันมากขึ้นด้วย[7]- อย่าเล่ามากเกินไป เพราะคุณต้องเก็บเรื่องไว้คุยทีหลังบ้างอย่างตอนที่เขาชวนไปเดต หวังว่านะ และคุณก็ต้องทำให้เขาสนใจคุณต่อไปเรื่อยๆ ด้วย[8]
- พยายามอย่าโอ้อวด เพราะคุณคงไม่อยากให้เขามองว่าคุณเป็นพวกทะนงตัวหรือขี้โม้มากเกินไป เพราะมันจะทำให้เขาคิดหนักว่าต่อไปจะโทรหาคุณดีไหม
โทรคุยแค่แป๊บเดียว. หาจังหวะที่จะจบบทสนทนาได้อย่างลงตัวโดยไม่ฟังดูหยาบคาย คุณอาจจะใช้ข้ออ้างจริงหรือแต่งขึ้นมาก็ได้ แต่ให้เลิกคุยตอนที่กำลังคุยกันสนุก เพราะมันจะทำให้เขายิ่งอยากคุยกับคุณและทำให้เขาโทรหาคุณครั้งหน้า พยายามพูดประมาณว่า "คุยกับเธอสนุกดีจัง แต่ว่าเดี๋ยวอีกครึ่งชั่วโมงฉันมีนัดกินกาแฟกับเพื่อน" วิธีนี้จะทำให้เขารู้ว่าคุณชอบเขา แต่ก็ทำให้เขารู้ด้วยว่าคุณไม่ได้มัวแต่นั่งเฝ้าโทรศัพท์อยู่ที่บ้าน[9]- คุณต้องไม่คุยโทรศัพท์กับเขานานเกินไป ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเงียบไปนานหรือพยายามหาเรื่องคุยเพื่อกลบความเงียบ แปลว่าคุณอาจจะคุยกับเขานานเกินไปแล้ว พยายามหาเรื่องคุยต่อก่อนจะวาง เพราะคุณไม่ควรวางตอนที่มันกร่อยแล้ว[10]
- ผู้ชายส่วนใหญ่ไม่คุยโทรศัพท์นานๆ เพราะฉะนั้นการคุยกันยาวๆ อาจจะไม่ใช่สิ่งที่เขาถนัดเท่าไหร่ แถมคุณเองก็คงไม่อยากคุยนานจนไม่มีเรื่องจะคุยแล้วเหมือนกัน[11]
โฆษณา
ผ่อนคลาย. ถึงคุณสองคนจะคบกันแล้ว แต่การโทรหาเขาก็อาจจะยังทำให้คุณรู้สึกเกร็งอยู่ดี อย่าลืมตั้งสติ ในเมื่อเขาเป็นแฟนคุณ คุณก็ไม่จำเป็นต้องเครียดมากแม้ว่าจะเพิ่งคบกัน คุณรู้อยู่แล้วว่าเขาชอบคุณและน่าจะมีความสุขที่ได้คุยโทรศัพท์กับคุณ- คุณต้องอยู่ในที่ๆ สบายใจและเงียบๆ เพราะคุณจะผ่อนคลายและคุยได้นานโดยไม่ถูกขัดจังหวะ
คิดว่าจะคุยอะไร. ถ้า 2-3 ครั้งล่าสุดที่คุยกันมีแต่ความเงียบ ให้คิดถึงเรื่องที่คุณอยากรู้เกี่ยวกับแฟนก่อนโทรไปหาเขา มีเกมที่คุณรู้ว่าเขาเพิ่งซื้อมาและเล่นมาสักพักแล้วหรือเปล่า ถามเขาว่าชอบไหมและทำไมถึงชอบ พยายามนึกถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาพูดขึ้นมาตอนอยู่ด้วยกันครั้งล่าสุด เช่น "รายงานที่เธอทำเมื่อ 2-3 วันที่แล้วออกมาเป็นไงบ้าง" วิธีนี้จะทำให้เขารู้ว่า คุณใส่ใจเขาเวลาที่อยู่ด้วยกันและรู้ว่าคุณห่วงใยเขา- ลองชวนเขาคุยประมาณว่า “โปรเจกต์ที่คุณเล่าให้ฉันฟังตอนคุยกันครั้งล่าสุดเป็นไงบ้าง มันฟังดูเจ๋งมากเลยนะ!” หรือ “ตอนคุยกันครั้งล่าสุดคุณบอกว่าจะไปดูหนังนี่นา เป็นไงบ้าง สนุกมั้ย”
- จำไว้ว่าการที่คุณสองคนไม่รู้จะคุยอะไรกันไม่ได้หมายความว่าความสัมพันธ์มันแย่ แต่อาจจะเป็นเพราะว่าคุณขี้อายทั้งคู่หรือแค่ยังไม่รู้จักกันมากเท่าไหร่
เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญโจชัว ปอมปีย์เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ที่มีประสบการณ์ช่วยผู้คนสำรวจโลกของการหาคู่ออนไลน์มากว่า 10 ปี โจชัวตั้งบริษัทเองในปี 2009 โดยมีอัตราความสำเร็จถึง 99% งานของเขาเคยถูกพูดถึงทางรายการ CNBC, Good Morning America, Wired, และ Refinery29 และได้รับการอ้างอิงให้เป็นนักจับคู่เดทออนไลน์ที่ดีที่สุดในโลกผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์Joshua Pompey
ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ลองชวนคุยเรื่องอะไรก็ได้ที่คุณเพิ่งทำ พยายามคุยกันให้เป็นธรรมชาติ เช่น คุณอาจจะพูดทำนองว่า "ฉันเพิ่งกลับจากฟิตเนส" และคำพูดนั้นก็อาจจะเป็นการเกริ่นเข้าเรื่องการออกกำลังกายก็ได้
โทรหาเขา. อย่ามัวแต่รอให้เขาเป็นฝ่ายโทรหา แค่เพราะเขาเป็นผู้ชายก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องเป็นฝ่ายเริ่มก่อนทุกเรื่อง การโทรไปหาเขาจะทำให้เขารู้ว่าคุณกำลังคิดถึงเขา คุณห่วงใยเขา และคุณก็ยังสนใจเขาอยู่- ถ้าคุณไม่อยากเป็นฝ่ายโทรหาเขาก่อน การส่งข้อความไปหาก็เป็นวิธีง่ายๆ และไม่กดดันให้เขาเป็นฝ่ายโทรหาคุณเท่าไหร่ ตัวอย่างข้อความกวนๆ อ่อยๆ ก็เช่น “ อยากให้เราได้อยู่ด้วยกันตอนนี้จัง คุณทำอะไรอยู่” หรือ “คิดถึงฉันหรือยังล่ะ”
- ถ้าคุณกับแฟนไม่ได้อยู่ด้วยกัน การคุยโทรศัพท์กันวันละหนึ่งครั้งและส่งข้อความหากันด้วยนั้นถือว่าเพียงพอที่จะรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับแฟนไว้ได้
ถามคำถามส่วนตัวหรือคำถามสำคัญเพื่อทำความรู้จักเขาให้มากขึ้น. การถามคำถามสำคัญกับเขา เช่น เป้าหมายในอนาคตของเขาคืออะไรหรือสิ่งที่เขากลัวมากที่สุดคืออะไรนั้นเป็นวิธีที่ช่วยให้คุณได้รู้จักตัวตนของเขามากขึ้นและสามารถส่งเสริมเขาได้มากขึ้นด้วย วิธีนี้ยังทำให้เขารู้ด้วยว่าคุณห่วงใยเขาในฐานะคนๆ หนึ่ง และคุณก็อยากรู้จักนิสัยใจคอและสิ่งที่เขามุ่งหวังทุกซอกทุกมุม ตัวอย่างคำถามที่คุณอาจจะถามเขาได้แก่ :- “ฉันไม่รู้ว่าคุณเป็นเหมือนกันมั้ยนะ แต่ว่าฉันกลัวความสูงมากๆ เลย แค่ขึ้นบันไดฉันก็เสียวแล้ว มีอะไรที่คุณกลัวสุดๆ บ้างมั้ย”
- “เป้าหมายของฉันคือการเป็นผู้ประกอบการ การได้สร้างอะไรสักอย่างเป็นของตัวเองมีความหมายกับฉันมาก แล้วคุณล่ะ เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคุณคืออะไร”
ตอบคำถามอย่างตั้งใจ. คุณต้องตั้งใจฟังสิ่งที่เขาถาม และตอบคำถามให้ยาวพอที่จะครอบคลุมคำถามของเขาทั้งหมด ถ้าคุณตอบเขาห้วนๆ สั้นๆ เขาอาจจะคิดว่าคุณโกรธเขา[12]- อย่าเล่ามากเกินไป แม้ว่าคุณจะกำลังพยายามทำความรู้จักกันให้มากขึ้น แต่คุณก็ต้องเก็บเรื่องไว้คุยกันวันหลังบ้าง ความสัมพันธ์จะได้น่าค้นหาอยู่เสมอ[13]
- พยายามอย่ายกตนมากเกินไป เพราะคุณคงไม่อยากให้เขารู้สึกว่าคุณเป็นพวกทะนงตัวหรือขี้อวด
พูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่คุณสนใจร่วมกัน. เลือกเรื่องที่คุณรู้ว่าคุณทั้งคู่สนใจ วิธีนี้จะทำให้คุณทั้งคู่สามารถแสดงความคิดเห็นและเจอสิ่งที่เหมือนกันได้ การแสดงมุมมองของตัวเองออกไปเป็นการทำให้เขารู้ว่า คุณมีความคิดเป็นของตัวเอง แต่ในขณะเดียวกันก็มีความสนใจเหมือนกันกับเขา[14]- อย่าคุยเรื่องที่คุณรู้อยู่แล้วว่าคุณไม่เห็นด้วย แต่ถ้าเขาเป็นฝ่ายยกเรื่องนี้ขึ้นมา อย่าโกหกแล้วบอกเขาว่าคุณเห็นด้วยกับเขา แต่ให้พยายามเบี่ยงเบนบทสนทนาให้กลับมาคุยเรื่องที่ปลอดภัยกว่าด้วยการพูดประมาณว่า "ฉันไม่เห็นด้วยกับนโยบายนั้นเท่าไหร่ แต่ฉันก็เห็นด้วยกับจุดยืนของคุณเกี่ยวกับพระราชบัญญัติสุขภาพฉบับใหม่นะ" คุณคงไม่อยากจุดชนวนทะเลาะหรือทำให้คุณบาดหมางกันทางโทรศัพท์โดยไม่จำเป็น
เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญจอห์น คีแกนเป็นโค้ชด้านดารเดทและเป็นนักพูดสร้างแรงบันดาลใจในนิวยอร์ก เขาเปิด The Awakened Lifestyle ซึ่งเขาใช้ความเชี่ยวชาญด้านการเดท การทำตัวให้มีเสน่ห์ และแรงขับเคลื่อนทางโซเชียลมาช่วยผู้คนได้พบรัก เขาสอนและเปิดเวิร์คช็อปด้านการเดทไปทั่วโลก ตั้งแต่ลอสแองเจลิสไปลอนดอน และจากริโอเดอจาเนโรไปถึงปราก งานของเขาถูกเอ่ยถึงใน New York Times, Humans of New York, และ Men's Healthโค้ชด้านการเดท
John Keegan
โค้ชด้านการเดทชมเขา เวลาที่คุณคุยโทรศัพท์กับคนที่คุณชอบ ให้กล่าวชมเขา เช่น "เวลาฟังเสียงคุณในโทรศัพท์เหมือนกำลังฟังเพลงเพราะๆ อยู่เลย" โรแมนติกหน่อย และพูดถึงสิ่งที่คุณอยากดูหรือทำด้วยกัน นอกจากนี้คุณก็อาจจะเล่าเรื่องสิ่งที่คุณเห็นที่ทำให้คุณนึกถึงเขาด้วยก็ได้
ฟัง. ไม่ว่าคุณจะไม่สนใจสิ่งที่เขากำลังพูดหรือว่าเขาเคยเล่าเรื่องนี้มาแล้ว ก็ให้ฟัง เมื่อเขาตอบคำถามคุณ ให้เก็บรายละเอียดที่จะไว้คุยกันวันหลังหรือใช้สิ่งนั้นในการทำความรู้จักกับเขาให้มากขึ้น แค่อย่าเอาแต่เป็นฝ่ายพูดอยู่คนเดียวก็พอ คุณคงไม่อยากให้เขาคิดว่าคุณต้องเป็นฝ่ายควบคุมบทสนทนาทุกครั้ง- อย่ากลัวเวลาที่เกิดความเงียบ แค่เพราะว่ามีจังหวะที่ต่างฝ่ายต่างเงียบก็ไม่ได้หมายความว่าการโทรคุยกันครั้งนี้ไม่ราบรื่น ความเงียบอาจบ่งบอกว่า คุณสบายใจเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น และคุณก็แค่ชอบอยู่ด้วยกันเฉยๆ[15]
จบบทสนทนาด้วยความรู้สึกดีๆ. ถ้าเรามีความสุขหลังจากที่ได้คุยโทรศัพท์กับใครสักคน เราจะอยากโทรหาเขาเรื่อยๆ การหัวเราะเป็นสิ่งที่ควรทำก่อนวางหู เช่น ถ้าแฟนเล่าเรื่องตลกให้ฟัง ให้คุณหัวเราะคิกคักแล้วบอกว่า “ฮ่าๆๆ คุณหาเรื่องมาทำให้ฉันยิ้มได้เสมอเลยนะ ฉันต้องวางแล้วละ ขอบคุณมากนะที่ทำให้ฉันอารมณ์ดี กำลังอยากฟังเรื่องตลกอยู่เลย!”[16]- เพื่อรักษาบรรยากาศที่ดี ให้จบบทสนทนาด้วยการชมเขาทำนองว่า “ถ้าฉันคุยกับคนอื่นได้ง่ายๆ เหมือนคุยกับคุณก็ดีสิ เป็นกำลังใจให้ฉันเข้ากะถัดไปด้วยนะ บาย!” หรือ “ทำไมถึงไม่มีใครเลือกร้านอาหารได้ดีเหมือนคุณเลยนะ กำลังจะออกไปเจอเพื่อนที่ร้านอาหารห่วยๆ ร้านนึง แต่ทำไงได้ เธอดันชอบร้านนี้!”
โฆษณา
เคล็ดลับ
- ถ้ามันไม่ราบรื่นเท่าไหร่ อย่าไปกังวลมาก เพราะคุณลองใหม่ได้เสมอ ถ้าคุณเพิ่งโทรคุยกันเป็นครั้งแรกและมันคือหายนะชัดๆ ก็อาจจะหมายความว่าเขาไม่ใช่ผู้ชายที่เหมาะกับคุณก็ได้
- ถ้าเกิดความเงียบที่ชวนกระอักกระอ่วน บอกให้เขาถือสายรอสักครู่และวางโทรศัพท์ลงไปก่อน จากนั้นคุณก็ตั้งสติและหาเรื่องสนุกๆ มาเริ่มคุยใหม่ เช่น "ขอโทษที่ขัดจังหวะ น้องสาวฉันน่ะ พูดถึงน้องสาวนะ อาทิตย์ที่แล้วฉันเพิ่งไปพิพิธภัณฑ์กับน้องมา ศิลปินคนโปรดของเธอคือใครเหรอ แล้วทำไมเธอถึงชอบเขา"
- พยายามอย่ากิน หายใจหอบ หรือคุยกับคนอื่นเวลาที่คุยโทรศัพท์กับเขา เพราะมันจะดูเหมือนว่าคุณไม่ได้สนใจแถมยังดูหยาบคายด้วย
- อย่าทำหูทวนลมเวลาที่เขาหรือเธอถามหรือพยายามจะคุยกับคุณ
- ถามเกี่ยวกับสิ่งที่เขาชอบมากหรืออยากพูดถึง ทำให้เขาเห็นว่าคุณสนใจเขา
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.seventeen.com/love/advice/guy-advice-phone
- ↑ http://datingtips.match.com/talk-guy-telephone-13197195.html
- ↑ http://datingtips.match.com/flirt-phone-boy-like-13197205.html
- ↑ http://www.seventeen.com/love/advice/guy-advice-phone
- ↑ http://datingtips.match.com/talk-guy-telephone-13197195.html
- ↑ http://www.onlymyhealth.com/tips-talking-guy-phone-1337374853
- ↑ http://www.onlymyhealth.com/tips-talking-guy-phone-1337374853
- ↑ http://datingtips.match.com/flirt-phone-boy-like-13197205.html
- ↑ http://www.onlymyhealth.com/tips-talking-guy-phone-1337374853
- ↑ http://datingtips.match.com/talk-guy-telephone-13197195.html
- ↑ http://datingtips.match.com/flirt-phone-boy-like-13197205.html
- ↑ http://www.onlymyhealth.com/tips-talking-guy-phone-1337374853
- ↑ http://datingtips.match.com/flirt-phone-boy-like-13197205.html
- ↑ http://www.lovepanky.com/women/dating-men-tips-for-women/things-to-talk-about-with-your-boyfriend
- ↑ http://www.lovepanky.com/women/dating-men-tips-for-women/things-to-talk-about-with-your-boyfriend
- ↑ https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4779443/
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
โค้ชด้านการเดท
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย John Keegan. จอห์น คีแกนเป็นโค้ชด้านดารเดทและเป็นนักพูดสร้างแรงบันดาลใจในนิวยอร์ก เขาเปิด The Awakened Lifestyle ซึ่งเขาใช้ความเชี่ยวชาญด้านการเดท การทำตัวให้มีเสน่ห์ และแรงขับเคลื่อนทางโซเชียลมาช่วยผู้คนได้พบรัก เขาสอนและเปิดเวิร์คช็อปด้านการเดทไปทั่วโลก ตั้งแต่ลอสแองเจลิสไปลอนดอน และจากริโอเดอจาเนโรไปถึงปราก งานของเขาถูกเอ่ยถึงใน New York Times, Humans of New York, และ Men's Health บทความนี้ถูกเข้าชม 25,118 ครั้ง
หมวดหมู่: ปฏิสัมพันธ์ทางสังคม
มีการเข้าถึงหน้านี้ 25,118 ครั้ง
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.
โฆษณา
