ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

ภาษาฮินดี (मानक हिन्दी) เป็นหนึ่งในภาษาทางราชการของสาธารณรัฐอินเดีย[1] และเป็นภาษาพูดของทางอินเดียตอนเหนือ ภาษาฮินดีนั้นมีรากฐานร่วมกันกับภาษาตระกูลอินโด-อารยันอื่นๆ เช่น ภาษาสันสกฤต ภาษาอูรดู และภาษาปัญจาบ เช่นเดียวกับภาษาอินโด-อิหร่านและอินโด-ยุโรปที่รวมภาษาตั้งแต่เปอร์เซียไปถึงเคอร์ดิช รัสเซียจนถึงแกลิคของพวกไอริช การเรียนพูดภาษาฮินดีนั้นนับเป็นความท้าทาย แต่คุณสามารถเริ่มต้นโดยการหัดพูดคำและประโยคง่ายๆ คุณควรหาทางได้ฝึกพูดฮินดีในชั้นเรียน ฝึกกับคนอื่นๆ หรือฝึกเองโดยใช้เครื่องมือออนไลน์

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

เรียนรู้ไวยากรณ์ฮินดี

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ทำความคุ้นเคยกับคำนามฮินดี.
    ในภาษาฮินดีนั้น คำนามทุกคำ ซึ่งก็คือคำสำหรับสิ่งของ สถานที่ และผู้คนนั้น จะมีการบ่งบอกเพศ: เพศชาย (M) หรือเพศหญิง (F) ให้แน่ใจว่าคุณจำเพศของคำนามทุกคำในภาษาฮินดีเพราะเพศในคำนามฮินดีนั้นสำคัญต่อไวยากรณ์และการสื่อสารทางภาษาที่ถูกต้องอย่างมาก [2]
    • คุณสามารถประยุกต์กฎทั่วไปเพื่อระบุเพศในคำนาม คำที่ลงท้ายด้วยสระ आ (อา) มักจะเป็นเพศชาย และคำที่ลงท้ายด้วยสระ ई (อี) มักเป็นเพศหญิง แต่จำไว้ว่ามีข้อยกเว้นมากมายในกฎข้อนี้ ทางที่ปลอดภัยจึงยังควรเป็นการจดจำเพศในคำนามต่างๆ และฝึกฝนโดยใช้มันในประโยคภาษาฮินดี [3]
    • ตัวอย่าง คำนามสำหรับเด็กผู้ชายคือ: लड़का ladkaa (แลดกา) (M) และคำนามสำหรับเด็กผู้หญิงคือ: लड़की ladkee (แลดกี) (F) กฎทั่วไปของเพศจะใช้ได้ในกรณีของคำนามเหล่านี้
    • แต่คำนามอย่าง मेज़ mez (เมซ) – โต๊ะ (F) หรือ घर ghar (การ์) – บ้าน (M) ล้วนเป็นข้อยกเว้นของกฎเพศในคำนาม
  2. How.com.vn ไท: Step 2 เรียนคำสรรพนามฮินดี.
    เพื่อที่จะสื่อสารในภาษาฮินดีอย่างมีประสิทธิภาพ คุณจะต้องเรียนรู้คำสรรพนามง่ายๆ อย่าง “เขา, เธอ, ฉัน, พวกเรา, พวกเขา” คำสรรพนามในภาษาฮินดีได้แก่:
    • บุรุษที่หนึ่งเป็นเอกพจน์: मैं main (เมน์) - ฉัน
    • บุรุษที่หนึ่งเป็นพหูพจน์: हम hum (ฮัม) – เรา
    • บุรุษที่สองเป็นเอกพจน์: तू too (ตู) – เธอ (สนิทสนม)
    • บุรุษที่สองเป็นพหูพจน์: तुम tum (ตุม) – คุณ (ไม่เป็นทางการ), आप aap (อ๊าพ) – คุณ (เป็นทางการ)
      • พึงตระหนักว่าคำสรรพนามแต่ละคำนั้นจะใช้ตามระดับความสุภาพของการสนทนา คุณควรใช้คำว่า आप aap (อ๊าพ) อย่างเป็นทางการเมื่อพบกับใครสักคนเป็นครั้งแรก หรือในเวลาพูดกับผู้อาวุโสกว่า หรือหากคุณต้องการจะแสดงความเคารพนับถือกับคนที่คุณสนทนาด้วย
      • คำสรรพนาม तुम thum (ตุม) ที่ไม่เป็นทางการนั้นเอาไว้ใช้เวลาคุณพูดกับเพื่อนหรือญาติสนิท คำสรรพนาม तू too (ตู) ที่ไม่เป็นทางการนั้นสามารถใช้ในเวลาที่คุณพูดคุยเล่นๆ หรือเวลาแสดงความใกล้ชิด อย่างเช่นคุยกับคนรักหรือคุยกับลูก อย่าใช้คำสรรพนามที่ไม่เป็นทางการอย่าง तू too (ตู) เวลาคุยกับคนแปลกหน้าหรือคนที่ไม่ได้สนิทสนม เพราะมันถือเป็นคำหยาบ
    • บุรุษที่สามเป็นเอกพจน์: यह yah (เยห์) – เขา / เธอ / มัน / นี่
    • บุรุษที่สามเป็นพหูพจน์: वह vah (วัวห์) – เขา / เธอ / มัน / นั่น
      • เวลาพูดฮินดี คำเหล่านี้จะอ่านแตกต่างออกไปเล็กน้อย: यह จะอ่านว่า เยห์ ส่วน वह จะอ่านว่า วอห์ คุณควรใช้ यह (เยห์) เวลาพูดถึงใครสักคนหรืออะไรสักอย่างที่อยู่ใกล้คุณ เช่น หากมีใครสักคนยืนข้างคุณ คุณจะใช้ यह (เยห์)
      • คุณควรใช้ वह (วัวห์) เวลาพูดถึงใครสักคนหรืออะไรสักอย่างที่อยู่ห่างออกไป เช่น หากใครคนหนึ่งกำลังเดินข้ามถนน คุณควรใช้ वह (วัวห์)
      • เวลาไม่แน่ใจ ให้ใช้ वह (วัวห์)
    • บุรุษที่สามเป็นพหูพจน์: ये ye (เย) – เหล่านี้ / พวกเขา
    • บุรุษที่สามเป็นพหูพจน์: वे ve (เว) – เหล่าโน้น / พวกเขา
      • คุณจะได้ยินคำว่า वे ve (เว) ถูกพูดเป็นเอกพจน์ว่า “voh” (วัวะ) อยู่บ่อยๆ คำสรรพนามบุรุษที่สามแบบพหูพจน์นั้นดป็นไปตามกฎเดียวกัน: ये ye (เย) สำหรับคน/สิ่งของที่อยู่ใกล้ตัวคุณ (ในเรื่องของระยะทาง) และ वे vo (วัวะ) สำหรับคน/สิ่งของที่อยู่ห่างออกไป
      • โปรดสังเกตว่าทั้ง यह yeh (เย) หรือ वह voh (วัวห์) สามารถหมายถึงทั้ง “เขา” หรือ “เธอ” ในภาษาฮินดีนั้น สรรพนามบุรุษที่สามจะไม่อยู่บนพื้นฐานของเพศคนที่คุณกำลังเอ่ยถึง หากจะดูว่าคนผู้นั้นเป็น “เขา” หรือ “เธอ” คุณต้องจับเอาจากบริบทภายในประโยค
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ศึกษาคำกริยาฮินดี.
    เริ่มจากการเรียนคำกริยาฮินดีในรูปปกติ (ในภาษาอังกฤษเหมือน “to ___”) เพราะคำกริยาในภาษาฮินดีจะผันโดยเอาคำลงท้ายกริยาออกแล้วเติมคำห้อยท้ายอื่นเข้าไปแทน คำกริยาปกติของฮินดีจะลงท้ายด้วย ना naa (นะ)[4]
    • ตัวอย่างของคำกริยารูปปกติ (ช่องที่ 1) ในภาษาฮินดีได้แก่: होना honaa (โฮน่ะ) – เป็น; पढ़ना padnaa (ปาดนา) – อ่านหรือเรียน; बोलना bolnaa (โบลนา) – พูด; सीखना seekhnaa (ซีคนา) – เรียน; जाना jaanaa (จานา) – ไป [5]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ฝึกคำกริยาแบบผัน.
    คุณจะต้องผันคำกริยาในภาษาฮินดีเพื่อสะท้อนหัวข้อของไวยากรณ์เช่น ตัวเลข เพศ กาล และอารมณ์ [6]
    • ตัวอย่าง คำกริยารูปปกติ होना honaa (โฮน่ะ) – เป็น นั้นสามารถผันได้หลายแบบจนกลายเป็น:[7]:
      • मैं हूँ main hoon (เมน์ฮูน์ ตัว 'n' ไม่ออกเสียง) – ฉัน
      • हम हैं ham hain (ฮัมเฮน์ ตัว 'n' ไม่ออกเสียง) – พวกเรา
      • तू है thoo hai (ตูเฮ) – คุณ (สนิทสนม)
      • तुम हो thum ho (ตุมโฮะ) – คุณ (ไม่เป็นทางการ)
      • आप हैं aap hain (อ๊าพเฮน์) – คุณ (เป็นทางการ)
      • यह है yah hai (เยเฮ) – เขา/เธอ/นี่
      • वह है voh hai (วัวะเฮ) – เขา/เธอ/นั่น
      • ये हैं ye hain (เยเฮะ) – พวกนี่/พวกเขา
      • वे हैं ve hain (เวเฮะ) – พวกนั่น/พวกเขา
    • มีการผันคำกริยาตามเพศสามแบบในรูปแบบคำกริยากาลปัจจุบัน:
      • สำหรับประธานประโยคเอกพจน์ที่เป็นเพศชาย ให้ตัดคำตามท้ายกริยาปกติ ना naa (นา) แล้วเติม ता taa (ตา)
      • สำหรับประธานพหูพจน์เพศชาย ให้ตัดคำตามท้ายกริยาปกติ ना naa (นา) แล้วเติม ते te (เต)
      • สำหรับประธานประโยคที่เป็นเพศหญิงไม่ว่าจะเอกพจน์หรือพหูพจน์ ให้ตัดคำตามท้ายกริยาปกติ ना naa (นา) แล้วเติม ती tee (ตี)
    • คำกริยาในภาษาฮินดีมีหลายรูปกาล ดังนั้นคุณจำเป็นต้องใช้คู่มืออ้างอิงเช่น ตำราหรือคู่มือสอนภาษาเพื่อเรียนรู้ว่าจะผันคำกริยานอกเหนือจากกาลปัจจุบันอย่างไร คุณยังสามารถใช้พจนานุกรมดีๆ สักเล่มมาช่วยในการผันคำกริยาใหม่ๆ ด้วย
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

เรียนคำง่ายๆ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ฝึกคำทักทายพื้นฐาน.
    คำว่า “สวัสดี” และ “ลาก่อน” เป็นคำเดียวกันในภาษาฮินดีนั่นคือ “namaste”, อ่านว่า nuh-MUS-stay (นมัสเต) ปกติคุณจะเอ่ยทักทายใครสักคนด้วยคำว่า “namaste” ในตอนต้นของการสนทนา หรือใช้ทักทายง่ายๆ เวลาเดินสวนกันก็ได้ [8]
    • “อรุณสวัสดิ์” ในภาษาฮินดีคือ “Suprabhaat” (ชุปปราผาด) และ “สายัณห์สวัสดิ์” ในภาษาฮินดีคือ“Shub sundhyaa” (ชุปสันเทีย) “ยินดีต้อนรับ” ในภาษาฮินดีคือ “Aapka swaagath hai!” (อ๊าพกา สวากุธ เฮ!)
    • คำแนะนำการอ่านออกเสียงคำเหล่านี้สามารถหาได้ที่นี่: https://www.youtube.com/watch?v=hD9serDDbY8#t=17.
  2. How.com.vn ไท: Step 2 เรียนรู้วันในหนึ่งสัปดาห์.
    ฝึกใช้คำในหนึ่งสัปดาห์เพื่อขยายคำศัพท์ภาษาฮินดีของคุณ มันจะช่วยได้ถ้าฟังคนอินเดียพูด ซึ่งสามารถหาได้จากที่นี่: https://www.youtube.com/watch?v=hD9serDDbY8#t=17.[9]
    • วันอาทิตย์: RaveevaaR (ระวิวาร์)
    • วันจันทร์: SomvaaR (โสมวาร์)
    • วันอังคาร: MangalvaaR (มังกาลวาร์)
    • วันพุธ: BudvaaR (บุธวาร์)
    • วันพฤหัสบดี: guRoovaaR (กุรูวาร์)
    • วันศุกร์: shukRavaaR (ชุกราวาร์)
    • วันเสาร์: shaneevaaR (ชานีวาร์)
    • คุณยังสามารถฝึกพูด “เมื่อวานนี้” ซึ่งก็คือ “kal”(ไกล์); วันนี้ ซึ่งก็คือ “aaj” (อ๊าจ); กลางวัน ซึ่งก็คือ “dhin” (ดิน); กลางคืน ซึ่งก็คือ “raath” (ราธ)
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ฝึกพูดตัวเลขในภาษาฮินดี.
    อีกหัวข้อที่ง่ายคือตัวเลข 1-20 ในภาษาฮินดี การเรียนนับตัวเลขเป็นอีกวิธีที่จะช่วยขยายคำศัพท์มากขึ้นและทำความคุ้นเคยกับเสียงอ่านภาษาฮินดีมากขึ้น [10]
    • ศูนย์: shunya/sifer (ชูนเนีย/ซิเฟอร์)
    • หนึ่ง: eyk (เอก)
    • สอง: dho (โด)
    • สาม: then (ตีน)
    • สี่: chaar (จาร์)
    • ห้า: paanch (ปัญจ์)
    • หก: chey (เชย์)
    • เจ็ด: saath (ศาธ)
    • แปด: aat (อ๊าธ)
    • เก้า: now (นอ)
    • สิบ: dhas (ดาส)
    • สิบเอ็ด: gyaaRah (เกียราห์)
    • สิบสอง: baaRah (บาราห์)
    • สิบสาม: teyRah (ตีราห์)
    • สิบสี่: chowdhah (ชอดาห์)
    • สิบห้า: pandhRaah (ปัญจ์ราห์)
    • สิบหก: solah (ซอลาห์)
    • สิบเจ็ด: sathRah (ศาธราห์)
    • สิบแปด: ataaRaah (อธาราห์)
    • สิบเก้า: unnees (อุนนีส)
    • ยี่สิบ: bees (บีส)
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

เรียนรู้ประโยคง่ายๆ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ฝึกพูดว่า “คุณชื่ออะไร”.
    พอคุณเริ่มคุ้นเคยกับคำภาษาฮินดี อาจลองพูดประโยคง่ายๆ อย่าง “คุณชื่ออะไร” ซึ่งก็คือ “Aap ka nam kya hai?” ออกเสียงว่า “aap kaa NAAM kya hai” (อ๊าพ กา น้าม ยา เฮ) [11][12]
    • คุณยังสามารถเรียนวิธีตอบเมื่อมีคนถามชื่อคุณเป็นภาษาฮินดีโดยการตอบว่า “ฉันชื่อ…” หรือ “Mera nam...hein” ออกเสียงว่า “MAY-ra naam...hay” (เม-รา นาม...เฮ) ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณชื่อ ถ้าคุณชื่อชมพู่ คุณอาจพูดว่า “Mera naam Chompoo hein” (เม-รา นาม ชมพู่ เฮน์)
  2. How.com.vn ไท: Step 2 เรียนรู้ที่จะถามว่า “สบายดีไหม”.
    เพื่อให้บทสนทนาดำเนินต่อไป คุณอาจถามว่า “สบายดีไหม” หรือ “Aap kaisey hain?” ออกเสียงว่า “aap KAY-se hain” (อ๊าพ เก เส เฮน์)[13]
    • คุณอาจตอบคำถามนั้นด้วยคำว่า “ฉันสบายดี ขอบคุณมาก!” หรือ “Mein theek hoon, shukriya!” (เมน์ ธีค ฮูน์ ชุกรียา!)
    • คุณยังสามารถฝึกพูด “ขอบคุณ” หรือ “Dhanya vaad” ออกเสียงว่า “DUN-y e vaad” (ธัญญา วาด) คุณสามารถตอบกลับเวลาใครเอ่ยขอบคุณเป็นภาษาฮินดีโดยการพูดว่า “ด้วยความยินดี” หรือ “Shukriyaa” (ชุกรียา)
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ลองประโยคในบทสนทนาโต้ตอบแบบสั้นๆ.
    พอคุ้นเคยกับคำและประโยคในภาษาฮินดีหลายคำมากขึ้น คุณอาจต้องการเรียงร้อยมันเข้าด้วยกันเป็นบทสนทนาสั้นๆ กับเพื่อน คุณยังสามารถฝึกด้วยตัวเอง บทสนทนาตัวอย่างได้แก่:
    • “Namaste!” (นมัสเต) (หรือ “Arrey, Dost!” (อาเร โดส!) ซึ่งหมายถึง “ว่าไงเพื่อน!” อันเป็นคำทักทายแบบเป็นกันเอง)
    • “Namaste!” (นมัสเต!)
    • “Aap kaisey hain?” (อ๊าพ เกเส เฮน์) (สบายดีหรือเปล่า)
    • “Mein theek hoon, shukriya! Aur aap?” (เมน์ ธีค ฮูน์ ชุกรียา! อาร์ อ๊าพ)(ฉันสบายดี ขอบใจนะ แล้วเธอล่ะ)
    • “Theek-thaak” (ธีค-ธาค) (สบายดี)
    • “Alvida!” (อาล์วิดา!) (ลาก่อน!)
    • “Namaste!” (นมัสเต!) (สวัสดี!)
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ฝึกประโยคพื้นฐานสำหรับนักท่องเที่ยว.
    หากคุณวางแผนจะไปอินเดียหรือบริเวณที่คนพูดภาษาฮินดีกัน คุณอาจต้องการฝึกประโยคที่ใช้บ่อยๆ เพื่อช่วยคุณสื่อสารกับคนที่นั่นได้ คุณควรฝึกประโยคเหล่านี้กับเพื่อนที่เรียนภาษาฮินดีหรือคนอินเดีย เพื่อจะได้ออกเสียงคำเหล่านี้ได้คล่อง [14]
    • “ฉันหลงทาง”: “Hum kho gaye hain” (ฮัม โค กาย เฮน์)
    • “คุณพอช่วยฉันหน่อยได้ไหม”: “Kya aap meri madad kar saktey hain?” (กยา อ๊าพ เมรี มาด๊าด การ์ ซากะเต เฮน์)
    • “ห้องน้ำอยู่ที่ไหน”: “śaucaghara kahaan hai?” (ซอ-ซา-กฮาร์ คาฮา เฮ)
    • “เท่าไหร่”: “Yeh kaisey diyaa?” (เย เกเส ดิยา)
    • “ขอโทษนะครับ…” (ขอให้ทำอะไรสักอย่าง): “Kshama keejeeae…” (ชามะ คีเจีย...)
    • “โทษนะ…” (ขอทาง): “Kshama keejeeae…” (ชามะ คีเจีย...)
  5. How.com.vn ไท: Step 5 เรียนรู้วิธีการสั่งอาหารในร้านอาหารอินเดีย....
    เรียนรู้วิธีการสั่งอาหารในร้านอาหารอินเดีย. คุณสามารถฝึกสั่งอาหารเป็นภาษาฮินดีได้ ซึ่งเป็นอีกวิธีที่จะได้ใช้การสนทนาเป็นภาษาฮินดี บันทึกเสียงของประโยคภาษาฮินดีเหล่านี้สามารถหาฟังได้จากเว็บไซต์ Audible Hindi[15]
    • “คุณต้องการ …?” : “kya aapako … pasand hai?” (กยา อ๊าปะโก...ปาซาน ไฮ)
    • “คุณต้องการจะดื่มอะไร”: “Aap kya pina pasand karenge?” (อ๊าพ กยา ปินา ปาซาน กาเฮงเก้)
    • “ฉันอยากได้…”: “main … lena pasand karunga.” (เมน์...ลีนา ปาซาน การุงก้า)
    • “ฉันไม่ทานเนื้อหรือปลา”: “Main macchi ya maas nahin khata.” (เมน์ มาสชิ ยา มาส เนฮิน คาตา)
    • “ฉันไม่ดื่ม”: “main shrab nahin pita.” (เมน์ ชาหรับ เนฮิน ปิตา)
    • “มันไม่ได้เรื่อง!”: “yah bhayankar hai!” (เย พยังการ์ ไฮ)
    • “มันอร่อยมาก!”: “yah swadisht hai!” (เย สวาดิธ ไฮ)
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

ฝึกฝนภาษาฮินดีของคุณ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เข้าร่วมชั้นเรียนภาษาฮินดี.
    วิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งในการเรียนภาษาใหม่ๆ คือลงชื่อเข้าเรียนในชั้นเรียนเสริมภาษา ที่คุณจะได้พบปะกับครูผู้สอนและนักเรียนคนอื่นๆ อย่างน้อยก็สัปดาห์ละครั้ง คุณจะสามารถได้ฝึกบทสนทนาภาษาฮินดีต่อหน้ากับครูผู้สอนและได้รับคำแนะนำเรื่องการออกเสียงหรือสำเนียงกันเดี๋ยวนั้น
    • การได้อยู่แวดล้อมด้วยนักเรียนคนอื่นที่เรียนภาษาเดียวกันก็มีประโยชน์ เพราะจะได้ช่วยสนับสนุนกันและกันในการฝึกภาษา มองหาชั้นเรียนภาษาฮินดีดูทั้งในมหาวิทยาลัยหรือศูนย์ชุมชนชาวอินเดีย
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ใช้เครื่องมือออนไลน์อย่างวิดีโอหรือพอดคาสต์....
    ใช้เครื่องมือออนไลน์อย่างวิดีโอหรือพอดคาสต์. มีเครื่องมือเรียนภาษาออนไลน์มากมายสำหรับคนหัดเรียนภาษาฮินดีที่เน้นการพูดคำหรือประโยคง่ายๆ จนไปถึงองค์ประกอบทางภาษาขั้นซับซ้อน อย่างเช่นการผันคำกริยา การเชื่อมประโยค คำคุณศัพท์ และเสียง
  3. How.com.vn ไท: Step 3 อ่านและพูดเรื่องราวในหนังสือเด็กภาษาฮินดี.
    หนังสือสำหรับเด็กในภาษาฮินดีเหมาะจะนำมาเรียนศัพท์กับประโยคพื้นฐานได้ในแบบที่สนุกด้วย หนังสือเด็กหลายเล่มยังเหมาะแก่การฝึกบทสนทนาในภาษาฮินดีให้คล่องขึ้น แถมยังมีภาพที่ช่วยเน้นศัพท์คำนั้นอีก
    • คุณสามารถหาหนังสือเด็กในภาษาฮินดีมากกว่า 60 เล่มได้ที่นี่: http://www.learning-hindi.com/ บางเล่มมีแบบบันทึกเสียงที่จะทำให้ฝึกออกเสียงได้เก่งขึ้นด้วย
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ฝึกภาษาฮินดีกับเพื่อนที่พูดได้คล่อง.
    หากคุณมีเพื่อนที่พูดภาษาฮินดีได้คล่อง อาจนัดแนะขอเจอเขาทุกสัปดาห์เพื่อฝึกพูดด้วยกัน ใช้หัวข้อทั่วๆ ไป อย่างเรื่องสภาพอากาศหรือความรู้สึกในวันนั้น แล้วพยายามเลื่อนไปหาหัวข้อที่ซับซ้อนกว่านั้น
    • คุณยังสามารถออกไปหาการรวมกลุ่มคนพูดภาษาฮินดีแถวนั้นว่ามีหรือเปล่า ซึ่งจะช่วยคุณได้ฝึกกับคนที่พูดได้คล่องแคล่วกว่า
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ดูหนังอินเดีย.
    อินเดียมีอุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่ใหญ่มาก รู้จักกันดีว่า “บอลลีวูด” และมีหนังออกฉายมากกว่า 1,000 เรื่องต่อปี [16] คุณสามารถหาหนังที่พูดภาษาฮินดีได้ตามบริการสตรีมมิ่งหรือผ่านผู้ให้บริการเนื้อหาอย่าง iTunes หรือไปเช่าหนังจากร้านให้เช่าแถวพาหุรัด ดูหนังเหล่านี้เพื่อให้สนทนาได้เก่งขึ้น โดยจะดูทั้งที่เปิดซับไตเติลหรือไม่ก็ได้เพื่อฝึกการฟังภาษาฮินดีที่พูดโดยคนอินเดียโดยตรง
    • คุณอาจเริ่มด้วยการดูหนังยอดนิยมในแวดวงหนังอินเดียอย่าง Mughal-e-Azam (มักถูกจัดอันดับอยู่บ่อยครั้งให้เป็นภาพยนตร์บอลลีวูดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล) หนังตลกอย่าง Golmaal และหนังชีวิตเรื่อง Kahaani[17]
  6. How.com.vn ไท: Step 6 เข้าร่วมงานวัฒนธรรมฮินดูในละแวกบ้าน.
    เมืองใหญ่ทั้งหลายส่วนใหญ่จะมีชุมชนชาวอินเดียอาศัย ซึ่งมักจะจัดงานเทศกาลฮินดูหรืองานทางวัฒนธรรม นี่จะเป็นโอกาสให้ได้พบเจอเพื่อนใหม่ชาวอินเดียและเรียนรู้วัฒนธรรมฮินดูเพิ่มขึ้น อย่างงานฉลองบูชาพระแม่อุมาที่วัดแขก เป็นต้น
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: ทีมงานวิกิฮาว
ร่วมเขียน โดย:
นักเขียนในทีมวิกิฮาว
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา

ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 42,944 ครั้ง
หมวดหมู่: ภาษา
มีการเข้าถึงหน้านี้ 42,944 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา