ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความX
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้
บทความนี้ถูกเข้าชม 43,542 ครั้ง
เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณปลุกเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวของคุณให้ตื่นจากการนอนหลับ แต่พวกเขาเหล่านั้นไม่ยอมตื่น อาจทำให้คุณเริ่มโมโห แล้วใช้วิธีกระโดดขึ้นไปบนเตียง แล้วตะโกนใส่พวกเขาอย่างสุดเสียง นี่ไม่ใช่วิธีการที่เข้าท่าเท่าไหร่นัก และควรหลีกเลี่ยงการใช้วิธีเช่นนี้ถ้าคุณไม่อยากพบเจอกับอะไรที่แย่กว่าในเช้าวันถัดไปเมื่อพวกเขาเป็นฝ่ายปลุกคุณ ทางที่ดีที่สุดคือ ใช้วิธีที่ไม่รุนแรง นุ่มนวลในการปลุกก่อน ถ้ายังไม่เป็นผล คราวนี้ค่อยเลื่อนระดับขึ้นมาใช้การปลุกที่สร้างสรรค์แปลกใหม่เพื่อปลุกเป้าหมายของคุณให้ตื่นนอน
ขั้นตอน
ปลุกคนให้ตื่นด้วยกาแฟหรือชาที่มีกลิ่นหอม. ชงกาแฟหรือชาที่ให้กลิ่นหอมกรุ่นสักแก้วแล้วถือเข้าไปในห้องนอนของคนที่ต้องการปลุก ไปนั่งที่ปลายเตียงของเขา ให้กลิ่นหอมของเครื่องดื่มและน้ำหนักตอนที่คุณนั่งลงที่ปลายเตียงเป็นตัวปลุกพวกเขาให้ตื่นขึ้นจากหลับใหลอย่างนุ่มนวล การปลุกให้ตื่นด้วยการใช้กลิ่นเป็นวิธีธรรมชาติ โดยเป็นการกระตุ้นประสาทรับรู้ และทำให้ผู้ถูกปลุกไม่อารมณ์เสียเมื่อตื่นนอนด้วย- คุณอาจใช้วิธีการนำกาแฟที่เพิ่งชงใหม่ๆ เข้าไปวางบนโต๊ะ ในตำแหน่งที่ไม่ใกล้คนหลับจนเกินไป เพื่อไม่ให้คนที่หลับเผลอปัดแก้วตกในตอนที่เขาตื่นขึ้น จากนั้นเดินออกจากห้องแล้วปิดประตู การผสมผสานกันระหว่างกลิ่นและเสียงอาจทำให้เขาตื่นนอนขึ้นเองได้
ปลุกคนให้ตื่นด้วยกลิ่นที่กระตุ้นความอยากอาหาร. ไม่ว่าจะเป็นการชงกาแฟ ทอดเบคอน หรือแม้แต่ฉีดสเปรย์ให้กลิ่นหอมสดชื่น เหมือนกลิ่นพืชตระกูลส้มภายในห้อง โดยเฉพาะกลิ่นของมะนาว ที่กระตุ้นประสาทรับกลิ่นได้ดี จนแม้แต่ใครที่เป็นคนหลับลึกก็ตื่นขึ้นได้ด้วยกลิ่นของมะนาวนี่เอง[1]- ต้องมั่งใจว่ากลิ่นที่คุณจะใช้ปลุกคนหลับนั้นเป็นกลิ่นที่เขาชอบ ถ้าเป้าหมายเป็นคนที่ไม่ได้โปรดปรานเบคอนล่ะก็ กลิ่นหอมยั่วยวนของเบคอนก็ไม่สามารถดึงเขาขึ้นจากเตียงนอนได้ ถ้าเป้าหมายเป็นคนประเภทที่ชอบรับประทานคุกกี้ช็อกโกแลตชิพเป็นมื้อเช้า คุณก็ใช้กลิ่นของขนมดังกล่าวมาปลุกเขาให้ตื่น เพียงแค่เลือกกลิ่นให้ตรงกับความชื่นชอบของคนที่ต้องการปลุกเท่านั้นเอง
- ถ้าหากว่าคุณคิดว่ากลิ่นที่ยั่วยวนชวนให้ตื่นนั้นไม่แรงพอจะกระจายไปถึงห้องนอนของเป้าหมายได้ ให้ใช้วิธีนำอาหารเช้าเข้าไปเสิร์ฟเขาถึงเตียงนอน วิธีนี้ไม่เพียงแต่เป็นการปลุกเขาอย่างเนียนๆ เท่านั้น แต่เขาจะรู้สึกว่าคุณทำสิ่งพิเศษให้เขาด้วย ซึ่งมีแต่ให้ผลดีกับคุณทั้งสิ้น
ปลุกคนให้ตื่นด้วยเสียง. ด้วยการเข้าไปในห้องนอนของคนที่คุณต้องการปลุก แล้วทำอะไรก็ได้ให้เกิดเสียงดังขึ้น แต่ต้องระวังว่าไม่ให้ดังโครมครามจนเกินไป เพราะอาจทำให้เขาตกเตียงจากการตกใจตื่นได้ พยายามเดินให้มีเสียงและทำทุกอากัปกิริยาให้เกิดเสียงไปทั่วห้อง บางทีเพียงแค่เสียงส้นของรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นไปรอบๆ ห้องก็สามารถปลุกคนให้ตื่นได้แล้ว- วิธีการปลุกโดยใช้เสียงที่ทำได้ง่ายมากๆ วิธีหนึ่งคือ เปิดประตูห้องเพื่อดูว่าเป้าหมายของคุณตื่นหรือยัง แล้วก็ปิดประตูนั้น หรืออาจใช้วิธีเปิดน้ำในห้องน้ำที่ใกล้ห้องนอนเขาที่สุดให้มีเสียงน้ำไหล หรือจะพูดคุยหรือแกล้งทำเป็นคุยกับใครสักหน้าห้องนอนของเขาก็ได้
ปลุกคนให้ตื่นด้วยแสง. วิธีธรรมชาติที่สามารถปลุกคนให้ตื่นขึ้นได้นั่นคือการใช้แสง เปิดผ้าม่าน ม่านบังตา หรือเปิดประตูในกรณีที่ห้องไม่มีหน้าต่าง ให้แสงสาดส่องไปถึงตัวคนหลับ เพื่อให้ร่างกายของเขารับรู้ถึงแสง รู้ว่าพระอาทิตย์ขึ้นและได้เวลาที่เขาต้องตื่นขึ้นมาทำกิจวัตรแล้ว- คุณเลือกได้ว่าจะใช้แสงเป็นตัวช่วยในการปลุกอย่างนุ่มนวล หรืออย่างรุนแรง วิธีที่นุ่มนวลทำได้โดยคุณค่อยๆ เลื่อนหรือเปิดม่าน ให้แสงสาดเข้ามาในห้องอย่างอ่อนๆ หรือใช้วิธีรุนแรงคือเปิดม่านทั้งหมดทันที ให้แสงแดดจ้าส่องตรงเข้ามาในห้อง และที่นอน จนคนหลับต้องตื่นขึ้นเพราะแสงแดดแยงตา
ปลุกคนให้ตื่นด้วยอุณหภูมิ. ถ้าหากคุณมีเวลาพอ คุณสามารถใช้อุณหภูมิเป็นตัวช่วยในการปลุกคนให้ตื่นขึ้นได้ ด้วยการปรับอุณหภูมิภายในบ้านให้ร้อนขึ้นหรือเย็นลงอย่างเห็นได้ชัดจากอุณหภูมิเดิม อุณหภูมิที่เปลี่ยนไปนี้เอง จะทำให้คนหลับเริ่มรู้สึกไม่สบายตัว และตื่นขึ้นเองในที่สุด- อย่างไรก็แล้วแต่ วิธีการปรับอุณหภูมินี้ต้องใช้เวลาและอาจจะทำให้เกิดความยุ่งยากถ้าหากต้องปรับอุณหภูมิของทั้งบ้าน ฉะนั้นวิธีนี้จึงเหมาะกับกรณีที่คุณสามารถปรับเปลี่ยนอุณหภูมิเฉพาะห้องหรือเฉพาะที่ได้มากกว่า ไม่อย่างนั้นคงจะต้องใช้เวลานานและยังเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานด้วย
โฆษณา
ปลุกให้ตื่นด้วยการแกล้งหาของในห้องนอนของเขา. เพียงแค่เดินเข้าไปในห้องนอนเขา ทำเป็นหาของอะไรสักอย่าง เปิดลิ้นชัก ขยับของบางอย่างในห้อง หรือแกล้งทำเป็นหาของใต้กองกระดาษและหนังสือในห้องของเขา ถ้าหากเป็นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ คุณก็แกล้งทำเป็นเข้าไปทำความสะอาดห้อง หรือถ้าคุณเป็นเด็กและวันนั้นเป็นวันไปเรียน อาจจะใช้วิธีแกล้งบอกว่าเข้าไปหากระเป๋าหนังสือของคุณก็ได้- ต้องระวังไว้ว่า ถ้าหากคุณใช้วิธีข้างต้นอย่างไม่แนบเนียนพอ เป้าหมายของคุณจะรู้ว่าคุณแค่แกล้งทำเท่านั้น ดังนั้นพยายามแกล้งหาของที่เป็นไปได้ที่จะอยู่ในห้องของคนหลับ ถ้าหากคุณไม่อยากถูกจับได้ว่ากำลังทำตัวเป็นนาฬิกาปลุกของเขาอยู่
ปลุกให้ตื่นด้วยการโทรศัพท์. ถ้าวิธีที่ผ่านมาไม่สามารถปลุกคนหลับให้ตื่นได้ ลองใช้วิธีโทรศัพท์ไปยังห้องของเป้าหมายหรือห้องข้างๆ เขา คุณอาจเปิดเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์คุณ หรือพิมพ์ข้อความคุยกับเพื่อนเพื่อให้โทรศัพท์มีเสียงเตือน ที่สำคัญคือต้องไม่ลืมเปิดเสียงเตือนโทรศัพท์ด้วย หรือคุณอาจนำโทรศัพท์ของคุณไปไว้ในห้องของเป้าหมาย แล้วโทรเข้าก็ได้เช่นกัน- เมื่อเป้าหมายของคุณตื่นและอารมณ์เสียจากการรบกวนของเสียงโทรศัพท์ของคุณ คุณอาจกล่าวขอโทษเขา บอกเขาว่าคุณไม่รู้จริงๆ ว่าเขานอนหลับอยู่ และคุณจะไม่ปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก
ปลุกให้ตื่นด้วยการใช้รถของคุณ. คุณอาจเปิดเสียงสัญญาณกันขโมยของรถคุณเพื่อปลุกคนหลับให้ตื่นขึ้น และเมื่อเขาตื่นให้รีบปิด เขาจะคิดว่าเป็นเสียงรถของใครบางคนข้างนอกบ้านหรือที่พัก ซึ่งเขาจะมาโทษว่าคุณเป็นคนปลุกเขาไม่ได้อย่างแน่นอน- ถ้าเครื่องยนต์ของรถคุณมีเสียงดัง คุณอาจแกล้งติดเครื่องรถที่จอดอยู่ใกล้กับตำแหน่งห้องนอนของคนหลับ หรือจะทำเสียงดังอื่นในลักษณะเดียวกันนี้ก็ได้เช่นกัน
ปลุกให้ตื่นด้วยการดึงผ้าห่ม. ถ้าคุณเห็นว่าคนหลับดูยังไม่พร้อมรับแสงสว่างเท่าไหร่ ให้ค่อยๆ ดึงผ้าห่มหรืออะไรก็ตามที่เขาใช้คลุมตัวอยู่ออกจากเขาอย่างแผ่วเบา อุณหภูมิที่แปลกไป และความรู้สึกขาดอะไรมาคลุมตัวให้รู้สึกสบาย จะปลุกเขาจากการหลับใหลขึ้นมาได้ วิธีนี้เป็นการแสดงออกตรงๆ ว่าคุณต้องการปลุกเขาจากการนอนหลับ ซึ่งถ้าหากคุณแน่ใจที่จะใช้วิธีนี้ นี่คือสิ่งสำคัญที่คุณต้องคำนึงถึง- ต้องมั่นใจและแน่ใจว่าเป้าหมายของคุณใส่เสื้อผ้าอยู่ขณะนอนหลับ มิเช่นคนที่จะตื่นเต็มตาคงไม่ใช่แค่เขาฝ่ายเดียวแน่นอน
ปลุกให้ตื่นด้วยนาฬิกาปลุก. ถ้าเป้าหมายของคุณมีโทรศัพท์ที่มีโปรแกรมนาฬิกาปลุกหรือนาฬิกาปลุกอยู่ข้างเตียง ให้ตั้งปลุกซะ เพราะเขาจะไม่ตั้งมันแน่นอน ที่สำคัญคือตั้งเวลาปลุกให้เกินเวลาจริงไปเล็กน้อย เผื่อเวลาให้คุณออกจากห้องได้ทันด้วย เมื่อคนหลับตื่นขึ้น เขาจะแปลกใจและครุ่นคิดว่า นาฬิกาปลุกดังได้อย่างไรในเมื่อเขาไม่ได้ตั้งปลุกไว้ก่อนนอน- อีกทางเลือกหนึ่งในการใช้วิธีนี้ นั่นคือการตั้งปลุกในโทรศัพท์มือถือของคุณ แล้วนำไปไว้ในห้องนอนของเป้าหมาย ในกรณีที่คุณสามารถทำแบบนั้นได้ และเมื่อเสียงปลุกดังขึ้น คุณก็แสร้งทำเป็นเพิ่งรู้ว่า คุณเผลอลืมโทรศัพท์มือถือไว้ในห้องของเขานั่นเอง
โฆษณา
ปลุกด้วยการเรียกคนหลับให้ตื่นนอน. จับเป้าหมายของคุณเขย่าแล้วตะโกนดังๆ ว่า “ตื่นได้แล้ว” คุณสามารถเริ่มจากพูดปกติแล้วพูดให้ดังขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าเขาจะตื่น วันใหม่เริ่มขึ้นแล้ว มีอะไรให้ทำมากมาย เพราะฉะนั้น จงตื่นขึ้นมาเถอะ!- ถ้ามีเสียงตอบโต้กลับอย่างงัวเงียจากเป้าหมายของคุณ แปลว่าเขาตื่นแล้วแต่ใจจริงยังไม่อยากตื่น และไม่อยากลุกจากที่นอน ให้คุณย้ำเตือนเขาว่ามีเกิดขึ้น มีอะไรต้องทำบ้างในวันนั้น ถ้าเป็นไปได้ให้นำกาแฟหรืออาหารมื้อเช้ามายั่วให้เขาตื่นเต็มตาขึ้นก็ได้
ปลุกด้วยการเปิดเพลง. อารมณ์ของคุณจะสั่งการเองว่าคุณจะจัดการเป้าหมายด้วยเพลงแบบไหน ถ้าคุณรู้สึกเป็นมิตรกับเขา ก็เปิดเพลงเบาๆ ฟังสบาย เช่น เพลงช้าแนวป๊อป หรือเพลงบรรเลง แต่ถ้าคุณรู้สึกไม่พอใจ หงุดหงิดที่เขาไม่ตื่นเสียที เปิดเพลงแนวเมทัล ดุดันได้เลย เพียงแค่ต้องระวังความเสี่ยงต่ออะไรที่แย่กว่า ที่อาจเกิดขึ้นได้เมื่อเป้าหมายคุณตื่นขึ้นจากการเปิดเพลงของคุณ- คุณสามารถเปิดเพลงจากเครื่องเสียงสเตอริโอ ไอแพด คอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ในห้อง หรือจากโทรศัพท์ของคุณเองก็ได้ และอย่าลืมว่า คุณสามารถร้องคลอไปด้วยได้ตามสบาย
ปลุกด้วยการเปิดโทรทัศน์แล้วเพิ่มเสียงให้ดัง. คุณไม่ต้องพูดอะไรเลย เพียงแค่เปิดโทรทัศน์เท่านั้น ทั้งแสงและเสียงจากโทรทัศน์จะทำให้คนหลับตื่น ทางที่ดีควรเปิดช่องรายการที่คุณคิดว่าเป้าหมายของคุณชอบดู เพื่อเวลาเขาตื่นขึ้นมาแล้วจะได้ไม่อารมณ์เสียมากนัก- ถ้าคุณอยากให้วิธีการปลุกนี้ดูไม่ตั้งใจมากนัก ให้คุณเปิดโทรทัศน์แล้วดูเอง เป้าหมายของคุณจะตื่นขึ้นในที่สุด แล้วดูโทรทัศน์กับคุณ คุณจะสามารถหันไปหาเขาแล้วพูดแบบเนียนๆ ได้ว่า “อ้าว ตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย”
- อย่าเปิดเสียงโทรทัศน์ดังมากจนเกินไป จนตัวคุณเองก็รู้สึกหนวกหู เปิดให้ดังแค่พอที่จะปลุกคนตื่นได้ อย่าให้คนที่ตื่นแล้วต้องลำบากไปด้วย
ปลุกด้วยการพรมน้ำเย็นลงบนหน้าคนหลับ. ถ้าหากยังไม่ประสบผลสำเร็จ ให้ใช้วิธีที่พิสูจน์มาแล้วว่าได้ผล นั่นคือการกอบน้ำเย็นจากห้องน้ำที่ใกล้ที่สุดให้เต็มฝ่ามือ รีบมาที่เตียงแล้วสาดน้ำที่เหลือในมือไปที่หน้าของคนหลับ เขาจะไม่ชอบใจแน่ แต่เขาจะตื่นแน่นอน- ถ้าคุณจะใช้วิธีนี้ ต้องระวังให้ดี คุณอาจจะรู้สึกสนุก แต่คนที่ถูกปลุกไม่ได้สนุกกับคุณเสมอไป พวกเขาอาจโกรธคุณได้ เพราะฉะนั้นถ้าเลือกวิธีนี้ในการปลุกเป้าหมายของคุณ ก็ต้องเตรียมพร้อมกับการโต้กลับอย่างรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นด้วย
- ใช้น้ำแค่ปริมาณเท่ากับสองช้อนโต๊ะเท่านั้นในการปลุกให้ตื่น คุณคงไม่อยากสาดน้ำเป็นถังใส่คนหลับแล้วให้เขาตื่นขึ้นมาเพราะสำลักน้ำเป็นแน่ วิธีปลุกนี้จะอันตรายมากถ้าใช้น้ำผิดปริมาณและทำอย่างผิดวิธี เพราะบางรายอาจถึงขั้นปัสสาวะรดตัวเองเพราะวิธีการปลุกแบบนี้ก็เป็นได้
โฆษณา
เคล็ดลับ
- แสร้งทำเป็นเปิดและปิดประตูเสียงดัง หรือแกล้งทำเป็นหาของในห้องของคนหลับ ทำให้เขาตื่นได้
- ก่อนจะใช้วิธีปลุกวิธีใดก็ตามในบทความนี้ ลองนึกภาพก่อนว่าคนที่ถูกปลุกจะรู้สึกอย่างไรบ้างเมื่อเขาตื่นขึ้น
- ถ้าเป้าหมายของคุณเป็นคนบ้าจี้ การจั๊กจี้พวกเขาเป็นวิธีปลุกที่ได้ผลอย่างมาก
- ถ้าหากคุณต้องการปลุกคนให้ตื่นในตอนกลางคืน ทำให้ห้องของเขามีแสงสว่างจะช่วยทำให้เขาตื่นได้
- พยายามหลีกเลี่ยงการสัมผัสคนหลับ นอกจากว่าคนๆ นั้นเป็นสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนสนิทของคุณ ไม่ควรปลุกโดยการสัมผัสโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเขาเป็นเพื่อนที่ต่างเพศกับคุณ แต่ถ้าจำเป็น หรือคุณคิดจะใช้วิธีนี้จริงๆ ให้สัมผัสที่มือของเธอหรือเขาอย่างระมัดระวัง
- ถ้าคนหลับเป็นคนในครอบครัวคุณ ให้จูบเบาๆ ที่แก้ม ลูบแขนเขาอย่างอ่อนโยนแล้วบอกว่า “ได้เวลาตื่นนอนแล้ว”
- ถ้าเป้าหมายของคุณมีสัตว์เลี้ยงที่ขนาดใหญ่ เช่น สุนัข แมว ให้นำสัตว์เลี้ยงนั้นเข้าไปในห้อง ให้มันปีนป่ายไปบนเตียง บนตัวของเขา และส่งเสียงเพื่อปลุกให้เขาตื่น
- บอกคนที่หลับว่าขณะนั้นเป็นเวลากี่โมงแล้ว
- กระซิบเรียกคนหลับข้างๆ หู สิบครั้ง เขาจะได้ยินการเรียกของคุณซ้ำๆ และตื่นขึ้นในที่สุด
- ตบเบาๆ ที่เข่าของคนหลับซ้ำ ๆ จนกว่าเขาจะตื่น
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
นักเขียนในทีมวิกิฮาว
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 43,542 ครั้ง
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 43,542 ครั้ง
หมวดหมู่: การนอนและความฝัน
มีการเข้าถึงหน้านี้ 43,542 ครั้ง
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.
โฆษณา
