ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

ถ้ามีสมาธิจดจ่อมากขึ้น การเป็นนักเรียนหรือพนักงานดีเด่นจะไปไหนเสีย แถมยังทำให้ชีวิตดี๊ดี มีความสุขและเข้าที่เข้าทางมากขึ้น ถ้าอยากมีสมาธิจดจ่อกับเรื่องต่างๆ ให้ได้นานขึ้น ก็ต้องรู้จักเพิกเฉยต่อสิ่งเร้าต่างๆ และวางแผนล่วงหน้าก่อนลงมือทำจริง ถ้าอยากหนักแน่นและแม่นยำให้ได้เหมือนจับวางละก็ บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการให้คุณเอง!

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

ฝึกสมาธิ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ยืดเวลาจดจ่อ.
    แรกเริ่ม แต่ละคนก็มี "ความสามารถในการจดจ่อ" มากน้อยแตกต่างกันไป แต่อย่าเพิ่งถอดใจ เพราะของแบบนี้มันฝึกกันได้ ถ้าอยากจดจ่อให้ได้นานขึ้น ก็ต้องใช้เวลาฝึกฝน เช่น ลองทำงานเดียวให้ได้นาน 30 นาที พอเวลาผ่านไป ลองดูว่าคุณจดจ่อได้นานแค่ไหนก่อนสมาธิแตก จะ 5 นาทีหรือ 30 นาทีก็แล้วแต่
    • ถ้าฝึกแบบนี้ซ้ำเรื่อยๆ จะเห็นเลยว่าคุณมีสมาธิจดจ่อกับเรื่องเดียวได้นานขึ้นจนน่าตกใจ ขอให้จดจ่ออยู่อย่างนั้นจนกว่าไม่ไหวจริงๆ แล้วค่อยฝึกใหม่ให้ได้นานกว่าเดิมในวันถัดมา
  2. How.com.vn ไท: Step 2 นั่งสมาธิ...
    นั่งสมาธิ. นอกจากเป็นวิธีผ่อนคลายชั้นยอดแล้ว การนั่งสมาธิให้ได้ 10 - 20 นาทีต่อวัน ยังช่วยทำให้คุณมีสมาธิจดจ่อกับอะไรได้นานขึ้นด้วย การนั่งสมาธิมีจุดมุ่งหมายเพื่อกำจัดความคิดฟุ่งซ่าน จดจ่ออยู่กับร่างกายและลมหายใจ คุณใช้ทักษะนี้มาช่วยไม่ให้วอกแวกตามสิ่งเร้า มีสมาธิจดจ่ออยู่กับงานตรงหน้าได้ จะนั่งสมาธิตอนเช้าหลังตื่นนอน หรือตอนค่ำก่อนเข้านอนก็ได้ กระทั่งระหว่างวัน
    • หามุมสงบไร้เสียงรบกวน
    • นั่งขัดสมาธิให้สบาย อาจจะนั่งบนเบาะรอง จากนั้นประสานมือบนตัก หรือวางมือแต่ละข้างบนเข่า
    • ผ่อนคลายร่างกายทีละจุดจนครบทุกส่วน
  3. How.com.vn ไท: Step 3 อ่านหนังสือเยอะๆ.
    เพราะช่วยฝึกสมาธิได้เป็นอย่างดี ลองอ่านเรื่องอะไรก็ได้ต่อเนื่องยาวนานเป็นเวลา 30 นาที แล้วค่อยขยับขยายต่อไปเป็น 1 ชั่วโมง กระทั่ง 2 ชั่วโมง พักเบรคได้ช่วงสั้นๆ การที่คุณจดจ่ออยู่กับเรื่องที่อ่านได้ ไม่ว่าจะเป็นนิยายโรแมนซ์หรือชีวประวัติคนสำคัญก็ตาม จะช่วยพัฒนาให้คุณมีสมาธิในการทำงานได้ดียิ่งขึ้น
    • ระหว่างอ่านให้ตั้งคำถามทุก 2 - 3 หน้า จะได้แน่ใจว่าคุณเข้าใจเรื่องที่อ่านดีแล้ว ว่าได้จดจ่อใช้สมองไปกับสิ่งนั้นจริงๆ
    • อ่านหนังสือตอนเช้าช่วยกระตุ้นให้สมองตื่นตัว ส่วนอ่านหนังสือก่อนนอนก็ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดระหว่างวัน
    • ตั้งเป้าอ่านหนังสือให้ได้วันละ 30 นาที และดูทีวีให้น้อยลงไปในเวลาที่เท่ากัน อุตส่าห์ฝึกสมาธิจากการอ่าน อย่าปล่อยให้โฆษณาทีวีมาทำคุณสมาธิสั้น
    • กำจัดสิ่งรบกวนตอนอ่านหนังสือ มือถือต้องเปิดโหมด silent และบอกคนในบ้านว่าอย่าเพิ่งรบกวน นอกจากได้ฝึกสมาธิให้จดจ่อกับกิจกรรมเดียวแล้ว ยังทำให้ "อิน" กับเรื่องราวในง่ายขึ้นด้วย
  4. How.com.vn ไท: Step 4 multi-task บ่อยๆ ก็ใช่ว่าดี.
    หลายคนมองว่าคนที่ทำอะไรพร้อมกันหลายๆ อย่างได้ดูเก่งกาจน่าชื่นชม แต่จริงๆ แล้วเกิดมาฆ่าสมาธิชัดๆ เวลาคุณ multi-task จะรู้สึกว่าทำงานได้เยอะขึ้น แต่บอกเลยว่าไม่ได้ทำเต็มที่สักอย่าง เพราะต้องกระจายความสนใจไปหลายๆ จุด
    • พยายามทำงานให้เสร็จเป็นอย่างๆ ไป บอกเลยว่านอกจากปิดจ๊อบเร็วขึ้นแล้ว ยังงานดีงานละเอียด
    • หนึ่งในการ multi-task ที่ผิดมหันต์ คือการสะสางงานไปและแชทกับเพื่อนในเวลาเดียวกัน เพราะทำให้คุณทำงานช้าลงกว่าครึ่งเลยทีเดียว
    • ถ้าคุณทำงานที่บ้าน ต้องอดใจอย่าเพิ่งลุกไปทำงานบ้าน ถึงจะบอกว่าล้างจานนิดเดียว แต่ก็ทำสมาธิแตกซ่าน เสียระบบการทำงานหมด
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

เตรียมตัวให้พร้อมเสมอ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ย้อนดูตัว.
    เคยไหม นั่งทำงานมัน "ทั้งวัน" แต่ดันไม่ได้อะไรขึ้นมาเลย? ถ้ารีบพยักหน้าบอกว่าใช่ ให้รีบย้อนกลับไปพินิจพิจารณาว่าเราทำพลาดไปตรงไหน อย่าเพิ่งลงมือทำงานใหม่ด้วยสเต็ปเดิม ก่อนเริ่มงาน ควรไล่มาให้หมด ว่าอะไรที่ทำแล้ว "ได้ผล" และ "ไม่ได้ผล" ตอนทำงานหรือท่องหนังสือ จะได้เอามาปรับปรุง
    • เคยไหม ที่ต้องท่องหนังสือ แต่ดันชวนเพื่อนเม้าท์แตกเรื่องดราม่าดาราจนเย็น? ถ้าเคย คราวหน้าแนะนำให้ขังตัวเองอ่านหนังสือคนเดียวจะดีกว่า
    • อยากเร่งงานให้ได้เลิกเร็วๆ แต่รู้ตัวอีกทีก็อาสาช่วยงานคนอื่นเขาไปทั่วจนสุดท้ายก็ต้องช่วยยามปิดออฟฟิศ แบบนี้ต้องทำตัวเป็นจิตอาสาน้อยลง เคยได้ยินไหม? "รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี"
    • อุตส่าห์ตื่นแต่เช้าเพราะมีการบ้าน สุดท้ายนั่งไถ Facebook แล้วแชทกับเพื่อนตั้งแต่ 6 โมงเช้ายัน 6 โมงเย็น คราวหน้ารีบทำการบ้านครึ่งเช้า แล้วค่อย สนุกสนานเฮฮาช่วงบ่ายๆ เย็นๆ
    • ก่อนเริ่มวันทำงาน ให้จดออกมาว่าอะไรมักเป็นอุปสรรคถ่วงความเจริญของคุณ จะได้หมายหัวถูก
  2. How.com.vn ไท: Step 2 กิจวัตรประจำวันก่อนทำงาน.
    ไม่ว่าจะกำลังไปห้องสมุดคณะ หรือตรงดิ่งไปทำงาน 8 ชั่วโมงรวดในออฟฟิศตามเคย จุดสำคัญอยู่ที่การดูแลตัวเองก่อนเริ่มวัน อย่างที่เขาว่ากัน "เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง"
    • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ โดยเข้านอนและตื่นนอนเวลาเดิมทุกวัน ร่างกายจะได้สดชื่นตื่นตัว ไม่เหนื่อยและเฉื่อยชา
    • กินอาหารเช้าที่มีประโยชน์ เพราะเป็นมื้อสำคัญที่สุดของวัน ต้องกินมากพอจะมีพลังทำงาน แต่อย่าเยอะไปจนหนังท้องตึงหนังตาหย่อนแทน ให้กินคาร์โบไฮเดรตที่มีประโยชน์ อย่าง ข้าวโอ๊ตหรือซีเรียลโฮลวีท ถ้าโปรตีนก็ต้องเป็นไข่ หรือเนื้อไก่ไม่ติดหนัง เสริมด้วยผักผลไม้ให้สดชื่นได้วิตามิน
    • หาเวลาออกกำลังกาย แค่เดิน เต้นแอโรบิกเบาๆ หรือซิทอัพ และบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องสัก 15 - 20 นาทีก็พอให้เลือดลมสูบฉีดแบบไม่เหนื่อยเกินไป
    • เพลาๆ คาเฟอีน ถึงกาแฟจะช่วยให้ตาสว่าง แต่อย่าดื่มเกิน 1 แก้วต่อวัน ไม่งั้นช่วงเที่ยงๆ เหนื่อยและเนือยแน่ หรือเปลี่ยนไปดื่มชาคาเฟอีนต่ำ โหดกว่านั้นก็คือหักดิบไปเลย เพื่ออนาคตที่สดใส
  3. How.com.vn ไท: Step 3 เลือกเวลาและสถานที่ที่ใช่.
    ถึงส่วนใหญ่คุณจะไม่ค่อยมีสิทธิ์เลือกว่าจะเริ่มและเลิกงานตอนไหน (โดยเฉพาะพนักงานบริษัท) แต่ถ้าพอยืดหยุ่นได้บ้าง ให้เริ่มงานตอนที่คุณเฟรช ตื่นตัวที่สุด รวมถึงเลือกสถานที่ที่เอื้ออำนวย
    • เวลา "งานเดิน" ของแต่ละคนก็ต่างกันไป บางคนทำงานตอนเช้าหลังตื่นนอนทันทีแล้วลื่นไหล แต่บางคนก็ขอเตรียมตัวก่อน สายๆ เดี๋ยวมาเต็ม ให้ค้นหาเวลาที่ใช่สำหรับคุณ ให้ร่างกายร้องว่า "ลุยกันเลย!" ไม่ใช่ประท้วงว่า "งีบเหอะ"
    • สถานที่ทำงานก็สำคัญ บางคนชอบทำงานที่บ้าน เพราะรู้สึกปลอดภัยสบายใจ ยังไงก็ได้ แต่บางคนอยู่บ้านแล้วหลับ ต้องบรรยากาศพลุกพล่านเล็กๆ อย่างตามร้านกาแฟ ไม่ก็ห้องสมุด
  4. How.com.vn ไท: Step 4 เตรียมตัวและเตรียมเสบียง.
    ถ้าอยากมีสมาธิจดจ่อให้ได้งาน ก็ต้องเตรียมตัวและเสบียงให้พร้อมก่อนลุย ไม่งั้นเกิดร่างกายประท้วงแล้วจะเสียเวลา
    • เตรียมของว่างที่มีประโยชน์ อย่างถั่วต่างๆ แอปเปิ้ล กล้วย กระทั่งเบบี้แครอท จะได้ไม่ต้องออกไป 7-11 หรือตู้กดน้ำกดขนม
    • ดื่มน้ำอย่าให้ขาด ไม่ว่าจะไปไหนขอให้พกขวดน้ำติดตัวตลอด ร่างกายจะได้สดชื่น ไม่ขาดน้ำ
    • เตรียมเสื้อหนาว ถ้าต้องอยู่ในห้องแอร์แล้วรู้ตัวว่าขี้หนาว ต้องเตรียมเสื้อหรือผ้าคลุมไหล่ไปให้พร้อม ไม่งั้นเสียสมาธิ หรือเสียเวลาเดินเข้าเดินออกห้องแน่นอน
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

จัดระเบียบชีวิต

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ทำ to-do list.
    ถ้าไม่อยากวอกแวก ต้องทำ to-do list ประจำวัน จะได้เห็นภาพชัดเจน ว่าวันนั้นต้องทำอะไรบ้าง แถมติ๊กออกได้เวลาทำเสร็จแล้ว ยิ่งติ๊กออกก็ยิ่งดีใจว่างานใกล้หมด แทนที่จะนั่งทำงานไปเรื่อยเปื่อย เท่ากับมีเป้าหมายจับต้องได้ขึ้นมา แถมได้ภูมิใจเหมือนเล่นเกมจบไปทีละด่าน[1]
    • เขียนมาอย่างน้อย 3 อย่างที่ต้องทำให้เสร็จในวันนั้น 3 อย่างที่ต้องทำให้เสร็จในวันพรุ่งนี้ และ 3 อย่างที่ต้องทำให้เสร็จภายในอาทิตย์นั้น แล้วตะลุยทำรายการของวันนี้ก่อน คุณจะยิ่งฮึกเหิมถ้าเหลือเวลาไปทำภารกิจของวันอื่นๆ ด้วย
    • ให้รางวัลตัวเองเป็นการพักเบรค โดยพักสั้นๆ ทุกครั้งที่ทำภารกิจเสร็จไป 1 รายการ
    • พวกภารกิจยิบย่อย รีบกวาดให้เกลี้ยงแต่แรก เช่น ซื้อของเข้าบ้าน รายการในลิสต์จะได้น้อยลง เหลือแต่เรื่องสำคัญๆ ห้ามขี้เกียจ คิดว่างานเล็กๆ ง่ายๆ ค่อยทำเด็ดขาด!
  2. How.com.vn ไท: Step 2 จัดลำดับความสำคัญ.
    ตอนเช้าให้เริ่มลุยจากงานยากๆ หรือที่ต้องคิดสร้างสรรค์ เพราะตอนนั้นจะยังสมองปลอดโปร่ง พลังงานเหลือเฟือ ส่วนเรื่องที่ง่ายกว่า อย่างจัดตารางนัด จัดเก็บเอกสารเก่า หรือจัดโต๊ะทำงาน ให้เก็บไว้ทำช่วงบ่ายตอนที่เหนื่อยเหลือเกิน[2]
    • อย่าเก็บงานโหดหินไว้สุดท้ายของวัน เพราะอาจทำเอาถอดใจ พอกหางหมูไปรวมกับตารางวันพรุ่งนี้แทน
  3. How.com.vn ไท: Step 3 จัดระเบียบชีวิต.
    สถานที่สะอาดและเป็นระเบียบ จะทำให้จดจ่อได้ง่ายกว่า เพราะรู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหนเลยหยิบจับใช้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะทำงานที่ออฟฟิศ โต๊ะอ่านหนังสือที่ห้องสมุด เป้ใส่หนังสือเรียน หรือที่ไหนก็ตาม พอข้าวของเครื่องใช้เป็นระเบียบทำให้ไม่ต้องเสียเวลาหาของที่ต้องใช้ เอาไปเวลาไปคิดสร้างสรรค์งานดีกว่า
    • เก็บให้หมด อะไรที่ยังไม่ได้ใช้ทำงาน อย่างถ้าโต๊ะที่ออฟฟิศ อนุโลมให้มีรูปครอบครัวได้ 2 - 3 ใบ นอกนั้นควรเป็นของที่ต้องใช้จริงๆ เช่น กระดาษ แม็กซ์ หรือปากกา
    • ถ้าไม่ได้ใช้มือถือทำงาน ก็เก็บไปก่อน ทำงานไปได้ 1 - 2 ชั่วโมงแล้วค่อยเช็คความเป็นไป ระหว่างนั้นเก็บล็อคไว้ในลิ้นชักเลย ไม่งั้นเผลอเมื่อไหร่เป็นต้องหยิบมาสไลด์หน้าจอ
    • ระบบไฟล์ต้องเป๊ะ คุณจะทำงานไวขึ้นอีกเยอะ ถ้ารู้แน่ว่าเอกสารแต่ละฉบับอยู่ที่ไหน
  4. How.com.vn ไท: Step 4 บริหารเวลาให้เป็น.
    นี่แหละสำคัญถ้าอยากทำอะไรให้มีสมาธิ เวลาเริ่มวันทำงาน ตอนเขียน to-do list ให้กำหนดระยะเวลาที่คิดจะใช้ในแต่ละภารกิจด้วย จะได้มีตารางเวลาชัดเจน ให้ทำอะไรที่เปลืองเวลาก่อน ถ้าเก็บไว้ทีหลังเดี๋ยวจะลน
    • แต่ก็ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงด้วย ไม่ใช่กำหนดไว้ 20 นาทีทั้งที่งานนั้นควรทำเป็นชั่วโมง แบบนี้พอทำไม่ทันตามเวลา ก็จิตตกเองเปล่าๆ
    • ถ้าทำเสร็จก่อนเวลา ให้พักเบรคได้เลย จะได้มีกำลังใจสะสางงานอื่นต่อไป
  5. How.com.vn ไท: Step 5 พักบ้างไม่ผิด.
    การพักเบรคก็สำคัญพอๆ กับการทำงาน ถ้าตั้งหน้าตั้งตาทำงานเต็มที่ช่วงหนึ่งแล้วแทรกด้วยการพักเบรคสั้นๆ เป็นระยะ จะช่วยให้คุณมีสมาธิจดจ่อได้นานและทำงานมีประสิทธิภาพกว่า "พยายาม" ทำงานตลอดทั้งวัน[3]
    • ทำงานครบ 1 ชั่วโมง ให้พักอย่างน้อย 10 - 20 นาที จะโทรหาใคร ตอบอีเมล หรือออกไปพักกินกาแฟก็แล้วแต่
    • มองพักเบรคเป็นรางวัล จะได้ดึงดูดใจให้ทำงานเสร็จเร็วๆ ถ้าคุณคิดว่า "ทำรายงานนี้เสร็จเมื่อไหร่จะไปกินสมูธตี้แก้วยักษ์เลย" ก็จะทำให้มีเป้าหมายให้ไล่ตาม ดีกว่าทำไปเรื่อยเปื่อย
    • ยืดเส้นยืดสายนิดหน่อยตอนช่วงพัก เช่น ไปเดินเล่น 15 นาที หรือเดินขึ้นบันได 5 ช่วงแล้วกลับลงมา เลือดลมจะได้ไหลเวียนดี แถมทำให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า
    • ออกไปกินลมชมวิว อย่าจุกอยู่ในออฟฟิศหรือในบ้านทั้งวัน ออกไปเดินรับอากาศบริสุทธิ์บ้าง ตอนเช้าอากาศดีจะตายไป แถมแสงแดดอ่อนๆ ยังดีต่อร่างกาย คุณจะสดชื่นแจ่มใส อยากกลับไปทำงาน
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

ไม่วอกแวก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 พักกิจกรรมออนไลน์ดูดเวลา.
    ในเน็ตมีเรื่องน่าสนใจและข้อมูลดีๆ เยอะแยะไปหมด แต่พอถึงเวลาที่คุณต้องเป็นฝ่ายสร้างสรรค์ผลงาน โลกอินเทอร์เน็ตก็เหมือนหลุมดำดูดเวลาดีๆ นี่เอง ถ้าอยากทำงานเสร็จเร็วๆ ก็ต้องงดโซเชียล หรือหยุดแชทชั่วคราว ส่วนอีเมลนั้นเช็คแค่ 2 - 3 ครั้งต่อวันก็พอ
    • ถ้าเจอบทความน่าสนใจ ให้อดใจรอไปอ่านตอนพักเบรค อย่าเพิ่งตบะแตก
    • อย่าส่งอีเมลเรื่องส่วนตัวระหว่างทำงาน เพราะทำคุณวอกแวกได้ง่ายมาก ดีไม่ดีจะลามไปโซเชียลอื่นๆ
    • ถ้าไม่ต้องใช้เน็ตทำงาน ให้ตัดสัญญาณไปเลยชั่วคราว ไว้อีก 1 - 2 ชั่วโมงค่อยกลับมาต่อเน็ต
    • แรกๆ อาจมีหลุดบ้าง ต้องฝึกวินัยกันไป ถ้าเผลอเช็ค Facebook กับอีเมลทุก 15 นาที ให้เปลี่ยนไปเช็คทุก 30 นาทีแทน แล้วขยับขยายไปเช็คแค่ 2 - 3 ครั้งต่อวัน จนงดใช้ Facebook ระหว่างวันทำงานได้ในที่สุด
    • แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้เน็ตประกอบการทำงาน ก็อย่าเปิดเกิน 5 tab ในหน้าต่างเดียว จดจ่ออ่านไปให้เสร็จทีละข้อมูล ถ้าเปิดหน้าเว็บไว้เต็มไปหมด จะกลายเป็นโหมด multi-task อย่างที่เราไม่แนะนำ
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ระวังคนกวนใจ.
    "คน" ก็เป็นอีกปัจจัยทำคุณวอกแวก ไม่ว่าจะทำงานออฟฟิศหรือท่องหนังสือในห้องสมุดก็ตาม แต่อย่าให้ใครมาขัดขวางความเจริญของคุณ เราเข้าใจว่าทำงานเบื่อๆ ก็อยากเม้าท์มอยเป็นธรรมดา แต่จะทำให้งานเสร็จช้าขึ้นอีกนี่สิ ทีนี้ก็ยาวเลยกว่าจะได้เม้าท์มอยจริงๆ จังๆ สมใจ[4]
    • บอกให้คนรอบตัวรู้ ว่าคุณต้องทำงานนี้ให้เสร็จจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นคนในบ้านหรือคนที่ทำงานก็ตาม ถ้าขอร้องดีๆ เหตุผลน่าฟัง เขาต้องเข้าใจแน่นอน
    • อย่าอ่าน SMS หรือรับโทรศัพท์เรื่องส่วนตัว เว้นแต่เป็นเรื่องสำคัญ บอกพ่อแม่พี่น้องและเพื่อนๆ ไปเลย ว่าห้ามติดต่อคุณในเวลางาน เว้นแต่เป็นเรื่องคอขาดบาดตายจริงๆ
    • ถ้าติวหนังสือกันเป็นคู่หรือเป็นกลุ่ม อย่าปล่อยให้ใครวอกแวก อาจจะตบมือเรียกสติเวลาใครใจลอยหรือหันไปเม้าท์มอยกัน จะได้กลับมาช่วยกันทำงาน
  3. How.com.vn ไท: Step 3 อย่าปล่อยใจไปกับบรรยากาศ.
    ทุกอย่างอยู่ที่ใจ ต่อให้พลุกพล่านแค่ไหน ถ้าใจนิ่งก็ไม่มีปัญหา
    • ถ้าคุณต้องทำงานในที่สาธารณะเสียงจ้อกแจ้กจอแจ ให้ลงทุนซื้อเฮดโฟนแบบ noise-cancelling (ตัดเสียงรบกวน) หรือเปิดเพลงบรรเลงกลบเรียกสมาธิ
    • ถ้านั่งข้างคนช่างจ้อหรือคุยโทรศัพท์ ให้ขยับห่างออกมา ถึงจะอุตส่าห์ได้มุมเหมาะๆ แล้วก็เถอะ
    • ถ้าแถวนั้นมีคนเปิดทีวีไว้ อย่าสนใจ อนุโลมให้ดูได้หลังทำงานไป 1 ชั่วโมง ไม่งั้นโดนสะกดจิตแน่
  4. How.com.vn ไท: Step 4 หาแรงบันดาลใจ.
    ถ้าไม่อยากวอกแวกและตั้งใจให้ได้มากกว่านี้ ก็ต้องหาแรงบันดาลใจโดนๆ ไล่เรียงเหตุผลมา ว่าอะไรทำให้อยากทำงานนี้จนเสร็จ พอเหนื่อยหรือเริ่มจะถอดใจเมื่อไหร่ให้อ่านเตือนตัวเอง จะได้ไม่ลืมความสำคัญของงาน และไม่ปล่อยอะไรมาดึงความสนใจ
    • ทำไมงานที่ทำอยู่ถึงสำคัญ? ถ้าคุณเป็นครู ตรวจข้อสอบเด็กอยู่ ก็เหมือนชี้ชะตานักเรียนเลยทีเดียว แต่ถ้าคุณเป็นหัวหน้าคุมโครงการใหญ่ ให้รู้ไว้ว่างานนี้จะต่อชีวิตให้บริษัทของคุณ
    • คุณจะได้อะไรจากงานนี้? ถ้าตั้งใจอ่านหนังสือเตรียมสอบ ก็จะได้เกรดดี GPA เด่น แต่ถ้าปิดการขายกับลูกค้ารายใหญ่ได้ ตำแหน่งและเงินเดือนที่สูงกว่าก็อยู่ไม่ไกล
    • คิดถึงเส้นชัยเข้าไว้ ทำงานเสร็จเมื่อไหร่ มีอะไรสนุกๆ รออยู่บ้าง? เช่น คอร์สฟิตเนสกับเทรนเนอร์หล่อล่ำ นัดกินไอศครีมกับเพื่อนสาว หรือมื้อโรแมนติกใต้แสงเทียนกับคนรู้ใจ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ฝึกให้ตัวเองจดจ่ออยู่กับกิจกรรมไหนนานๆ ก็ได้ผล อย่าทำกิจกรรมที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วตลอดจนเสียสมาธิ เช่น แชทกับเพื่อน หรือเล่นเกม พวกนี้ทำให้สมองคุณจดจ่อได้แค่ครู่สั้นๆ เท่านั้น นานเข้าเลยกลายเป็นคนสมาธิสั้นไป อันนี้มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รับรองเลย
  • ทำใจให้สบาย อย่าคิดมากหรือเครียดเรื่องอะไรหรือใครจนเกินเหตุ
  • ออกกำลังกายเป็นประจำก็ช่วยให้มีสมาธิจดจ่อมากขึ้น แค่วิ่งจ็อกกิ้งสัก 20 นาทีก็ช่วยได้แล้ว ไม่เสียเวลามากหรอก
  • เสียงเพลงก็ช่วยให้มีสมาธิได้ แต่ระวังอินกับทำนองหรือเนื้อเพลงจนลืมทำงานล่ะ
  • เพราะงั้นให้เลือกเพลงบรรเลงที่ไม่มีเนื้อจะดีกว่า จะได้ไม่จดจ่ออยู่กับความหมาย
โฆษณา

คำเตือน

  • บางทีที่ไม่ค่อยมีสมาธิ อาจไม่ใช่เพราะขาดแรงจูงใจหรือขี้เกียจ โรคบางโรค อย่าง ADHD (สมาธิสั้น) ก็ทำให้ไม่สามารถจดจ่ออยู่กับอะไรนานๆ ได้ ถ้าคุณพยายามสุดตัวแล้ว แต่ยังวอกแวกตลอด ลองไปตรวจรักษาให้ถูกต้องดีกว่า
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

วิกิฮาวเป็น "wiki" ซึ่งหมายความว่าบทความหลายๆ บทความของเรานั้นเป็นการร่วมมือกันเขียนของผู้เขียนหลายคน ในการเขียนบทความชิ้นนี้ ผู้คน 85 คน ซึ่งบางคนไม่ขอเปิดเผยตัว ได้ร่วมกันเขียนและปรับปรุงเนื้อหาของบทความอย่างต่อเนื่อง บทความนี้ถูกเข้าชม 28,040 ครั้ง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 28,040 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา