ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

ลูกบาศก์เป็นรูปสามมิติที่มีความกว้าง ความยาว และความสูงเท่ากัน เป็นรูปทรงซึ่งประกอบด้วยรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส 6 หน้าที่มีขนาดเท่ากันมาประกบกัน เกิดเป็นจุดยอด 8 จุด ซึ่งแต่ละจุดจะล้อมรอบด้วยรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส 3 หน้าที่มาประกบกันเป็นมุมฉาก การหาปริมาตรของลูกบาศก์อย่างง่ายที่สุดคือนำความกว้าง ยาว และสูงมาคูณกัน หรือ กว้าง × ยาว × สูง แต่เนื่องจากทั้งสามด้านมีขนาดเท่ากัน ดังนั้นจึงพูดได้ว่าปริมาตรของลูกบาศก์มีค่าเท่ากับ s3 โดย s คือความยาวด้านใดด้านหนึ่งของลูกบาศก์ ฟังดูยาก แต่ความจริงแล้วมันง่ายมาก เรามาเริ่มที่ขั้นตอนแรกกันเลย

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

นำความยาวด้านมายกกำลังสาม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 หาความยาวด้านใดด้านหนึ่งของลูกบาศก์.
    บ่อยครั้งที่โจทย์จะให้ความยาวด้านมาเมื่อถามหาปริมาตรของลูกบาศก์ ซึ่งถ้าโจทย์ใจดีให้ข้อมูลนี้มาด้วย คุณก็สามารถหาปริมาตรของลูกบาศก์ได้เลย แต่ถ้าโจทย์ใจร้ายไม่ยอมบอกความยาวด้านมาตรงๆ เช่นให้เส้นทแยงมุมมา คุณก็ต้องคำนวณหาด้วยวิธีที่สลับซับซ้อนสักหน่อย อย่างไรก็ตามถ้าโจทย์นั้นให้หาปริมาตรของวัตถุทรงลูกบาศก์ที่มีอยู่จริง คุณก็สามารถหาความยาวด้านได้ โดยใช้ไม้บรรทัดหรือสายวัดวัดวัตถุนั้นโดยตรงเลย
    • เพื่อให้เห็นภาพและง่ายต่อการเข้าใจ สมมติให้ลูกบาศก์มีความยาวด้านละ 2 นิ้ว (5.08 ซม.) เราจะนำความยาวนี้มาใช้เป็นตัวอย่างในการคำนวณหาปริมาตรของลูกบาศก์ในขั้นตอนต่อไป
  2. How.com.vn ไท: Step 2 นำความยาวด้านมายกกำลังสาม.
    เมื่อคุณหาความยาวด้านใดด้านหนึ่งของลูกบาศก์ได้แล้ว ก็นำตัวเลขนั้นมายกกำลังสามเลย หรือพูดอีกอย่างคือ นำตัวเลขนั้นมาคูณกันสองครั้ง ถ้าลูกบาศก์มีความยาวด้านละ s หน่วย ให้นำ s มาคูณกันสองครั้งดังนี้ s × s × s (หรือ s3 แบบแสดงให้เห็นการคูณ) แค่นี้คุณก็จะได้ปริมาตรของลูกบาศก์แล้ว
    • วิธีนี้เหมือนกับการหาพื้นที่ฐานแล้วคูณด้วยความสูงของลูกบาศก์ (หรือ กว้าง × ยาว × สูง) เพราะว่าพื้นที่ฐานเป็นผลคูณระหว่างความกว้างและยาว ดังนั้นเมื่อคูณด้วยความสูงจึงได้ปริมาตรของลูกบาศก์ และเนื่องจากความกว้าง ยาว และสูงของลูกบาศก์มีค่าเท่ากัน เราจึงสามารถนำด้านใดก็ได้มาใช้คำนวณหาปริมาตร โดยไม่ต้องเสียเวลาคิดว่าด้านนี้เป็นด้านกว้าง ยาว หรือสูง
    • เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจ เราลองคำนวณจากตัวอย่างที่สมมติขึ้นมาดีกว่า ถ้าลูกบาศก์มีความยาวด้านละ 2 นิ้ว ดังนั้นลูกบาศก์มีปริมาตรเท่ากับ 2 × 2 × 2 (หรือ 23) = 8 นิ้ว3
  3. How.com.vn ไท: Step 3 หน่วยของปริมาตรต้องอยู่ในรูปยกกำลังสาม.
    เนื่องจากปริมาตรคือขนาดของพื้นที่ที่เป็นสามมิติ หน่วยของปริมาตรจึงต้องอยู่ในรูปยกกำลังสามด้วย บ่อยครั้งที่เราทำโจทย์แล้วไม่เช็คหน่วยให้ถูกต้อง ส่งผลให้ถูกตัดคะแนนทั้งที่ควรได้คะแนนเต็ม ดังนั้นอย่าลืมเช็คหน่วยให้ถูกต้องเสมอ
    • จากตัวอย่างของเรา เนื่องจากความยาวด้านมีหน่วยเป็นนิ้ว ผลลัพธ์หลังจากหาปริมาตรจึงต้องมีหน่วยเป็น “ลูกบาศก์นิ้ว” หรือ "นิ้ว3" เพราะฉะนั้นคำตอบคือ 8 นิ้ว3
    • แต่ถ้าเราใช้หน่วยอื่นที่ไม่ใช่นิ้ว ผลลัพธ์หลังจากคำนวณปริมาตรก็จะมีหน่วยแตกต่างกันไป ตัวอย่างเช่น ถ้าแต่ละด้านของลูกบาศก์ยาว 2 เมตร ผลลัพธ์ที่ได้จะมีหน่วยเป็น ลูกบาศก์เมตร หรือ เมตร3
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

การหาปริมาตรจากพื้นที่ผิว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 หาพื้นที่ผิวของลูกบาศก์.
    วิธีที่ ง่ายที่สุด ในการหาปริมาตรของลูกบาศก์คือการคำนวณจากความยาวด้านของลูกบาศก์ ซึ่งนอกจากวิธีนี้แล้วยังมีวิธีอื่นอีก นั่นคือการคำนวณจากพื้นที่ผิวของลูกบาศก์ ถ้าเรารู้ข้อมูลใดข้อมูลหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นความยาวด้านหรือพื้นที่ผิว เราก็จะสามารถหาปริมาตรของลูกบาศก์ได้ ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณรู้ขนาดของพื้นที่ผิวของลูกบาศก์ ให้นำตัวเลขนั้นมาหารด้วย 6 แล้วใส่สแควรูทลงไป แล้วคุณก็จะได้ความยาวด้านของลูกบาศก์ จากนั้นก็คำนวณหาปริมาตรตามวิธีการข้างต้น อ่านแล้วอาจจะงง งั้นเรามาดูที่มาของวิธีนี้กันดีกว่า
    • สูตรการหาพื้นที่ผิวของลูกบาศก์คือ 6s2 โดย s คือความยาวด้านของลูกบาศก์ สูตรนี้เหมือนกับการหาพื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัสทั้งหกด้านแล้วนำมารวมกัน ดังนั้นการหาความยาวด้านจึงต้องนำพื้นที่ผิวมาหารด้วย 6 แล้วถอดสแควรูท ซึ่งเราจะใช้สูตรนี้ในการหาปริมาตรจากพื้นที่ผิวของลูกบาศก์
    • เพื่อให้เห็นภาพ ลองดูตัวอย่างต่อไปนี้ สมมติให้ลูกบาศก์มีพื้นที่ผิว 50 ซม.2 เราไม่รู้ว่าแต่ละด้านยาวเท่าไหร่ จึงต้องหาความยาวด้านจากวิธีการข้างต้น ซึ่งสามารถดูวิธีทำได้ในขั้นตอนถัดไป
  2. How.com.vn ไท: Step 2 นำพื้นที่ผิวของลูกบาศก์มาหารด้วย 6.
    เนื่องจากลูกบาศก์ประกอบด้วยรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส 6 หน้า เมื่อหารพื้นที่ผิวด้วย 6 เราก็จะได้พื้นที่รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส 1 หน้า ซึ่งพื้นที่นี้จะมีขนาดเท่ากับความยาวด้านสองด้านคูณกัน (กว้าง × ยาว, ยาว × สูง or สูง × กว้าง)
    • จากตัวอย่างของเรา ลูกบาศก์มีพื้นที่ผิว 50 ซม.2 เมื่อหารด้วย 6 ก็จะได้ 50/6 = 8.33 ซม.2 อย่าลืมว่าขั้นตอนนี้เป็นการคำนวณจากพื้นที่ผิวซึ่งเป็นรูปสองมิติ ดังนั้นหน่วยจึงอยู่ในรูป ยกกำลังสอง (เช่น ซม.2 นิ้ว2 ฯลฯ)
  3. How.com.vn ไท: Step 3 นำผลลัพธ์ที่ได้มาใส่สแควรูท.
    เนื่องจากพื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัสมีค่าเท่ากับ s2 (ด้าน × ด้าน) ดังนั้นจึงต้องใส่สแควรูทเพื่อให้ได้ผลลัพธ์เป็นความยาวด้าน ซึ่งเมื่อได้ความยาวด้านแล้ว คุณก็สามารถคำนวณหาปริมาตรได้ตามวิธีการข้างต้น
    • จากตัวอย่างของเรา เมื่อได้พื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัสเท่ากับ 8.33 แล้ว ก็นำมาใส่สแควรูท ดังนั้นลูกบาศก์มีความยาวด้าน √8.33 = 2.89 ซม.
  4. How.com.vn ไท: Step 4 นำผลลัพธ์ที่ได้มายกกำลังสาม.
    เมื่อคุณรู้ความยาวด้านแล้ว ก็นำความยาวนั้นมายกกำลังสาม (หรือคูณกันสองครั้ง) เพื่อหาปริมาตรของลูกบาศก์ ถึงจุดนี้คุณก็จะได้ปริมาตรโดยการคำนวณจากพื้นที่ผิวของลูกบาศก์ ยินดีด้วย เย่ๆ
    • จากตัวอย่างของเรา เมื่อได้ความยาวด้าน 2.89 ซม.3 แล้ว ก็นำความยาวนี้มาคูณกันสองครั้ง ดังนั้นลูกบาศก์มีปริมาตร 2.89 × 2.89 × 2.89 = 24.14 ซม.3 อย่าลืมว่าหน่วยต้องอยู่ในรูปยกกำลังสามเสมอ
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

การหาปริมาตรจากเส้นทแยงมุม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 นำเส้นทแยงมุมบนหน้าสี่เหลี่ยมจัตุรัสของลูกบาศก์มาหารด้วย √2 เพื่อหาความยาวด้านของลูกบาศก์....
    นำเส้นทแยงมุมบนหน้าสี่เหลี่ยมจัตุรัสของลูกบาศก์มาหารด้วย √2 เพื่อหาความยาวด้านของลูกบาศก์. จากนิยาม เส้นทแยงมุมของรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสมีค่าเท่ากับ √2 × ความยาวด้าน ดังนั้นถ้าเรารู้ความยาวเส้นทแยงมุมบนหน้าสี่เหลี่ยมจัตุรัสของลูกบาศก์ เราก็จะสามารถหาความยาวด้านของลูกบาศก์ได้ โดยนำความยาวนั้นมาหารด้วย √2 เมื่อได้ความยาวด้านแล้ว คุณก็สามารถหาปริมาตรของลูกบาศก์ได้ตามวิธีในข้างต้น
    • ตัวอย่างเช่น สมมติให้เส้นทแยงมุมบนหน้าสี่เหลี่ยมจัตุรัสของลูกบาศก์ยาว 7 ฟุต เราสามารถหาความยาวด้านของลูกบาศก์ได้โดยนำ 7 มาหารด้วย √2 ซึ่งจะได้ 7/√2 = 4.96 ฟุต เมื่อรู้ความยาวด้านแล้วก็นำมันมายกกำลังสาม ดังนั้นลูกบาศก์มีปริมาตร 4.963 = 122.36 feet3.
    • จำไว้ว่ารูปทั่วไปของความสัมพันธ์ระหว่างความยาวของเส้นทแยงมุมกับความยาวด้านคือ d2 = 2s2 โดย d คือความยาวของเส้นทแยงมุมบนหน้าสี่เหลี่ยมจัตุรัสของลูกบาศก์ ส่วน s คือความยาวด้านของลูกบาศก์ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะ จากทฤษฎีบทพีทาโกรัส บนสามเหลี่ยมมุมฉาก พื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัสที่อยู่บนด้านตรงข้ามมุมฉาก มีพื้นที่เท่ากับผลรวมของพื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัสสองรูปที่อยู่บนด้านประชิดมุมฉาก จะเห็นได้ว่าเส้นทแยงมุมและด้านทั้งสองด้านบนหน้าสี่เหลี่ยมจัตุรัสของลูกบาศก์ประกอบกันเป็นรูปสามเหลี่ยมมุมฉาก ซึ่งตรงกับทฤษฎีบทพีทาโกรัส ดังนั้นจึงสามารถเขียนอยู่ในรูปทั่วไปได้ว่า d2 = s2 + s2 = 2s2
  2. How.com.vn ไท: Step 2 นำเส้นทแยงมุมในลูกบาศก์มาหารด้วย √3 เพื่อหาความยาวด้านของลูกบาศก์....
    นำเส้นทแยงมุมในลูกบาศก์มาหารด้วย √3 เพื่อหาความยาวด้านของลูกบาศก์. ถ้าโจทย์ให้ความยาวของเส้นทแยงมุมในลูกบาศก์ หรือเส้นที่ลากจากมุมหนึ่งไปยังอีกมุมหนึ่งที่อยู่ตรงข้ามของลูกบาศก์ เราก็สามารถหาปริมาตรของลูกบาศก์ได้เช่นกัน เนื่องจากเส้นทแยงมุมดังกล่าว เมื่อประกอบกับด้านหนึ่งของลูกบาศก์กับเส้นทแยงมุมของสี่เหลี่ยมจัตุรัสแล้ว มีรูปร่างเป็นรูปสามเหลี่ยมมุมฉาก โดยมีเส้นทแยงมุมในลูกบาศก์เป็นด้านตรงข้ามมุมฉาก ดังนั้นจึงสามารถเขียนอยู่ในรูปทั่วไปได้ว่า D2 = 3s2 โดย D คือความยาวของเส้นทแยงมุมในลูกบาศก์
    • ที่อยู่ในรูปดังกล่าวก็เพราะทฤษฎีบทพีทาโกรัสอีกเช่นกัน กล่าวคือเส้น D d และ s ประกอบกันเป็นรูปสามเหลี่ยมมุมฉาก โดยที่ D เป็นด้านตรงข้ามมุมฉาก ดังนั้นตามทฤษฎีบทพีทาโกรัสจึงเขียนได้ว่า D2 = d2 + s2. และเนื่องจาก d2 = 2s2 (มาจากวิธีที่แล้ว) เพราะฉะนั้นเมื่อนำมาแทนค่าก็จะเขียนได้ว่า D2 = 2s2 + s2 = 3s2.
    • เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจ สมมติให้เส้นทแยงมุมในลูกบาศก์ หรือเส้นที่ลากจากมุมหนึ่งจากฐานไปยังอีกมุมหนึ่งที่อยู่ตรงข้ามซึ่งอยู่ด้านบน มีความยาว 10 เมตร เราสามารถหาปริมาตรของลูกบาศก์ได้โดยการแทนค่า 10 ลงไปใน "D" ในสมการข้างต้น ซึ่งมีวิธีทำดังนี้
      • D2 = 3s2.
      • 102 = 3s2.
      • 10 = s√3
      • 10/√3 = s2
      • 5.77 เมตร = s เมื่อได้ความยาวด้านแล้ว ก็แค่นำมันไปยกกำลังสามเพื่อหาปริมาตรของลูกบาศก์
      • 5.773 = 192.45 เมตร3
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

วิกิฮาวเป็น "wiki" ซึ่งหมายความว่าบทความหลายๆ บทความของเรานั้นเป็นการร่วมมือกันเขียนของผู้เขียนหลายคน ในการเขียนบทความชิ้นนี้ ผู้คน 67 คน ซึ่งบางคนไม่ขอเปิดเผยตัว ได้ร่วมกันเขียนและปรับปรุงเนื้อหาของบทความอย่างต่อเนื่อง บทความนี้ถูกเข้าชม 182,777 ครั้ง
หมวดหมู่: คณิตศาสตร์
มีการเข้าถึงหน้านี้ 182,777 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา