บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Ashley Crawford. แอชลีย์ ครอฟอร์ดเป็นเชฟส่วนตัวและผู้ก่อตั้ง A Taste of Chef Ash เชฟแอชลีย์เริ่มต้นเข้าสู่อุตสาหกรรมการประกอบอาหารเมื่ออายุ 14 ปี เธอเชี่ยวชาญในการทำอาหารครีโอลและอาหารเคจัน แต่ก็มีประสบการณ์ในเรื่องการประกอบอาหารทุกด้าน เธอได้มีบทบาทสำคัญใน ESPN และ Sports Illustrated เนื่องจากทำงานประกอบอาหารให้แก่นักกีฬา
บทความนี้ถูกเข้าชม 48,943 ครั้ง
กุ้งเป็นอาหารทะเลอันโอชะ เนื้อของกุ้งนั้นอร่อยมากและให้ความหวาน และเวลาที่ใช้ในการนำกุ้งมาปรุงอาหารนั้นไม่นานเลย รวมไปถึงการจัดจานนั้นก็ไม่เคยเป็นปัญหาเลยเพราะแค่ใช้เลมอนครึ่งลูกก็ได้แล้ว เนื้อหาด้านล่างเป็นวิธีการน้ำกุ้งทั้งตัวเล็กและตัวใหญ่ไปปรุงอาหาร เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรใช้กุ้งที่สดและเป็นกุ้งตามธรรมชาติ
ส่วนประกอบ
- กุ้งสดตามธรรมชาติ 1 ปอนด์
- น้ำส้มสายชูจากผลแอปเปิ้ล ¼ ถ้วย
- เกลือ 1 หยิบมือ
- ผงเครื่องเทศใช้สำหรับอาหารทะเล 3-4 ช้อนโต๊ะ
- น้ำแข็ง
- เลมอนหั่นครึ่งสำหรับตกแต่ง 1 ลูก
ขั้นตอน
- นำหม้อต้มน้ำที่ใส่น้ำแล้วมาต้ม. คุณต้องมีน้ำมากพอที่จะมิดกุ้ง น้ำในหม้อควรจะมากเหนือกุ้งขึ้นในหม้อมาประมาณ 1-2 ซม.
- ใส่ลงไปในน้ำ:
- น้ำส้มสายชูจากผลแอปเปิ้ล ¼ ถ้วย
- เกลือ 1 หยิบมือ
- เครื่องปรุงรส คุณอาจจะใช้เครื่องปรุงรสสำหรับปรุงกุ้งต้มซาทาเลน หรือผงเครื่องเทศใช้สำหรับอาหารทะเล หรือจะใช้ทั้งสองอย่างผสมกันเลยก็ได้ ถ้าใช้ซาทาเลนอย่างเดียวให้ใช้แค่จำนวนกล่องเล็ก ถ้าใช้ผงเครื่องเทศสำหรับอาหารทะเลให้ใส่ 3-4 ช้อนโต๊ะ หรือถ้าใส่ทั้งสองอย่างให้ใช้ซาทาเลนกล่องเล็ก กับผงเครื่องเทศ 1 ช้อนโต๊ะ
- ใส่ลงไปในน้ำ:
- ต้มน้ำเอาไว้ประมาณ 2-3 นาทีเพื่อให้เครื่องปรุงเข้ากันดีแล้ว. วิธีนี้จะช่วยให้น้ำมีความเป็นน้ำซุปและมีกลิ่นอายของอาหารทะเลมากขึ้น ซึ่งหลังจากนั้นคุณก็จะใส่กุ้งลงไป
- ต้มกุ้งจนกว่ากุ้งจะเริ่มลอยขึ้นมาด้านบน. ไม่มีเวลากำหนดไว้สำหรับการต้มกุ้ง แต่ถ้าเป็นกุ้งตัวเล็กๆ ที่มีจำนวนมากกว่า 50 ตัวต่อปอนด์ ให้ใช้เวลาประมาณ 2-3 นาที ในขณะที่กุ้งตัวใหญ่ที่มีจำนวนประมาณ 30 ตัวต่อปอนด์ จะใช้เวลาอยู่ที่ประมาณ 5-7 นาที นี่เป็นเพียงข้อแนะนำ
- ถ้าคุณอยากตรวจดูว่ากุ้งของคุณสุกแล้วหรือยัง ให้คุณดูว่าส่วนที่หนาที่สุดของกุ้งนั้นเป็นสีทึบแล้ว ไม่เป็นใสๆ
- ระวังอย่างต้มกุ้งจนสุกเกินไป กุ้งที่ต้มสุกเกินไปจะเหนียวและเคี้ยวยาก นำกุ้งออกจากความร้อนทันทีที่น้ำเริ่มเดือด
- นำกุ้งมาสะเด็ดน้ำโดยใช้กระชอนและช็อกกุ้งทันทีในน้ำแข็ง. นำกุ้งในกระชอนจุ่มลงไปในน้ำแข็งให้ท่วมและนำขึ้นมาทันที การทำแบบนี้จะช่วยให้กุ้งไม่สุกจนเกินไปไม่มากก็น้อย
- สะเด็ดน้ำออกจากกุ้งให้หมด. วางกุ้งลงบนภาชนะแบนๆ และประดับตกแต่งด้วยเลมอนครึ่งลูก และเพลิดเพลินได้เลย!โฆษณา
เคล็ดลับ
- อย่าต้มกุ้งจนสุกเกินไปเพราะมันจะทำให้กุ้งเหนียวและไม่มีรสชาติ
- กุ้งที่เก่าแล้วหรือกุ้งแช่แข็งนั้นยากแก่การแกะ
- สามารถใส่กลีบกระเทียม 2-4 กลีบ และ/หรือ หัวหอม 1-2 หัวลงในหม้อต้ม เพื่อที่จะทำให้น่าสนใจมากขึ้นไปอีก
- และจำไว้ว่าทำให้ง่ายเข้าไว้ และทำให้การทำอาหารนั้นเรียบง่ายเข้าไว้!
- ทำค๊อกเทลซอสด้วย ซอสมะเขือเทศ, ฮอสแรดิช, เลมอนหรือน้ำมะนาว, ซอสเผ็ด, ซอสวูสเตอร์, และน้ำผึ้ง
- ทำเมนูให้เป็นอาหารโลวคันทรี โดยการใส่มันฝรั่ง, ไส้กรอก, หัวหอมลงไป และเมื่อคุณปรุงรสเรียบร้อยแล้วต้มจนมันฝรั่งเริ่มจะสุก 2ใน3 แล้ว ให้คุณใส่ กุ้ง, ข้าวโพดที่ปอกเปลือกแล้ว, ปูที่สะอาด, กั้งลงไปในหม้อต้ม ของที่ใส่ตามลงไปพวกนี้จะสุกพร้อมๆ กับกุ้งที่ใส่ลงไป ดังนั้นเมื่อกุ้งลอยขึ้นมาแล้วให้ตักออกและนำกุ้งห่อไว้ด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์วางไว้บนโต๊ะ
- ปิดฝาหม้อด้วยที่ตัวกำหนดความร้อน แต่ให้คอยจับตาดูไม่ให้กุ้งสุกจนเกินไป
คำเตือน
- ระวังน้ำร้อน
ข้อมูลอ้างอิง
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.