บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Jonas DeMuro, MD. ดร.เดอมูโรเป็นศัลยแพทย์ดูแลผู้ป่วยขั้นวิกฤติที่ได้รับใบรับรองในนิวยอร์ก เขาสำเร็จปริญญาโทแพทยศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสโตนีบรูคในปี 1996
มีการอ้างอิง 11 ข้อที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ
บทความนี้ถูกเข้าชม 7,394 ครั้ง
กิจกรรมง่ายๆ ในชีวิตประจำวันอาจกลับกลายเป็นเรื่องยากและน่าหงุดหงิดใจไปแทนได้ในช่วงที่คุณพักฟื้นร่างกายหลังการผ่าตัด ไม่เว้นแม้แต่การอาบน้ำที่คุณเคยทำได้ตามปกติ เนื่องจากแผลผ่าตัดโดยส่วนใหญ่จำเป็นต้องแห้งอยู่เสมอ คุณจึงควรอาบน้ำตามแนวทางการปฏิบัติตัวที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด โดยแพทย์ของคุณอาจแนะนำให้คุณงดอาบน้ำสักระยะหนึ่ง ปิดแผลผ่าตัดให้เรียบร้อย หรือทั้งสองอย่าง ความสามารถในการเคลื่อนไหวร่างกายที่จำกัดอาจทำให้การอาบน้ำตามปกติของคุณไม่สะดวกสบายเช่นเคย อีกทั้งการขยับตัวในพื้นที่อาบน้ำแคบๆ ยังอาจไม่ปลอดภัยเท่าไรนัก ซึ่งทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณเข้ารับการผ่าตัดชนิดใด พยายามทำตามขั้นตอนการอาบน้ำที่ปลอดภัยอยู่เสมอเพื่อช่วยให้คุณปลอดภัยทั้งจากการติดเชื้อและการได้รับบาดเจ็บ
ขั้นตอน
- อาบน้ำตามแนวทางการปฏิบัติตัวที่แพทย์แนะนำ. แพทย์ของคุณจะเป็นผู้ตรวจประเมินหลังการผ่าตัดและพิจารณาแนวทางการปฏิบัติตัวที่เหมาะสมในลำดับถัดไปในระยะพักฟื้นของคุณ
- แพทย์ของคุณจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับแนวการปฏิบัติตัวที่เหมาะสมในช่วง 2-3 วันแรกหลังการผ่าตัดซึ่งรวมถึงคำแนะนำในการกลับมาอาบน้ำตามปกติอีกครั้งอย่างปลอดภัย ซึ่งโดยหลักๆ แล้วแนวทางการปฏิบัติตัวจากแพทย์จะขึ้นอยู่กับชนิดของการผ่าตัดและลักษณะการเย็บปิดแผล
- คุณจะได้รับคำแนะนำในการอาบน้ำหลังการผ่าตัดก่อนออกจากโรงพยาบาล ซึ่งหากคุณเกิดหลงลืมข้อมูลบางส่วน คุณควรติดต่อแพทย์เพื่อขอรับคำแนะนำที่ถูกต้องอีกครั้งโดยทันทีเพื่อเป็นการป้องกันการติดเชื้อ หลีกเลี่ยงการได้รับบาดเจ็บ และช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว
- ทำความเข้าใจในลักษณะการเย็บปิดแผล. เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่แพทย์ใช้ในการเย็บปิดแผลของคุณเพื่อให้คุณสามารถป้องกันการบาดเจ็บและการติดเชื้อได้ดียิ่งขึ้น[1]
- วิธีการเย็บปิดแผลที่นิยมใช้โดยทั่วไปมีทั้งหมด 4 วิธี ได้แก่ การใช้ไหมเย็บแผล การใช้ลวดเย็บแผล การใช้แถบปิดแผลหรือที่เรียกว่าแผ่นเทปสเตอไรด์ และการใช้กาวติดเนื้อเยื่อ[2]
- ศัลยแพทย์โดยส่วนใหญ่จะใช้ผ้าปิดแผลกันน้ำปิดทับลงไปบนแผลผ่าตัดเพื่อให้คนไข้สามารถอาบน้ำได้ตามปกติหลังจากที่ร่างกายเริ่มฟื้นตัว[3]
- แผลผ่าตัดที่เย็บปิดด้วยกาวติดเนื้อเยื่อโดยส่วนใหญ่สามารถสัมผัสกับน้ำที่ไหลผ่านเบาๆ ได้ภายหลัง 24 ชั่วโมงหลังการผ่าตัด[4]
- ไหมที่ใช้สำหรับเย็บปิดแผลผ่าตัดมีทั้งชนิดที่ต้องตัดออกหลังจากที่เนื้อเยื่อสมานเป็นเนื้อเดียวกันและชนิดที่สามารถละลายและดูดซึมลงไปบนผิวหนังได้โดยไม่จำเป็นต้องตัดออกในภายหลัง[5]
- แผลผ่าตัดที่เย็บปิดด้วยไหมชนิดไม่ละลาย ลวดเย็บแผล หรือแถบปิดแผลอาจจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้สัมผัสถูกน้ำเป็นระยะเวลาที่นานกว่า ดังนั้นในช่วงที่แผลยังไม่สามารถโดนน้ำได้ ให้คุณใช้ฟองน้ำชุบน้ำเช็ดตัวให้สะอาดหรือปิดแผลไว้ด้วยผ้าปิดแผลในระหว่างอาบน้ำ[6]
- ทำความสะอาดบริเวณแผลผ่าตัดอย่างเบามือ. หากแผลผ่าตัดของคุณไม่จำเป็นต้องปิดด้วยผ้าปิดแผลปิดต่อแล้ว พยายามหลีกเลี่ยงการขัดถูที่บริเวณแผลผ่าตัดหรือใช้ผ้าขนหนูเช็ดอย่างรุนแรง[7]
- ทำความสะอาดบริเวณแผลผ่าตัดด้วยสบู่สูตรอ่อนโยนและน้ำเปล่า โดยระวังอย่าให้สบู่หรือผลิตภัณฑ์อาบน้ำอื่นๆ สัมผัสถูกแผลโดยตรงและเปิดน้ำเปล่าให้ไหลผ่านเพียงเบาๆ[8]
- ศัลยแพทย์โดยส่วนใหญ่จะแนะนำให้คนไข้ใช้สบู่และผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมตัวเดิมที่ใช้อยู่ตามปกติ
- ค่อยๆ ซับบริเวณแผลผ่าตัดให้แห้ง. หลังอาบน้ำเสร็จ ให้คุณดึงผ้าปิดแผลที่ใช้สำหรับปิดทับแผลผ่าตัดไว้ให้หลุดออก (เช่น ผ้าก๊อซหรือพลาสเตอร์ยา แต่ อย่า ดึงแถบปิดแผลที่ใช้เย็บแผลผ่าตัดออก) และตรวจสอบให้แน่ใจว่าบริเวณแผลผ่าตัดแห้งสนิทดี
- ทายาครีมหรือยาขี้ผึ้งที่แพทย์เป็นผู้สั่งจ่ายเท่านั้น. หลีกเลี่ยงการใช้ยาทาภายนอกทาที่บริเวณแผลผ่าตัดเว้นแต่ว่าศัลยแพทย์ของคุณจะเจาะจงสั่งใช้ยาดังกล่าว[11]
- ในขั้นตอนการเปลี่ยนผ้าปิดแผล แพทย์ของคุณอาจแนะนำให้ทายาครีมหรือยาขี้ผึ้งที่บริเวณแผลผ่าตัดก่อนใช้ผ้าปิดแผลปิดทับลงไป อย่างไรก็ตาม ให้คุณใช้ยาทาภายนอกเฉพาะในกรณีที่แพทย์เป็นผู้ออกคำสั่งใช้ยาเท่านั้น[12]
- ปิดแถบปิดแผลไว้ดังเดิมโดยไม่ต้องแกะออก. เมื่อพ้นระยะที่ต้องคอยระวังไม่ให้แผลผ่าตัดเปียกน้ำแล้ว แถบปิดแผลที่ยึดปากแผลไว้ก็สามารถโดนน้ำได้โดยไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตาม อย่าแกะแถบปิดแผลออกและรอจนกระทั่งแถบปิดแผลหลุดออกมาเอง[13]
- ค่อยๆ ซับบริเวณแผลผ่าตัดรวมถึงแถบปิดแผลที่ยังไม่หลุดออกให้แห้งสนิท
โฆษณา
- ป้องกันไม่ให้บริเวณแผลผ่าตัดเปียกน้ำตามที่แพทย์สั่ง. พยายามดูแลให้บริเวณแผลผ่าตัดแห้งอยู่เสมอด้วยการหลีกเลี่ยงการอาบน้ำในช่วง 24-72 ชั่วโมงแรกหลังรับการผ่าตัดเพื่อเป็นการป้องกันการติดเชื้อและกระตุ้นให้แผลสมานติดกันเร็วขึ้น[14]
- ผลแทรกซ้อนจากการผ่าตัดขึ้นอยู่กับตัวแปรต่างๆ มากมาย ซึ่งคุณสามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดการติดเชื้อหรือเกิดความเสียหายต่อแผลผ่าตัดได้ด้วยการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด[15]
- เตรียมผ้าก๊อซสะอาดไว้ให้พร้อมเพื่อให้คุณสามารถหยิบใช้ตลอดเวลาแม้ว่าจะไม่ได้เข้าใกล้น้ำก็ตามที
- ปิดแผลผ่าตัดไว้. ศัลยแพทย์อาจอนุญาตให้คุณกลับมาอาบน้ำได้ตามปกติหลังจากที่ร่างกายฟื้นตัวดีแล้วในกรณีที่แผลผ่าตัดอยู่ในตำแหน่งที่คุณสามารถใช้วัสดุกันน้ำปิดไว้ได้
- โดยส่วนใหญ่แล้วศัลยแพทย์จะอธิบายขั้นตอนการปิดแผลผ่าตัดในระหว่างอาบน้ำไว้อย่างชัดเจน
- นำพลาสติกแรปแบบใส ถุงขยะ หรือฟิล์มถนอมอาหารมาพันปิดแผลผ่าตัดไว้ให้แนบสนิท จากนั้นใช้เทปแต่งแผลติดไล่ไปตามขอบเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำซึมเข้าไปด้านในได้[16]
- สำหรับแผลผ่าตัดที่อยู่ในตำแหน่งที่เอื้อมถึงได้ยาก ลองขอให้สมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนของคุณช่วยตัดถุงพลาสติกหรือพลาสติกแรปเพื่อใช้สำหรับปิดแผลก่อนยึดไว้ให้แน่นด้วยเทปแต่งแผล
- สำหรับแผลผ่าตัดที่อยู่บริเวณหัวไหล่หรือหลังส่วนบน นอกเหนือจากการปิดแผลผ่าตัดไว้แล้ว ให้คุณใช้ถุงขยะคลุมไหล่ไว้เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำ สบู่ หรือแชมพูสัมผัสบริเวณแผลผ่าตัดในระหว่างอาบน้ำ และสำหรับแผลผ่าตัดที่อยู่บริเวณหน้าอก ให้คุณใช้ถุงขยะคลุมไว้ในลักษณะเดียวกับผ้ากันเปื้อนของเด็ก[17]
- ใช้ฟองน้ำชุบน้ำเช็ดตัวให้สะอาด. ในช่วงที่แพทย์ยังไม่อนุญาตให้คุณกลับมาอาบน้ำได้ตามปกติ คุณสามารถชำระล้างร่างกายให้รู้สึกสดชื่นได้ด้วยการใช้ฟองน้ำชุบน้ำเช็ดตัวให้สะอาดเพื่อป้องกันไม่ให้แผลผ่าตัดเปียกชื้นหรือได้รับการกระทบกระเทือน[18]
- ใช้ฟองน้ำหรือผ้าขนหนูผืนเล็กจุ่มลงไปในน้ำสบู่อ่อนๆ ให้ชุ่มและนำไปเช็ดตัวให้ทั่วก่อนเช็ดตัวให้แห้งด้วยผ้าขนหนูสะอาด
- หลีกเลี่ยงการแช่ตัวในอ่างอาบน้ำ. โดยส่วนใหญ่แล้วศัลยแพทย์จะอนุญาตให้อาบน้ำด้วยฝักบัวหลังจากที่พ้นระยะที่ต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้แผลผ่าตัดเปียกน้ำและร่างกายของคุณเริ่มฟื้นตัวดี[19]
- อย่าให้บริเวณแผลผ่าตัดโดนน้ำเป็นเวลานาน แช่ตัวในอ่างอาบน้ำหรืออ่างน้ำร้อน หรือว่ายน้ำในสระว่ายน้ำอย่างน้อย 3 สัปดาห์หรือจนกว่าคุณจะได้รับอนุญาตจากแพทย์[20]
- อาบน้ำด้วยฝักบัวอย่างรวดเร็ว. โดยส่วนใหญ่แล้วศัลยแพทย์จะแนะนำใช้เวลาในการอาบน้ำด้วยฝักบัวไม่เกิน 5 นาทีจนกว่าร่างกายของคุณจะฟื้นตัวมากขึ้นและแผลผ่าตัดเริ่มสมานติดกัน[21]
- หาตัวช่วยในการพยุงตัว. ลองขอให้เพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวคอยเฝ้าดูคุณในระหว่างอาบน้ำในช่วง 2-3 วันแรกที่คุณเพิ่งกลับมาอาบน้ำตามปกติ[22]
- คุณอาจจำเป็นต้องใช้เก้าอี้อาบน้ำ เก้าอี้ทั่วไป หรือราวจับเพื่อช่วยให้คุณสามารถพยุงตัวได้อย่างมั่นคงและป้องกันการสะดุดล้ม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณเข้ารับการผ่าตัดชนิดใด[23]
- การผ่าตัดที่บริเวณหัวเข่า ขา ข้อเท้า เท้า และหลังอาจทำให้คุณควบคุมการทรงตัวในพื้นที่อาบน้ำแคบๆ ได้ยาก ดังนั้นคุณจึงควรใช้เก้าอี้อาบน้ำ เก้าอี้ทั่วไป หรือราวจับเพื่อช่วยในการพยุงตัวให้มั่นคงยิ่งขึ้น
- จัดท่าทางร่างกายให้แผลผ่าตัดอยู่ห่างจากน้ำที่ไหลจากฝักบัว. หลีกเลี่ยงไม่ให้น้ำที่ไหลแรงๆ ไหลผ่านแผลผ่าตัดโดยตรง
- ปรับอุณหภูมิและความแรงของน้ำให้เหมาะสมก่อนเริ่มอาบน้ำเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อแผลผ่าตัดของคุณ
โฆษณา
- สังเกตสัญญาณของการติดเชื้อ. การติดเชื้อเป็นผลข้างเคียงหนึ่งที่พบได้มากหลังเข้ารับการผ่าตัด[24]
- ติดต่อแพทย์โดยทันทีหากคุณสงสัยว่าแผลผ่าตัดของคุณเริ่มมีอาการติดเชื้อ[25]
- อาการที่พบได้เมื่อเกิดการติดเชื้อได้แก่ อุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 38°C มีอาการคลื่นไส้และอาเจียน รู้สึกเจ็บอย่างรุนแรง มีรอยแดงใหม่เกิดขึ้นที่บริเวณแผลผ่าตัด มีอาการกดเจ็บ รู้สึกถึงไออุ่นเมื่อสัมผัส มีของเหลวกลิ่นเหม็นหรือของเหลวสีเขียวหรือสีเหลืองไหลซึมออกมา หรือมีอาการบวมเกิดขึ้นที่บริเวณแผลผ่าตัด[26]
- ผลการวิจัยพบว่าผู้ป่วยที่เข้ารับการผ่าตัดจำนวนกว่า 300,000 คนต่อปีในสหรัฐอเมริกาจะพบการติดเชื้อเกิดขึ้นหลังการผ่าตัด และน่าเศร้าที่ผู้ป่วยประมาณ 10,000 จากจำนวนดังกล่าวเสียชีวิตจากการติดเชื้อที่เกิดขึ้น[27]
- ค้นหาสาเหตุที่ทำให้ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเพิ่มขึ้น. ลักษณะนิสัยและสภาพแวดล้อมบางอย่างอาจทำให้ผู้ป่วยบางคนมีแนวโน้มที่จะติดเชื้อหรือที่แผลผ่าตัดจะเปิดออกสูงกว่าผู้ป่วยคนอื่นๆ
- ตัวอย่างของปัจจัยเสี่ยงได้แก่ โรคอ้วน โรคเบาหวานหรือภูมิคุ้มกันต่ำ ภาวะทุพโภชนาการ การใช้ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ และการสูบบุหรี่[28]
- ดูแลสุขอนามัยพื้นฐานให้ดี. ขั้นตอนการดูแลสุขอนามัยง่ายๆ ที่คุณสามารถทำได้ที่บ้านเพื่อช่วยป้องกันการติดเชื้อได้แก่การหมั่นล้างมือเป็นประจำและการใช้อุปกรณ์ที่สะอาดในการทำแผลหรือซับแผลให้แห้งหลังอาบน้ำ[29]
- ล้างมือทุกครั้งหลังเข้าห้องน้ำ ถือถุงขยะ สัมผัสสัตว์เลี้ยง จับเสื้อผ้าสกปรก สัมผัสสิ่งต่างๆ ที่อยู่ในที่สาธารณะ และจับผ้าปิดแผลที่เปื้อนสารคัดหลั่ง[30]
- กล่าวเตือนให้สมาชิกในครอบครัวหรือผู้ที่มาเยี่ยมเยียนล้างมือให้สะอาดก่อนเข้ามาพบกับผู้ป่วยที่เพิ่งเข้ารับการผ่าตัด[31]
- หากเป็นไปได้ให้คุณงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด แต่ถ้าให้ดีคุณควรเว้นจากการสูบบุหรี่ให้นานยิ่งขึ้นเป็น 4-6 สัปดาห์ เนื่องจากการสูบบุหรี่เป็นสาเหตุทำให้กระบวนการหายของแผลช้าลง[32] ซึ่งส่งผลให้เนื้อเยื่อที่กำลังสมานเป็นเนื้อเดียวกันขาดออกซิเจนจนอาจนำไปสู่การติดเชื้อได้[33]
โฆษณา
- ติดต่อแพทย์หากคุณมีไข้สูง. การมีไข้ต่ำๆ หลังรับการผ่าตัดไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวล อย่างไรก็ตาม อุณหภูมิของร่างกายที่สูงกว่าหรือเท่ากับ 38°C อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อได้[34]
- สัญญาณอื่นๆ ของการติดเชื้อที่เตือนว่าคุณควรติดต่อแพทย์โดยทันทีได้แก่ มีรอยแดงใหม่เกิดขึ้นที่บริเวณแผลผ่าตัด มีน้ำหนองไหลซึมออกจากแผล มีของเหลวกลิ่นเหม็นหรือมีสีผิดปกติไหลซึมออกมา มีอาการกดเจ็บที่บริเวณแผลผ่าตัด รู้สึกถึงไออุ่นเมื่อสัมผัส หรือมีอาการบวมเกิดขึ้นที่บริเวณแผลผ่าตัด[35]
- ติดต่อแพทย์หากแผลผ่าตัดเริ่มมีเลือดออก. ล้างมือให้สะอาดและใช้ผ้าก๊อซหรือผ้าขนหนูสะอาดกดปากแผลไว้เบาๆ ก่อนติดต่อแพทย์โดยทันที[36]
- อย่าออกแรงกดปากแผลมากจนเกินไป โดยคุณควรใช้วิธีกดลงไปเบาๆ และใช้ผ้าก๊อซสะอาดพันแผลไว้จนกระทั่งได้พบแพทย์ของคุณหรือไปถึงสถานพยาบาลแห่งอื่นแล้วเพื่อทำการตรวจสอบบริเวณแผลผ่าตัดของคุณ[37]
- ไปพบแพทย์หากคุณพบอาการผิดปกติใดๆ. หากคุณมีอาการปวดท้อง มีอาการคลื่นไส้หรืออาเจียน หรือมีอาการดีซ่าน (ผิวหนังหรือดวงตากลายเป็นสีเหลือง) คุณควรไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด[38]
- รวมถึงหากร่างกายของคุณแสดงอาการของการเกิดลิ่มเลือดเหล่านี้ เช่น ผิวดูซีด ปลายแขนปลายขาเย็น มีอาการเจ็บหน้าอก หายใจลำบาก หรือมีอาการบวมผิดปกติที่แขนหรือขา[39]
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.surgeryencyclopedia.com/Fi-La/Incision-Care.html
- ↑ http://www.surgeryencyclopedia.com/Fi-La/Incision-Care.html
- ↑ http://www.surgeryencyclopedia.com/Fi-La/Incision-Care.html
- ↑ http://www.surgeryencyclopedia.com/Fi-La/Incision-Care.html
- ↑ http://www.surgeryencyclopedia.com/Fi-La/Incision-Care.html
- ↑ http://www.surgeryencyclopedia.com/Fi-La/Incision-Care.html
- ↑ http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/patientinstructions/000624.htm
- ↑ http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/patientinstructions/000624.htm
- ↑ http://sportsmedicine.osu.edu/patientcare/sports_injuries/the_knee/acl_injury/home_care_after_acl/
- ↑ http://sportsmedicine.osu.edu/patientcare/sports_injuries/the_knee/acl_injury/home_care_after_acl/
- ↑ http://sportsmedicine.osu.edu/patientcare/sports_injuries/the_knee/acl_injury/home_care_after_acl/
- ↑ http://sportsmedicine.osu.edu/patientcare/sports_injuries/the_knee/acl_injury/home_care_after_acl/
- ↑ http://www.uofmchildrenshospital.org/healthlibrary/Article/82362
- ↑ http://www.surgeryencyclopedia.com/Fi-La/Incision-Care.html
- ↑ http://www.surgeryencyclopedia.com/Fi-La/Incision-Care.html
- ↑ http://www.uofmchildrenshospital.org/healthlibrary/Article/82362
- ↑ http://www.barbaraberginmd.com/Portals/2213/web-content/files/KeepItDry.pdf
- ↑ http://sportsmedicine.osu.edu/patientcare/sports_injuries/the_knee/acl_injury/home_care_after_acl/
- ↑ http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/patientinstructions/000624.htm
- ↑ http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/patientinstructions/000624.htm
- ↑ http://ejgh.org/services/surgery/post-operative-instructions
- ↑ http://www.allinahealth.org/Health-Conditions-and-Treatments/Health-library/Patient-education/Total-Knee-Replacement/Common-questions/
- ↑ http://www.allinahealth.org/Health-Conditions-and-Treatments/Health-library/Patient-education/Total-Knee-Replacement/Common-questions/
- ↑ http://www.surgeryencyclopedia.com/Fi-La/Incision-Care.html
- ↑ http://www.surgeryencyclopedia.com/Fi-La/Incision-Care.html
- ↑ http://www.allinahealth.org/Health-Conditions-and-Treatments/Health-library/Patient-education/Total-Knee-Replacement/Common-questions/
- ↑ http://www.surgeryencyclopedia.com/Fi-La/Incision-Care.html
- ↑ http://www.surgeryencyclopedia.com/Fi-La/Incision-Care.html
- ↑ http://www.surgeryencyclopedia.com/Fi-La/Incision-Care.html
- ↑ http://www.surgeryencyclopedia.com/Fi-La/Incision-Care.html
- ↑ http://www.surgeryencyclopedia.com/Fi-La/Incision-Care.html
- ↑ http://www.surgeryencyclopedia.com/Fi-La/Incision-Care.html
- ↑ http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4241583/
- ↑ http://ejgh.org/services/surgery/post-operative-instructions
- ↑ http://ejgh.org/services/surgery/post-operative-instructions
- ↑ http://ejgh.org/services/surgery/post-operative-instructions
- ↑ http://ejgh.org/services/surgery/post-operative-instructions
- ↑ http://ejgh.org/services/surgery/post-operative-instructions
- ↑ http://sportsmedicine.osu.edu/patientcare/sports_injuries/the_knee/acl_injury/home_care_after_acl/
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.