ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

การเรียนพีชคณิตอาจดูเหมือนยุ่งยาก แต่พอเราเริ่มเข้าใจหลักพีชคณิตแล้ว ก็จะเห็นว่าไม่ยากอย่างที่คิด! เราแค่ต้องทำตามลำดับขั้นตอนเพื่อทำให้แต่ละส่วนของสมการสมบูรณ์และเขียนขั้นตอนการคำนวณตัวเลขให้เป็นระเบียบเพื่อป้องกันความผิดพลาด!

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 5:

คึกษาหลักพีชคณิตพื้นฐาน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ศึกษาการดำเนินการทางคณิตศาสตร์พื้นฐาน.
    เราจะต้องมีทักษะทางคณิตศาสตร์พื้นฐานอย่างเช่น บวก ลบ คูณ และหาร เราจำเป็นต้องมีทักษะทางคณิตศาสตร์ระดับประถมนี้ก่อนเริ่มเรียนพีชคณิต ถ้าเราไม่ชำนาญทักษะเหล่านี้ ก็จะประสบกับความยากลำบากในการเรียนหลักพีชคณิตที่มีความยุ่งยากซับซ้อนมาก ถ้าอยากทบทวนความรู้เรื่องการดำเนินการทางคณิตศาสตร์ ลองอ่านบทความของวิกิฮาวที่เกี่ยวกับทักษะทางคณิตศาสตร์ได้
    • เราไม่จำเป็นต้องคิดเลขด้วยตนเองทุกครั้ง ก็ได้ เวลาทำโจทย์พีชคณิต คุณครูอาจอนุญาตให้เราใช้เครื่องคิดเลขได้เพื่อประหยัดเวลาเมื่อต้องคิดเลขง่ายๆ อย่างไรก็ตามเราควรฝึกคิดเลขด้วยตนเองไว้บ้าง เพราะเมื่อถึงคราวที่คุณครูไม่อนุญาตให้ใช้เครื่องคิดเลข เราจะได้สามารถคิดเลขด้วยตนเองได้อย่างคล่องแคล่ว
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ศึกษาลำดับการคำนวณทางคณิตศาสตร์.
    สิ่งที่ยากที่สุดในการแก้สมการพีชคณิตสำหรับผู้เริ่มเรียนคือไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี โชคดีที่เรามีลำดับการคำนวณทางคณิตศาสตร์โดยเฉพาะเป็นแนวทางในการเริ่มต้นการคำนวณ โดยลำดับดังกล่าวเริ่มจากคำนวณตัวเลขในวงเล็บ ต่อมาก็คำนวณตัวเลขที่มีเลขชี้กำลัง จากนั้นคูณแล้วก็หาร บวกและสุดท้ายลบ เราจะใช้ตัวย่อ PEMDAS เป็นหลักในการจำลำดับการคำนวณทางคณิตศาสตร์[1] เรียนรู้วิธีใช้ลำดับการคำนวณทางคณิตศาสตร์ด้านล่างนี้ โดยสรุปแล้วลำดับการคำนวณทางคณิตศาสตร์มีดังนี้:
    • Parentheses (วงเล็บ)
    • Exponents (เลขยกกำลัง)
    • Multiplication (คูณ)
    • Division (หาร)
    • Addition (บวก)
    • Subtraction (ลบ)
    • ลำดับการคำนวณนั้นมีความสำคัญในเรื่องพีชคณิตเพราะการคำนวณทางคณิตศาสตร์ผิดลำดับอาจมีผลต่อคำตอบได้ในบางครั้ง ตัวอย่างเช่น ถ้าเราต้องหาคำตอบของ 8 + 2 × 5 และนำ 2 บวก 8 ก่อน คำตอบก็จะได้เป็น 10 × 5 = 50 แต่ถ้าเรานำ 2 มาคูณกับ 5 ก่อน คำตอบก็จะได้เป็น 8 + 10 = 18 มีเพียงคำตอบที่สองเท่านั้นที่เป็นคำตอบที่ถูกต้อง
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ศึกษาวิธีคำนวณจำนวนลบ.
    ในเรื่องพีชคณิตเราจะต้องเจอการคำนวณจำนวนลบ ฉะนั้นจึงควรทบทวนวิธีการบวก ลบ คูณ และหารจำนวนลบก่อนเริ่มเรียนพีชคณิต[2] ต่อไปนี้จะเป็นหลักการคำนวณจำนวนลบห้าข้อที่ควรจำเอาไว้ ถ้าอยากรู้รายละเอียดมากกว่านี้ อ่านบทความวิกิฮาวเรื่องการบวกและลบจำนวนลบกับการหารและคูณจำนวนลบ
    • บนเส้นจำนวนจำนวนลบจะมีระยะห่างจากศูนย์เท่ากับจำนวนบวกแต่ในทิศทางตรงกันข้าม
    • การนำจำนวนลบมาบวกกันจะทำให้จำนวนติด ลบมากขึ้น (กล่าวให้ชัดเจนคือตัวเลขจะสูงขึ้นแต่เนื่องจากเป็นจำนวนลบ จึงนับว่ามีค่าน้อย)
    • เครื่องหมายลบหักล้างกับเครื่องหมายลบ เพราะการลบจำนวนลบเหมือนการบวกจำนวนบวก
    • คำตอบที่ได้จากการนำจำนวนลบมาคูณหรือหารกันจะเป็นบวก
    • คำตอบที่ได้จากการนำจำนวนบวกมาคูณหรือหารจำนวนลบจะเป็นลบ
  4. How.com.vn ไท: Step 4 เขียนขั้นตอนการคำนวณให้เป็นระเบียบ.
    หากเป็นโจทย์พีชคณิตง่ายๆ เราอาจเขียนคำตอบได้ทันที แต่ถ้าเป็นโจทย์ที่มีความยุ่งยากซับซ้อนมาก เราอาจต้องคำนวณตัวเลขหลายขั้นตอนกว่าจะได้คำตอบ ฉะนั้นเราต้องเขียนขั้นตอนการคำนวณให้เป็นระเบียบด้วยการขึ้นบรรทัดใหม่ทุกครั้งที่จะทำขั้นตอนต่อไปจนกระทั่งได้คำตอบ ถ้าโจทย์เป็นสมการสองข้าง ให้เขียนเครื่องหมายเท่ากับ ("=") ไว้ทุกบรรทัด เขียนขั้นตอนการคำนวณให้เป็นระเบียบ หากเกิดคำนวณผิดพลาดที่ขั้นตอนใด เราจะหาจุดที่ผิดพลาดเจอและแก้ไขได้ง่าย
    • ตัวอย่างเช่น หากต้องการหาคำตอบของ 9/3 - 5 + 3 × 4 เราอาจเขียนขั้นตอนการคำนวณให้เป็นระเบียบได้ดังนี้:
      9/3 - 5 + 3 × 4
      9/3 - 5 + 12
      3 - 5 + 12
      3 + 7
      10
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 5:

ทำความรู้จักตัวแปรต่างๆ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 มองหาสัญลักษณ์ที่ไม่ใช่ตัวเลข.
    ในเรื่องพีชคณิตเราจะเริ่มเห็นตัวอักษรและสัญลักษณ์ปรากฏในโจทย์ ไม่ใช่แค่ตัวเลขเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ตัวอักษรและสัญลักษณ์เหล่านี้เรียกว่าตัวแปร ตัวแปรไม่ใช่อะไรที่ซับซ้อนเหมือนอย่างที่เห็น เป็นแค่วิธีการแสดงจำนวนที่ยังไม่รู้ค่า[3] ด้านล่างนี้คือตัวอย่างตัวแปรที่มักจะพบในเรื่องพีชคณิต
    • ตัวแปรที่เป็นตัวอักษร เช่น x, y, z, a, b และ c
    • ตัวแปรที่เป็นตัวอักษรกรีก เช่น ทีตาหรือ θ
    • ไม่ใช่ทุก สัญลักษณ์จะเป็นตัวแปรที่ไม่รู้ค่า ตัวอย่างเช่น พายหรือ π มีค่าเท่ากับประมาณ 3.14159
  2. Step 2 ให้คิดว่าตัวแปรคือจำนวน "ที่ไม่รู้".
    โดยพื้นฐานแล้วตัวแปรเป็นเพียงจำนวนที่เราไม่รู้ค่าเท่านั้นอย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ กล่าวให้ชัดเจนคือมีจำนวนบางจำนวน ที่สามารถแทนที่ตัวแปรเพื่อแก้สมการได้ โดยปกติเป้าหมายในการแก้สมการคือรู้ว่าตัวแปรคือจำนวนใด ให้คิดว่าตัวแปรคือ "จำนวนลึกลับ" ที่เรากำลังหาอยู่ว่าคือจำนวนใด
    • ตัวอย่างเช่น สมการของเราคือ 2x + 3 = 11 จะเห็นว่า x คือตัวแปรของเรา สมการนี้แสดงให้เห็นว่ามีค่าหนึ่งค่าที่มาแทนที่ x แล้วทำให้ข้างซ้ายของสมการเท่ากับ 11 เนื่องจาก 2 × 4 + 3 = 11 ฉะนั้นในกรณีนี้ x = 4
    • วิธีง่ายๆ วิธีหนึ่งที่จะทำให้เราเริ่มเข้าใจตัวแปรคือนำเครื่องหมายคำถามมาแทนที่ตัวแปรในสมการพีชคณิต ตัวอย่างเช่น เราอาจเขียนสมการ 2 + 3 + x = 9 เป็น 2 + 3 + ? = 9 การแทนด้วยเครื่องหมายคำถามจะทำให้เราเข้าใจได้อย่างชัดเจนมากขึ้นว่าจะต้องทำอะไรต่อไป นั่นคือเราก็แค่ต้องหาจำนวนที่มาบวกกับ 2 + 3 = 5 แล้วได้ 9 คำตอบนั้นก็คือ 4 นั่นเอง
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ดูสิว่ามีตัวแปรซ้ำอีกไหม.
    ถ้าตัวแปรปรากฏในสมการเกินหนึ่งตัว ให้เขียนสมการให้อยู่ในรูปอย่างง่าย เราควรทำอย่างไรหากในสมการมีตัวแปรที่เหมือนกันเกินหนึ่งตัว ถึงแม้สมการแบบนี้อาจดูเหมือนยุ่งยากซับซ้อนจนเกินกว่าจะแก้ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วเราสามารถนำตัวแปรมาคำนวณได้เหมือนกับที่เราคำนวณตัวเลขตามปกติ กล่าวให้ชัดเจนคือเราสามารถนำตัวแปรมาบวก ลบ และคำนวณแบบอื่นได้ตราบเท่าที่เราทำกับตัวแปรที่เหมือนกันเท่านั้น กล่าวให้ชัดเจนคือ x + x = 2x แต่ x + y ไม่เท่ากับ 2xy
    • ตัวอย่างเช่น สมการของเราคือ 2x + 1x = 9 ในกรณีนี้เราสามารถนำ 2x มาบวกกับ 1x ได้ เมื่อบวกกันแล้ว เราจะได้สมการใหม่เป็น 3x = 9 เนื่องจาก 3 x 3 = 9 ฉะนั้น x = 3
    • จะสังเกตเห็นว่าเราสามารถนำตัวแปรที่เหมือนกันมาบวกกันได้เท่านั้น ในสมการ 2x + 1y = 9 เราไม่สามารถนำ 2x มาบวก 1y ได้ เพราะทั้งสองมีตัวแปรที่ไม่เหมือนกัน
    • เราไม่สามารถนำตัวแปรที่มีเลขชี้กำลังต่างกันมาบวกกันได้ ตัวอย่างเช่น ในสมการ 2x + 3x2 = 10 เราไม่สามารถนำ 2x และ 3x2 มาบวกกันได้ เพราะตัวแปร x มีเลขชี้กำลังไม่เท่ากัน ถ้าอยากรู้รายละอียดเพิ่มเติม อ่านบทความวิธีการบวกเลขยกกำลัง
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 5:

เรียนรู้การแก้สมการด้วยวิธีการ "หักล้าง"

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ทำให้เหลือตัวแปรแค่ตัวเดียวที่ข้างใดข้างหนึ่งของสมการ....
    ทำให้เหลือตัวแปรแค่ตัวเดียวที่ข้างใดข้างหนึ่งของสมการ. การแก้สมการพีชคณิตหมายถึงการหาค่าของตัวแปร สมการพีชคณิตมักจะประกอบด้วยตัวเลขและหรือตัวแปรทั้งสองข้างแบบนี้: x + 2 = 9 × 4 เราต้องทำให้เหลือตัวแปรแค่ตัวเดียวที่ข้างใดข้างหนึ่งของสมการเพื่อจะได้รู้ค่าของตัวแปรนั้น อะไรก็ตามที่เหลือไว้ที่อีกข้างหนึ่งของสมการคือคำตอบของเรา
    • ในตัวอย่าง (x + 2 = 9 × 4) เราต้องขจัด "+ 2" ออกเพื่อทำให้เหลือแค่ x ตัวเดียวที่ข้างซ้ายของสมการ เราเพียงแค่นำ 2 มาลบออกจากข้างนั้นของสมการ ก็จะเหลือแค่ x = 9 × 4 อย่างไรก็ตามเรายังต้องนำ 2 มาลบออกจากอีกข้างหนึ่งของสมการเพื่อทำให้สมการทั้งสองข้างเท่ากัน พอลบอีกข้างหนึ่งของสมการแล้ว ก็จะเหลือ x = 9 × 4 – 2 เมื่อทำตามลำดับการคำนวณทางคณิตศาสตร์ เราต้องคูณก่อน จากนั้นจึงลบ ค่าของ x = 36 - 2 = 34
  2. How.com.vn ไท: Step 2 หักล้างการบวกด้วยการลบ (และหักล้างการลบด้วยการบวก)....
    หักล้างการบวกด้วยการลบ (และหักล้างการลบด้วยการบวก). การทำให้เหลือแค่ x ตัวเดียวที่ข้างหนึ่งของสมการหมายถึงการขจัดตัวเลขที่อยู่ข้างตัวแปรอย่างที่ได้เห็นไปแล้วจากตัวอย่างด้านบน เราดำเนินการคำนวณทางคณิตศาสตร์แบบ "ตรงข้าม" กับทั้งสองข้างของสมการเพื่อขจัดตัวเลขที่อยู่ข้างตัวแปร ตัวอย่างเช่น ในสมการ x + 3 = 0 เนื่องจากเราเห็นว่า "+ 3" อยู่ข้าง x เราจึงนำ "- 3" มาลบออกจากทั้งสองข้างของสมการ เมื่อ "+ 3" หักล้าง "- 3" จึงทำให้สมการข้างซ้ายเหลือแค่ x และมี "-3" เหลืออีกข้างหนึ่งของสมการ ฉะนั้น x = -3
    • โดยทั่วไปแล้วการบวกและการลบนั้นเป็น "ด้านตรงข้ามกัน" เราต้องบวกหรือลบเพื่อขจัดตัวเลขที่อยู่ข้างตัวแปร ดูตัวอย่างด้านล่างนี้:
      ตัวอย่างนี้คือตัวอย่างการบวกเพื่อขจัดตัวเลขที่อยู่ข้างตัวแปร: x + 9 = 3 → x = 3 - 9
      ตัวอย่างนี้คือตัวอย่างการลบเพื่อขจัดตัวเลขที่อยู่ข้างตัวแปร: x - 4 = 20 → x = 20 + 4
  3. How.com.vn ไท: Step 3 หักล้างการคูณด้วยการหาร (และหักล้างการหารด้วยการคูณ)....
    หักล้างการคูณด้วยการหาร (และหักล้างการหารด้วยการคูณ). การคูณและการหารเป็นการคำนวณที่ยากกว่าการบวกและการลบเล็กน้อย แต่ก็เป็นด้านที่ "ตรงข้ามกัน" เหมือนกัน ถ้าเราเห็น "× 3" เราสามารถนำ 3 มาหารทั้งสองข้างของสมการเพื่อทำให้ตัวเลขนี้หายไปได้
    • หากเราพบตัวเลขคูณหรือหารตัวแปรอยู่ เราต้องดำเนินการทางคณิตศาสตร์แบบตรงกันข้ามกับตัวเลข ทุกตัว ที่อยู่อีกข้างหนึ่งของสมการ ถึงแม้จะมีตัวเลขมากกว่าหนึ่งจำนวนก็ตาม ดูตัวอย่างด้านล่างนี้
      เมื่อพบตัวเลขคูณกับตัวแปร ให้นำตัวเลขนั้นมาหารทั้งสองข้างของสมการ ตัวอย่าง: 6x = 14 + 2→ x = (14 + 2)/6
      เมื่อพบตัวเลขหารตัวแปร ให้นำตัวเลขนั้นมาคูณทั้งสองข้างของสมการ ตัวอย่าง: x/5 = 25 → x = 25 × 5
  4. How.com.vn ไท: Step 4 หารากของเลขยกกำลังเพื่อทำให้เลขชี้กำลังหายไป (และยกกำลังเพื่อให้เครื่องหมายกรณฑ์หายไป)....
    หารากของเลขยกกำลังเพื่อทำให้เลขชี้กำลังหายไป (และยกกำลังเพื่อให้เครื่องหมายกรณฑ์หายไป). เลขยกกำลังเป็นหัวข้อก่อนเรื่องพีชคณิตที่ยากพอสมควร ถ้าไม่รู้วิธีหารากหรือยกกำลังตัวเลข ให้อ่านบทความเกี่ยวกับเลขยกกำลังพื้นฐานเพิ่มเติม "ด้านตรงกันข้าม"ของเลขชี้กำลังคือรากที่มีดัชนีเป็นเลขตัวเดียวกับเลขชี้กำลัง ตัวอย่างเช่น ด้านตรงข้ามของเลขชี้กำลัง 2 คือรากที่สอง (√) ด้านตรงข้ามของเลขชี้กำลัง 3 คือรากที่สาม (3√) เป็นต้น[4]
    • ถึงแม้อาจยุ่งยากซับซ้อน แต่ในกรณีนี้เราจะหารากทั้งสองข้างของสมการ หากตัวแปรมีเลขชี้กำลัง ในทางกลับกันเราต้องยกกำลังทั้งสองข้างของสมการ เมื่อตัวแปรอยู่ในเครื่องหมายกรณฑ์ ดูตัวอย่างที่ข้างล่างนี้
      เมื่อพบตัวแปรมีเลขชี้กำลัง ให้หารากทั้งสองข้างของสมการ ตัวอย่าง: x2 = 49 → x = √49
      เมื่อตัวแปรอยู่ในเครื่องหมายกรณฑ์ ให้ยกกำลังทั้งสองข้างของสมการ ตัวอย่าง: √x = 12 → x = 122
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 5:

พัฒนาทักษะทางพีชคณิต

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ใช้รูปภาพช่วยในการทำความเข้าใจโจทย์ปัญหา.
    ถ้าเราไม่เข้าใจโจทย์พีชคณิต ลองใช้แผนภาพหรือรูปภาพช่วยในการทำความเข้าใจโจทย์ปัญหา เราสามารถใช้วัตถุที่จับต้องได้ (อย่างเช่น บล็อกตัวต่อ หรือเหรียญ) แทนก็ได้ถ้ามีอยู่ใกล้ตัว[5]
    • ในตัวอย่างด้านล่างนี้เราจะแก้สมการ x + 2 = 3 ด้วยการใช้รูปกล่อง (☐)
      x +2 = 3
      ☒+☐☐ =☐☐☐
      พอมาถึงขั้นตอนการนำ 2 มาลบออกจากทั้งสองข้างของสมการ เราจะนำกล่องออกจากสมการข้างละ 2 กล่อง (☐☐)
      ☒+☐☐-☐☐ =☐☐☐-☐☐
      ☒=☐ หรือ x = 1
    • ในตัวอย่างนี้เราจะแก้สมการ 2x = 4
      ☒☒ =☐☐☐☐
      พอมาถึงขั้นตอนการนำสองมาหารทั้งสองข้างของสมการ เราจะแบ่งกล่องแต่ละข้างของสมการออกเป็นสองกลุ่ม
      ☒|☒ =☐☐|☐☐
      ☒ = ☐☐ หรือ x = 2
  2. Step 2 ตรวจสอบ "ความสมเหตุสมผล" (โดยเฉพาะโจทย์ที่คลุมเครือไม่ชัดเจน)....
    ตรวจสอบ "ความสมเหตุสมผล" (โดยเฉพาะโจทย์ที่คลุมเครือไม่ชัดเจน). เมื่อแปลงโจทย์ที่คลุมเครือไม่ชัดเจนให้เป็นสมการพีชคณิต ให้ตรวจสอบสูตรด้วยการแทนค่าของตัวแปรลงไปในนั้น สมการของเราสมเหตุสมผลไหมเมื่อ x=0, 1, -1 เป็นต้น เราอาจทำอะไรผิดพลาดง่ายๆ เช่น เขียน p=6d ลงในกระดาษทั้งที่ตั้งใจจะเขียนว่า p=d/6 แต่ความผิดพลาดเหล่านี้สามารถสังเกตเห็นได้ง่าย ถ้าตรวจสอบความถูกต้องอย่างคร่าวๆ ก่อนทำขั้นตอนต่อไป
    • ตัวอย่างเช่น สนามฟุตบอลมีด้านยาวยาวกว่าด้านกว้าง 30 หลา (27.4 เมตร) เมื่อแปลงโจทย์เป็นสมการ ก็จะได้เป็น l = w + 30 เราสามารถทดสอบว่าสมการนี้สมเหตุสมผลหรือไม่ด้วยการใส่ตัวเลขง่ายๆ แทน w ตัวอย่างเช่น ถ้าสนามมีความกว้างหรือ w เท่ากับ 10 หลา (9.1 เมตร) เมื่อหาความยาวของสนาม ก็จะได้เป็น 10 + 30 = 40 หลา ถ้าสนามมีความกว้าง 30 หลา (27.4 เมตร) เมื่อหาความยาวของสนาม ก็จะได้เป็น 30 + 30 = 60 หลา (54.9 เมตร) เป็นต้น สมการนี้สมเหตุสมผล เพราะเมื่อสนามมีความยาวมากขึ้น สนามก็จะมีความกว้างมากขึ้น ฉะนั้นสมการนี้สมเหตุสมผล
  3. How.com.vn ไท: Step 3 อย่าลืมว่าคำตอบของสมการพีชคณิตไม่จำเป็นต้องเป็นจำนวนเต็มเสมอไป....
    อย่าลืมว่าคำตอบของสมการพีชคณิตไม่จำเป็นต้องเป็นจำนวนเต็มเสมอไป. คำตอบของสมการพีชคณิตและคณิตศาสตร์ระดับสูงไม่จำเป็นต้องเป็นจำนวนเต็มเสมอไป มีอยู่บ่อยครั้งที่คำตอบเป็นทศนิยม เศษส่วน หรือจำนวนอตรรกยะ เราสามารถใช้เครื่องคิดเลขคำนวณหาคำตอบแบบนี้ได้ แต่อย่าลืมว่าคุณครูอาจอยากให้เราตอบในรูปแบบที่เที่ยงตรงแม่นยำ ไม่ใช่ตอบเป็นเลขทศนิยมหลายตัว
    • ตัวอย่างเช่น เราต้องการจำกัดคำตอบของสมการเป็น x = 12507 เพราะถ้าเราพิมพ์ 12507 ลงในเครื่องคิดเลข เราจะได้เลขทศนิยมเรียงกันยาวมาก (ยิ่งไปกว่านั้นถึงแม้หน้าจอเครื่องคิดเลขจะใหญ่มากก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถแสดงคำตอบที่เป็นเลขทศนิยมได้ทั้งหมด) ในกรณีนี้เราอาจต้องตอบแบบเดิมไปคือ 12507 หรือทำให้อยู่ในรูปอย่างง่ายด้วยการเขียนในรูปแบบสัญกรณ์วิทยาศาสตร์
  4. How.com.vn ไท: Step 4 พยายามเพิ่มทักษะทางพีชคณิต.
    เมื่อเราคล่องทักษะพีชคณิตพื้นฐานแล้ว ให้ลองฝึกแยกตัวประกอบ ทักษะทางพีชคณิตที่ยากที่สุดทักษะหนึ่งคือการแยกตัวประกอบ การแยกตัวประกอบเป็นวิธีลัดที่ทำให้สมการซึ่งมีความซับซ้อนอยู่ในรูปอย่างง่าย การแยกตัวประกอบเป็นหัวข้อทางพีชคณิตกึ่งระดับสูง ฉะนั้นอ่านบทความที่ให้ลิงก์ไว้ด้านบน หากเรายังไม่เชี่ยวชาญในการแยกตัวประกอบ ข้างล่างนี้คือเคล็ดลับในการแยกตัวประกอบสมการแบบเร็วไว
    • สมการที่มีรูปแบบ ax + ba แยกตัวประกอบได้เป็น a(x + b) ตัวอย่าง: 2x + 4 = 2(x + 2)
    • สมการที่มีรูปแบบเป็น ax2 + bx แยกตัวประกอบได้เป็น cx((a/c)x + (b/c)) โดย c เป็นตัวเลขที่มากที่สุดซึ่งหาร a และ b ได้ลงตัว ตัวอย่าง: 3y2 + 12y = 3y(y + 4)
    • สมการที่มีรูปแบบ x2 + bx + c แยกตัวประกอบได้เป็น (x + y)(x + z) โดย y × z = c และ yx + zx = bx ตัวอย่าง: x2 + 4x + 3 = (x + 3)(x + 1)
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ฝึกแก้โจทย์พีชคณิตไปเรื่อยๆ.
    ถ้าอยากเก่งพีชคณิต (และคณิตศาสตร์ด้านอื่นๆ) ก็ต้องฝึกฝนอย่างหนักและบ่อยๆ เราสามารถฝึกทักษะทางพีชคณิตได้ด้วยการตั้งใจเรียนในห้อง ทำการบ้านส่งให้ครบ และถามคุณครูหรือเพื่อน เมื่อมีอะไรสงสัยหรือไม่เข้าใจ หากฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ เราก็จะเริ่มเชี่ยวชาญในการแก้โจทย์พีชคณิต
  6. How.com.vn ไท: Step 6 ขอให้คุณครูช่วยอธิบายเนื้อหาที่ตนเองไม่เข้าใจ....
    ขอให้คุณครูช่วยอธิบายเนื้อหาที่ตนเองไม่เข้าใจ. ถ้าเราเรียนพีชคณิตแล้วไม่เข้าใจ อย่าปล่อยให้ตัวเองไม่เข้าใจอยู่อย่างนั้น คุณครูเป็นบุคคลแรกที่เราควรหันไปถาม หลังจากจบชั่วโมงเรียนแล้วถ้าไม่เข้าใจตรงไหน ขอให้คุณครูช่วยอธิบายให้เราฟัง คุณครูที่ดีย่อมอยากจะอธิบายเนื้อหาที่เรียนในวันนั้นอีกครั้งหลังจากจบชั่วโมงเรียนและอาจให้แบบฝึกหัดกลับไปทำเพิ่มเติมด้วยซ้ำ
    • ถ้าคุณครูติดภารกิจอื่น อาจไม่สามารถช่วยเราได้ ลองขอคุณครูช่วยติวให้เราที่โรงเรียนแทน หลายโรงเรียนจะมีหลักสูตรหลังเลิกเรียนที่ช่วยให้เรามีเวลาศึกษา ทำความเข้าใจพีชคณิตเพิ่มเติม และฝึกจนกระทั่งเริ่มเก่งพีชคณิต จำไว้ว่าการเลือกเรียนเพิ่มเติมโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายไม่ใช่เรื่องน่าอาย เพราะนี้เป็นการแสดงให้เห็นว่าเรารู้จักแก้ปัญหาของตนเอง!
    โฆษณา
ส่วน 5
ส่วน 5 ของ 5:

ศึกษาหัวข้อทางพีชคณิตในระดับที่สูงขึ้น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เรียนรู้วืธีวาดกราฟของสมการ x/y.
    กราฟเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มากในเรื่องพีชคณิต เพราะแสดงตัวเลขของเราในรูปแบบภาพที่เข้าใจง่าย[6] โดยปกติในพีชคณิตเบื้องต้นโจทย์ที่เป็นกราฟจะเป็นสมการที่มีสองตัวแปร (โดยปกติจะเป็น x และ y) และกราฟที่เขียนเสร็จแล้วจะเป็นกราฟรูปแบบ 2D ง่ายๆ ที่มีแกน x และแกน y เมื่อพบสมการสองตัวแปร สิ่งที่เราต้องทำคือใส่ค่า x จากนั้นหาค่า y (หรือทำกลับกัน) เพื่อให้ได้ตัวเลขสองจำนวนที่ตรงกับจุดบนกราฟ
    • ตัวอย่างเช่น ในสมการ y = 3x ถ้าเรานำ 2 มาแทน x เราจะได้ y = 6 แสดงว่าจุด (2,6) (ห่างจากจุดศูนย์กลางไปทางขวาสองช่องและอยู่เหนือจุดศูนย์กลางหกช่อง) เป็นส่วนหนึ่งของกราฟสมการนี้
    • สมการที่มีรูปแบบ y = mx + b (โดย m และ b คือตัวเลข) พบมากโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในพีชคณิตพื้นฐาน สมการเหล่านี้มักจะมีความชัน m และตัดแกน y ที่ y = b
  2. How.com.vn ไท: Step 2 เรียนรู้วิธีแก้อสมการ.
    เราจะทำอย่างไรเมื่อเจอสมการที่ไม่ใช้เครื่องหมายเท่ากับ ความจริงแล้วก็ไม่ได้ทำอะไรต่างจากปกติมากนัก ถ้าเราเจออสมการที่ใช้เครื่องหมายอย่าง > ("มากกว่า") และ < ("น้อยกว่า") ให้แก้ตามปกติ คำตอบของเราจะมีค่าน้อยกว่าหรือมากกว่าตัวแปร
    • ตัวอย่างเช่น เราจะแก้อสมการ 3 > 5x – 2 เหมือนอย่างที่เราแก้สมการตามปกติดังนี้:
      3 > 5x - 2
      5 > 5x
      1 > x หรือ x < 1
    • คำตอบที่ได้นี้หมายความว่าทุกจำนวนที่น้อยกว่าหนึ่ง คือ x กล่าวให้ชัดเจนคือ x อาจเป็น 0, -1, -2,...เป็นต้น ถ้าเราใส่จำนวนเหล่านี้ลงไปในสมการแทน x เราจะได้คำตอบน้อยกว่า 3 เสมอ
  3. How.com.vn ไท: Step 3 เรียนรู้วิธีแก้สมการกำลังสอง....
    เรียนรู้วิธีแก้สมการกำลังสอง. หัวข้อทางพีชคณิตหัวข้อหนึ่งที่ผู้เริ่มต้นเรียนหลายคนมีปัญหาคือการแก้สมการกำลังสอง สมการกำลังสองมีรูปแบบสมการเป็น ax2 + bx + c = 0 โดย a, b และ c คือตัวเลข (ยกเว้น a ไม่สามารถเป็น 0 ได้) เราสามารถแก้สมการเหล่านี้ได้โดยใช้สูตร x = [-b +/- √(b2 - 4ac)]/2a สัญลักษณ์ +/- หมายความว่าเราต้องหาคำตอบที่เป็นบวกและ ลบ ฉะนั้นเราจะได้คำตอบของสมการแบบนี้สองคำตอบ
    • เราจะมาแก้สมการกำลังสองโดยใช้สูตร สมการของเราคือ 3x2 + 2x -1 = 0
      x = [-b +/- √(b2 - 4ac)]/2a
      x = [-2 +/- √(22 - 4(3)(-1))]/2(3)
      x = [-2 +/- √(4 - (-12))]/6
      x = [-2 +/- √(16)]/6
      x = [-2 +/- 4]/6
      x = -1 และ 1/3
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ตรวจคำตอบของระบบสมการ.
    การแก้สมการเกินหนึ่งสมการขึ้นไปพร้อมกันอาจดูเหมือนยากมาก แต่ถ้าสมการเหล่านั้นเป็นสมการพีชคณิตง่ายๆ การแก้สมการเกินหนึ่งสมการไม่ยากเลย โดยปกติคุณครูคณิตศาสตร์ใช้วิธีเขียนกราฟเพื่อแก้สมการเหล่านี้ เมื่อเราต้องพบระบบสมการสองสมการ คำตอบของสมการคือจุดบนกราฟที่เส้นของสมการทั้งสองตัดกัน
    • ตัวอย่างเช่น ระบบสมการของเราประกอบด้วย y = 3x - 2 และ y = -x – 6 ถ้าเราวาดเส้นสมการทั้งสองบนกราฟ เราจะได้เส้นตรงเส้นหนึ่งที่เอียงพอสมควรไปข้างบนและเส้นตรงอีกเส้นหนึ่งที่เอียงมากไปข้างล่าง เนื่องจากเส้นตรงสองเส้นนี้ตัดกันที่จุด (-1,-5) นี้คือคำตอบของระบบสมการนี้[7]
    • ถ้าเราต้องการตรวจคำตอบ ให้ใส่คำตอบที่ได้ลงไปในสมการ คำตอบที่ถูกต้องควรจะ "นำมาใช้ได้ผล" ทั้งสองสมการ
      y = 3x - 2
      -5 = 3(-1) - 2
      -5 = -3 - 2
      -5 = -5
      y = -x - 6
      -5 = -(-1) - 6
      -5 = 1 - 6
      -5 = -5
    • ทั้งสองสมการ "ได้รับการตรวจสอบ" แล้ว ฉะนั้นคำตอบของเราถูกต้อง!
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • อินเทอร์เน็ตมีแหล่งเรียนรู้พีชคณิตมากมาย แค่ใส่คำว่า“พีชคณิต”ลงในโปรแกรมค้นหา ก็จะมีเว็บไซต์มากมายที่มีหัวข้อพีชคณิตปรากฏขึ้นมา เราอาจลองค้นดูหมวดหมู่บทความคณิตศาสตร์ของวิกิฮาวก็ได้ มีข้อมูลมากมายให้ได้ลองสืบค้นดู ฉะนั้นลองสืบค้นกันดูนะ!
  • เราสามารถเรียนรู้พีชคณิตทางอินเทอร์เน็ตได้ มีเว็บไซต์สอนคณิตศาสตร์ทางอินเทอร์เน็ตแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย มีบทเรียนมากมายรวมทั้งพีชคณิตให้เราได้เรียนรู้แบบเข้าใจง่าย ยูทูบมีวีดีโอสอนคณิตศาสตร์ตั้งแต่ระดับพื้นฐานที่สุดไปจนถึงระดับสูงเทียบเท่ามหาวิทยาลัย ฉะนั้นให้ลองสืบค้นในยูทูบและหาเว็บไซต์สอนคณิตศาสตร์ทางอินเทอร์เน็ตดู ใช้ทรัพยากรที่เว็บไซต์มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด!
  • อย่าลืมว่าแหล่งการเรียนรู้พีชคณิตที่ดีที่สุดอาจเป็นเพื่อนที่เก่งคณิตศาสตร์ก็ได้ ถ้ามีส่วนไหนของเนื้อหาที่ไม่เข้าใจ ลองถามเพื่อนที่เก่งคณิตศาสตร์ดู เขาจะได้ช่วยอธิบายให้เราเข้าใจมากขึ้นได้
  • ลำดับการดำเนินการคณิตศาสตร์มีชื่อย่ออีกชื่อว่า BODMAS โดย B ย่อมาจาก Bracket (วงเล็บ) O ย่อมาจาก Order (ลำดับ) D ย่อมาจาก Division (หาร) M ย่อมาจาก Multiplication (คูณ) A ย่อมาจาก Addition (บวก) และ S ย่อมาจาก Subtraction (ลบ)
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Daron Cam
ร่วมเขียน โดย:
ติวเตอร์
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Daron Cam. ดารอน แคมเป็นติวเตอร์และเป็นผู้ก่อตั้ง Bay Area Tutors, Inc. ในซานฟรานซิสโกที่สอนทั้งคณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์ และวิชาอื่นๆ ดารอนมีประสบการณ์การสอนคณิตศาสตร์กว่าแปดปีและเป็นครูสอนพิเศษมาเก้าปี เขาสอนคณิตศาสตร์ทุกระดับ รวมถึงเรขาคณิต แคลคูลัส และการติวสอบ SAT/ACT เขาจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียแห่งเบิร์กเลย์ บทความนี้ถูกเข้าชม 10,639 ครั้ง
หมวดหมู่: คณิตศาสตร์
มีการเข้าถึงหน้านี้ 10,639 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา