บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Marrow Private Chefs. Marrow Private Chefs อยู่ที่ชายหาดซานตาโรซา รัฐฟลอริดา เป็นกลุ่มคนที่ประกอบด้วยเชฟและผู้เชี่ยวชาญการประกอบอาหารที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้โดยภูมิภาคแล้วจะได้รับอิทธิพลจากสไตล์และรสชาติอาหารชายฝั่งทะเล อาหารพื้นเมืองทางใต้ อาหารครีโอล และอาหารเคจันเป็นส่วนใหญ่ แต่เชฟที่ Marrow มีความเชี่ยวชาญในการทำอาหารทุกประเภท โดยมีประสบการณ์การทำอาหารรวมกันมากกว่า 75 ปี
บทความนี้ถูกเข้าชม 4,633 ครั้ง
คุณอาจจะไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ว่าจะละลายไส้กรอกแช่แข็งอย่างไรดี เพราะแบคทีเรียและเชื้อโรคอื่นๆ ต่างก็ชอบเนื้อสัตว์ที่ละลายแบบไม่ถูกต้อง คุณสามารถละลายไส้กรอกแช่แข็งได้ด้วยตู้เย็น ไมโครเวฟ หรือน้ำอุ่นใส่ชาม ตู้เย็นเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดแต่ก็ใช้เวลามากที่สุด ไมโครเวฟก็เป็นวิธีที่เร็วที่สุดแต่ก็เสี่ยงจะทำไส้กรอกไหม้ ส่วนน้ำอุ่นใส่ชามเป็นวิธีที่เงอะงะที่สุด แต่รับรองว่าไส้กรอกจะไม่ไหม้ระหว่างปรุงสุกอย่างแน่นอน
ขั้นตอน
- เช็กเพื่อให้แน่ใจว่าอุณหภูมิในตู้เย็นต่ำกว่า 5 องศาเซลเซียส. แบคทีเรียสามารถเจริบเติบโตและขยายพันธุ์ได้ในอุณหภูมิที่สูงกว่า 5 องศาเซลเซียส เพราะฉะนั้นถ้าในตู้เย็นไม่ได้มีเทอร์โมมิเตอร์ติดมาด้วยอยู่แล้ว ให้ใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิอีกที[1]
- วางเทอร์โมมิเตอร์ไว้ในตู้เย็นพร้อมกับปิดประตูแล้วทิ้งไว้ 5 นาที หลังจากครบ 5 นาทีแล้วให้นำเทอร์โมมิเตอร์ออกมาแล้วอ่านค่า
- ไม่ต้องแกะห่อไส้กรอก. ในขั้นตอนนี้ไม่จำเป็นต้องแกะห่อไส้กรอกออกมา เพราะจริงๆ แล้วมันช่วยให้ละลายไส้กรอกได้เร็วขึ้นและทั่วกันมากขึ้นด้วย[2]
- ถ้าคุณแกะห่อไส้กรอกออกไปเล้ว คุณก็อาจจะห่อในแร็ปพลาสติกก่อนนำไปวางไว้ในตู้เย็น
- วางไส้กรอกไว้บนจานและไส่ไว้ตรงด้านล่างของตู้เย็น. จานจะป้องกันไม่ให้น้ำแข็งที่ละลายออกมาจากไส้กรอกไหลนองทั่วตู้เย็น คุณต้องวางไส้กรอกไว้ในบริเวณที่แยกออกจากอาหารพร้อมรับประทานต่างๆ[3]
- ถ้าหมูแช่แข็งโดนอาหารอื่นๆ อาหารอื่นๆ ก็อาจจะทำให้คุณป่วยได้ด้วย
- วางไส้กรอกไว้ในตู้เย็นจนกว่าจะนิ่ม. ถ้าคุณจับไส้กรอกแล้วมันนิ่มและคุณไม่รู้สึกถึงน้ำแข็งหรือเกล็ดบนไส้กรอกเลย แสดงว่าน้ำแข็งละลายหมดแล้ว ตู้เย็นเป็นวิธีละลายไส้กรอกที่ง่ายที่สุดแต่ก็ใช้เวลามากที่สุดเช่นเดียวกัน ถ้าห่อนึงมีไส้กรอกเยอะ คุณอาจจะใช้เวลาถึง 24 ชั่วโมงจึงจะละลายหมด[4]
- เมื่อละลายไส้กรอกเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถเก็บไส้กรอกไว้ในตู้เย็นได้ 3-5 วันก่อนนำไปประกอบอาหาร ถ้าคุณเอาไส้กรอกออกมาจากตู้เย็นก่อนหน้านี้ คุณจะต้องนำไปทำอาหารทันที
โฆษณา
- วางไส้กรอกลงบนจานที่ใช้กับไมโครเวฟได้. นำไส้กรอกที่ยังไม่แกะห่อไปใส่ไว้ในจานไมโครเวฟ ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าจานสามารถใช้กับไมโครเวฟได้ไหม วิธีการดูก็คือ:[5]
- จานบางใบจะมีฉลากอยู่ข้างหลังที่ระบุสามารถใช้กับไมโครเวฟได้หรือไม่
- สัญลักษณ์รูปจานที่มีเส้นหยักๆ อยู่ข้างบนเป็นสิ่งที่บอกว่า จานใบนี้สามารถใช้กับไมโครเวฟได้
- สัญลักษณ์เส้นหยักๆ ก็มีความหมายว่า จานใบนี้ใช้กับไมโครเวฟได้เช่นเดียวกัน
- นำไส้กรอกไปใส่ในไมโครเวฟด้วยโหมดละลายน้ำแข็ง จนกว่าไส้กรอกจะแยกชิ้นกัน. ถ้าไมโครเวฟของคุณไม่มีโหมดละลายน้ำแข็ง ให้ใช้กำลังไฟที่ 50% เปิดฝาไมโครเวฟหลังจากใส่ไปได้ 3-4 นาทีแล้วใช้ส้อมจิ้มดูว่าไส้กรอกแต่ละอันแยกชิ้นกันหรือเปล่า[6]
- ถ้าไส้กรอกยังติดกันอยู่ ให้เปิดไมโครเวฟอีกครั้งแล้วใส่ต่ออีกประมาณ 1 นาทีก่อนนำออกมาเช็กอีกครั้ง
- นำไส้กรอกใส่ในไมโครเวฟรอบละ 2 นาที. เมื่อไส้กรอกละลายพอที่แยกชิ้นกันได้แล้ว ให้ใส่กลับเข้าไปในไมโครเวฟเหมือนเดิมและอบต่อ 2 นาที บนจานให้เว้นที่ว่างระหว่างไส้กรอกแต่ละชิ้นเพื่อให้ทุกส่วนของไส้กรอกละลายจนหมด เช็กทุก 2 นาทีจนกว่าไส้กรอกจะละลายจนหมด[7]
- พอไส้กรอกละลายหมดแล้ว ให้นำไปประกอบอาหารทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดแบคทีเรีย
โฆษณา
- แกะห่อไส้กรอกออกแล้วใส่ไส้กรอกไว้ในชาม. ไส้กรอกที่ขายจะมีแร็ปพลาสติกมาด้วย ซึ่งถ้าคุณจะละลายไส้กรอกด้วยวิธีนี้ คุณจะต้องแกะห่อไส้กรอกออกก่อน หาชามที่ขนาดใหญ่พอจะใส่ไส้กรอกที่คุณต้องการละลายลงไปได้ทั้งหมด แล้วนำไส้กรอกใส่ลงไปในชาม[8]
- ถ้าคุณไม่มีชามที่ใหญ่พอจะใส่ไส้กรอกที่ต้องการจะละลายลงไปได้หมด ให้แบ่งเป็น 2 ชาม
- ใส่น้ำอุ่นลงไปในชาม. โดยทั่วไปน้ำอุ่นจะมีอุณหภูมิอยู่ที่ 43 องศาเซลเซียส พอใส่น้ำลงไปในชามแล้วให้ใช้เทอร์โมมิเตอร์ทดสอบอุณหภูมิของน้ำ ถ้าอุณหภูมิอยู่ที่ระหว่าง 15-43 องศาเซลเซียสก็ถือว่าใช้ได้[9]
- นำชามไปวางไว้ในอ่างล้างจานและเปิดน้ำก๊อกให้พอหยดๆ. เปิดก๊อกน้ำเบาๆ เพื่อให้มีน้ำไหลหยดออกจากก๊อกแบบเร็วๆ น้ำที่ไหลออกมาจากก๊อกควรจะเป็นลักษณะน้ำหยด ไม่ใช่ไหลออกมาเป็นสาย และเมื่อเอามือแตะน้ำก็ควรจะเย็น วิธีนี้จะช่วยให้น้ำที่อยู่รอบๆ ไส้กรอกมีอุณหภูมิที่คงที่[10]
- นอกจากนี้น้ำที่ไหลออกจากก๊อกเป็นหยดๆ ยังทำให้น้ำในชามไหลตลอดเวลาด้วย วิธีนี้จะช่วยป้องกันแบคทีเรียไม่ให้เจริญเติบโตขณะที่ไส้กรอกละลายในชาม
- เปิดน้ำก๊อกทิ้งไว้จนกว่าไส้กรอกจะละลายหมด. เวลาที่ใช้ในการละลายไส้กรอกขึ้นอยู่กับปริมาณและขนาดของไส้กรอกที่อยู่ในชาม ถ้าเป็นไส้กรอกอันเล็กๆ 1 หรือ 2 อัน ก็อาจจะละลายหมดภายใน 25 นาที แต่ถ้าคุณละลายไส้กรอกอันใหญ่ๆ 6 อันหรือมากกว่า ก็อาจจะใช้เวลาเป็นชั่วโมงหรือนานกว่านั้น[11]
- อย่าวางชามไส้กรอกไว้ใต้ก๊อกน้ำนานกว่า 4 ชั่วโมง เพราะแบคทีเรียจะเริ่มเจริญเติบโต
- ใช้ยาฟอกขาวทำความสะอาดชามและอ่างล้างจาน. พอไส้กรอกละลายหมดแล้ว คุณก็ต้องทำความสะอาดชามและอ่างล้างชามให้หมดจด ถ้าคุณไม่ทำความสะอาดชามหรืออ่างล้างจาน แบคทีเรียหรือเชื้อโรคอย่างซาลโมเนลลาก็อาจจะเจริญเติบโตบนพื้นผิวพวกนี้ได้โฆษณา
คำเตือน
- อย่าละลายไส้กรอกหรือผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์อื่นๆ ที่อุณหภูมิห้องเด็ดขาด เพราะแบคทีเรียสามารถเจริญเติบโตบนเนื้อสัตว์ได้ที่อุณหภูมิห้อง
สิ่งของที่ใช้
ใช้ตู้เย็นละลาย
- ตู้เย็น
- เทอร์โมมิเตอร์
- จาน
ใช้ไมโครเวฟละลาย
- ไมโครเวฟ
- จานที่ใช้กับไมโครเวฟได้
- ส้อม
ละลายในชามน้ำอุ่น
- ชาม
- เทอร์โมมิเตอร์
- อ่างล้างจาน
- ก๊อกน้ำ
- ยาฟอกขาว
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://coolcookery.co.uk/faqs/defrosting-sausages/
- ↑ http://www.stilltasty.com/articles/view/9
- ↑ http://coolcookery.co.uk/faqs/defrosting-sausages/
- ↑ http://www.stilltasty.com/articles/view/9
- ↑ http://coolcookery.co.uk/faqs/defrosting-sausages/
- ↑ http://www.stilltasty.com/articles/view/9
- ↑ http://www.stilltasty.com/articles/view/9
- ↑ https://www.thekitchn.com/the-best-way-to-quickly-amp-safely-thaw-frozen-meat-111406
- ↑ https://www.thekitchn.com/the-best-way-to-quickly-amp-safely-thaw-frozen-meat-111406
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.