ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

คนที่มีอัธยาศัยไมตรีที่ดี ย่อมตื่นเต้นเวลาที่จะได้รู้จักเพื่อนใหม่ และมีท่าทีเปิดกว้างน่าเข้าหาสำหรับเพื่อนๆ และคนรู้จักเสมอ อีกทั้งยังสามารถพูดคุยทักทายกับใครก็ได้ เช่น คนที่เพิ่งเจอกันบนเครื่องบิน คนที่ต่อแถวรอในซูเปอร์มาร์เก็ต คนที่ยืนโหนรถเมล์อยู่ด้วยกัน ฯลฯ มันฟังดูเป็นเรื่องยากสำหรับคุณล่ะสิ เอาน่า อย่ากังวลไปเลย การเป็นคนมีอัธยาศัยไมตรีที่ดีนั้น ขึ้นอยู่แค่เพียงว่า คุณต้องสามารถทำให้คนรอบข้างรู้สึกผ่อนคลายได้ ราวกับว่าคุณชอบพูดคุยกับพวกเขาจริงๆ แต่จะเริ่มต้นจากจุดไหนดีล่ะ

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

ทำตัวให้น่าเข้าหา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ยิ้มให้มากขึ้น.
    คุณไม่จำเป็นต้องฉีกยิ้มให้ทุกคน เพียงเพื่อที่จะดูเป็นคนมีอัธยาศัยไมตรีที่ดี อย่างไรก็ดี พยายามตั้งเป้าไว้ว่า ในแต่ละวันคุณต้องยิ้มให้มากขึ้นประมาณ 30% ไม่ว่าจะยิ้มให้คนสนิท คนรู้จัก หรือคนแลปกหน้าที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของคุณก็ตาม จะช่วยให้คุณดูน่าเข้าหามากขึ้น และดูเป็นคนมีอัธยาศัยไมตรีที่ดีได้ คุณยังจำคนที่คุณเคยเจอ ซึ่งเขาหรือเธอกลับแกล้งหันไปทางอื่นเหมือนกับคุณไร้ตัวตนได้หรือเปล่า คุณรู้สึกยังไงล่ะตอนนั้น หากคุณต้องการให้คนอื่นรู้สึกดีที่ได้พูดคุยกับคุณ คุณก็ต้องส่งยิ้มให้พวกเขาก่อน
    • คุณอาจจะตั้งเป้าไว้ว่า จะยิ้มให้มากขึ้นระหว่างการพูดคุยกับผู้อื่นด้วยก็ได้
    • ฝึกยิ้มทุกวัน แม้ในเวลาที่อยู่เพียงลำพัง การฉีกยิ้มแม้จะพยายามทำโดยไม่ใช่การยิ้มออกมาโดยธรรมชาติก็ตาม จะทำให้สมองหลั่งสารที่ทำให้รู้สึกดี ทำให้คุณอารมณ์ดีขึ้น[1]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 มีภาษากายแบบเปิดใจ.
    หากคุณต้องการให้ผู้อื่นรู้สึกว่า คุณเป็นคนน่าเข้าหาและเปิดกว้างสำหรับการสนทนา คุณก็ต้องสื่อด้วยภาษากายแบบเปิดใจให้ผู้อื่น ซึ่งมีตัวอย่างดังต่อไปนี้ :
    • วางขาคู่กัน แทนที่ไขว้มัน
    • วางท่าทางให้เหมาะสม แทนที่จะห่อตัว
    • วางแขนไว้ข้างลำตัว ไม่กอดหน้าอก
    • เอนตัวเข้าหาผู้อื่นเล็กน้อย
  3. How.com.vn ไท: Step 3 กำจัดสิ่งรบกวน.
    อีกวิธีหนึ่งในการดูเป็นคนมีอัธยาศัยไมตรีที่ดี คือ พยายามสังเกตความเป็นไปรอบตัวคุณ แทนที่จะมัวแต่เล่นเกมแคนดี้ครัชให้ผ่านด่านในไอโฟน หากคุณเอาแต่เล่นโทรศัพท์ ฝังจมูกลงบนหน้าหนังสือ มองดูแต่หน้าจอคอมฯ หรือแม้กระทั่งสะกิดเล็บตัวเองเล่น เมื่อนั้ยคนอื่นย่อมนึกว่าคุณกำลังมีเรื่องน่สนใจมากกว่าการพูดคุยกับพวกเขา ดังนั้น คุณควรมองไปข้างหน้า ส่งยิ้ม และเตรียมพร้อมสำหรับทุกสิ่งที่กำลังจะผ่านเข้ามา คุณจะแปลกใจเมื่อพบว่ามีคนรู้สึกถึงการมีอัธยาศัยไมตรีที่ดีของคุณมากขึ้นแค่ไหน และพวกเขาถูกดึงดูดเข้าหาคุณมากมายเพียงใด
    • การเอาแต่กดโทรศัพท์เล่นเป็นการเสียมารยาท โดยเฉพาะ ในเวลาที่คุณกำลังสนทนากับผู้อื่น
  4. How.com.vn ไท: Step 4 สบสายตา.
    นี่เป็นสิ่งที่คุณควรฝึกทำไว้ ไม่ว่าจะเป็นเวลาที่ทักทายคนเดินผ่านทั่วไป หรือในเวลาที่กำลังสนทนากับอีกฝ่ายแบบใกล้ชิดกันก็ตาม คุณไม่จำเป็นต้องมองตาพวกเขาตลอดเวลาเพียงเพื่อที่จะดูมีอัธยาศัยไมตรีที่ดี แต่คุณควรพยายามมองตาคู่สนทนาบ่อยๆ เพื่อให้พวกเขารู้สึกว่าคุณใส่ใจ และยังรู้สึกด้วยว่าพวกเขามีค่าคู่ควรกับเวลาของคุณ
    • หากคุณเดินสวนกับใครบางคนตรงทางเดิน และมีกันอยู่แค่สองคน ทำไมไม่มองตาพวกเขาและกล่าวคำทักทาย แทนที่จะคอยก้มมองพื้น หรือทำเหมือนกับว่าเล็บมือคุณเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากกว่า
  5. How.com.vn ไท: Step 5 เส้นตื้นสักนิด.
    การเป็นคนหัวเราะง่ายนั้น เป็นลักษณะอย่างหนึ่งของคนที่มีอัธยาศัยไมตรีที่ดี คุณไม่จำเป็นต้องหัวเราะไปหมดทุกเรื่อง ไม่งั้นคนอื่นจะรู้สึกว่าคุณเสแสร้ง แต่คุณควรตั้งเป้าไว้ว่าจะหัวเราะให้มากขึ้นอีกสัก 20% โดยเฉพาะในเวลาที่อีกฝ่ายพยายามพูดตลก หรือทำตัวให้คุณตลก รวมถึงเวลาที่คุณรู้สึกว่าพวกเขาต้องการกำลังใจและความมั่นใจก็ตาม การหัวเราะมากขึ้น ไม่เพียงแต่จะทำให้การสนทนาเป็นไปในเชิงบวกมากขึ้น แต่ผู้คนรอบข้างหรือแม้แต่คนที่กำลังเดินผ่าน จะเห็นได้ว่าคุณเป็นคนที่มีอัธยาศัยไมตรีที่ดีกว่าเดิม
    • การหัวเราะ และ ยิ้มมากขึ้น มันดูเข้ากันดีใช่ไหมล่ะ
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

สนทนาอย่างมีอัธยาศัยขั้นเทพ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 คุยเล่นให้เชี่ยวชาญ.
    การรู้วิธีในการคุยเล่นแบบสั้นๆ กับผู้อื่น จะช่วยให้คุณดูมีอัธยาศัยไมตรีที่ดีได้มากทีเดียว ทั้งนี้ คุณอาจจะไม่ค่อยอยากทำเช่นนั้น เพราะกำลังยุ่ง สนใจในเรื่องอื่นอยู่ หรืออาจจะแค่รู้สึกเขินก็ตาม แต่มันไม่ได้ใช้ความพยายามมากขนาดนั้นหรอก คุณแค่ต้องทำให้อีกฝ่ายรู้สึกผ่อนคลายและหาเรื่องที่คล้ายคลึงกับคุณ จากนั้น ก็พูดคุยเพื่อเปิดเผยตัวเองสักนิด เมื่อคุณรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นแล้ว ก็สามารถต่อยอดพูดคุยในเรื่องส่วนตัวที่ลึกซึ้งมากขึ้นได้ต่อไป
    • บางคนอาจคิดว่าการคุยเล่นเป็นสิ่งที่ฉาบฉวย แต่มันไม่ใช่อย่างนั้น ทุกความสัมพันธ์และมิตรภาพ ย่อมเริ่มจากการคุยเล่นกันไม่มากก็น้อย จู่ๆ คุณจะไปเริ่มพูดคุยถึงความหมายของชีวิตกับคนแปลกหน้าในทันทีเลยได้เหรอ
    • คุณสามารถคุยเล่นกับพนักงานทั่วไปเพื่อแสดงอัธยาศัยก็ยังได้ เช่น อาจคุยเรื่องดินฟ้าอากาศในวันนั้น หรือเปรยถึงอาการติดลูกอมรสหวานของคุณ รวมถึงเอ่ยชมเครื่องประดับที่เขาหรือเธอสวมใส่อยู่ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณมีความรู้สึกในเชิงบวก และคุณจะรู้สึกว่าเวลาในแต่ละวันผ่านไปเร็วเหลือเกิน
    • ก็เหมือนทักษะด้านอื่นนั่นแหละ มันต้องฝึกถึงจะเชี่ยวชาญ พยายามฝึกคุยเล่นให้บ่อยที่สุดตลอดทั้งวัน อาจเริ่มจากเอ่ยถาม ("ได้อ่านหนังสือเล่มนี้หรือยัง มันดีหรือเปล่า") หรือออกความเห็นของที่อยู่รอบตัว ("โอ้โห ดอกไม้ดอกนี้มันบานสวยเลย! นี่เข้าหน้าร้อนแล้วหรือเนี่ย")
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ถามคนอื่นในเรื่องเกี่ยวกับพวกเขาเอง.
    หากคุณต้องการเป็นคนมีอัธยาศัยไมตรีที่ดี คุณก็ต้องแสดงความสนใจในตัวผู้อื่นอย่างจริงจัง พวกเขาต้องการแน่ใจว่า คุณสนใจในตัวพวกเขา รวมถึงสิ่งที่พวกเขาคิดและทำจริงๆ การจะแสดงให้เห็นว่าคุณมีอัธยาศัยไมตรีที่ดี คุณต้องสามารถถามคำถามง่ายๆ ทั่วไปเพื่อแสดงว่าคุณใส่ใจ อย่าถามเรื่องส่วนตัวมากเกินไป ไม่งั้นพวกเขาจะรู้สึกถูกคุกคาม พยายามจำกัดในอยู่ในหัวข้อเดิมๆ สักพักก่อน จากนั้นค่อยเปลี่ยนหัวข้อไปหลังจากที่รู้จักพวกเขาดีขึ้นแล้ว โดยคุณอาจลองเริ่มด้วยหัวข้อต่อไปนี้:[2]
    • สัตว์เลี้ยง
    • ทีมกีฬาที่ชื่นชอบ
    • งานอดิเรกที่ชื่นชอบ
    • วงดนตรี ภาพยนตร์ และหนังสือที่ชื่นชอบ
    • อาหารและเครื่องดื่มที่ชอบ
    • ญาติพี่น้อง
    • แผนการเที่ยวในช่วงสุดสัปดาห์
    • เรื่องงานหรือเรื่องเรียน
    • สิ่งที่พวกเขาตั้งเป้าในชีวิต
    • สถานที่ท่องเที่ยวที่เขาชอบหรือใฝ่ฝันจะไป
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ชื่นชมผู้อื่น.
    จงกล่าวชมผู้คนเฉพาะเมื่อคุณรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ จะช่วยให้คุณดูเหมือนและรู้สึกมีอัธยาศัยไมตรีที่ดีมากขึ้น การเอ่ยชมผู้อื่นเพียงเล็กน้อยในเวลาที่เหมาะสม ย่อมทำให้คนๆ นั้นมองคุณว่า “เขาช่างนิสัยดีจริงๆ” และยังทำให้พวกเขารู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขมากขึ้นเวลาอยู่ใกล้คุณ คุณไม่จำเป็นต้องกล่าวชมในเรื่องที่จริงจังมากไปโดยเฉพาะในช่วงแรกๆ โดยคุณอาจกล่าวชมเรื่องเครื่องประดับ เสื้อผ้า หรือทรงผมของพวกเขา หรือเพียงแค่ชมว่าพวกเขาเป็นคนมีอารมณ์ขันก็พอแล้ว
    • เวลาที่กำลังคุยกับคนอื่น ลองถามตัวเองดูว่า มีเรื่องเจ๋งๆ เรื่องใดในตัวคนๆ นี้ที่ฉันอยากจะกล่าวชมสักหนึ่งเรื่อง ซึ่งคุณย่อมจะนึกออกได้ไม่ยาก
  4. How.com.vn ไท: Step 4 เรียกชื่อของเขาหรือเธอ เวลาคุยกัน.
    นี่เป็นสิ่งที่ได้ผลดีในการทำตัวให้ดูมีอัธยาศัยไมตรีที่ดี และยังทำให้คนอื่นชอบคุณมากขึ้นด้วย เวลาที่คุณเรียกชื่อคนอื่น มันเป็นการแสดงให้คนๆ นั้นเห็นว่า คุณมีความใส่ใจพวกเขาและสามารถจดจำพวกเขาได้ในฐานะบุคคลหนึ่ง แต่คุณไม่จำเป็นต้องเรียกบ่อยเกินไปก็ได้ ขอแค่พูดว่า “สวัสดีค่ะ คุณแอน” เวลาทักทายกัน หรือพูดว่า “เราเห็นด้วยกับเธอนะ เบน” ระหว่างที่พูดคุยกัน ก็สามารถทำให้คุณดูเป็นคนมีอัธยาศัยไมตรีที่ดีมากขึ้นแล้ว
    • หากคนที่คุณเพิ่งเจอเป็นครั้งแรกแนะนำชื่อเสียงเรียงนามตัวเอง คุณอาจจะลองเอ่ยเวลาคุยกันในครั้งนั้นสักสองสามครั้ง ก็จะทำให้คุณจำชื่อเขาหรือเธอได้ในคราวต่อไป
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ตระหนักถึงสถานการณ์ที่คุณเย็นชากับผู้อื่นโดยไม่รู้ตัว....
    ตระหนักถึงสถานการณ์ที่คุณเย็นชากับผู้อื่นโดยไม่รู้ตัว. บางคนแสดงความไม่เป็นมิตรออกมาโดยไม่รู้ตัว หากมีใครมาทักทายคุณและเดินเข้าหาคุณช้าๆ ย่อมแสดงว่าพวกเขาอยากจะคุยกับคุณ ซึ่งหากคุณตอบแค่ว่า “เออ” และเดินต่อไป คุณก็กำลังทำตัวเสียมารยาทแล้วล่ะ คุณอาจจะแค่คิดว่า ตนเองรู้สึกเฉยๆ ไม่ได้คิดอะไร หรืออาจกำลังยุ่งอยู่ แต่โดยทั่วไปแล้วพฤติกรรมเช่นนั้นมันแสดงออกถึงความไม่เป็นมิตร
    • หากคุณไม่เอามือยันประตูไว้เผื่อคนที่เดินตามหลังมา ไม่ยิ้มตอบเวลาที่พวกเขายิ้ม และไม่ยอมมองไปในทิศทางของคนที่คุณไม่รู้จัก แม้ว่าจะกำลังยืนติดกับเขาหรือเธอก็ตาม คุณก็กำลังเสียมารยาทโดยไม่รู้ตัวเช่นกัน
    • การทำตัวสุภาพและมีมารยาทเล็กๆ น้อยๆ อาจช่วยให้คุณเชื่อมต่อกับผู้อื่นได้ดีขึ้น แค่เอ่ย "ขอบคุณ" หรือเปิดประตูให้ผู้อื่นก็ช่วยให้เขามีวันที่สดใสขึ้นและอาจนำไปสู่การพูดคุยฉันมิตร
  6. How.com.vn ไท: Step 6 เน้นคุยแต่เรื่องเชิงบวก.
    เวลาที่คุณกำลังสนทนากับผู้อื่น พยายามจดจ่อที่เรื่องสร้างสรรค์ แทนที่จะเอาแต่บ่นเรื่องานหรือเรื่องเรียน ตัดพ้อเกี่ยวกับเรื่องแย่ๆ ที่เกิดกับคุณ หรือเพียงแค่พูดเรื่องเชิงลบทั่วๆ ไป คุณควรพูดถึงเรื่องดีๆ ที่เพิ่งเกิดกับคุณไม่กี่วันก่อน พูดเรื่องความตื่นเต้นยินดีที่กำลังจะเกิดขึ้น หรือแม้แต่เรื่องขำๆ ที่คุณเพิ่งได้ดูมาจากทีวี การพูดคุยเรื่องที่สร้างสรรค์ จะทำให้คุณดูมีอัธยาศัยไมตรีที่ดีขึ้น เพราะจะทำให้คุณดูเป็นสนุกและมีชีวิตชีวา ซึ่งคนส่วนใหญ่ชอบที่ตะพูดคุยด้วย
    • คุณไม่จำเป็นต้องเสแสร้งแกล้งเป็นคนอื่น เพียงเพื่อที่จะพยายามหลีกเลี่ยงเรื่องแย่ๆ ในการพูดคุยกับอีกฝ่าย
    • พยายามเลี่ยงหัวข้อที่ชวนขัดแย้ง อย่างศาสนาและการเมือง
    • แน่นอนว่า หากมีเรื่องเศร้าๆ เกิดขึ้น หรือคุณรู้สึกกำลังเสียใจจริงๆ ก็แสดงออกมาได้ แต่พยายามพูดเรื่องเชิงบวกสักสองสามเรื่อง ทุกครั้งที่พูดเรื่องเชิงลบหนึ่งเรื่อง เพื่อให้คุณดูมีอัธยาศัยไมตรีที่ดี
  7. How.com.vn ไท: Step 7 เปิดใจกว้าง.
    ส่วนหนึ่งของการเป็นคนมีอัธยาศัยไมตรีที่ดี คือการแสดงด้านที่อ่อนไหวของตัวเอง และเปิดเผยเรื่องราวบางอย่างของตนเองให้ผู้อื่นรู้ คุณไม่จำเป็นต้องเปิดเผยเรื่องราวเชิงลึก หรือความลับอันดำมืดของตนเองก็ได้ ขอแค่เอ่ยถึงเรื่องน่าอายเล็กน้อย หรือความเป็นเด็ก และพฤติกรรมหลุดโลกบางอย่างของตัวเอง ก็สามารถเอาชนะใจผู้อื่นได้แล้ว แถมยังช่วยสื่อให้เห็นว่าคุไม่ได้ซีเรียสกับตัวเองมากนักและผ่อนคลายมากพอที่จะเล่าให้ผู้อื่นฟังได้ ต่อไปนี้ เป็นตัวอย่างของเรื่องที่คุณอาจแชร์กับผู้อื่นได้อีก:
    • สัตว์เลี้ยงในวัยเด็ก
    • ทริปท่องเที่ยวแบบหลุดโลก
    • เรื่องที่คุณแกล้งพี่น้องในบ้าน
    • ความผิดพลาดขำๆ ของตนเอง
    • กิจกรรมที่คุณอยากทำมานานแล้ว
    • ประสบการณ์ในการทำเรื่องที่ไม่คุ้นเคยเป็นครั้งแรก
    • เรื่องราวในครอบครัว
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

พร้อมลงสนามแห่งการเข้าสังคม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 พยายามพูดคุยกับเพื่อนใหม่.
    นี่คือหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญในการเป็นคนมีอัธยาศัยไมตรีที่ดี คุณอาจแค่เป็นคนขี้อาย หรือคิดว่าคนอื่นไม่คู่ควรที่คุณจะเสียเวลาด้วย หรือคิดว่าพวกเขามีบางอย่างผิดปกติ แต่คุณควรเริ่มเปลี่ยนแปลงความคิดดังกล่าวเสียตั้งแต่วันนี้ เริ่มหันไปคุยกับคนแปลกหน้าที่คุณเพิ่งเจอกันบนเครื่องบิน เพื่อยใหม่ในงานปาร์ตี้ หรือเพื่อนของเพื่อนอีกทีซึ่งบังเอิญพบกัน พยายามแน่ใจก่อนว่าคุณอ่านสถานการณ์ได้ขาดและอีกฝ่ายกำลังอยากคุยกับเพื่อนใหม่จริงๆ จากนั้น ค่อยเริ่มออกตัวด้วยการส่งยิ้มตามสูตร
    • คุณไม่จำเป็นต้องคุยกับคนที่เพิ่งเจอกันใหม่ๆ ทุกคนก็ได้ แต่ยิ่งทำมาก คุณก็ยิ่งรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
    • ลองแนะนำตัวเองกับคนที่คุณไม่รู้จัก หากคุณอยู่ในกลุ่มเพื่อนและมีคนที่เพื่อนๆ คุณรู้จักเดินเข้ามา คุณก็อาศัยสถานการณ์นี้แหละ ในการเริ่มฝึกฝนดังกล่าว
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ชวนคนอื่นให้มากขึ้น.
    ส่วนหนึ่งของการเป็นคนมีอัธยาศัยไมตรีที่ดี คือการแสดงออกว่าคุณอยากใช้เวลาร่วมกับผู้อื่นมากขึ้น ทำยังไงน่ะเหรอ คุณก็แค่ต้องชวนคนอื่นให้ทำกิจกรรมร่วมกับคุณมากขึ้น เช่น เริ่มจากชวนคนกลุ่มเล็กๆ ไปดูหนัง ดูคอนเสิร์ต หรือแม้เพียงแค่ไปนั่งจิบกาแฟและกินไอติมกับคุณ ลองดูว่าคุณจะรู้สึกมีอัธยาศัยไมตรีที่ดีได้มากกว่าเดิมไหม เวลาที่พวกเขาตอบรับคำชวนอย่างเต็มใจ พยายามตั้งเป้าไว้ว่า จะชวนคนให้มาทำกิจกรรมร่วมกับคุณมากขึ้นอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง แล้วคุณจะมีความสุขกับชีวิตในแบบที่มีอัธยาศัยไมตรีที่ดีกว่าเดิม[3]
    • จงหาญกล้า ลองชวนคนรู้จักมานั่งสังสรรค์กับคุณตัวต่อตัว เพื่อที่จะสานสัมพันธ์ให้กระชับมากขึ้น
    • จัดงานปาร์ตี้ โดยชวนคนจากกลุ่มที่หลากหลาย และหาความสุขด้วยการแนะนำให้พวกเขารู้จักกัน
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ตอบรับคำเชิญให้มากขึ้น.
    อีกวิธีหนึ่งในการเป็นคนมีอัธยาศัยไมตรีที่ดีกว่าเดิม คือการตอบรับเวลาที่ผู้อื่นเชิญทำกิจกรรมใดๆ คุณอาจจะรู้สึกกลัวที่จะสังสรรค์กับคนที่ไม่ค่อยสนิทกัน คุณอาจจะมีธุระยุ่ง หรือคุณอาจจะชอบอยู่กับตัวเองมาก อยู่กับไอติมหรืออาหารจานโปรด อยู่กับหนังสือการ์ตูน หรืออยู่กับสัตว์เลี้ยงของตัวเองมากกว่า แต่คุณจำเป็นต้องก้าวข้ามสิ่งเหล่านั้นดูบ้าง และรู้จักตอบตกลงเวลาที่คนอื่นชวนไปดูหนัง ทาอาหารค่ำ หรืองานปาร์ตี้ หากต้องการจะเป็นคนมีอัธยาศัยไมตรีที่ดีจริงๆ[4]
    • คุณไม่จำเป็นต้องตอบตกลงการไปร่วมกิจกรรมที่ดูน่ากลัว แต่หากคราวต่อไป คุณกำลังจะตอบปฏิเสธ ลองถามตัวเองดูสักนิดก่อนว่า อะไรคือแรงจูงใจให้ตอบเช่นนั้น คุณกลัวที่จะสิ่งใหม่ๆ หรือเปล่า เป็นโรคกลัวการเข้าสังคมหรือไม่ หรือแค่ขี้เกียจไปเท่านั้นเอง เหตุผลเหล่านี้ไม่ใช่เหตุผลที่ดีในการพลาดโอกาสมีช่วงเวลาที่ดี
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ใช้ชีวิตทางสังคมให้เต็มเหนี่ยว.
    หากคุณต้องการเป็นคนมีอัธยาศัยไมตรีที่ดี คุณก็ต้องรู้จักใช้เวลากับเพื่อนฝูงให้มากกว่าเดิม การใช้เวลากับผู้อื่นมากขึ้น จะช่วยให้คุณเป็นคนที่มีความตระหนักรู้และอ่อนไหวต่อสังคมรอบตัว และรักในการพูดคุยกับผู้อื่น คุณควรหมั่นลงตารางเวลาให้แน่นสำหรับงานปาร์ตี้ งานสังคม ออกทรปกิจกรรมกลางแจ้ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ หรือการผจญภัยอันน่าสนุกสนานเป็นประจำ หากต้องการเป็นคนมีอัธยาศัยไมตรีที่ดีจริงๆ [5]
    • การจะใช้ชีวิตทางสังคมให้เต็มเหนี่ยวนั้น อย่าปล่อยให้เรื่องาน เรื่องเรียน หรือหน้าที่อื่นใดมาขัดขวางชีวิตในด้านนี้ได้ หรืออย่างน้อยก็อย่าให้มากเกินไป
    • มันเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องมีชีวิตในทางสังคมบ้าง แต่คุณต้องมีเวลาให้แก่ตนเองบ้างเช่นกัน เพื่อหาเวลาผ่อนคลาย โดยเฉพาะในกรณีที่คุณไม่ค่อยได้ใช้เวลาร่วมกับผู้อื่นมากนักมาก่อน
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ฝึกความมีอัธยาศัยไมตรีที่ดีมกับคนที่คุณไม่ค่อยชอบหน้า....
    ฝึกความมีอัธยาศัยไมตรีที่ดีมกับคนที่คุณไม่ค่อยชอบหน้า. เรื่องนี้อาจจะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกพอสมควร แต่คุณไม่จำเป็นต้องจูบปากอย่างดูดดื่มกับคนที่เป็นเหมือนศัตรูของคุณ เพียงเพื่อที่จะฝึกตัวเองเป็นคนมีอัธยาศัยไมตรีที่ดีก็ได้ ไม่ว่าเขาคนนั้นจะเป็นครูจอมเฮี้ยบ ลุงจอมโหด หรือผู้หญิงที่คุณไม่กล้าเข้าไปจีบ แต่คุณอาจจะแปลกใจเมื่อพบว่า ตัวเองจะรู้สึกดีมากขึ้นเพียงใด หากเพียงคุณรู้จักทำดีต่อคนเหล่านั้น แทนที่จะเย็นชาต่อพวกเขา และพวกเขายังอาจจะมีท่าทีเป็นมิตรต่อคุณให้คุณประหลาดใจกลับคืนด้วย
    • เขียนรายชื่อบุคคล 5 คนที่คุณมักจะเฉยชากับพวกเขาออกมา พยายามหาวิธีทำดีต่อคนเหล่านี้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่สมควรได้รับก็ตาม การให้อภัยเป็นกญแจสำคัญในการเป็นคนมีอัธยาศัยไมตรีที่ดี ในทางกลับกัน การเก็บความขมขื่นเอาไว้ รังแต่จะทำให้คุณปะทุอยู่ภายในใจ ซึ่งจะส่งผลต่อทัศนคติที่คุณแสดงออกมา
  6. How.com.vn ไท: Step 6 เอาชนะความไม่มั่นคงภายใน.
    สาเหตุหนึ่งที่คุณอาจไม่ได้เป็นคนมีอัธยาศัยไมตรีที่ดีที่สุดในโลก อาจเป็นเพราะคณขาดความมั่นใจและกลัวว่าคนอื่นจะตัดสินหรือวิจารณ์คุณเวลาที่คุณเอ่ยปากพูด ลองถามตัวเองดูว่า อะไรคือสาเหตุเบื้องลึกของการที่คุณไม่วางใจและความเฉยชาของคุณที่มีต่อผู้อื่น ลองไตร่ตรองดูว่า มันขึ้นอยู่กับตัวคุณเองมากกว่าไหม ซึ่งหากเป็นกรณีดังกล่าว คุณก็ควรฝึก รักตัวเอง และรักในสิ่งที่ตนเองทำให้มากขึ้น รวมถึงแก้ไขในจุดบกพร่องที่ต้องปรับปรุง
    • แน่นอนว่า การเอาชนะความไม่มั่นคงภายในนั้น อาจต้องใช้เวลาเป็นปีๆ แต่การตระหนักได้ว่ามันเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณมีปัญหาในการเป็นมิตรกับผู้อื่น จะช่วยให้คุณมีความตั้งใจทำดีต่อผู้อื่นมากขึ้น จำไว้ว่า คนอื่นก็อาจมีความไม่มั่นคงในใจเหมือนกับที่คุณเป็นเช่นกัน อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ
  7. How.com.vn ไท: Step 7 เป็นมิตรกับคนที่อยู่ในรุ่นราวคราวเดียวกัน.
    คำว่า “รุ่นราวคราวเดียวกัน” นั้น ไม่ได้บ่งบอกถึงความเหมือนในเรื่องอายุเท่านั้น แต่ยังหมายถึงคนที่อยู่ในช่วงชีวิตเดียวกับคุณด้วย เช่น ช่วงที่เป็นนักเรียนมัธยม/มหาวิทยาลัย ช่วงเริ่มต้นเข้าวัยทำงาน หรือช่วงของการเป็นคุณแม่วัยกลางคน หรือเป็นคนชราที่ใช้เวลาอย่างสันโดษมากกว่า การได้พบปะกับคนที่รุ่นราวคราวเดียวกับคุณนั้น จะช่วยให้คุณมีความกระตือรือร้นในการเข้าหาพวกเขาและยังมีเรื่องราวให้พูดคุยกันมากกว่าด้วย
    • ตัวอย่างเช่น หากคุณเป็นคุณแม่มือใหม่ ก็ลองเข้าร่วมกลุ่มชมรมคุณแม่มือใหม่ดู เผื่อคุณจะค้นพบหนทางในการพบปะทำความรู้จักเพื่อนใหม่ๆ อันแสนประทับใจ
  8. How.com.vn ไท: Step 8 แสดงความสนใจในตัวผู้อื่นอย่างจริงใจ.
    นี่เป็นกุญแจสำคัญ ซึ่งไม่เพียงแค่จะทำให้คุณดูมีอัธยาศัยไมตรีที่ดีเท่านั้น แต่ยังทำให้คุณเป็นคนมีอัธยาศัยไมตรีที่ดีจริงๆ เลยด้วย คนที่มีอัธยาศัยไมตรีที่ดีจริงๆ นั้นย่อมใส่ใจผู้อื่นและอยากจะทำให้คนเหล่านั้นรู้สึกดีจริงๆ คนที่มีอัธยาศัยไมตรีที่ดีจริงๆ ย่อมรู้สึกกลุ้มใจเวลาเห็นคนอื่นเจ็บปวดและรู้สึกแฮปปี้เมื่อเห็นคนอื่นมีความสุข นอกจากนี้ คนที่มีอัธยาศัยไมตรีที่ดีจริงๆ จะไม่เข้าหาผู้อื่นเพียงเพราะให้ตนเองดูดี หรือมีเพื่อนในเฟสบุ๊คมากขึ้น หากคุณต้องการ เป็น คนมีอัธยาศัยไมตรีที่ดี คุณต้องใส่ใจในเรื่องนี้ทุกครั้งที่พูดคุยกับผู้อื่น หากคุณใส่ใจพวกเขาจริงๆ พวกเขาจะสัมผัสได้เอง[6]
    • แน่นอนว่า คุณไม่สามารถจะใส่ใจทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตได้หรอก แต่ยิ่งคุณพยายามทำดีต่อผู้อื่น คุณก็ยิ่งจะรู้สึกทำได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น
    • จำไว้ว่า การเป็นคนมีอัธยาศัยไมตรีที่ดี ไม่เกี่ยวอะไรกับการเสแสร้งสักนิดเดียว แต่มันเป็นเรื่องของการเป็นคนน่าเข้าหา ให้เกียรติผู้อื่น และสร้างบรรยากาศที่ดีในความสัมพันธ์ ล้วนๆ
  9. How.com.vn ไท: Step 9 รายล้อมตนเองด้วยผู้คนที่เป็นมิตร.
    คุณจะมีอัธยาศัยที่ดีขึ้นถ้าอยู่ท่ามกลางผู้คนที่มีไมตรีจิต ไม่เพียงแต่พวกเขาจะเป็นต้นแบบให้คุณได้ประพฤติตัวตาม คุณยังอาจได้รับพลังด้านบวกและทัศนคติความมีน้ำใจนั้นมันแพร่ติดต่อกันได้ด้วยสิ!
    • เวลาอยู่กับคนที่มีความสุข คนอื่นๆ จะรู้สึกอยากเข้าหาเมื่อคุณอยู่กับเพื่อนๆ
    • การเข้าไปมีส่วนร่วมกับความรุนแรงหรือกับคนนิสัยหยาบคายจะทำให้ผู้อื่นกังวลที่จะเข้าหาหรือพูดคุยกับคุณเพราะเขากลัวที่อาจต้องเจอกับคนๆ นั้น หรือไม่พวกเขาอาจเหมารวมว่าคุณก็มีนิสัยเหมือนกันถึงได้คบหาคนแบบนั้นได้
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • จงเป็นตัวของตัวเอง อย่าอายในแบบที่ตัวเองเป็น พยายามยิ้มอย่างมีไมตรีให้แก่ผู้อื่น
  • อย่าขี้อาย ลองทักทายคนที่คุณไม่ได้พบปะพูดคุยมานานแล้ว เพื่อเชื่อมต่อสายสัมพันธ์ แล้วพวกเขาจะนึกขอบคุณ
  • มองตัวเองในกระจกและคิดในเชิงบวกเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของตนเอง หากคุณชอบตัวเอง คนอื่นจะรู้สึกตามไปเอง
  • พยายามเรียกชื่อผู้อื่นเวลาคุย เคล็ดลับในการจำชื่อพวกเขาให้ได้ ก็คือ หมั่นเอ่ยชื่อพวกเขาทุกครั้งที่คุยกัน
  • พยายามตั้งใจที่จะชอบคนที่คุณได้พบปะให้ได้ สิ่งนี้จะส่งผลต่อภาษากายและคำพูดที่แสดงออกมาในเชิงบวก อันจะช่วยให้ชี้ด้านบวกและทำให้พวกเขารู้สึกดีกับตัวเอง (คนอื่นจะเป็นมิตรในแบบเดียวกับที่คุณเป็น)
  • อย่าหยาบคายหรือเหยียดหยามใคร จงสุภาพอ่อนโยนเสมอ
  • ทุกคนมีสิ่งที่ตนเองชอบ ไม่ว่าจะเป็นวงดนตรี สัตว์เลี้ยง หรืองานอดิเรก พยายามหาจุดที่เหมือนกันกับคุณเวลาพูดคุยกัน
โฆษณา

คำเตือน

  • ใช้มุกตลกอย่างระมัดระวัง มุกที่ตลอกสำหรับคุณ อาจไม่ตลกสำหรับคนอื่น มันง่ายที่จะทำให้บางคนหงุดหงิดได้โดยไม่รู้ตัว ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความขัดแย้งในที่ทำงานหรือในสถานที่ทางสังคมอื่นๆ เช่น สโมสรหรือชมรมใดๆ
  • หากคุณมีท่าทีเป็นมิตรโจ่งแจ้งเกินไป คุณอาจจะดูเหมือนเป็นคนพิลึกในสายตาผู้อื่น ซึ่งจะทำให้พวกเขากลัวและมีความฝังใจในทางลบเกี่ยวกับตัวคุณได้
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

วิกิฮาวเป็น "wiki" ซึ่งหมายความว่าบทความหลายๆ บทความของเรานั้นเป็นการร่วมมือกันเขียนของผู้เขียนหลายคน ในการเขียนบทความชิ้นนี้ ผู้คน 90 คน ซึ่งบางคนไม่ขอเปิดเผยตัว ได้ร่วมกันเขียนและปรับปรุงเนื้อหาของบทความอย่างต่อเนื่อง บทความนี้ถูกเข้าชม 23,003 ครั้ง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 23,003 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา