วิธีการ แก้อาการเจ็บคอ

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

รักษาอาการแสบหรือเจ็บคอ

ใช้วิธีรักษาแบบธรรมชาติ

หาสาเหตุของอาการเจ็บคอ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

ถ้าคุณมีอาการแสบหรือเจ็บคอ คุณคงอยากหายไวๆ การเจ็บคอจะทำให้คุณกลืนน้ำลายและกินอาหารลำบาก ยาแก้ปวด ยาอม และยาพ่นที่ซื้อได้ตามร้านขายยาเป็นตัวเลือกที่ดีที่จะช่วยแก้อาการเจ็บคอก่อนที่คุณจะไปพบแพทย์ หลังจากที่รักษาเบื้องต้นแล้วลองปรึกษาแพทย์ถึงสาเหตุของอาการดู

ขั้นตอน

ส่วน 1

ส่วน 1 ของ 3:

รักษาอาการแสบหรือเจ็บคอ

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ลองซื้อยาแก้ปวดมากินเอง. ทางแก้ง่ายๆ ทางหนึ่งก็คือกินยาบรรเทาอาการปวด เช่น อะเซตามีโนเฟนหรือพาราเซตามอล (acetaminophen) หรือไอบูโพรเฟน (ibuprofen) อ่านคำแนะนำที่ฉลากยาว่ากินได้บ่อยแค่ไหน

   • ยาแก้อักเสบอย่างไอบูโพรเฟนอาจได้ผลดีกว่าพาราเซตามอล เพราะมันช่วยลดการระคายเคืองและการบวมได้ แต่พาราเซตามอลก็แก้เจ็บคอได้ดีเช่นกัน
2. 
   2
   กินไอศกรีมหวานเย็น. ไอศกรีมแท่งหวานเย็นจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ โดยความเย็นจะทำให้ไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด

   • คุณจะลองกินของเย็นๆ อย่างอื่นก็ได้ เช่น ไอศกรีม หรือผลไม้แช่แข็ง ชาเย็นหรือน้ำเย็นก็ช่วยได้เช่นกัน
3. 
   3
   กินยาอมแก้เจ็บคอ. ยาอมแก้เจ็บคอหาซื้อได้ทั่วไป และช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอได้โดยเฉพาะ ถ้าคุณระวังเรื่องการบริโภคน้ำตาลอยู่ก็ควรเลือกแบบที่ไม่มีน้ำตาล

   • คุณสามารถกินยาอมบ่อยแค่ไหนก็ได้ และพยายามเลือกซื้อแบบที่มีส่วนผสมของยูคาลิปตัสหรือเมนทอล เพราะมันมีฤทธิ์เย็นซึ่งช่วยปลอบประโลม
4. 
   4
   ใช้ยาพ่นแก้เจ็บคอ. ถ้าคุณไม่ชอบอมยาอมก็ใช้สเปรย์พ่นแก้เจ็บคอแทนก็ได้ ยาพ่นอย่างเช่น Chloroplasts มีคุณสมบัติช่วยทำให้ชาและฆ่าเชื้อโรคจึงช่วยให้หายเจ็บคอได้

   • วิธีใช้ยาพ่น ให้อ้าปากกว้างๆ แลบลิ้นออกมา ถือขวดให้ตรงกับช่องปากด้านใน และพ่นยาไปที่ในคอ
5. 
   5
   ไม่กินอาหารที่ยังร้อนๆ. ถ้ากินอาหารร้อนจัดๆ เข้าไป มันจะยิ่งทำให้ระคายเคืองคอ ดังนั้นอย่ากินอาหารหรือเครื่องดื่มร้อนๆ ขณะที่ยังเจ็บคอ ควรเป่าก่อนกิน หรือจะใส่น้ำแข็งหรือคนให้หายร้อนก่อนก็ได้
6. 
   6
   ดื่มน้ำให้เพียงพอ. เมื่อเจ็บคอควรดื่มน้ำเยอะๆ ระหว่างวัน ถ้าร่างกายขาดน้ำจะทำให้คอแห้งและยิ่งระคายเคือง คุณไม่จำเป็นต้องดื่มแต่น้ำเปล่า ชาและกาแฟก็ได้เหมือนกัน เพราะเครื่องดื่มอุ่นๆ (ไม่ถึงกับร้อน) จะช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอได้

   • ผู้ชายควรดื่มน้ำประมาณวันละ 13 แก้ว ส่วนผู้หญิงควรดื่มวันละประมาณ 9 แก้ว และควรดื่มให้มากขึ้นถ้ากำลังเจ็บคออยู่
   • ถ้าอยากช่วยปลอบประโลมคอให้มากขึ้น เติมน้ำผึ้งลงไปในชาหรือกาแฟสัก 1 ช้อนโต๊ะ
7. 
   7
   เพิ่มความชื้นในอากาศ. ถ้าคอแห้งจะยิ่งให้ระคายคอ และอาการจะยิ่งแย่ลงไปอีก ถ้าอากาศในบ้านคุณแห้งเกินไปให้ลองใช้เครื่องทำความชื้น อากาศที่แห้งๆ นั้นจะยิ่งทำให้เจ็บคอ

   • การอาบน้ำอุ่นๆ และหายใจเอาไอน้ำเข้าไปก็ช่วยให้ดีขึ้นได้เหมือนกัน ปิดประตูห้องน้ำก่อนอาบ เมื่อเปิดน้ำตอนแรกให้เปิดน้ำร้อนสุดๆ เพื่อให้เกิดไอน้ำในห้องน้ำ แล้วค่อยปรับให้เย็นลงจนพออาบได้ ขณะอาบน้ำให้หายใจลึกๆ สูดเอาไอน้ำเข้าไป
8. 
   8
   หลีกเลี่ยงบุหรี่. ควันบุหรี่ทำให้ระคายเคืองคอได้ แม้จะเป็นควันบุหรี่มือสองก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีควันบุหรี่จนกว่าจะหายเจ็บคอ
9. 
   9
   เปลี่ยนแปรงสีฟัน. เมื่อเวลาผ่านไป แบคทีเรียจะก่อตัวขึ้นบนขนแปรงสีฟัน คอของคุณอาจติดเชื้อซ้ำอีกได้หากยังใช้แปรงอันเดิมเป็นเวลานาน

   • เชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกายคุณผ่านทางเหงือก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีเลือดออกตามเหงือกขณะแปรงฟัน
10. 
    10
    ขอให้แพทย์สั่งจ่ายยาให้. แพทย์จะเป็นคนเลือกแนวทางป้องกันให้กับคุณได้ดีที่สุด ในหลายๆ กรณีอาจต้องกินยาปฏิชีวนะสักชุดเพื่อช่วยรักษาอาการเจ็บคอ ขึ้นอยู่กับสาเหตุด้วย
    โฆษณา

ส่วน 2

ส่วน 2 ของ 3:

ใช้วิธีรักษาแบบธรรมชาติ

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ลองกินน้ำส้มสายชูหมักแอปเปิลหรือแอปเปิลไซเดอร์ (apple cider vinegar). เติมน้ำผึ้งและแอปเปิลไซเดอร์อย่างละ 1 ช้อนโต๊ะลงในน้ำอุ่น คนให้เข้ากันแล้วดื่ม

   • บางคนบอกว่าวิธีนี้จะช่วยได้ลดอาการเจ็บคอได้บ้างเพราะมันช่วยฆ่าเชื้อโรค และน้ำผึ้งยังช่วยบรรเทาความเจ็บได้ด้วย
   • คุณจะกลั้วคอด้วยแอปเปิลไซเดอร์แทนก็ได้ โดยผสมแอปเปิลไซเดอร์ 2 ช้อนโต๊ะ กับน้ำ 1/2 ถ้วยตวง แล้วใช้กลั้วคอ ไม่ต้องใส่น้ำผึ้ง
2. 
   2
   กลั้วคอด้วยน้ำเกลือ. ใช้น้ำอุ่นหนึ่งถ้วย เติมเกลือลงไป 1/2 ช้อนชา และคนให้ละลาย นำน้ำเกลือที่ได้มากลั้วคอ มันจะช่วยแก้เจ็บคอและลดการอักเสบ

   • น้ำเกลือจะเป็นตัวฆ่าเชื้อโรค ช่วยหยุดไม่ให้มันเจริญเติบโตในคอของคุณ และยังช่วยขับเสมหะด้วย
   • คุณสามารถนำน้ำอุ่นหนึ่งถ้วยมาผสมกับเกลือ 1/2 ช้อนชาและผงฟู 1/2 ช้อนชา แล้วนำมากลั้วคอก็ได้เช่นกัน
3. 
   3
   ชงชารากมาร์ชแมลโลว์. คุณสามารถหาซื้อรากมาร์ชแมลโลว์ได้ทางร้านค้าออนไลน์และร้านขายผลิตภัณฑ์ยาจากธรรมชาติ ตักรากหนึ่งช้อนโต๊ะใส่ถ้วยและเทน้ำร้อนลงไป ทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมง

   • กรองเอากากออกแล้วดื่ม
   • ปรึกษาแพทย์ก่อนหากคุณเป็นโรคเบาหวานหรือมีปัญหาสุขภาพอื่นๆ เกี่ยวกับน้ำตาลในเลือด เพราะมันอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเปลี่ยนได้
4. 
   4
   ดื่มชารากชะเอม. บางคนก็โชคดีที่ดื่มชารากชะเอมแล้วหายเจ็บคอ คุณจะไปซื้อชาแบบสำเร็จรูปตามร้านค้าหรือจะทำเองก็ได้

   • ถ้าจะทำเอง คุณต้องใช้รากชะเอมสับ 1 ถ้วยตวง อบเชยหั่นชิ้นเล็กๆ 1/2 ถ้วยตวง กานพลู (ทั้งดอก) 2 ช้อนโต๊ะ และดอกคาโมมายล์ 1/2 ถ้วยตวง ทั้งหมดนี้หาได้ตามร้านขายสมุนไพรหรือผลิตภัณฑ์อาหารจากธรรมชาติ เก็บไว้ในโหลสุญญากาศ
   • เทน้ำ 2.5 ถ้วยตวงลงในหม้อ ตักชาที่ผสมไว้จากขั้นตอนที่แล้วใส่ลงไป 3 ช้อนโต๊ะพูนๆ ต้มไฟแรงจนเดือดแล้วค่อยลดเป็นไฟเบา ต้มต่ออีกประมาณ 10 นาที กรองเอากากชาออกแล้วดื่ม
   โฆษณา

ส่วน 3

ส่วน 3 ของ 3:

หาสาเหตุของอาการเจ็บคอ

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ดูว่ามีอาการของโรคกรดไหลย้อนหรือไม่. โรคกรดไหลย้อนจะทำให้เกิดอาการแสบร้อนในคอเนื่องจากมีกรดไหลย้อนขึ้นมา

   • อาการอีกอย่างของโรคกรดไหลย้อนคืออาการแสบร้อนกลางอกซึ่งจะเป็นหนักขึ้นตอนนอน ส่วนมากอาการนี้จะเกิดหลังกินอาหาร วันต่อมาอาจจะเสียงแหบหรือกลืนลำบากด้วย
   • ถ้าเป็นโรคกรดไหลย้อน คุณจะรู้สึกเหมือนมีรสเปรี้ยวหรือได้รสโลหะในปาก
   • ถ้าคุณนอนอยู่แล้วรู้สึกได้รสกรดเปรี้ยวๆ ไหลย้อนขึ้นมาที่คอ อย่างแรกที่ต้องทำคือลุกขึ้นนั่ง ดื่มน้ำสักหน่อยเพื่อช่วยให้อาการดีขึ้น คุณจะปรับหมอนหนุนให้สูงหน่อยก็ได้
   • การซื้อยาลดกรดมากินเป็นวิธีรักษากรดไหลย้อนเบื้องต้น มันจะช่วยปรับสภาพกรดในหลอดอาหารและกระเพาะอาหาร ยานี้ทำงานเกือบจะทันที มันไม่ได้ทำให้แผลในคอที่ถูกกรดกัดหายไป แต่จะช่วยป้องกันไม่ให้กรดไหลมาที่คอได้อีก
   • ผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บปวดและไม่สบายตัวไม่หายควรรีบไปพบแพทย์
2. 
   2
   สังเกตอาการแสบร้อนในช่องปาก (burning mouth syndrome). ถ้านอกจากคอแล้ว ส่วนอื่นๆ ในช่องปากมีอาการแสบด้วย คุณอาจเป็นโรคกลุ่มอาการแสบร้อนในช่องปาก กลุ่มอาการแสบร้อนในช่องปากแบบทุติยภูมิอาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ได้แก่ ฮอร์โมน ภูมิแพ้ และการได้รับวิตามินไม่เพียงพอ อย่างไรก็ตาม สำหรับกลุ่มอาการแสบร้อนในช่องปากแบบปฐมภูมิ แพทย์ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด

   • คุณอาจมีอาการปากแห้ง หรือมีรสแปลกๆ ในปากด้วย ลองพบแพทย์หรือทันตแพทย์หากมีอาการดังกล่าว อาการนี้อาจเกิดจากเส้นประสาทใบหน้าผิดปกติก็ได้
3. 
   3
   วัดไข้. ถ้าคุณมีไข้ด้วย คุณอาจเป็นโรคคออักเสบหรือโรคเจ็บคอสเตรปโธรท (strep throat) อาการของโรคสเตรปโธรท ได้แก่ มีจุดสีขาวบนเพดานปากด้านใน มีไข้ ปวดหัว และเป็นผื่นขึ้น โรคสเตรปโธรทจะไม่มีอาการไอ

   • ถ้าคุณสงสัยว่าตัวเองเป็นโรคสเตรปโธรท ควรไปพบแพทย์ เพราะบางทีมันอาจลุกลามกลายเป็นโรคทอนซิลอักเสบได้ ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อที่ต่อมทอนซิล โรคนี้รักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ
   • การที่มีไข้ ต่อมน้ำเหลืองโต และเจ็บคอ เป็นอาการของโรคติดเชื้อโมโนนิวคลีโอสิส (infectious mononucleosis) หากมีอาการดังกล่าวควรไปพบแพทย์ แพทย์จะทำการตรวจแบบ monospot test และตรวจเลือดเพื่อหาเม็ดเลือดขาวที่ผิดปกติ (atypical lymphocytes) ควรงดเล่นกีฬาเพราะการทำกิจกรรมหนักๆ อาจทำให้ม้ามแตกได้
4. 
   4
   สังเกตว่ามีอาการเจ็บคอนานแค่ไหน. ถ้ายังไม่หายเจ็บคอแม้จะทำตามวิธีรักษาแล้ว มันอาจเป็นสัญญาณบอกโรคที่ร้ายแรงกว่าที่คิดอย่างโรคมะเร็งกล่องเสียง ลองปรึกษาแพทย์หากคุณมีอาการเจ็บคอเกินสองสัปดาห์ โดยเฉพาะถ้าได้กินยาปฏิชีวนะครบชุดแล้ว

   • การที่น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุอาจเกิดจากมะเร็งก็ได้
5. 
   5
   คิดถึงสาเหตุอื่นๆ. การเจ็บหรือแสบคออาจเกิดจากการแพ้หรือการสูบบุหรี่ก็ได้ ทางที่ดีที่สุดที่จะบรรเทาอาการเจ็บคอที่เกิดจากสาเหตุเหล่านี้ก็คือเลิกสูบบุหรี่ หรือกินยาแก้แพ้เพื่อลดอาการแพ้
   โฆษณา