ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

การฝันแบบรู้ตัว คือการตระหนักรู้ว่าคุณกำลังอยู่ในความฝัน ความตระหนักรู้นี้มีได้ตั้งแต่ระดับต่ำ คือเพียงรับรู้ว่ากำลังฝัน ไปจนถึงระดับที่เราสามารถควบคุมภาพในฝันได้ชั่วขณะ การฝันแบบรู้ตัวมักเกิดขึ้นในขณะที่บุคคลนั้นๆ อยู่ในระหว่างการฝันแบบทั่วไป แล้วจู่ๆ เกิดตระหนักขึ้นมาได้ว่าตนกำลังฝัน ลักษณะนี้เรียกว่าฝันรู้ตัวที่ถูกกระตุ้นในขณะหลับ ส่วนฝันรู้ตัวที่ถูกกระตุ้นในขณะตื่นนั้นจะเกิดขึ้นเมื่อคุณอยู่ในสภาวะตื่นแบบปกติและตรงเข้าสู่สภาวะหลับทันที โดยไม่มีช่องว่างระหว่างสภาวะตื่นและสภาวะหลับที่ชัดเจน ในทั้งสองกรณี ความฝันของคุณมีแนวโน้มที่จะแปลกประหลาดและมีความรู้สึกถาโถมเข้ามามากกว่าฝันแบบปกติ และที่สำคัญที่สุดคือ คุณจะมีความสามารถบางอย่างที่ทำให้คุณสามารถควบคุม "ตัวตนในความฝัน" ของคุณ รวมถึงสิ่งต่างๆ ที่ปรากฏในความฝันของคุณได้

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ใช้เทคนิคเพื่อตระหนักรู้ถึงความฝัน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 จดบันทึกความฝันของคุณ.
    ก่อนเข้านอน ให้วางสมุดไว้ข้างเตียง และจดบันทึกเกี่ยวกับความฝันทันทีที่ตื่นขึ้นมา หรือจดบันทึกอารมณ์และความรู้สึกที่คุณรับรู้ทันทีหลังตื่นขึ้น การทำเช่นนี้เป็นการฝึกให้คุณสามารถจดจำความฝันได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการฝันแบบรู้ตัว[1] นอกจากนี้ การควบคุมความฝันจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ หากคุณลืมความรู้สึกก่อนการตื่นของคุณ
    • อีกทางเลือกหนึ่งคือ การวางอุปกรณ์บันทึกเสียงไว้ข้างเตียง
    • คุณอาจสามารถจดจำความฝันได้มากขึ้นหากใช้เวลา 2-3 นาทีในการตั้งสมาธิจดจ่อไปที่ความทรงจำของคุณ ก่อนที่จะเริ่มจดบันทึก[2]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 หมั่นตรวจสอบความเป็นจริง.
    ระหว่างวัน ในทุกๆ 2-3 ชั่วโมง ให้คุณลองถามตัวเองว่า "ฉันกำลังฝันอยู่หรือไม่?" จากนั้นให้ทำการตรวจสอบความเป็นจริงตามวิธีการด้านล่าง หากฝึกฝนอย่างเพียงพอ คุณจะทำพฤติกรรมนี้ในความฝันของคุณเช่นเดียวกัน ซึ่งจะช่วยให้คุณตระหนักรู้ในที่สุดว่าคุณกำลังอยู่ในฝัน
    • อ่านข้อความในหนังสือหรือดูเวลาบนนาฬิกา จากนั้นให้มองไปทางอื่น แล้วจึงหันกลับมามองสิ่งนั้นๆ อีกครั้ง ในความฝัน ภาพของข้อความหรือเวลาบนนาฬิกาจะไม่ชัดเจนหรือไม่สมเหตุสมผล หรืออาจแตกต่างกันไปในแต่ละครั้งที่คุณมอง[3]
    • บีบจมูกและปิดปาก แล้วตรวจสอบดูว่าคุณยังสามารถหายใจได้หรือไม่
    • เพียงมองไปยังมือและเท้าของคุณ เพราะในความฝัน เมื่อคุณลองสังเกตดูดีๆ จะพบว่าทั้งมือและเท้าของคุณดูบิดเบี้ยว
  3. Step 3 พูดประโยค "ฉันจะรู้ตัวว่าฉันกำลังฝัน" ซ้ำๆ...
    พูดประโยค "ฉันจะรู้ตัวว่าฉันกำลังฝัน" ซ้ำๆ ทุกครั้งที่กำลังจะหลับ. ในแต่ละคืน เมื่อคุณกำลังจะผลอยหลับ ให้คุณบอกตัวเองซ้ำๆ ว่า "ฉันจะรู้ตัวว่ากำลังอยู่ในความฝัน" หรือประโยคที่คล้ายๆ กันนี้ จนกระทั่งคุณผลอยหลับไป เทคนิคนี้เราเรียกว่า การเหนี่ยวนำฝันรู้ตัวโดยใช้การช่วยจำ (Mnemonic Induction to Lucid Dreaming หรือ MILD)[4] การเหนี่ยวนำโดยใช้การช่วยจำนั้นก็หมายถึง "การใช้เครื่องมือช่วยจำ" นั่นเอง หรือในกรณีข้างต้นนั้นก็หมายถึงการท่องจำประโยคเพื่อเปลี่ยนการตระหนักรู้ว่ากำลังฝันเป็นนิสัยที่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ
    • บางคนชอบที่จะรวมขั้นตอนนี้เข้ากับการตรวจสอบความเป็นจริง โดยจ้องไปที่มือของพวกเขาเป็นเวลา 2-3 นาทีก่อนที่จะเข้านอน
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ฝึกจดจำสัญญาณเฉพาะตัวที่บ่งชี้ว่าคุณกำลังฝัน....
    ฝึกจดจำสัญญาณเฉพาะตัวที่บ่งชี้ว่าคุณกำลังฝัน. อ่านบันทึกความฝันของคุณอย่างสม่ำเสมอ และคอยมองหา "สัญญาณบ่งชี้ความฝัน" ที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ในความฝันของคุณ เมื่อเริ่มคุ้นเคยกับสัญญาณเหล่านี้ คุณจะสามารถจดจำมันได้ในขณะที่กำลังฝัน และทำให้รู้ตัวในที่สุดว่าคุณกำลังอยู่ในฝัน
    • คุณอาจพอจะรู้สิ่งเหล่านี้อยู่บ้างแล้ว เหตุการณ์ที่มักเกิดขึ้นในความฝันของคนเรา คือ การสูญเสียฟัน ถูกสิ่งที่มีขนาดใหญ่ไล่ตาม หรือออกไปในที่สาธารณะโดยไม่สวมใส่เสื้อผ้า ฯลฯ
  5. How.com.vn ไท: Step 5 กลับไปนอนต่อทันทีเมื่อตื่นจากฝัน.
    เมื่อตื่นขึ้นมาและสามารถจดจำความฝันได้ ให้คุณจดบันทึกความฝันของคุณ จากนั้นให้หลับตาและตั้งสมาธิจดจ่อไปที่ความฝันนั้นๆ จินตนาการว่าคุณกำลังฝัน และในฝันนั้น คุณก็สามารถจดจำสัญญาณบ่งชี้ฝันได้ หรือทำการตรวจสอบความจริงจนตระหนักขึ้นมาได้ว่ากำลังฝันอยู่ ให้จมอยู่ในความคิดนี้ในระหว่างที่คุณกลับไปนอนต่อ แล้วคุณอาจสามารถฝันแบบรู้ตัวได้[5]
    • จำไว้ว่าการฝันแบบรู้ตัวมักเกิดในขณะที่บุคคลนั้นๆ หลับสนิท โดยทั่วไปมักเป็นเพราะเขาสังเกตเห็นเหตุการณ์ประหลาดๆ และตระหนักขึ้นได้ว่าเขากำลังฝัน นี่เป็นเพียงหนึ่งตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดการฝันแบบรู้ตัวประมาณ 25% ของฝันรู้ตัวทั้งหมด[6]
  6. How.com.vn ไท: Step 6 หาซื้อนาฬิกาแสง.
    เข้าอินเตอร์เน็ตและลองหาซื้อนาฬิกาปลุกแบบใช้แสง แทนนาฬิกาปลุกแบบใช้เสียง หรือจะลองหาซื้อ "แสงดูดฝัน" (DreamLight) ซึ่งได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อกระตุ้นการเกิดฝันรู้ตัวเลยก็ได้ ตั้งเวลาปลุกเป็น 4, 5, 6 หรือ 7 ชั่วโมงหลังจากเข้านอน หรือตั้งให้ปลุกในทุกๆ ชั่วโมงหากเป็นไปได้ ในขณะที่เสียง สัมผัส หรือสิ่งกระตุ้นอื่นๆ ที่เกิดในช่วงหลับฝัน (Rapid Eye Movement: REM) สามารถทำให้ผู้ที่กำลังฝันตระหนักขึ้นมาได้ว่าเขากำลังฝัน แต่งานวิจัยหนึ่งชี้ให้เห็นว่าแสงเป็นตัวกระตุ้นที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด[7]
    • ความจริงแล้วคุณคงไม่อยากปลุกตัวเองขึ้นมา (ยกเว้นในกรณีที่คุณกำลังทดลองวิธีตื่นขึ้นแล้วนอนต่อ หรือ Wake Back to Bed ซึ่งเราจะพูดถึงด้านล่าง) คุณจึงควรวางนาฬิกาแสงให้อยู่ไกลจากระยะเอื้อมถึงจากเตียงของคุณ และ/หรือนำผ้ามาคลุมไว้เพื่อให้ได้แสงสลัวๆ
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ใช้เทคนิคเพิ่มเติม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 นั่งสมาธิ.
    ก่อนเข้านอน ให้คุณนั่งสมาธิในห้องมืดๆ ที่ไร้เสียงรบกวน เพราะการฝึกนั่งสมาธิอาจทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น แต่ในช่วงเริ่มต้นฝึก ให้คุณเพียงตั้งสมาธิจดจ่อไปที่ลมหายใจของคุณ หรือจินตนาการว่ากำลังเดินขึ้นหรือลงบันได เป้าหมายก็คือเพื่อให้คุณหยุดคิดฟุ้งซ่าน และเข้าสู่สภาวะจิตใจเงียบสงบ และเคลื่อนจากสภาวะนี้เข้าสู่การฝันแบบรู้ตัวในที่สุด
    • จำไว้ว่า ฝันรู้ตัวที่ "ถูกกระตุ้นในขณะตื่น" นั้นพบได้น้อยกว่า และทำได้ยากกว่าการรู้ตัวว่าฝันหลังจากหลับไปแล้วระยะหนึ่ง
    • ในอินเตอร์เน็ต มีวิดีโอแนะนำการนั่งสมาธิมากมายที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อช่วยให้คุณรู้ตัวเมื่อฝัน
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ยืดระยะเวลาการฝันรู้ตัว เมื่อมันกำลังจะจางหายไป....
    ยืดระยะเวลาการฝันรู้ตัว เมื่อมันกำลังจะจางหายไป. สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นกับใครหลายๆ คนที่มีความฝันแบบรู้ตัวเป็นครั้งแรก คือ การตกใจตื่นเนื่องจากตื่นเต้นเมื่อพบว่าตัวเองกำลังฝันแบบรู้ตัว! โดยปกติ คุณจะได้รับสัญญาณเตือนล่วงหน้า เนื่องจากฝันจะเริ่มรู้สึก "ไม่มั่นคง" หรือคุณเริ่มรับรู้ได้ถึงความรู้สึกบางอย่างที่เกิดขึ้นในโลกแห่งความเป็นจริง เทคนิคเหล่านี้สามารถช่วยให้คุณยืดฝันรู้ตัวได้:[8]
    • หมุนตัวตนในความฝันของคุณไปรอบๆ หรือโถมตัวจนล้มลงไปด้านหลัง แม้จะไม่รู้เหตุผล แต่มีคนบอกว่าวิธีการนี้สามารถช่วยได้
    • ในความฝัน ให้คุณนำมือทั้งสองข้างมาถูกัน เทคนิคนี้จะช่วยเบี่ยงเบนความสนใจของคุณออกจากสิ่งที่คุณกำลังรับรู้ในชีวิตจริง
    • ทำสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ต่อไปในขณะที่ความฝันเริ่มไม่มั่นคง เพื่อยืนยันว่าคุณยังคงอยู่ในความฝัน แต่เทคนิคนี้มีประสิทธิภาพน้อยกว่าเทคนิคอื่นๆ ข้างต้น
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ฟังคลื่นเสียงแบบสองจังหวะ (Binaural beats).
    หากคุณส่งเสียงที่มีคลื่นความถี่แตกต่างกันไปยังหูแต่ละข้าง สมองของคุณจะประมวลผลรูปแบบที่ทับซ้อนกันของคลื่นเสียงทั้งสองเป็นจังหวะแบบเครื่องเสียง แม้ความจริงจะไม่มีจังหวะใดๆ ปรากฏในเสียงดังกล่าว เสียงเหล่านี้จะเปลี่ยนคลื่นไฟฟ้าในสมองของคนเรา แต่จนถึงตอนนี้ นักวิทยาศาสตร์เองก็ยังไม่แน่ใจว่ากระบวนการนี้จะกระตุ้นการเกิดฝันรู้ตัวได้จริงหรือไม่[9] มีเว็บไซต์ต่างๆ มากมายที่รวบรวมคลื่นเสียงแบบสองจังหวะเอาไว้ คุณจึงสามารถหามาฟังได้ง่ายๆ เพื่อทดสอบดูว่าคุณสามารถนอนหลับโดยเสียบหูฟังได้หรือไม่ ผู้ที่มักฝันรู้ตัวส่วนใหญ่จะใช้จังหวะที่เลียนแบบคลื่นธีต้าของสมอง ซึ่งเป็นคลื่นที่เกิดในช่วงที่เราหลับฝัน (REM) แต่บางคนก็เชื่อในจังหวะคลื่นแกมม่าหรือแอลฟ่า ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญบางท่านเลือกใช้คลื่นเสียงหลากหลายประเภทรวมกัน
    • คลื่นเสียงแบบสองจังหวะที่เลือกใช้สามารถมีเสียงดนตรีนุ่มๆ ประกอบ หรือมีเพียงจังหวะเท่านั้น
  4. How.com.vn ไท: Step 4 เล่นวิดีโอเกม.
    มีรายงานว่าเหล่านักเล่นเกมตัวยงมีอัตราการเกิดฝันรู้ตัวสูงกว่าคนทั่วไป[10] แม้ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมอีกมาก แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่การเล่นเกมประมาณ 2-3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเกิดฝันรู้ตัว โดยไม่ปรากฏว่าประเภทของเกมที่เล่นจะทำให้ได้ผลที่แตกต่างกัน[11]
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ลองพิจารณาการใช้ยากาลันทามีน.
    กาลันทามีน (galantamine) เป็นยาที่สังเคราะห์ได้จากต้นหยาดหิมะ และอาจเป็นยาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการกระตุ้นการเกิดฝันรู้ตัว และเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรรับประทานประมาณ 4-8 มก. ในช่วงดึก[12] แต่เนื่องจากการรับประทานยากาลันทามีนอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ดังต่อไปนี้ เราจึงแนะนำให้ใช้เป็นครั้งคราวเท่านั้น
    • ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้หากคุณมีปัญหาสุขภาพใดๆ เพราะกาลันทามีนอาจทำให้อาการที่เป็นอยู่ทรุดหนักขึ้น เช่น โรคหอบหืดหรือปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ
    • ยาชนิดนี้ยังเพิ่มโอกาสในการเกิดอาการผีอำ ซึ่งเป็นอาการที่ไม่อันตราย แต่มักทำให้เรารู้สึกตื่นกลัวเพราะตื่นขึ้นมาแล้วเป็นเวลาหลายนาทีแต่ยังไม่สามารถขยับกล้ามเนื้อส่วนใดๆ ได้
  6. How.com.vn ไท: Step 6 ใช้วิตามินบีเป็นตัวช่วยเสริมบ้างเป็นครั้งคราว....
    ใช้วิตามินบีเป็นตัวช่วยเสริมบ้างเป็นครั้งคราว. วิตามินบี 5 หรือวิตามินบี 6 จะช่วยให้ความฝันของคุณชัดเจน ประหลาด และมีอารมณ์ถาโถมมากยิ่งขึ้น และสามารถกระตุ้นให้เกิดฝันรู้ตัวได้ในที่สุด[13] อย่างไรก็ตาม คุณอาจต้องทานวิตามินถึง 100 มก. จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน แต่การรับประทานวิตามิน B ในปริมาณดังกล่าวถึอว่าสูงกว่าปริมาณที่แนะนำในแต่ละวัน และหากทานอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน อาจมีผลกระทบทำให้เส้นประสาทส่วนปลายของคุณได้รับความเสียหาย[14] ดังนั้น จึงควรใช้วิตามินเสริมเฉพาะในกรณีที่ต้องการกระตุ้นการเกิดฝันรู้ตัวมากเป็นพิเศษ และควรรับประทานในระดับที่เหมาะกับร่างกายของคุณ
    • ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้หากคุณกำลังเข้ารับการรักษาใดๆ หรือหากมีโรคที่เกี่ยวกับอาการเลือดไหล กระเพาะอาหาร ลำไส้ หรือหัวใจ
    • วิตามินชนิดนี้อาจทำให้เราตื่นขึ้นมาในเวลากลางคืน จึงอาจส่งผลเสียมากกว่าผลดีหากคุณเป็นคนตื่นง่ายอยู่แล้ว
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ใช้วิธีตื่นขึ้นแล้วนอนต่อ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 รู้ว่าการฝันแบบรู้ตัวมักเกิดในช่วงเวลาใด.
    โดยทั่วไป การฝันแบบรู้ตัวและการฝันที่เห็นภาพชัดเจนมักเกิดในช่วงหลับฝัน (REM) ซึ่งเป็นช่วงที่เราหลับลึกและมีลักษณะพิเศษคือมีการกลอกของลูกตา (Rapid Eye Movement) ช่วงแรกของการหลับฝันมักเกิดในช่วง 90 นาทีหลังจากคุณผลอยหลับไป และจะเกิดช่วงอื่นๆ ตามมาใน "ประมาณ" ทุกๆ 90 นาทีหลังจากนั้น เป้าหมายของการใช้วิธีการนี้คือ เพื่อให้คุณตื่นขึ้นมาในช่วงหลับฝัน แล้วจึงกลับไปนอนต่อโดยตระหนักรู้ว่าคุณกำลังฝันอยู่
    • คุณไม่สามารถทราบเวลาที่ชัดเจนของแต่ละช่วงของการหลับได้ เว้นเสียแต่ว่าคุณจะไปยังห้องแล็บทดสอบการนอนหลับ หรือมีนกฮูกผู้ทุ่มเท คอยเฝ้าดูเปลือกตาของคุณตลอดทั้งคืน สิ่งที่สามารถทำได้จริงมากกว่า คือการทำตามวิธีการด้านล่างอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งคุณสามารถตื่นขึ้นมาในช่วงหลับฝัน
  2. How.com.vn ไท: Step 2 กระตุ้นให้ร่างกายของคุณมีช่วงหลับฝันมากขึ้น....
    กระตุ้นให้ร่างกายของคุณมีช่วงหลับฝันมากขึ้น. มีหลายวิธีที่สามารถเพิ่มจำนวนการหลับฝันของคุณ ดังที่อธิบายไว้ในบทความที่ลิงก์ไว้ หนึ่งในวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดและยังเป็นวิธีการที่ทำให้ช่วงหลับฝันเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันอย่างสม่ำเสมอคือการจัดตารางเวลาการนอนในแต่ละวันของคุณ และนอนหลับให้เพียงพอเพื่อให้คุณตื่นขึ้นมาพร้อมความรู้สึกสดชื่น
    • การปรับความสมดุลระหว่างขั้นตอนนี้และขั้นตอนต่อไป ซึ่งจะทำให้คุณถูกปลุกขึ้นในช่วงกลางดึก อาจทำได้ยาก หากคุณมีปัญหาในการกลับไปนอนต่อ ให้ลองใช้วิธีการอื่นๆ แทน หรือจำกัดความพยายามของคุณเหลือเพียง 1 หรือ 2 ครั้งต่อสัปดาห์
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ตื่นขึ้นมาช่วงกลางดึก.
    ตั้งนาฬิการปลุกให้ดังขึ้นใน 4, 5, 6 "หรือ" 7 ชั่วโมงหลังจากคุณผลอยหลับไป[15] เพราะในช่วงเวลาดังกล่าว มีแนวโน้มที่คุณจะอยู่ในช่วงหลับฝัน แม้ความจริงแล้วเราจะคาดคะเนเวลาล่วงหน้าได้ยาก แต่ช่วง 6 หรือ 7 ชั่วโมงหลังนอนหลับน่าจะได้ผลดีที่สุด เพราะช่วงหลับฝันในระยะหลังๆ มักเกิดขึ้นนานกว่า "และ" ความฝันที่เกิดขึ้นมักชัดเจนและมีโอกาสที่เราจะสามารถรู้ตัวได้มากกว่า[16][17]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ทำให้ตัวเองรู้สึกตื่นตัวขึ้นมาสักครู่หนึ่ง....
    ทำให้ตัวเองรู้สึกตื่นตัวขึ้นมาสักครู่หนึ่ง. แล้วจดบันทึกความฝันของคุณหากคุณกำลังฝันอยู่ก่อนหน้านี้ หาของว่างทาน หรือเพียงลุกขึ้นมาแล้วเดินไปรอบๆ สักพัก เป้าหมายคือเพื่อทำให้คุณมีสติและตื่นตัว ในขณะที่ร่างกายของคุณยังเต็มไปด้วยฮอร์โมนแห่งการนอนหลับ
    • งานวิจัยหนึ่งแสดงให้เห็นว่าการทำให้เรารู้สึกตื่นตัวเป็นเวลาระหว่าง 30-60 นาทีนั้นจะทำให้เรามีโอกาสฝันรู้ตัวได้มากที่สุด[18]
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ตั้งสมาธิจดจ่อไปที่ความฝัน แล้วกลับไปนอนต่อ....
    ตั้งสมาธิจดจ่อไปที่ความฝัน แล้วกลับไปนอนต่อ. ปิดตาและหลับลงอีกครั้ง หากคุณจดจำสิ่งที่ฝันอยู่ก่อนหน้านี้ได้ ให้นึกถึงความฝันนั้นและกลับไปนอน โดยจินตนาการว่าคุณกำลังฝันถึงสิ่งนั้นต่อ แม้วิธีการนี้อาจใช้เวลาสักระยะกว่าจะทำได้สำเร็จ แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงที่คุณจะฝันรู้ตัวได้ในที่สุด เบอร์เกอร์เฟรนช์ฟรายจะช่วยให้คุณฝันได้ดีขึ้นหากรับประทานในปริมาณมากก่อนที่จะเข้านอน
  6. How.com.vn ไท: Step 6 ใช้เทคนิคอื่นๆ ในการทำสมาธิ.
    หากจิตใจของคุณล่องลอยไปในขณะที่คุณกำลังพยายาม "ดักจับ" ความฝันของคุณ หรือหากคุณจดจำความฝันของตัวเองไม่ได้เลย ให้คุณลองตั้งสมาธิจดจ่อไปที่การเคลื่อนไหวของนิ้วมือของคุณแทน โดยให้ใช้การเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย เช่น "เคลื่อนนิ้วชี้ขึ้น เคลื่อนนิ้วกลางลง เคลื่อนนิ้วกลางขึ้น เคลื่อนนิ้วชี้ลง" ให้คุณเคลื่อนไหวตามจังหวะนี้ซ้ำๆ จนกระทั่งผลอยหลับไป
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ฝันรู้ตัวเป็นทักษะหนึ่งที่ต้องอาศัยการเรียนรู้ และแม้แต่ผู้ที่สามารถฝันรู้ตัวได้เป็นประจำก็อาจสามารถฝันรู้ตัวได้เพียง 1 หรือ 2 ครั้งต่อเดือน คุณจึงต้องใจเย็นและลองทำตามเทคนิคเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง แล้วโอกาสและความถี่ในการเกิดฝันรู้ตัวจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นตามลำดับ
  • บางครั้ง หากคุณ "ตื่นผิดช่วงเวลา" ในขณะที่คุณกำลังฝัน ให้คุณทำการตรวจสอบความเป็นจริง (เช่น พยายามอ่านหนังสือ) ทันทีที่ตื่นขึ้นมา มิเช่นนั้น การตื่นผิดช่วงเวลาของคุณอาจเปลี่ยนฝันรู้ตัวเป็นฝันธรรมดาๆ ทั่วไป
  • เมื่อรู้ตัวว่าคุณกำลังฝัน ลองตั้งใจตื่นขึ้นมาหลังจากรู้ตัวได้ประมาณ 2-3 นาที วิธีการนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการจดจำความฝันของคุณ
  • ไม่ดื่มน้ำทุกชนิดในช่วง 1 ชั่วโมงก่อนเข้านอน เพราะสิ่งสุดท้ายที่คุณต้องการคือเมื่อคุณสามารถฝันรู้ตัวได้สำเร็จ แต่กลับต้องตื่นขึ้นมาก่อนเวลาที่ต้องการเพียงเพราะคุณจำเป็นต้องเข้าห้องน้ำ
  • หากพบว่าความฝันไม่เป็นไปตามที่คุณต้องการ ให้ลอง "ปิดตา" ในความฝัน จากนั้นให้ฝืนลืมตาขึ้นมา และทำเช่นนี้ซ้ำๆ จนกระทั่งคุณตื่น
  • หากรู้สึกว่ากำลังสูญเสียการควบคุม ให้คุณตะโกนสิ่งที่คุณต้องการให้เกิดขึ้นดังๆ จนกว่าคุณจะสามารถควบคุมความฝันของคุณได้อีกครั้ง หรือจนกว่าสิ่งนั้นจะเกิดขึ้นอย่างที่คุณต้องการ
โฆษณา

คำเตือน

  • การฝันแบบรู้ตัวอาจทำให้คุณมีอาการผีอำ ซึ่งจะทำให้คุณไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายได้ในช่วงที่เริ่มรู้สึกตัว (ช่วงการเปลี่ยนผ่านระหว่างการหลับและการตื่น) ทั้งๆ ที่ยังมีสติอยู่และรับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว อย่างไรก็ตาม อาการนี้ไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ แต่มักทำให้คุณรู้สึกตื่นกลัว โดยเฉพาะเมื่อคุณมองเห็นภาพหลอนแปลกๆ ปรากฏขึ้นในห้องของคุณด้วยในเวลาเดียวกัน เมื่อมีอาการผีอำ กล้ามเนื้อบางส่วนของคุณมักได้รับผลกระทบน้อยกว่าส่วนอื่นๆ ดังนั้น ให้คุณตั้งสมาธิ พยายามกระดิกนิ้วเท้าของคุณ หรือพยายามกลืนน้ำลายและตั้งสติให้ใจเย็นๆ จนกว่าภาพหลอนนั้นจะหายไป
  • หากคุณเกิดรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมามากๆ ในขณะที่กำลังฝันแบบรู้ตัว ความตื่นเต้นอาจทำให้คุณตื่นขึ้นมาทันที เพื่อพยายามกลับไปฝันต่อ ให้คุณปิดตาและตั้งสมาธิจดจ่อไปที่ความฝันของคุณ หรือหากคุณรู้สึกได้ว่ากำลังจะตื่น แต่ยังคง "อยู่ใน" ตัวคุณในความฝัน ให้คุณหมุนตัวไปรอบๆ หรือนำมือทั้งสองข้างมาถูกัน


โฆษณา

ข้อมูลอ้างอิง

  1. http://www.lucidity.com/SleepAndCognition.html Lucid Dreaming: Psycho physiological Studies of Consciousness during REM Sleep] In Bootzen, R. R., Kihlstrom, J.F. & Schacter, D.L., (Eds.) Sleep and Cognition. Washington, D.C.: American Psychological Association, 1990 (pp. 109-126)
  2. http://www.lucidity.com/NL11.DreamRecall.html
  3. http://www.overcomingbias.com/2008/05/sleepy-fools.html
  4. http://www.infiniteminds.info/Lucid-Dreaming/How-to-Lucid-Dream-Mnemonic-Induction-of-Lucid-Dreams.html
  5. http://www.infiniteminds.info/Lucid-Dreaming/How-to-Lucid-Dream-Mnemonic-Induction-of-Lucid-Dreams.html
  6. http://www.lucidity.com/SleepAndCognition.html
  7. LaBerge, Stephen Levitan, Lynne. Validity established of DreamLight cues for eliciting lucid dreaming. In Dreaming, Vol 5(3), Sep 1995, pp.159-168.
  8. http://www.lucidity.com/NL7.34.RU.SpinFlowRub.html
  9. http://dreamstudies.org/2011/02/24/binaural-beats-for-lucid-dreaming-is-it-just-pseudoscience/

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

วิกิฮาวเป็น "wiki" ซึ่งหมายความว่าบทความหลายๆ บทความของเรานั้นเป็นการร่วมมือกันเขียนของผู้เขียนหลายคน ในการเขียนบทความชิ้นนี้ ผู้คน 419 คน ซึ่งบางคนไม่ขอเปิดเผยตัว ได้ร่วมกันเขียนและปรับปรุงเนื้อหาของบทความอย่างต่อเนื่อง บทความนี้ถูกเข้าชม 13,709 ครั้ง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 13,709 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา