วิธีการ เพิ่มความเร็วในการประมวลผลของสมอง

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

เมื่อพูดถึงสมองของมนุษย์แล้ว คอมพิวเตอร์นั้นคล้ายคลึงกับสมองของคนเรามากที่สุด แต่การทำให้สมองของตนเองประมวลผลได้เร็วขึ้นนั้นไม่ง่ายเหมือนการใส่แรมให้กับคอมพิวเตอร์ เมื่อแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ด้านประสาทวิทยาพูดถึงความเร็วในการประมวลผลของสมอง แสดงว่าหมายถึงอัตราเร็วที่มนุษย์สามารถทำความเข้าใจข้อมูลชิ้นใหม่ ตัดสินใจเกี่ยวกับข้อมูลชิ้นนั้น และกำหนดการตอบสนอง[1] เมื่อพิจารณาคำจำกัดความนี้แล้ว วิธีที่ทำให้สมองของตนเองประมวลผลได้เร็วขึ้นก็คือทำให้การเชื่อมโยงกันในสมองแข็งแรงขึ้นเพื่อให้สมองส่งสัญญาณเดินทางไปได้เร็วขึ้น ถึงแม้โดยส่วนใหญ่การเชื่อมโยงที่แข็งแรงแบบนี้ของสมองจะเกิดขึ้นในช่วงวัยเด็กก็ตาม แต่เรายังคงสามารถรักษาความเร็วในการประมวลผลของสมองได้อยู่และอาจแม้แต่ทำให้การประมวลผลของสมองเร็วขึ้นได้ด้วยซ้ำ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

ปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิตเพื่อสุขภาพที่ดีของสมอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ออกกำลังกายแบบแอโรบิกมากๆ.
    ความเร็วในการประมวลของสมองขึ้นอยู่กับความเร็วในการเดินทางข้ามแอกซอนของสัญญาณไฟฟ้า โดยพื้นฐานแล้วแอกซอนเป็นสายที่เชื่อมโยงส่วนต่างๆ ของสมอง[2]สมองเนื้อขาวประกอบด้วยสายทั้งหมดเหล่านี้และได้รับอาหารจากทางหลอดเลือด ถ้าหลอดเลือดของเรามีปัญหาอันเกิดจากการเป็นโรคอย่างเช่น โรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ก็จะทำให้แอกซอนขาดออกซิเจนและกลูโคสซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก[3] ฉะนั้นการรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอและการออกกำลังกายแบบแอโรบิกมากๆ เป็นคำแนะนำอับดับแรกจากนักประสาทวิทยาส่วนใหญ่ เพราะจะทำให้เราสามารถรักษาแอกซอนและอาจแม้แต่เพิ่มความเร็วในการประมวลผลของสมองได้ด้วยซ้ำ[4][5]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 กินอาหารที่ช่วยบำรุงสมอง.
    สุขภาพร่างกายสัมพันธ์กับสุขภาพของสมอง เราควรกินอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนได้สัดส่วนควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย นอกจากนี้เราอาจเน้นกินอาหารที่มีส่วนช่วยบำรุงสมองด้วยอย่างเช่น[7]
    • อาโวคาโด อาโวคาโดเป็นผลไม้ที่ช่วยป้องกันไม่ให้หลอดเลือดเกิดภาวะต่างๆ เช่น ความดันโลหิตสูง เลือดจึงไหลเวียนดี สมองจึงมีสุขภาพดี แต่อาโวคาโดมีไขมันสูง ฉะนั้นจำกัดการรับประทานให้เหลือแค่วันละเสี้ยวหรือครึ่งลูก
    • บลูเบอร์รี บลูเบอร์รีอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ จึงสามารถป้องกันไม่ให้สมองเกิดภาวะออกซิเดทีฟสเตรส (oxidative stress) และลดผลกระทบจากโรคที่มักจะเกิดขึ้นตอนมีอายุมาก รับประทานบลูเบอร์รีวันละหนึ่งถ้วย อาหารอื่นๆ ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระได้แก่ น้ำทับทิมและช็อกโกแลตดำ[8]
    • แซลมอนจากธรรมชาติ เพราะมีโอเมกา 3 อย่างเช่น ดีเอชเอ กรดไขมันที่จำเป็นต่อการทำงานของสมอง ปลาน้ำลึกอย่างเช่น ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน และปลาเฮร์ริงอุดมไปด้วยโอเมกา 3 รับประทานปลาพวกนี้ครั้งละประมาณ 113 กรัมโดยรับประทานสัปดาห์ละสองถึงสามครั้ง[9]
    • ถั่วและเมล็ดพืช อาหารจำพวกถั่วโดยเฉพาะอย่างยิ่งวอลนัตและเมล็ดพืชนั้นอุดมไปด้วยวิตามินอี ซึ่งเป็นวิตามินที่ช่วยต่อสู้ภาวะการรู้คิดเสื่อมถอย (cognitive decline) เมื่ออายุมากขึ้น พยายามรับประทานถั่วและเมล็ดพืชวันละประมาณ 28 กรัม[10]
    • บีตรูต บีตรูตช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปยังสมอง จึงสามารถช่วยให้การรู้คิดของเราดีขึ้น เราอาจเลือกรับประทานสลัดผักที่มีบีตรูต หรือดื่มน้ำบีตรูตก็ได้[11]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอในแต่ละคืน.
    สถาบันสุขภาพแห่งชาติ (สหรัฐอเมริกา) แนะนำว่าผู้ใหญ่ควรนอนหลับวันละประมาณเจ็ดถึงแปดชั่วโมงและวัยรุ่นควรนอนหลับวันละเก้าชั่วโมง[12]สมองจะสร้างวิถีประสาทใหม่ๆ ขณะนอนหลับและผลการศึกษาได้แสดงให้เห็นว่าการนอนหลับในจำนวนชั่วโมงที่เหมาะสมจะช่วยให้การเรียนรู้ ทักษะการแก้ปัญหา และความจำดีขึ้น[13] การนอนหลับยังมีส่วนช่วยซ่อมแซมหัวใจและหลอดเลือดของร่างกายซึ่งบำรุงเลี้ยงสมองเนื้อขาวด้วย[14]
    • การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอหรือแม้แต่การนอนขาดไปเพียงแค่ 1-2 ชั่วโมงหลายคืนอาจมีผลต่อความเร็วในการตอบสนองและการประมวลผลได้ มีผลการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่าคนที่นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอจะใช้เวลาทำภารกิจต่างๆ นานขึ้น[15]
    • การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอเป็นประจำยังมีส่วนทำให้เกิดปัญหาหลอดเลือดอย่างเช่น เบาหวาน โรคหัวใจ และความดันโลหิตสูง โรคเหล่านี้อาจทำให้แอกซอนในสมองขาดออกซิเจนและกลูโคสได้[16][17]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 กินอาหารเสริมบำรุงสมอง.
    อาหารเสริมบำรุงสมองสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยา ผลิตขึ้นมาเพื่อช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้น "ยาบำรุงสมอง" เหล่านี้ช่วยทำให้เรามีสมาธิเพิ่มขึ้น มีจิตใจที่จดจ่อมากขึ้น มีความจำดี และมีแรงจูงใจมากขึ้น อาหารเสริมบำรุงสมองที่ได้รับความนิยมได้แก่[18]
    • สารสกัดจากพรมมิ
    • แอล-ธีอะนีน (L-theanine)
    • ยาบำรุงสมองหมวดเรสแตมส์ (Racetams)
    • สารสกัดจากอาร์ทิโชก (Artichoke)
    • โสม
  5. How.com.vn ไท: Step 5 หมั่นเรียนรู้อยู่เสมอ.
    เมื่ออยู่ในช่วงวัยผู้ใหญ่ สมองก็ยังคงสร้างการเชื่อมโยงใหม่ๆ ต่อไป การเรียนรู้งานต่างๆ จะสร้างการเชื่อมโยงใหม่ๆ และการทำงานเหล่านั้นจนเชี่ยวชาญจะช่วยให้การเชื่อมโยงเหล่านั้นแข็งแรงขึ้น ทำให้ข้อมูลเดินทางข้ามแอกซอนเร็วขึ้น[19] ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเราเรียนรู้ เซลล์สมองชนิดหนึ่งซึ่งชื่อว่าเซลล์เกลียจะสามารถสร้างปลอกจากโปรตีนและไขมัน (ชื่อว่าปลอกไมอีลิน) รอบแอกซอนเพื่อห่อหุ้มแอกซอนและหลังจากนั้นก็จะทำให้สัญญาณไฟฟ้าเดินทางข้ามแอกซอนเร็วขึ้น[20]
    • การเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ สามารถทั้งเพิ่มและสร้างปลอกไมอีลินรอบๆ แอกซอกที่แต่ก่อนไม่มีปลอกห่อหุ้มได้[21]
    • ปลอกไมอีลินที่หนาทำให้เราสามารถทำภารกิจที่ต้องใช้สมองตั้งแต่การอ่านหนังสือ การจดจำ ไปจนถึงการตัดสินใจได้ดีขึ้น[22]
  6. How.com.vn ไท: Step 6 เริ่มฝึกเล่นดนตรี.
    มีผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าการเริ่มฝึกเล่นดนตรีเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้การเชื่อมโยงทั่วบริเวณต่างๆ ของสมองแข็งแรงขึ้น ที่เป็นเช่นนี้เพราะการฝึกเล่นดนตรีทำให้เราต้องใช้อวัยวะหลายๆ ส่วนพร้อมๆ กัน เราต้องใช้สายตาอ่านตัวโน้ต ต้องใช้หูฟังเสียงดนตรีที่ตนเองเล่น และต้องใช้นิ้วในการเล่นดนตรี การเชื่อมโยงกันระหว่างบริเวณเหล่านี้ของสมองจะเริ่มแข็งแรงขึ้นและเชื่อมโยงกันแน่นมากขึ้น[23]
    • กลุ่มคนที่ได้รับประโยชน์จากการเล่นดนตรีมากที่สุดคือเด็กที่เริ่มเล่นดนตรีก่อนอายุเจ็ดขวบ แต่ถึงแม้ฝึกเล่นดนตรีในวัยผู้ใหญ่ การเล่นดนตรีก็มีผลต่อกระบวนการทางความคิดในสมองส่วนหน้า (executive functions) ซึ่งเป็นกระบวนการทางความคิดระดับสูงที่ช่วยให้ผู้คนประมวลผลและเก็บข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว[24]
  7. How.com.vn ไท: Step 7 หมั่นติดต่อพูดคุยกับผู้อื่น.
    การหมั่นติดต่อพูดคุยกับผู้อื่นนั้นเป็นผลดีต่อความสามารถในการรู้คิดมากทีเดียว เราไม่จำเป็นต้องพูดคุยกับผู้อื่นทางสังคมออนไลน์แต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น[25] การพูดคุยโต้ตอบกันไปมาทำให้เราต้องคิดให้เร็ว การหมั่นติดต่อพูดคุยกับผู้อื่นอยู่เสมอเป็นการท้าทายสมองและทำให้เราต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา
  8. How.com.vn ไท: Step 8 เลิกสูบบุหรี่.
    ถ้าเราเป็นคนไม่สูบบุหรี่อยู่แล้ว ก็อย่าคิดลองเลย แต่ถ้าเราเป็นคนที่สูบบุหรี่ ขอแนะนำให้เลิกเสียเถอะ เพราะนอกจากการสูบบุหรี่จะทำให้เราเสี่ยงเป็นมะเร็งและถุงลมโป่งพองแล้ว ผลการศึกษายังแสดงให้เห็นว่าการสูบบุหรี่ทำให้ปริมาตรสมองทั้งหมดลดลงด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งฮิปโปแคมปัส[26]คนที่สูบบุหรี่สูญเสียปริมาตรสมองเร็วกว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่ การสูบบุหรี่จึงมีผลต่อความสามารถในการรู้คิด[27]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

ลองเล่นเกมฝึกสมอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ขยายขนาดของภาพนี้ด้วยการเปิดภาพในหน้าต่างใหม่....
    ขยายขนาดของภาพนี้ด้วยการเปิดภาพในหน้าต่างใหม่. ที่จริงวิทยาศาสตร์ยังไม่ได้ข้อสรุปเรื่องเกมฝึกสมอง เมื่อมีการทดลองทางวิทยาศาสตร์อย่างจริงจังเป็นระยะเวลาสั้นๆ พบว่าเกมฝึกสมองบางครั้งก็มีผลต่อความสามารถในการรู้คิดและบางครั้งก็ไม่มีผลต่อความสามารถนี้[28]เกมฝึกสมองเป็นที่นิยมเล่นมาไม่นานนัก จึงอาจไม่สามารถใช้วิธีศึกษาแบบระยะยาวเพื่อให้รู้ผลที่แน่ชัดได้ ถึงแม้ไม่มีข้อสรุปที่แน่นอน แต่คนจำนวนมากก็รู้สึกราวกับว่าเกมฝึกสมองช่วยเรื่องการรู้คิด ภาพด้านบนนี้คือตัวอย่างของเกมฝึกสมองซึ่งกำลังเป็นที่นิยมมากเกมหนึ่ง เราจะลองมาเล่นเกมฝึกสมองเกมนี้กัน ก่อนอื่นขยายรูปภาพให้ใหญ่ขึ้นเพื่อเราจะได้มองเห็นอย่างชัดเจน
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ดูและบอกทิศทางของสายตาตัวการ์ตูนในแต่ละภาพ....
    ดูและบอกทิศทางของสายตาตัวการ์ตูนในแต่ละภาพ. ดูภาพจากซ้ายไปขวา โดยเริ่มจากแถวบนสุดไปแถวล่างสุด ขณะไล่ดูภาพแต่ละภาพ ก็บอกทิศทางของสายตาตัวการ์ตูนในแต่ละภาพด้วย เช่น “ล่าง ซ้าย บน ขวา...” จับเวลาที่ตนเองดูภาพและบอกทิศทางของสายตาตัวการ์ตูนไปด้วย ลองมองและบอกทิศทางของสายตาตัวการ์ตูนในแต่ละภาพจนครบภายในสามสิบวินาทีโดยไม่ผิดพลาด จากนั้นลดเวลาลงเหลือสิบห้าวินาที
  3. How.com.vn ไท: Step 3 บอกทิศทางโดยดูจากมุมมองของใบหน้าตัวการ์ตูน....
    บอกทิศทางโดยดูจากมุมมองของใบหน้าตัวการ์ตูน. พอเราสามารถบอกทิศทางของสายตาตัวการ์ตูนในแต่ละภาพได้เร็วแล้ว คราวนี้ลองบอกทิศทางโดยดูจากมุมมองของใบหน้าตัวการ์ตูนบ้าง ทำราวกับว่าเราคือใบหน้าที่มองออกมาจากหน้าจอนั้น เช่น “ล่าง ขวา บน ซ้าย” การบอกทิศทางโดยดูจากมุมมองของใบหน้าจะยากกว่า เพราะต้องมีขั้นตอนการประมวลผลเพิ่มขึ้นอีกขั้นตอนหนึ่งเพื่อให้สามารถบอกมุมมองของใบหน้าได้ถูกต้อง
    • จับเวลาและบอกทิศทางของแต่ละใบหน้าให้ครบโดยไม่ผิดพลาดภายในระยะเวลาที่กำหนดคือสามสิบวินาทีและสิบห้าวินาที เหมือนแบบทดสอบแรก
  4. How.com.vn ไท: Step 4 บอกทิศทางของสายตาตัวการ์ตูนอีกครั้งพร้อมชี้นิ้วในทิศทางตรงกันข้าม....
    บอกทิศทางของสายตาตัวการ์ตูนอีกครั้งพร้อมชี้นิ้วในทิศทางตรงกันข้าม. เราจะบอกทิศทางของสายตาตัวการ์ตูนในแต่ละภาพอีกครั้ง แต่คราวนี้เราต้องชี้นิ้วไปในทิศทางที่ตรงกันข้ามกับที่ตนเองบอก เช่น ล่าง (ชี้ขึ้น) ซ้าย (ชี้ขวา) บน (ชี้ลง) เราจะเห็นว่าการเล่นยากขึ้นกว่าก่อนหน้านี้เพราะเราได้เพิ่มการเคลื่อนไหวพร้อมกับการพูดไปด้วย
    • การเล่นเกมฝึกสมองแบบนี้คล้ายกับการฝึกเล่นดนตรี เพราะต้องใช้อวัยวะหลายๆ ส่วนพร้อมๆ กัน ต้องใช้สายตามองภาพเพื่อตีความข้อมูลรูปภาพ ใช้ปากพูดเพื่อบอกทิศทางของสายตาตัวการ์ตูนแต่ละภาพ และขยับนิ้วเพื่อให้ชี้ในทิศทางที่ตรงข้ามกับที่ตนเองบอก
    • เราสามารถปรับระดับความยากในการเล่นเกมฝึกสมองให้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ได้ ตัวอย่างเช่น บอกทิศทางโดยดูจากมุมมองของใบหน้าเพียงแค่ตอนที่มาถึงใบหน้าสีเขียวหรือทุกๆ สามหน้า การเพิ่มเติมกฎต่างๆ ในการเล่นเกมฝึกสมองจะทำให้เราพึ่งพาการจำลำดับภาพน้อยลง จึงลดเวลาและความผิดพลาดลง
  5. How.com.vn ไท: Step 5 หาเกมฝึกสมองเล่นเพิ่มเติม.
    เกมที่บทความนี้นำเสนอเป็นแค่ตัวอย่างเกมฝึกสมองเกมหนึ่งเท่านั้น มีเว็บไซต์มากมายที่มีเกมฝึกสมองให้เราได้ลองเล่นเพื่อฝึกความเร็วในการตัดสินใจ การจำ และการประมวลผล เราสามารถหาเกมปริศนาคำและเกมปริศนาตรรกะทางอินเตอร์เน็ตมาเล่นเพื่อฝึกความสามารถในการรู้คิดได้
    • Luminosity, Brainist, Fit Brains และ Games for the Brain เป็นเว็บไซต์ที่มีเกมฝึกสมองให้เราลองเข้าไปเล่นได้ [29]
    • ถ้าต้องการเล่นเกมฝึกสมองที่นอกเหนือไปจากที่มีในอินเตอร์เน็ต เราสามารถหาและดาวน์โหลดแอปเกมฝึกสมองไว้เล่นบนมือถือได้ ถ้าเรามีเครื่องนินเทนโด DS ลองหาเกมฝึกสมองอย่างเช่น Brain Age มาลองเล่นดูก็ได้
    โฆษณา

คำเตือน

  • การตัดสินว่าเกมฝึกสมองนั้นมีประโยชน์จริงๆ หรือไม่และทำไมถึงเป็นเช่นนั้นยังคงต้องมีการศึกษาทางวิทยาศาสตร์เพิ่มเติมต่อไป
โฆษณา
  1. http://jn.nutrition.org/content/144/4/561S.long
  2. http://news.wfu.edu/2010/11/03/benefits-of-beet-juice/
  3. http://www.ninds.nih.gov/disorders/brain_basics/understanding_sleep.htm
  4. http://www.nhlbi.nih.gov/health/health-topics/topics/sdd/why
  5. http://www.nhlbi.nih.gov/health/health-topics/topics/sdd/why
  6. http://www.nhlbi.nih.gov/health/health-topics/topics/sdd/why
  7. http://www.nhlbi.nih.gov/health/health-topics/topics/sdd/why
  8. http://www.scientificamerican.com/article/what-causes-the-brain-to-have-slow-processing-speed-and-how-can-the-rate-be-improved/
  9. https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5021479/
  10. https://student.societyforscience.org/article/learning-rewires-brain
  11. https://student.societyforscience.org/article/learning-rewires-brain
  12. https://student.societyforscience.org/article/learning-rewires-brain
  13. https://student.societyforscience.org/article/learning-rewires-brain
  14. http://neuroblog.stanford.edu/?p=4409
  15. https://www.psychologytoday.com/blog/the-athletes-way/201406/does-playing-musical-instrument-make-you-smarter
  16. https://www.psychologytoday.com/blog/the-athletes-way/201401/what-is-the-best-way-improve-your-brain-power-life
  17. https://www.psychologytoday.com/blog/the-athletes-way/201401/what-is-the-best-way-improve-your-brain-power-life
  18. https://www.psychologytoday.com/blog/the-athletes-way/201401/what-is-the-best-way-improve-your-brain-power-life
  19. http://news.fsu.edu/news/health-medicine/2017/04/17/think-brain-games-make-smarter-think-fsu-researchers-say/
  20. http://discovermagazine.com/2009/the-brain/24-which-brain-games-will-help-you-the-most

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Michael Lewis, MD, MPH, MBA, FACPM, FACN
ร่วมเขียน โดย:
แพทย์ด้านสมองที่มีใบรับรอง
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Michael Lewis, MD, MPH, MBA, FACPM, FACN. ไมเคิล ดี. ลิวอิสเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการโภชนาการเสริมสุขภาพสมอง โดยเฉพาะการป้องกันและการฟื้นฟูอาารบาดเจ็บทางสมอง ในปี 2012 หลังเกษียณจากตำแหน่งนายพลในกองทัพสหรัฐมา 31 ปี เขาก่อตั้งสถาบันศึกษาและวิจัยสมองโดยไม่แสวงผลกำไร เขาเป็นผู้เขียนหนังสือ "When Brains Collide: What every athlete and parent should know about the prevention and treatment of concussions and head injuries" เขาจบจากสถาบันทหารสหรัฐที่เวสต์พอยต์และคณะแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยทูเลน เคยผ่านงานแพทย์ที่ศูนย์การแพทย์ทหารวอลเตอร์รีด และมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอบกินส์ ดร.ลิวอิสยังเป็นผู้ให้ทุนและคณะกรรมการของวิทยาลัยยาป้องกันกับการโภชนาการแห่งอเมริกา บทความนี้ถูกเข้าชม 4,938 ครั้ง
หมวดหมู่: สุขภาพ
มีการเข้าถึงหน้านี้ 4,938 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา