วิธีการ รักษาโรคถุงน้ำลูกอัณฑะ

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

โรคถุงน้ำลูกอัณฑะคือภาวะที่มีการสะสมของน้ำภายในถุงอัณฑะของผู้ชาย โดยพื้นฐานก็คือการที่น้ำไหลท่วมอยู่รอบๆ อัณฑะข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง[1] โรคนี้เป็นโรคที่พบได้ค่อนข้างบ่อย กล่าวคือมีเด็กชายชาวอเมริกันประมาณ 1-2% ที่เกิดมาพร้อมกับโรคนี้[2] ในกรณีส่วนใหญ่โรคถุงน้ำลูกอัณฑะนั้นไม่ได้เป็นอันตรายและมักจะหายได้เองโดยไม่ต้องรักษา แต่อาการบวมที่ถุงอัณฑะก็ควรได้รับการประเมินจากบุคลากรทางการแพทย์เสมอเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้มีสาเหตุมาจากปัญหาอื่นๆ การรักษาโรคถุงน้ำลูกอัณฑะที่ไม่หายไปเองมักจะต้องอาศัยการผ่าตัด แม้ว่าจะมีวิธีการรักษาด้วยตนเองที่ช่วยได้บ้างเหมือนกัน

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 2:

เข้าใจและรับมือกับโรคถุงน้ำลูกอัณฑะ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 สังเกตสัญญาณและอาการ.
    สัญญาณแรกของโรคถุงน้ำลูกอัณฑะก็คือ ถุงอัณฑะบวมหรือใหญ่ขึ้นแต่ไม่เจ็บ ซึ่งเกิดจากการสะสมของน้ำรอบอัณฑะข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง[3] เด็กทารกมักจะไม่ค่อยมีอาการแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคถุงน้ำลูกอัณฑะ และส่วนใหญ่ก็หายได้เองโดยไม่ต้องรักษาก่อนที่เด็กจะอายุ 1 ขวบด้วยซ้ำ ในทางตรงกันข้ามผู้ชายที่เป็นโรคถุงน้ำลูกอัณฑะสุดท้ายแล้วอาจจะรู้สึกไม่สบายตัวเนื่องจากถุงอัณฑะบวมและหนัก ซึ่งในบางรายที่มีอาการรุนแรงก็อาจจะทำให้นั่งหรือเดิน/วิ่งลำบากด้วย
    • อาการปวดหรือไม่สบายตัวจากโรคถุงน้ำลูกอัณฑะมักจะสัมพันธ์กับขนาด ยิ่งใหญ่มากเท่าไหร่คุณก็จะยิ่งรู้สึกได้มากขึ้นเท่านั้น
    • โรคถุงน้ำลูกอัณฑะมักจะมีขนาดเล็กในตอนเช้า (ตอนตื่นนอน) และจะยิ่งบวมขึ้นระหว่างวัน[4] การบีบรัดอาจทำให้ถุงน้ำลูกอัณฑะมีขนาดใหญ่ขึ้น
    • เด็กที่คลอดก่อนกำหนดจะยิ่งมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคถุงน้ำลูกอัณฑะ[5]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 อดทนกับโรคถุงน้ำลูกอัณฑะ.
    ในกรณีส่วนใหญ่ของเด็กทารก วัยรุ่น และผู้ชายในวัยผู้ใหญ่ โรคถุงน้ำลูกอัณฑะสามารถหายได้เองโดยไม่ต้องรักษา[6] การอุดตันหรือการคั่งบริเวณใกล้ๆ กับลูกอัณฑะนั้นจะหายไปเอง และถุงน้ำลูกอัณฑะก็จะระบายออกมาแล้วซึมเข้าสู่ร่างกาย เพราะฉะนั้นถ้าคุณสังเกตว่าถุงอัณฑะใหญ่ขึ้นและมันไม่เจ็บหรือไม่ได้มีปัญหาเวลาปัสสาวะหรือมีเพศสัมพันธ์ ก็ให้รอมันหายเอง
    • สำหรับเด็กทารก โรคถุงน้ำลูกอัณฑะมักจะหายไปเองภายใน 1 ปีหลังจากที่เขาเกิด
    • สำหรับผู้ชาย โรคถุงน้ำลูกอัณฑะมักจะค่อยๆ หายไปเองภายใน 6 เดือนแล้วแต่สาเหตุ ถ้ายิ่งใหญ่ก็อาจจะยิ่งใช้เวลานานหน่อย แต่ไม่ควรเกิน 1 ปีโดยที่ไม่ต้องเข้ารับการรักษา
    • อย่างไรก็ตามโรคถุงน้ำลูกอัณฑะในเด็กและวัยรุ่นนั้นอาจจะเกิดจากการติดเชื้อ อาการบาดเจ็บ ภาวะอัณฑะบิดขั้ว หรือเนื้องอก เพราะฉะนั้นคุณต้องให้แพทย์เป็นคนตรวจเพื่อยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาเหล่านี้
    • โรคถุงน้ำลูกอัณฑะก็เหมือนกับปมประสาทที่เต็มไปด้วยน้ำที่ขึ้นอยู่ในปลอกหุ้มเอ็นใกล้ๆ ข้อต่อ และจากนั้นก็จะค่อยๆ หายไปเอง
  3. How.com.vn ไท: Step 3 แช่อ่างน้ำผสมดีเกลือฝรั่ง.
    ถ้าคุณสังเกตว่าลูกอัณฑะ/ถุงอัณฑะของคุณบวมโดยที่ ไม่เจ็บ ให้แช่น้ำอุ่นที่ผสมดีเกลือฝรั่งอย่างน้อย 2-3 ถ้วย[7] นอนแช่อ่างอาบน้ำ 15-20 นาทีโดยอ้าขาเล็กน้อยเพื่อให้น้ำไหลคลุมถุงอัณฑะ ความอุ่นของน้ำจะไปกระตุ้นการเคลื่อนไหวของของเหลวในร่างกาย (ซึ่งอาจจะช่วยลดการอุดตัน) และเกลือก็ช่วยดูดซับของเหลวผ่านทางผิวหนังและลดอาการบวม นอกจากนี้ดีเกลือฝรั่งยังอุดมไปด้วยแมกนีเซียมที่ช่วยทำให้กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นผ่อนคลาย อีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการกดเจ็บได้อีกด้วย
    • ถ้าอาการปวดของคุณเกี่ยวข้องกับโรคถุงน้ำลูกอัณฑะ การให้ถุงอัณฑะสัมผัสกับน้ำอุ่น (หรือความร้อนจากแหล่งอื่น) ก็อาจจะทำให้ยิ่งอักเสบและทำให้อาการแย่ลงได้
    • อย่าให้น้ำในอ่างร้อนเกินไป (เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำร้อนลวก) และอย่านั่งแช่ในอ่างนานเกินไป (เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ)
  4. How.com.vn ไท: Step 4 หลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บที่อัณฑะและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์....
    หลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บที่อัณฑะและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์. สาเหตุของโรคถุงน้ำลูกอัณฑะในเด็กทารกนั้นยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่ก็มีการสันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากการสะสมของน้ำที่เกิดจากการไหลเวียนที่ไม่ดีเนื่องจากท่าของเด็กทารกตอนที่ยังอยู่ในมดลูก อย่างไรก็ตามในเด็กผู้ชายและผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่นั้น สาเหตุมักจะเกี่ยวข้องกับอาการบาดเจ็บที่ถุงอัณฑะหรือการติดเชื้อ[8] ซึ่งอาการบาดเจ็บที่ว่านี้อาจจะเกิดจากการเล่นมวยปล้ำ ศิลปะการต่อสู้ ปั่นจักรยาน และกิจกรรมทางเพศต่างๆ ส่วนการติดเชื้อในอัณฑะ/ถุงอัณฑะนั้นมักจะเกี่ยวข้องกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์[9] เพราะฉะนั้นให้ป้องกันถุงอัณฑะไม่ให้บาดเจ็บและมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย
    • ถ้าคุณเล่นกีฬาที่ต้องมีการปะทะ ให้ใส่กางเกงในไส้เลื่อนที่มีถ้วยพลาสติกคอยป้องกันไม่ให้ถุงอัณฑะบาดเจ็บเสมอ
    • ใช้ถุงยางอนามัยอันใหม่ทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์เพื่อลดโอกาสเสี่ยงที่จะติดเชื้อ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ไม่ได้ลามไปถึงลูกอัณฑะเสมอไปก็จริง แต่ก็พบได้บ่อยเช่นเดียวกัน
  5. How.com.vn ไท: Step 5 รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ต้องไปพบแพทย์.
    คุณควรพาทารกน้อยไปพบแพทย์ถ้าถุงอัณฑะยังไม่หายบวมหลังจากผ่านไป 1 ปีหรือถ้ามันยังใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ[10] ผู้ชายควรไปพบแพทย์หากโรคถุงน้ำลูกอัณฑะยังคงอยู่หลังจากผ่านไปแล้ว 6 เดือน หรือมันใหญ่จนกระทั่งทำให้เกิดอาการปวด/ไม่สบายตัวหรือผิดรูป
    • การติดเชื้อที่ลูกอัณฑะไม่เหมือนกับโรคถุงน้ำลูกอัณฑะ แต่มันอาจเป็นสาเหตุของโรคถุงน้ำลูกอัณฑะได้ การติดเชื้อที่ลูกอัณฑะทำให้เกิดอาการปวดรุนแรงและควรได้รับการรักษาเพราะว่ามันเพิ่มความเสี่ยงที่คุณจะเป็นหมัน คุณควรเข้ารับการรักษาทางการแพทย์เมื่อถุงอัณฑะบวมและมีไข้
    • ถ้าโรคถุงน้ำลูกอัณฑะมีผลต่อการวิ่ง เดิน หรือนั่ง ก็ได้เวลาไปพบแพทย์แล้ว
    • โรคถุงน้ำลูกอัณฑะไม่มีผลต่อความสามารถในการมีบุตร
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 2:

เข้ารับการรักษาทางการแพทย์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจ.
    ถ้าโรคถุงน้ำลูกอัณฑะคงอยู่นานกว่าปกติหรือทำให้เกิดอาการปวดหรืออาการอื่นๆ คุณก็ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจ แม้ว่าโรคถุงน้ำลูกอัณฑะจะไม่ใช่โรคร้ายแรงก็จริง แต่แพทย์ก็ต้องตรวจเพื่อให้แน่ใจว่ามันไม่ใช่ปัญหาร้ายแรงอื่นๆ ที่มีอาการคล้ายกัน เช่น ไส้เลื่อนบริเวณขาหนีบ ภาวะหลอดเลือดดำอัณฑะขอด การติดเชื้อ เนื้องอกที่ไม่เป็นอันตราย หรือมะเร็งที่ลูกอัณฑะ[11] เมื่อได้รับการวินิจฉัยแล้วว่าเป็นโรคถุงน้ำลูกอัณฑะ คุณก็มีทางเลือกเดียวคือต้องผ่าตัด เพราะการรักษาด้วยยานั้นไม่ได้ผล
    • แพทย์อาจจะใช้การอัลตราซาวด์เพื่อการวินิจฉัย เอ็มอาร์ไอ หรือซีทีสแกนเพื่อให้เห็นชัดว่ามีอะไรอยู่ในถุงอัณฑะ
    • การส่องไฟสว่างๆ เข้าไปที่ถุงอัณฑะก็สามารถบอกได้แล้วว่าของเหลวข้างในใส (ซึ่งก็คือเป็นโรคถุงน้ำลูกอัณฑะ) หรือขุ่น ซึ่งอาจจะเป็นเลือดและ/หรือน้ำหนอง
    • การตรวจเลือดและปัสสาวะก็ช่วยยืนยันได้ว่าคุณไม่ได้ติดเชื้อ เช่น เอพิดิไดมิสอักเสบ โรคคางทูม หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ
  2. How.com.vn ไท: Step 2 เอาของเหลวออกมา.
    เมื่อได้รับการวินิจฉัยแล้วว่าเป็นโรคถุงน้ำลูกอัณฑะ วิธีการที่เจ็บตัวน้อยที่สุดก็คือการระบายของเหลวออกจากถุงอัณฑะโดยการใช้เข็ม ซึ่งเรียกว่าการเจาะแล้วดูดออกด้วยเข็ม[12] หลังจากฉีดยาชาเฉพาะที่แล้ว แพทย์ก็จะใช้เข็มสอดเข้าไปในถุงอัณฑะเพื่อเจาะถุงน้ำออก จากนั้นของเหลวใสๆ ก็จะไหลออกมา ถ้าของเหลวไหลออกมาเป็นเลือดและ/หรือเต็มไปด้วยน้ำหนอง ก็แสดงว่าเป็นอาการบาดเจ็บ การติดเชื้อ หรืออาจจะเป็นมะเร็ง ขั้นตอนนี้ใช้เวลาครู่เดียวและไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน แค่ประมาณ 1 วันเท่านั้น
    • การเจาะแล้วดูดออกด้วยเข็มเพื่อรักษาโรคถุงน้ำลูกอัณฑะนั้นไม่ได้ทำกันบ่อยนัก เพราะว่าของเหลวมันมักจะกลับไปสะสมอีกครั้ง ทำให้ต้องรักษากันอีกรอบ[13]
    • บางครั้งแพทย์อาจจะต้องสอดเข็มเข้าไปตรงบริเวณขาหนีบ (ไข่ดัน) ถ้าถุงน้ำขึ้นอยู่เหนือถุงอัณฑะหรือมีบางส่วนอยู่นอกถุงอัณฑะ
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ผ่าตัดเอาถุงน้ำอัณฑะออกไปทั้งหมด.
    วิธีจัดการกับโรคถุงน้ำลูกอัณฑะที่กลับมาเป็นบ่อยๆ และ/หรือแสดงอาการที่แพร่หลายมากที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดก็คือ การผ่าตัดเอาถุงน้ำอัณฑะออกไปพร้อมกับของเหลว เรียกว่าการผ่าตัดถุงน้ำลูกอัณฑะ[14] วิธีนี้จะทำให้มีโอกาสกลับไปเป็นอีกแค่ 1% เท่านั้น[15] ซึ่งการผ่าตัดอาจจะใช้มีดผ่าตัดหรือผ่านกล้อง ซึ่งจะมีกล้องเล็กจิ๋วติดอยู่กับอุปกรณ์สำหรับผ่าตัดขนาดยาว การผ่าตัดถุงน้ำลูกอัณฑะนั้นมักจะทำที่คลินิกผู้ป่วยนอกโดยการให้ยาสลบทั่วไป การพักฟื้นมักจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์หรือนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับว่าต้องผ่าเข้าไปในผนังท้องหรือไม่
    • ถ้าเป็นเด็กทารก ศัลยแพทย์มักจะผ่าเข้าไปในขาหนีบ (บริเวณไข่ดัน) เพื่อระบายน้ำออกแล้วเอาถุงน้ำออกมา จากนั้นก็จะเย็บเพื่อให้ผนังกล้ามเนื้อแข็งแรง ซึ่งโดยพื้นฐานก็เหมือนกับการผ่าตัดไส้เลื่อนนั่นเอง
    • ในผู้ใหญ่ ศัลยแพทย์มักจะผ่าเข้าไปในถุงอัณฑะเพื่อระบายน้ำออก แล้วเอาถุงน้ำลูกอัณฑะออกมา[16]
    • หลังจากผ่าตัดถุงน้ำลูกอัณฑะแล้ว คุณอาจจะยังต้องมีท่อสอดอยู่ในถุงอัณฑะเพื่อระบายน้ำส่วนเกินต่ออีก 2-3 วัน
    • คุณควรอาจจะต้องผ่าตัดซ่อมแซมเพื่อลดโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นไส้เลื่อนตรงบริเวณที่ถูกตัดออกจากเส้นเลือด แล้วแต่ประเภทของถุงน้ำลูกอัณฑะ
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปขณะพักฟื้น.
    การพักฟื้นหลังการผ่าตัดถุงน้ำลูกอัณฑะนั้นส่วนใหญ่ใช้เวลาไม่นานนัก โดยปกติแล้วผู้ชายที่สุขภาพดีจะสามารถกลับบ้านได้หลังจากผ่าตัดไปแล้ว 2-3 ชั่วโมง น้อยมากที่จะต้องนอนที่โรงพยาบาล[17] เด็กๆ ควรจำกัดกิจกรรม (ไม่ทำอะไรหนักๆ) และนอนพักบนเตียงหรือโซฟาประมาณ 48 ชั่วโมงหลังจากการผ่าตัด ผู้ชายวัยผู้ใหญ่ก็ควรปฏิบัติตามคำแนะนำนี้เช่นเดียวกัน และชะลอกิจกรรมทางเพศไปสัก 1 สัปดาห์เพื่อความปลอดภัย
    • หลังการผ่าตัดถุงน้ำลูกอัณฑะ ผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถกลับไปทำกิจกรรมตามปกติได้อีกครั้งหลังจากผ่านไปแล้ว 4-7 วัน[18]
    • อาการแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้จากการผ่าตัดที่ต้องระมัดระวังได้แก่ อาการแพ้ยาสลบ (หายใจลำบาก) เลือดออกในหรือนอกถุงอัณฑะไม่หยุด และการติดเชื้อ
    • สัญญาณของการติดเชื้อแบคทีเรียได้แก่ การปวดบริเวณขาหนีบ การอักเสบ รอยแดง กลิ่นเหม็น และอาจจะมีไข้อ่อนๆ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • อย่าอายที่จะตรวจถุงอัณฑะด้วยตัวเองเป็นครั้งคราว เพราะมันเป็นวิธีการที่ดีในการตรวจสอบปัญหา (เช่น โรคถุงน้ำลูกอัณฑะ) ก่อนจะกลายไปเป็นอาการอื่นๆ ที่ร้ายแรงกว่านี้
  • แม้ว่าจะพบได้ไม่บ่อย แต่โรคถุงน้ำลูกอัณฑะอาจเกิดจากการติดเชื้อพยาธิตัวกลมในกลุ่มฟิลาเรีย (ปรสิต) ที่อัณฑะ ซึ่งทำให้เกิดอาการบวมอย่างรุนแรงและโรคเท้าช้าง
  • ในการคลายความไม่สบายตัวหลังการผ่าตัดถุงน้ำลูกอัณฑะ ให้ใช้อุปกรณ์พยุงถุงอัณฑะและน้ำแข็งป่น (ห่อในผ้าบางๆ) เพื่อลดอาการบวม
  • โรคถุงน้ำลูกอัณฑะบางครั้งก็เกิดขึ้นพร้อมกับไส้เลื่อนบริเวณขาหนีบ แต่ว่าตามปกติแล้วการผ่าตัดเพียงครั้งเดียวก็สามารถรักษาทั้งสองโรคได้พร้อมกัน
โฆษณา

คำเตือน

  • ถ้าคุณรู้สึกปวดและถุงอัณฑะบวมขึ้นอย่างรวดเร็ว ให้ไปพบแพทย์ทันที
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Robert Dhir, MD
ร่วมเขียน โดย:
ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบขับถ่ายปัสสาวะและศัลยแพทย์ทางเดินปัสสาวะที่มีใบรับรองจากคณะกรรมการ
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Robert Dhir, MD. ดร. โรเบิร์ต ธีร์ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านระบบขับถ่ายปัสสาวะและศัลยแพทย์ทางเดินปัสสาวะที่มีใบรับรองจากคณะกรรมการ และผู้ก่อตั้ง HTX Urology ในเมืองฮุสตัน รัฐเท็กซัส ด้วยประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ดร. ธีร์มีความเชี่ยวชาญครอบคลุมถึงการรักษาต่อมลูกหมากโต (UroLift) โรคนิ่วในไต การจัดการผ่าตัดมะเร็งทางเดินปัสสาวะ และสุขภาพของผู้ชาย (สมรรถภาพทางเพศ เทสโทสเตอโรนต่ำ และภาวะมีบุตรยาก) คลินิกของเขาขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์ความเป็นเลิศสำหรับกระบวนการทำ UroLift และเป็นผู้บุกเบิกกระบวนการแบบไม่ต้องผ่าตัดสำหรับภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศโดยใช้การบำบัดด้วยคลื่นที่ได้รับสิทธิบัตร เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีและปริญญาทางการแพทย์ต่างๆ จากมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ และได้รับรางวัลเกียรตินิยมในด้านการศึกษาเตรียมแพทย์ ระบบทางเดินปัสสาวะ ศัลยกรรมกระดูก และจักษุวิทยา ดร. ธีร์เคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าแพทย์ประจำบ้านระหว่างที่เขาเป็นแพทย์ประจำบ้านศัลยกรรมระบบทางเดินปัสสาวะที่มหาวิทยาลัยเท็กซัสที่ฮุสตัน / MD Anderson Cancer Center รวมทั้งสำเร็จการเป็นแพพทย์ฝึกหัดด้านศัลยกรรมทั่วไป เขาได้รับเลือกให้เป็น Top Doctor in Urology ในปีพ.ศ. 2561 ถึง 2562, หนึ่งในสามอันดับแพทย์ที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับระบบปัสสาวะที่ดีที่สุดในปีพ.ศ. 2562 และ 2563 สำหรับ Houston Texas และ Texas Monthly ได้เสนอชื่อเขาให้อยู่ในรายชื่อ Texas Super Doctors Rising Stars ในปีพ.ศ. 2562 และ 2563 บทความนี้ถูกเข้าชม 17,626 ครั้ง
หมวดหมู่: สุขภาพ
มีการเข้าถึงหน้านี้ 17,626 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา