ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความX
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Christopher Taylor, PhD. คริสโตเฟอร์ เทย์เลอร์เป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ภาควิชาภาษาอังกฤษของมหาวิทยาลัยชุมชนออสตินในเท็กซัส เขาได้รับปริญญาเอกด้านวรรณคดีอังกฤษและการศึกษายุคกลางจากมหาวิทยาลัยเท็กซัสแห่งออสตินในปี 2014
มีการอ้างอิง 9 ข้อที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ
บทความนี้ถูกเข้าชม 15,719 ครั้ง
มันน่าโมโหที่ต้องพยายามทำรายงานและไม่ได้เกรดที่คุณรู้สึกว่าคุณควรจะได้ ก่อนที่จะถามคุณครูเกี่ยวกับการขอเปลี่ยนเกรด คุณจะต้องทบทวนเกณฑ์วัดคะแนนของวิชา คำแนะนำการทำรายงานและความคิดเห็นของคุณครู ถ้าหากคุณยังรู้สึกว่าคุณควรได้เกรดที่แตกต่างจากเดิม คุณต้องนัดพูดคุยกับคุณครูและเตรียมตัวนำเสนอหลักฐานประกอบการขอเปลี่ยนเกรด
ขั้นตอน
เข้าใจกระบวนการการให้เกรด. การให้เกรดแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงโดยขึ้นอยู่กับวิชา โรงเรียน คุณครูและประเทศที่คุณอาศัยอยู่ อย่างไรก็ตาม โปรแกรมที่มีคุณภาพจะมีมาตรฐานที่ทั้งคุณครูและนักเรียนต้องทำตาม คุณครูเข้าถึงคุณภาพงานที่คุณทำในเนื้อหาที่เฉพาะเจาะจงซึ่งควรทำให้ชัดเจนตั้งแต่ตอนแรกของวิชา สิ่งนี้ไม่ได้แปลว่าคุณไม่สามารถยื่นคำอุทธรณ์ได้แต่โดยทั่วไปความรับผิดชอบของคุณต้องได้มาตรฐาน- คุณครูไม่น่าจะเปลี่ยนเกรดของคุณนอกเสียจากว่าคุณครูได้ทำพลาดในขณะที่ให้เกรดรายงานหรือเกรดวิชาของคุณ
- คุณต้องจำไว้ว่าคุณต้องได้รับเกรดและเกรดไม่ได้มีไว้แจก
- คุณไม่ได้เกรดโดยขึ้นอยู่กับว่าคุณพยายามทำงานแค่ไหนแต่คุณเข้าใจเนื้อหาและทำตามข้อแนะนำสำหรับรายงานมากแค่ไหน โชคไม่ดีที่คุณไม่ได้รับคะแนนพิเศษสำหรับความพยายาม[1]
ดูว่ามันคุ้มค่ากับเวลาและพลังงานหรือไม่. ในกรณีส่วนใหญ่มันไม่คุ้มค่ากับเวลาหรือพลังงานที่ต้องพยายามทำให้คุณครูเปลี่ยนเกรด กระบวนการนี้จะใช้เวลามากจนเกินไปซึ่งคุณสามารถใช้เวลาช่วงนี้เพื่อเตรียมตัวสำหรับรายงานและการบ้านในอนาคตจะดีกว่า ก่อนที่จะพบคุณครู คุณต้องคิดให้ถี่ถ้วนว่ามันคุ้มค่าความยุ่งยากหรือไม่
ทบทวนเกณฑ์การให้เกรดของวิชา. คุณต้องทบทวนเกณฑ์การให้เกรดอย่างละเอียดก่อนที่จะพบคุณครูเพื่อพูดเกี่ยวกับเรื่องเกรดที่คุณได้รับ ค่อยๆ อ่านทุกรายละเอียดของเกณฑ์การให้เกรดโดยใส่ใจในส่วนของรายงานและวิธีที่คุณครูคำนวณเกรดของคุณ [2]- เช่น ถ้าหากคุณส่งรายงานช้า คุณต้องพูดกับคุณครูเกี่ยวกับการส่งรายงานช้า สิ่งนี้อาจจะสามารถอธิบายว่าทำไมคุณจึงได้เกรดแบบนี้
- สิ่งนี้ยังจะสามารถบอกหนูได้ว่าคุณอ่านคำแนะนำอย่างถี่ถ้วน คุณคงดูไม่ดีถ้าหากคำตอบสำหรับคำถามของคุณปรากฏชัดเจนอยู่ในเกณฑ์การให้คะแนน
คุณต้องทำตามคำแนะนำของรายงาน. ก่อนที่คุณจะเข้าหาคุณครูเกี่ยวกับเรื่องเปลี่ยนเกรด คุณต้องทำให้มั่นใจว่าคุณทำตามคำแนะนำของรายงาน อ่านคำแนะนำให้ละเอียดและพิจารณาแต่ละส่วนของมัน การไม่ทำตามคำแนะนำมักจะทำให้คุณได้เกรดที่คุณไม่คิดว่าจะได้ [3]- เช่น ถ้าหากคำแนะนำของรายงานบอกว่าคุณต้องส่งรายงานจำนวน 5 หน้าและคุณส่งเพียง 2 หน้า มันก็สามารถอธิบายเกรดของคุณได้
อ่านความคิดเห็นของคุณครูอย่างรอบคอบ. ก่อนที่คุณจะตกใจเกี่ยวกับเกรด คุณต้องอ่านความคิดเห็นของคุณครูทั้งหมดที่อยู่ในรายงาน ในกรณีส่วนใหญ่ ความคิดเห็นเหล่านี้สามารถบอกได้ว่าทำไมคุณจึงได้เกรดนี้ [4]- ถ้าคุณมีปัญหาในการอ่านหรือเข้าใจความคิดเห็นของคุณครู คุณสามารถขอให้คุณครูทำให้ชัดเจนได้
โฆษณา
- 1ตรวจสอบความแม่นยำของการให้คะแนนของคุณครู ถ้าเป็นไปได้. การศึกษามักจะเป็นศิลปะที่ไม่สมบูรณ์แบบ บางครั้งคุณครูทำพลาดในการให้คะแนน บางครั้งคุณครูตีความหมายผิดหรือเข้าใจรายงานของคุณผิด คุณครูตรวจรายงานจนถึงตี 4 หรือคำนวณเลขผิด การให้เกรดที่สูงขึ้นต้องใช้ข้อมูลและมักจะหมายถึงการพิสูจน์ว่าคุณครูของคุณทำป้าย
- ตรวจสอบคำตอบของคุณกับผู้อื่น อินเตอร์เน็ตหรือแหล่งอื่นๆ
- ถ้าหากความคิดเห็นที่เขียนบนกระดาษดูไม่กระจ่างชัดอาจเป็นไปได้ว่าคุณครูเข้าใจบางอย่างผิด (ถึงแม้ว่ามันเป็นไปได้ว่าลายมือของคุณอ่านไม่ออกซึ่งไม่ใช่ความผิดพลาดของคุณครู)
- ถ้าหากคุณไม่เข้าใจการแก้ไขหรือความผิดพลาดของคุณครู คุณควรติดต่อคุณครูเพื่อให้คุณครูดูงานของคุณอีกครั้ง คุณครูอาจจะไม่เปลี่ยนเกรดให้คุณโดยขึ้นอยู่กับโรงเรียน วิชาหรือคุณครู อย่างไรก็ตาม การเข้าหาคุณครูด้วยทัศนคติที่ดีมักจะทำให้คุณครูร่วมมือเพื่อปรับปรุงเกรดของคุณได้
นัดคุยกับคุณครู. ในหลายๆ ประเทศมีกฎหมายซึ่งป้องกันไม่ให้คุณครูพูดคุยเรื่องของเกรดผ่านทางอีเมล์ แทนที่จะพูดกับคุณครูเกี่ยวกับเรื่องเกรดของคุณผ่านทางอีเมล์ คุณต้องนัดคุยกับคุณครูตัวต่อตัว- ลองพูดกับคุณครูหลังคาบเรียน คุณสามารถพูดว่า “คุณครูจิตดีคะ หนูมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเกรดข้อสอบที่ได้รับค่ะ ขอนัดพบคุณครูได้ไหมคะ?”
- จำไว้ว่าคุณครูหลายคนมักจะให้คุณรออย่างน้อย 24 ชั่วโมงหลังจากที่ได้รับเกรดเพื่อพูดคุย สิ่งนี้กระตุ้นให้นักเรียนทบทวนสื่อการเรียนอย่างรอบคอบในช่วงเวลานี้แทนที่จะมีปฏิกิริยาตอบโต้ที่ไม่ดีหรือแสดงอาการก้าวร้าวหลังจากที่ได้รับเกรดที่ไม่ดี
- ถึงแม้ว่าคุณสามารถพูดคุยผ่านทางอีเมล์ได้แต่การคุยกันตัวต่อตัวคือวิธีที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหานี้
เตรียมพร้อมสำหรับการยื่นอุทธรณ์เป็นลายลักษณ์อักษร. ถ้าหากคุณตัดสินใจที่จะขอเปลี่ยนเกรด คุณครูส่วนใหญ่จะบอกให้คุณยื่นอุทธรณ์เป็นลายลักษณ์อักษร คุณจะต้องร่างเค้าโครงว่าทำไมรายงานของคุณควรได้เกรดที่ดีกว่านี้และหลักฐานที่ประกอบในรายงานตรงตามคำแนะนำของคุณครูอย่างไร คุณยังสามารถเชื่อมโยงความคิดเห็นของคุณครูบนรายงานของคุณในการยื่นอุทธรณ์เป็นลายลักษณ์อักษร [5]
เคารพคุณครูตลอดเวลา. คุณควรวางตัวด้วยความนอบน้อมต่อคุณครูถึงแม้ว่าคุณไม่เห็นด้วยกับพวกเขา การทำตัวก้าวร้าวหรือโผงผางไม่เป็นที่ต้องการและสามารถทำให้คุณตกอยู่ในที่นั่งลำบากได้ คุณต้องคุยกับคุณครูด้วยความเคารพ วางตัวเป็นงานอาชีพและไม่ข่มขู่คุณครู [6]- คุณน่าจะสามารถโน้มน้าวและประสบความสำเร็จในการทำให้คุณครูเปลี่ยนเกรดถ้าหากคุณพูดคุยด้วยเหตุผลอย่างเต็มไปด้วยความเคารพ
ขอให้คุณครูทำความคิดเห็นให้กระจ่างชัด. ในกรณีส่วนใหญ่คุณสามารถคลายความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเกรดโดยการขอให้คุณครูอธิบายความคิดเห็นให้ชัดเจนมากกว่าเดิม สิ่งนี้ทำให้คุณครูมีโอกาสพูดเกี่ยวกับความคิดเห็นและสามารถช่วยให้คุณเข้าใจได้ว่าทำไมคุณจึงได้เกรดแบบนี้ [7]- ลองพูดว่า “คุณครูจิตดีคะ หนูสงสัยว่าคุณครูต้องการเขียนว่าอะไรในความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดการที่ไม่ดี คุณครูช่วยอธิบายได้ไหมคะ?”
- คุณสามารถขอให้คุณครูแนะนำเกี่ยวกับการปรับปรุงที่พวกเขาคาดหวัง
เน้นย้ำความต้องการในการปรับปรุง. คุณครูของคุณต้องเข้าใจว่าคุณต้องการปรับปรุงประสิทธิภาพการเรียนวิชานี้ ในระหว่างการพูดคุย คุณควรขอให้คุณครูแนะนำวิธีการปรับปรุงสำหรับรายงานในอนาคต ลองพูดว่า “หนูตั้งใจปรับปรุงเกรดวิชานี้ หนูต้องทำอย่างไรสำหรับรายงานครั้งหน้าคะ?”[8]- คุณสามารถพูดว่า “คุณครูออมสินคะ หนูต้องการปรับปรุงเกรดของวิชานี้ หนูต้องทำอย่างไรเพื่อทำให้เกรดดีขึ้นคะ?”
- เกริ่นด้วยความต้องการปรับปรุงเกรดของคุณแทนที่จะเกริ่นด้วยความต้องการเปลี่ยนเกรด วิธีนี้จะโน้มน้าวคุณครูได้ดีกว่า
เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญคริสโตเฟอร์ เทย์เลอร์เป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ภาควิชาภาษาอังกฤษของมหาวิทยาลัยชุมชนออสตินในเท็กซัส เขาได้รับปริญญาเอกด้านวรรณคดีอังกฤษและการศึกษายุคกลางจากมหาวิทยาลัยเท็กซัสแห่งออสตินในปี 2014ผู้ช่วยศาสตราจารย์ภาควิชาภาษาอังกฤษ
Christopher Taylor, PhD
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ภาควิชาภาษาอังกฤษคริสโตเฟอร์ เทย์เลอร์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ภาควิชาภาษาอังกฤษ ตั้งข้อสังเกตว่า: "การสื่อสารเป็นกุญแจในการสร้างความมั่นใจกับคุณครูว่าคุณจะพัฒนาขึ้น แสดงให้คุณครูได้เห็นว่าคุณสนใจในวิชานั้นและพยายามอย่างยิ่งในแต่ละจุดที่ครูต้องการให้คุณปรับปรุง "
โฆษณา
ขอคะแนนเสริม. บางครั้งคุณสามารถเพิ่มเกรดในวิชาได้หรือการขอคะแนนเสริม คุณสามารถขอคุณครูเพื่อทำการเขียนหรือรายงานเพิ่มเติมเพื่อให้ได้คะแนนเสริม อย่างไรก็ตาม คุณครูส่วนใหญ่จะไม่ให้คะแนนเสริม [9]- ลองถามว่า “คุณครูประกิตคะ คุณครูให้คะแนนเสริมไหมคะ? บางทีหนูสามารถเขียนรายงานเพิ่มเติมเพื่อให้ได้คะแนนเสริมค่ะ”
ถามเกี่ยวกับการทำรายงานอีกครั้ง. สิ่งนี้อาจเป็นทางออกที่เป็นไปได้ถ้าหากคุณครูของคุณเปิดรับแนวคิด ถามคุณครูว่าคุณสามารถทํารายงานได้อีกครั้งหรือไม่ เช่น คุณสามารถขอเขียนรายงานใหม่เกี่ยวกับหัวข้อเดิมหรือใกล้เคียง- คุณสามารถถามว่า “คุณครูดาราคะ ขอหนูทำข้อสอบอีกรอบได้ไหมคะ?”
ขอความคิดเห็นจากคุณครูที่อยู่สูงขึ้นไป. คุณต้องคิดให้ถี่ถ้วนก่อนที่จะขอความคิดเห็นจากคุณครูที่อยู่สูงขึ้น คุณครูที่อยู่สูงขึ้นไปมักจะอ้างอิงจากรายงานฉบับเดิมนอกเสียจากว่าคุณครูของคุณทำผิดพลาดอย่างชัดเจน ถ้าหากคุณเชื่อว่าคุณสามารถต่อสู้เพื่อให้คุณครูเปลี่ยนเกรดได้ คุณต้องทำตามคำขอร้องที่เหมาะสม ถามเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยเกี่ยวกับขั้นตอนที่ถูกต้อง [10]
ปล่อยมันไป. คุณควรปล่อยมันไปนอกเสียจากว่าคุณครูของคุณทำผิดพลาดอย่างชัดเจนในการคำนวณเกรดของคุณ การขอให้คุณครูเปลี่ยนเกรดที่ไม่สมควรจะทำให้คุณครูไม่ชอบคุณ ยิ่งไปกว่านั้น คุณสามารถใช้ความพยายามที่คุณใช้เพื่อขอให้คุณครูเป็นเกรดในการอ่านหนังสือจะดีกว่าโฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.thestar.com.my/news/education/2016/11/13/grades-must-be-earned-not-given/
- ↑ http://www.duq.edu/about/centers-and-institutes/center-for-teaching-excellence/teaching-and-learning/importance-of-the-course-syllabus
- ↑ http://writingcenter.unc.edu/handouts/understanding-assignments/
- ↑ https://chroniclevitae.com/news/908-dear-student-no-i-won-t-change-the-grade-you-deserve
- ↑ https://chroniclevitae.com/news/908-dear-student-no-i-won-t-change-the-grade-you-deserve
- ↑ https://www.insidehighered.com/advice/2011/06/03/doctor-professor-or-hey-you
- ↑ http://writingcenter.unc.edu/handouts/getting-feedback/
- ↑ http://writingcenter.unc.edu/handouts/getting-feedback/
- ↑ https://chroniclevitae.com/news/989-dear-student-are-you-sure-you-want-extra-credit
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ภาควิชาภาษาอังกฤษ
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Christopher Taylor, PhD. คริสโตเฟอร์ เทย์เลอร์เป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ภาควิชาภาษาอังกฤษของมหาวิทยาลัยชุมชนออสตินในเท็กซัส เขาได้รับปริญญาเอกด้านวรรณคดีอังกฤษและการศึกษายุคกลางจากมหาวิทยาลัยเท็กซัสแห่งออสตินในปี 2014 บทความนี้ถูกเข้าชม 15,719 ครั้ง
หมวดหมู่: โรงเรียนและมหาวิทยาลัย
มีการเข้าถึงหน้านี้ 15,719 ครั้ง
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.
โฆษณา
