ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

เวลาพล็อตกราฟ สมการกำลังสองในรูป ax2 + bx + c หรือ a(x - h)2 + k จะให้กราฟเส้นโค้งเป็นรูปตัว U หรือเป็นรูปตัว U คว่ำซึ่งเรียกว่า พาราโบลา (parabola) การพล็อตกราฟสมการกำลังสองเป็นเรื่องของการหาจุดยอด ทิศทางและส่วนใหญ่ก็ให้หาจุดตัดระหว่างแกน x และแกน y ของมัน ในกรณีของสมการกำลังสองแบบง่ายนั้น แค่แทนค่า x ลงไปสักช่วงระยะหนึ่งก็พอที่จะพล็อตเส้นโค้งโดยยึดเอาตามจุดของผลที่แล้วมาได้ ดูขั้นตอนที่ 1 ด้านล่างนี้เพื่อเริ่มเรียนรู้กันเลย

  1. How.com.vn ไท: Step 1 ดูว่าสมการกำลังสองที่คุณมีนั้นเป็นรูปทรงอะไร....
    ดูว่าสมการกำลังสองที่คุณมีนั้นเป็นรูปทรงอะไร. สมการกำลังสองสามารถเขียนออกมาได้เป็นรูปแบบที่แตกต่างกันสามแบบ: แบบมาตรฐาน, แบบจุดยอด และแบบกำลังสอง คุณสามารถใช้รูปแบบทั้งคู่ในการพล็อตกราฟสมการกำลังสองได้ กระบวนการที่ทำอาจแตกต่างกันเล็กน้อย หากคุณได้โจทย์การบ้านมาทำ คุณมักจะได้โจทย์ที่อยู่ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งของสองแบบต่อไปนี้ พูดง่ายๆ คือ คุณไม่สามารถเลือกได้ ทางที่ดีจึงควรทำความเข้าใจมันทั้งสองแบบ รูปแบบทั้งสองของสมการกำลังสองคือ:
    • รูปแบบมาตรฐาน ในรูปแบบนี้ สมการกำลังสองจะถูกเขียนเป็น: f(x) = ax2 + bx + c โดยที่ a, b, และ c เป็นเลขจำนวนจริงและ a จะต้องไม่เท่ากับศูนย์
      • ตัวอย่าง สมการกำลังสองรูปแบบมาตรฐานสองแบบคือ f(x) = x2 + 2x + 1 กับ f(x) = 9x2 + 10x -8
    • รูปแบบจุดยอด ในรูปแบบนี้นั้น สมการกำลังสองจะถูกเขียนเป็น: f(x) = a(x - h)2 + k โดยที่ a, h, และ k เป็นจำนวนจริงและ a ไม่เท่ากับศูนย์ รูปแบบจุดยอดได้ชื่อนี้เพราะ h และ k จะบอกว่าจุดยอด (จุดกึ่งกลาง) ของกราฟพาราโบลานั้นอยู่ที่จุด (h,k)
      • สมการกำลังสองรูปแบบจุดยอดสองแบบคือ f(x) = 9(x - 4)2 + 18 กับ -3(x - 5)2 + 1
    • ในการจะพล็อตกราฟสมการทั้งสองรูปแบบนี้ เราจำต้องหาจุดยอดของพาราโบลาก่อนเป็นอย่างแรก ซึ่งก็คือจุดกึ่งกลาง (h,k) ตรง "ปลายยอด" ของเส้นโค้ง พิกัดของจุดยอดในรูปแบบมาตรฐานจะให้มาโดย: h = -b/2a และ k = f(h), ในขณะที่ในรูปแบบจุดยอดนั้นโจทย์จะระบุ h กับ k มาให้แล้วในสมการ
  2. How.com.vn ไท: Step 2 นิยามตัวแปร.
    การที่จะแก้โจทย์สมการกำลังสองได้นั้น จะต้องนิยามตัวแปร a, b, และ c (หรือ a, h, และ k) ให้ได้เสียก่อน โจทย์พีชคณิตทั่วไปจะบอกสมการกำลังสองมาโดยให้หาตัวแปรมาเติมลงไปโดยมักจะอยู่ในรูปแบบมาตรฐาน แต่บางครั้งก็อยู่ในรูปแบบจุดยอด
    • ตัวอย่าง สำหรับสมการในรูปแบบมาตรฐาน f(x) = 2x2 +16x + 39, เราจะได้ a = 2, b = 16, และ c = 39
    • สำหรับสมการในรูปแบบจุดยอด f(x) = 4(x - 5)2 + 12, เราจะได้ a = 4, h = 5, และ k = 12
  3. How.com.vn ไท: Step 3 คำนวณหา h.
    ในสมการรูปแบบจุดยอดนั้น โจทย์มักจะบอกค่าของตัวแปร h มาให้แล้ว แต่ในสมการรูปแบบมาตรฐานนั้น มันจะต้องคำนวณหาเอา จำไว้ว่าสำหรับสมการในรูปแบบมาตรฐานนั้น h = -b/2a
    • ในตัวอย่างสมการรูปแบบมาตรฐานของเรา (f(x) = 2x2 +16x + 39), h = -b/2a = -16/2(2) พอแก้สมการเราจะพบว่า h = -4
    • ในตัวอย่างสมการรูปแบบจุดยอดของเรา (f(x) = 4(x - 5)2 + 12), เรารู้ว่า h = 5 โดยไม่ต้องคำนวณอะไร
  4. How.com.vn ไท: Step 4 คำนวณหา k.
    ก็เหมือนกับ h, ในสมการรูปแบบจุดยอดนั้น โจทย์มักจะบอกค่าของตัวแปร k มาให้แล้ว ในสมการรูปแบบมาตรฐานนั้น จำไว้ว่า k = f(h) พูดอีกอย่างก็คือคุณสามารถหา k ได้โดยการแทนตัวอย่างทุกตัวของ x ในสมการด้วยค่าที่คุณเพิ่งได้ของ h
    • เราได้จากในตัวอย่างสมการรูปแบบมาตรฐานของเราแล้วว่า h = -4 ถ้าจะหา k, เราก็แก้สมการด้วยค่า h ที่ได้ไปแทนที่ x:
      • k = 2(-4)2 + 16(-4) + 39
      • k = 2(16) - 64 + 39
      • k = 32 - 64 + 39 = 7
    • ส่วนในตัวอย่างรูปแบบจุดยอดก็เช่นเคย เราทราบค่าของ k (ซึ่งเท่ากับ 12) โดยไม่ต้องคำนวณอะไร
  5. How.com.vn ไท: Step 5 พล็อตจุดยอด.
    จุดยอดของพาราโบลาจะเป็นจุด (h, k) โดยที่ h เป็นตำแหน่งบนแกน x โดยที่ k เป็นตำแหน่งบนแกน y จุดยอดคือจุดกึ่งกลางของพาราโบลา ซึ่งเป็นไปได้ทั้งเป็นจุดล่างสุดของรูปตัว "U" หรือจุดบนสุดของรูปตัว "U" คว่ำ การทราบจุดยอดเป็นส่วนสำคัญของการพล็อตพาราโบลาที่มีความแม่นยำ ส่วนใหญ่โจทย์การบ้านมักให้หาจุดยอดด้วยซ้ำ
    • ในตัวอย่างสมการรูปแบบมาตรฐานของเรา จุดยอดจะอยู่ที่ (-4,7) ดังนั้น พาราโบลาจะขึ้นสูงสุดที่จุดห่างจาก 0 ไปทางซ้าย 4 ตำแหน่งและเหนือ (0,0) ไป 7 ตำแหน่ง เราควรพล็อตจุดนี้ลงบนกราฟ ให้แน่ใจว่าได้กำกับพิกัดไว้
    • ในตัวอย่างสมการรูปแบบจุดยอดของเรา จุดยอดจะอยู่ที่ (5,12) เราควรพล็อตจุดไปทางขวา 5 ตำแหน่งและเหนือ (0,0) 12 ตำแหน่ง
  6. How.com.vn ไท: Step 6 วาดแกนของพาราโบลา (ไม่จำเป็น).
    แกนสมมาตรของพาราโบลาคือเส้นที่ลากผ่านใจกลางของมันและจะแบ่งมันออกเป็นสองส่วนเท่ากัน โดยด้านซ้ายของพาราโบลาจะสะท้อนด้านขวาไปตามแกนนี้ สำหรับสมการกำลังสองในรูปแบบ ax2 + bx + c หรือ a(x - h)2 + k, แกนจะเป็นเส้นที่ขนานไปกับแกน y (หรือพูดอีกอย่างคือเป็นเส้นตรงแนวดิ่ง) และตัดผ่านจุดยอด
    • ในกรณีของตัวอย่างสมการรูปแบบมาตรฐานของเรา แกนจะเป็นเส้นที่ขนานไปกับแกน y และตัดผ่านจุด (-4, 7) ถึงแม้มันจะไม่ใช่ส่วนหนึ่งของพาราโบลา แต่การลากเส้นนี้จางๆ บนกราฟจะช่วยให้คุณเห็นว่าพาราโบลาโค้งอย่างสมมาตรได้อย่างไร
  7. How.com.vn ไท: Step 7 หาทิศทางของปลายเปิด.
    หลังจากหาจุดยอดกับแกนของพาราโบลาได้แล้ว ต่อไปเราจำต้องรู้ว่าพาราโบลานี้ปลายเปิดหงายขึ้นหรือคว่ำลง โชคดีที่มันง่ายมาก ถ้า "a" เป็นบวก พาราโบลาก็จะปลายเปิดหงายขึ้น ในขณะที่ถ้า "a" เป็นลบ พาราโบลาก็จะมีปลายเปิดคว่ำลง (นั่นคือ มันจะเป็นรูปตัว U คว่ำ)
    • ในตัวอย่างสมการรูปแบบมาตรฐานของเรา (f(x) = 2x2 +16x + 39), เรารู้ว่าเรามีพาราโบลาแบบปลายเปิดหงายขึ้นเพราะในสมการของเรานั้น a = 2 (บวก)
    • ในตัวอย่างสมการรูปแบบจุดยอดของเรา (f(x) = 4(x - 5)2 + 12), เรารู้ว่าเรามีพาราโบลาแบบปลายเปิดหงายขึ้นเพราะในสมการของเรานั้น a = 4 (บวก)
  8. How.com.vn ไท: Step 8 หากจำเป็น ให้หาและพล็อตจุดตัดบนแกน x.
    บ่อยครั้งที่การบ้านมักให้คุณหาจุดตัดบนแกน x ของพาราโบลา (ซึ่งเป็นได้ทั้ง จุดเดียว หรือ สองจุด ที่พาราโบลาจะตัดแกน x) ถึงแม้คุณไม่คิดจะหา แต่จุดทั้งสองนี้ก็มีค่าควรแก่การวาดพาราโบลาให้มีความถูกต้องมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าพาราโบลาทุกชุดจะต้องมีจุดตัดบนแกน x ถ้าเกิดพาราโบลาของคุณเป็นแบบหงายขึ้นและมีจุดยอดอยู่เหนือแกน x หรือ ถ้าเกิดมันคว่ำลงและมีจุดยอดใต้แกน x มันจะไม่มีจุดตัดบนแกน x เลย นอกเหนือจากนี้แล้ว ให้แก้โจทย์หาจุดตัดบนแกน x โดยใช้วิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้:
    • แค่ตั้งให้ f(x) = 0 แล้วแก้สมการ. วิธีนี้อาจได้ผลสำหรับสมการกำลังสองโดยเฉพาะพวกที่อยู่ในรูปแบบจุดยอด แต่จะพิสูจน์ได้ยากขึ้นในโจทย์ที่มีความซับซ้อน ดูตัวอย่างตามด้านล่าง
      • f(x) = 4(x - 12)2 - 4
      • 0 = 4(x - 12)2 - 4
      • 4 = 4(x - 12)2
      • 1 = (x - 12)2
      • SqRt(1) = (x - 12)
      • +/- 1 = x -12 x = 11 และ 13 นั่นคือจุดตัดแกน x ของพาราโบลา
    • แยกตัวประกอบสมการ. บางสมการในรูป ax2 + bx + c สามารถแยกตัวประกอบได้ง่ายให้อยู่ในรูป (dx + e)(fx +g), โดยที่ dx × fx = ax2, (dx × g + fx × e) = bx, และ e × g = c ในกรณีนี้ จุดตัดแกน x ก็คือค่าของ x ที่ทำให้พจน์ใดพจน์หนึ่งในวงเล็บ = 0 ดังตัวอย่าง:
      • x2 + 2x + 1
      • = (x + 1)(x + 1)
      • ในกรณีนี้ จุดตัดเดียวบนแกน x คือ -1 เพราะเมื่อแทนค่าให้ x เท่ากับ -1 จะทำให้พจน์ที่แยกตัวประกอบมาในวงเล็บเท่ากับ 0
    • ใช้สูตรกำลังสอง. หากคุณไม่สามารถแก้โจทย์หาจุดตัด x หรือแยกตัวประกอบสมการได้ง่ายๆ ให้ใช้สมการพิเศษที่เรียกว่า สูตรกำลังสอง ที่คิดขึ้นมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ถ้าสมการของคุณยังไม่อยู่ในรูปนี้อยู่แล้ว ก็ให้เขียนสมการใหม่ให้อยู่ในรูป ax2 + bx + c, จากนั้นแทนค่า a, b, และ c ลงไปในสูตร x = (-b +/- SqRt(b2 - 4ac))/2a โปรดสังเกตว่านี่มักจะให้คำตอบสำหรับ x ออกมาสองค่า ซึ่งก็ไม่เป็นไร มันแค่หมายความว่าพาราโบลานั้นมีจุดตัดบนแกน x สองจุด ดูตัวอย่างตามด้านล่าง:
      • -5x2 + 1x + 10 จะถูกแทนค่าสู่สูตรกำลังสองได้ดังนี้:
      • x = (-1 +/- SqRt(12 - 4(-5)(10)))/2(-5)
      • x = (-1 +/- SqRt(1 + 200))/-10
      • x = (-1 +/- SqRt(201))/-10
      • x = (-1 +/- 14.18)/-10
      • x = (13.18/-10) and (-15.18/-10) จุดตัดบนแกน x ของพาราโบลาอยู่ที่ประมาณ x = -1.318 กับ 1.518
      • ในตัวอย่างรูปแบบมาตรฐานก่อนหน้านี้ของเรา, 2x2 + 16x + 39 จะถูกแทนค่าสู่สูตรกำลังสองได้ดังนี้:
      • x = (-16 +/- SqRt(162 - 4(2)(39)))/2(2)
      • x = (-16 +/- SqRt(256 - 312))/4
      • x = (-16 +/- SqRt(-56)/-10
      • เพราะการหารากที่สองของจำนวนลบนั้นเป็นไปไม่ได้ เราจึงรู้ว่าพาราโบลาพิเศษนี้ ไม่มีจุดตัดบนแกน x
  9. How.com.vn ไท: Step 9 ถ้าจำเป็น ให้หาและพล็อตจุดตัดบนแกน y.
    ถึงแม้มันจะไม่ค่อยจำเป็นนักที่จะต้องหาจุดตัดบนแกน y ของสมการ (จุดที่พาราโบลาลากผ่านแกน y) แต่ทางโรงเรียนอาจออกโจทย์มา กระบวนการหาก็ง่ายมาก แค่ตั้งให้ x = 0, แล้วแก้สมการหา f(x) หรือ y, ซึ่งจะให้ค่า y ที่ซึ่งพาราโบลาลากผ่านบนแกน y แต่ไม่เหมือนกับจุดตัดบนแกน x ตรงที่พาราโบลามาตรฐานจะมีจุดตัดบนแกน y เพียงจุดเดียว ข้อสังเกต – สำหรับสมการในรูปแบบมาตรฐานนั้น จุดตัดบนแกน y จะอยู่ที่ y = c
    • ตัวอย่าง เรารู้สมการกำลังสองของเรา 2x2 + 16x + 39 มีจุดตัดบนแกน y ที่ y = 39, แต่มันยังหาได้ตามต่อไปนี้:
      • f(x) = 2x2 + 16x + 39
      • f(x) = 2(0)2 + 16(0) + 39
      • f(x) = 39 จุดตัดบนแกน y ของพาราโบลาอยู่ที่ y = 39 ตามข้อสังเกตข้างต้นที่จุดตัดบนแกน y จะอยู่ที่ y = c
    • สมแบบรูปแบบจุดยอดของเรา 4(x - 5)2 + 12 มีจุดตัดบนแกน y ที่หาได้ตามต่อไปนี้:
      • f(x) = 4(x - 5)2 + 12
      • f(x) = 4(0 - 5)2 + 12
      • f(x) = 4(-5)2 + 12
      • f(x) = 4(25) + 12
      • f(x) = 112 พาราโบลามีจุดตัดบนแกน y ที่ y = 112
  10. How.com.vn ไท: Step 10 หากจำเป็น ให้พล็อตจุดเพิ่มเติม แล้วค่อยลากกราฟ....
    หากจำเป็น ให้พล็อตจุดเพิ่มเติม แล้วค่อยลากกราฟ. ตอนนี้คุณควรทราบจุดยอด, ทิศทาง, จุดตัดบนแกน x และอาจจะเพิ่มจุดตัดบนแกน y สำหรับสมการของคุณ ถึงจุดนี้ คุณสามารถลองวาดพาราโบลาโดยใช้จุดที่มีเป็นตัวนำอ้างอิง หรือจะหาจุดเพิ่มเพื่อ "เติมเต็ม" พาราโบลาเพื่อเส้นโค้งจะได้ถูกต้องแม่นยำยิ่งขึ้น วิธีทำที่ง่ายที่สุดก็แค่แทนค่า x ลงไปอีกสองสามค่าทางด้านข้างของจุดยอดทั้งสองข้าง แล้วพล็อตจุดเหล่านี้โดยใช้ค่า y ที่ได้มา ส่วนใหญ่ครูมักจะให้คุณหาจุดเพิ่มอีกเล็กน้อยก่อนจะให้วาดพาราโบลา
    • ลองกลับไปหาสมการ x2 + 2x + 1 เรารู้แล้วว่าจุดตัดบนแกน x จุดเดียวคือที่ x = -1 เนื่องจากมันตัดแกน x แค่จุดเดียว เราจึงอนุมานได้ว่าจุดยอดของมัน ก็คือ จุดตัดบนแกน x นั่นหมายถึงจุดยอดของมันคือ (-1,0) เรามีจุดเดียวสำหรับพาราโบลานี้ ซึ่งไม่พอที่จะวาดพาราโบลาได้แม่นยำ ลองมาหาเพิ่มเพื่อจะวาดกราฟได้อย่างมั่นใจ
      • มาหาค่า y สำหรับค่า x ดังต่อไปนี้: 0, 1, -2, และ -3
      • สำหรับ 0: f(x) = (0)2 + 2(0) + 1 = 1 จุดของเราคือ (0,1)
      • สำหรับ 1: f(x) = (1)2 + 2(1) + 1 = 4 จุดของเราคือ (1,4)
      • สำหรับ -2: f(x) = (-2)2 + 2(-2) + 1 = 1จุดของเราคือ (-2,1)
      • สำหรับ -3: f(x) = (-3)2 + 2(-3) + 1 = 4จุดของเราคือ (-3,4)
      • พล็อตจุดเหล่านี้ลงบนกราฟแล้ววาดเส้นโค้งรูปตัว U โปรดสังเกตว่าพาราโบลาจะสมมาตร เวลาที่จุดบนด้านหนึ่งของพาราโบลามาจากจำนวนเต็ม คุณสามารถประหยัดเวลาโดยการสะท้อนจุดที่ให้มาข้ามแกนของพาราโบลาไปยังอีกด้าน
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • โปรดสังเกตว่าใน f(x) = ax2 + bx + c นั้น หาก b หรือ c เท่ากับศูนย์ จำนวนเหล่านั้นจะหายไป ดังตัวอย่าง 12x2 + 0x + 6 จะกลายเป็น 12x2 + 6 เพราะ 0x ก็คือ 0
  • ปัดเลขหรือใช้การแยกตัวประกอบตามที่ครูบอก นี่จะช่วยคุณวาดกราฟสมการกำลังสองได้อย่างถูกต้อง
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Jake Adams
ร่วมเขียน โดย:
ติวเตอร์และผู้เชี่ยวชาญด้านการเตรียมตัวสอบวัดผล
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Jake Adams. เจค อดัมส์เป็นติวเตอร์และเจ้าของ PCH Tutors ในมาลิบู แคลิฟอร์เนียที่มีการติวตั้งแต่ระดับอนุบาลไปจนถึงมหาวิทยาลัย เตรียมสอบ SAT และ ACT เขามีประสบการณ์กว่า 11 ปีและยังเป็น CEO ของ Simplifi EDU บริการติวออนไลน์ที่ให้ผู้เรียนได้เรียนกับติวเตอร์ในแคลิฟอร์เนีย เจคจบด้านธุรกิจกับการตลาดระหว่างประเทศจากมหาวิทยาลัยเพพเพอร์ไดน์ บทความนี้ถูกเข้าชม 12,851 ครั้ง
หมวดหมู่: คณิตศาสตร์
มีการเข้าถึงหน้านี้ 12,851 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา