วิธีการ ใช้คำว่า Than และคำว่า Then

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

คนเรามักจะใช้คำว่า than กับ then สลับกัน ซึ่งเป็นข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นบ่อย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าสองคำนี้ออกเสียงคล้ายกัน และในบางกรณีก็เป็นเพราะว่าคุณไม่รู้ความแตกต่าง อย่างไรก็ตามคุณจำเป็นที่จะต้องรู้ว่าคำไหนใช้กับสถานการณ์ไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเขียนเชิงวิชาการหรือธุรกิจ ตามกฎทั่วไปแล้วนั้น คำว่า than ใช้เพื่อบ่งบอกการเปรียบเทียบ และ then ใช้เพื่อบ่งบอกเวลา ฝึกการใช้และการออกเสียงทั้งสองคำนี้ แล้ว (then) คุณจะใช้สองคำนี้ได้ดี กว่า (than) ทุกคนที่คุณรู้จัก

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

รู้ว่าเมื่อไหร่ต้องใช้ Then

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 จำไว้ว่า then เป็นคำที่บ่งบอกเวลาหรือลำดับ.
    ตามหลักการใช้ทั้งหมด then จะใช้เมื่อคุณต้องการพูดจุดถึงของเวลาหรือลำดับเหตุการณ์ ถ้ามีใครถามว่าอะไรเกิดขึ้นเมื่อไหร่ then คือคำที่คุณควรใช้ในการตอบคำถาม[1]
    • เช่น ถ้าครูต่างชาติถามว่า เมื่อวานตอนบ่ายคุณอยู่ที่ไหน คุณก็อาจจะตอบว่า “I was at lunch then.” (ตอนนั้น หนูทานข้าวเที่ยงอยู่ค่ะ)
    • ถ้ามีใครถามว่าสิ่งนั้นจะเรียบร้อยเมื่อไหร่ คุณก็สามารถบอกให้เขา “Come back tomorrow afternoon. I will have everything ready by then.” (กลับมาอีกทีบ่ายพรุ่งนี้นะคะ ตอนนั้น ฉันจะเตรียมทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว)
    เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ
    How.com.vn ไท: Christopher Taylor, PhD

    Christopher Taylor, PhD

    ผู้ช่วยศาสตราจารย์ภาควิชาภาษาอังกฤษ
    คริสโตเฟอร์ เทย์เลอร์เป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ภาควิชาภาษาอังกฤษของมหาวิทยาลัยชุมชนออสตินในเท็กซัส เขาได้รับปริญญาเอกด้านวรรณคดีอังกฤษและการศึกษายุคกลางจากมหาวิทยาลัยเท็กซัสแห่งออสตินในปี 2014
    How.com.vn ไท: Christopher Taylor, PhD
    Christopher Taylor, PhD
    ผู้ช่วยศาสตราจารย์ภาควิชาภาษาอังกฤษ

    คริสโตเฟอร์ เทย์เลอร์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ภาควิชาภาษาอังกฤษกล่าวว่า : โดยทั่วไป "than" ใช้ในการเปรียบเทียบระหว่างสองสิ่ง (เช่น bigger than a quarter (มากกว่าเศษหนึ่งส่วนสี่)) ส่วน "then" ใช้ในการระบุลำดับเหตุการณ์ (เช่น first this, then that (อย่างแรกอันนี้ ต่อไปก็อันนั้น)"

  2. How.com.vn ไท: Step 2 เชื่อมชุดเหตุการณ์ด้วย then.
    วิธีการใช้คำว่า then ที่ใช้กันทั่วไปอีกกรณีก็คือ เพื่อบ่งบอกสิ่งที่เป็นลำดับ ใช้ then เพื่อบอกอีกฝ่ายว่า อะไรมาถัดไปทั้งในแง่ของเวลา พื้นที่ หรือลำดับ ตัวอย่างการใช้ในความหมายนี้ได้แก่ :[2]
    • We are going to leave at 9, and then we stop for lunch around 11. (เราจะออกจากที่นี่ตอน 9 โมง และ จากนั้น เราก็จะพักรับประทานอาหารกลางวันตอนประมาณ 11 โมง)
    • First, you line up part A and part B. Then, you screw them together. (ก่อนอื่นคุณเรียงส่วน A และส่วน B ก่อน จากนั้น ก็ขันสกรูเข้าด้วยกัน
    • The inner planets go Mercury, Venus, Earth, and then Mars. (ดาวเคราะห์ชั้นในได้แก่ ดาวพุธ ดาวศุกร์ ดาวโลก และ จากนั้น ก็ดาวอังคาร)
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ใช้ then เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมหรือข้อมูลที่เป็นเงื่อนไข....
    ใช้ then เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมหรือข้อมูลที่เป็นเงื่อนไข. คำว่า then สามารถใช้ในความหมายว่า "นอกจากนี้" "ยิ่งไปกว่านั้น" หรือ "ในกรณีนั้น" ได้ด้วย ใช้ then เมื่อคุณต้องการเสริมข้อมูลเพิ่มเติมลงในประโยค หรือเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ตามเงื่อนไข[3]
    • ถ้าคุณจะกล่าวข้อมูลเสริม คุณก็อาจจะพูดว่า “The dinner costs $20, and then you have to add the tip.” (ค่าอาหารค่ำราคา 20 ดอลลาร์ และ นอกจากนี้ คุณก็ต้องจ่ายทิปด้วย)
    • ในการบอกข้อมูลที่เป็นเงื่อนไข คุณอาจจะพูดว่า “If the weather is good, then we will go to the beach tomorrow.” (ถ้าอากาศดี ในกรณีนั้น เราจะไปชายหาดกันพรุ่งนี้)
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ใช้ then เมื่อคุณพูดถึงสิ่งที่เคยเป็นจริงในเวลาหนึ่ง....
    ใช้ then เมื่อคุณพูดถึงสิ่งที่เคยเป็นจริงในเวลาหนึ่ง. ในบางกรณีที่พิเศษ คำว่า then สามารถใช้เป็นคำคุณศัพท์ที่บ่งบอกถึงสิ่งที่เคยเป็นความจริงในอดีตแม้ว่าตอนนี้จะไม่ได้เป็นอย่างนั้นแล้วก็ตาม คุณอาจจะเคยได้ยินการใช้คำว่า then บ่อยๆ กับกลุ่มคน เช่น นักการเมือง ที่เคยดำรงตำแหน่งแต่ตอนนี้ไม่แล้ว[4]
    • เช่น “That program was instituted in 2010 by then President Barack Obama.” (โครงการนั้นก่อตั้งเมื่อปี 2010 โดยบารัค โอบามา ประธานาธิบดี ในตอนนั้น)
    • แต่การใช้ในลักษณะนี้ก็ไม่ได้จำกัดแค่กับบุคคลเท่านั้น คุณยังสามารถพูดว่า “The historian wrote about the then thriving state of Rome.” (นักประวัติศาสตร์เขียนเกี่ยวกับอาณาจักรโรมอันรุ่งโรจน์ ในตอนนั้น) ได้ด้วย
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

รู้ว่าเมื่อไหร่ต้องใช้ Than

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ใช้ than เป็นคำสันธานในบริบทของการเปรียบเทียบ.
    คำสันธานคือคำที่ใช้เชื่อมสองส่วนในประโยคไว้ด้วยกัน เวลาที่คุณพูดถึงคำนาม (สิ่งของ คน สถานที่ หรือแนวคิด) ในแง่ของการเปรียบเทียบกับคำนามอีกตัวหนึ่ง ให้ใช้ than ขึ้นต้นส่วนที่สองของการเปรียบเทียบ คำว่า than มักจะตามหลังคำคุณศัพท์ขั้นกว่า เช่น better (ดีกว่า) worse (แย่กว่า) more (มากกว่า) less (น้อยกว่า) higher (สูงกว่า) lower (ต่ำกว่า) smaller (เล็กกว่า) larger (ใหญ่กว่า) เป็นต้น เช่น :
    • There are more onions than scallions in your fridge. (ในตู้เย็นมีหอมหัวใหญ่ มากกว่า ต้นหอม)
    • I can run faster now than I could last year. (ตอนนี้ฉันวิ่งได้เร็ว กว่า ที่ฉันวิ่งได้ปีที่แล้ว)
    • I like cloudy weather more than I like the sun. (ฉันชอบอากาศครึ้ม มากกว่า ที่ฉันชอบแสงแดด)
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ใช้ than ระบุความสัมพันธ์ระหว่างสองเหตุการณ์.
    คำว่า than สามารถใช้กับคำกริยาที่แสดงความเป็นอดีต (Past Tense) และบางสำนวนที่ทำหน้าที่เป็นกริยาวิเศษณ์ได้ด้วย สำนวนที่ทำหน้าที่เป็นกริยาวิเศษณ์คือสำนวนที่ประกอบด้วยคำหลายคำที่ทำหน้าที่ขยายหรือบอกลักษณะของกริยา ในกรณีเหล่านี้จะใช้คำว่า than ในการระบุว่า สิ่งหนึ่งสัมพันธ์กับอีกสิ่งหนึ่ง[5]
    • เช่น ถ้าคุณรู้สึกเหมือนกับว่านาฬิกาปลุกทันทีที่คุณหลับ คุณก็อาจจะพูดว่า “No sooner did I lay my head down than my clock started to ring.” (ทันทีที่หัวฉันถึงหมอน นาฬิกา ก็ เริ่มปลุกทันที)
    • การใช้ในลักษณะนี้อาจคล้ายกับการใช้ then ในบางกรณี ซึ่งอาจทำให้สับสน ความแตกต่างก็คือ คำว่า then จะใช้ก็ต่อเมื่อมีลำดับเหตุการณ์ แต่ในตัวอย่างนี้คำว่า than ไม่ได้ใช้เพื่อระบุลำดับ แต่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์หรือความเกี่ยวข้องระหว่างสองสิ่ง เช่น เหตุการณ์ที่หัวถึงหมอนและเหตุการณ์ที่นาฬิกาปลุก
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ใช้ than เมื่อคุณไม่สามารถหาคำที่มีความหมายเหมือนกันกับสิ่งที่คุณจะพูดได้....
    ใช้ than เมื่อคุณไม่สามารถหาคำที่มีความหมายเหมือนกันกับสิ่งที่คุณจะพูดได้. ถ้าคุณกำลังพยายามเลือกระหว่าง than กับ then ให้ลองหาคำมาแทน คำว่า than เป็นคำเฉพาะที่ไม่มีความหมายเหมือนกับคำอื่น ในขณะที่ then สามารถใช้คำว่า “subsequently (ต่อมา)” “next (จากนั้น)” หรือ “later (ภายหลัง)" แทนได้[6]
    • เช่น คุณไม่สามารถพูดว่า “Jessica arrived later subsequently Joe.” (เจสสิกามาสายต่อมาโจ) แม้ว่าคุณจะกำลังพูดเรื่องเวลา แต่ในบริบทนี้คุณก็ยังคงเปรียบเทียบว่าใครมาสายกว่ากัน ดังนั้นประโยคนี้จึงต้องเป็น “Jessica arrived later than Joe.” (เจสสิกามาสายกว่าโจ)
    • แต่คุณสามารถพูดได้ว่า “First I need to shower and next I have to catch the bus.” (ก่อนอื่นฉันต้องอาบน้ำก่อน และจากนั้นฉันต้องไปขึ้นรถเมล์) ในบริบทนี้สามารถใช้คำว่า “next” แทนคำว่า then ได้
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ฝึกใช้ Then และ Than

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ทดสอบการใช้.
    ถ้าคุณเคยสับสนเวลาเขียน ให้ทดสอบแต่ละคำเพื่อดูว่า ในบริบทของประโยคนั้นๆ อ่านแล้วรู้เรื่องหรือเปล่า ลองถามตัวเองดังต่อไปนี้ขณะที่คุณเขียนเพื่อหาคำที่ถูกต้อง :[7]
    • ถ้าฉันเขียนคำว่า "next" แทนคำว่า "then" ประโยคนี้จะยังอ่านรู้เรื่องหรือเปล่า
      • ประโยค "I will go to the store next" (ฉันจะไปร้าน ต่อจากนั้น ) อ่านแล้วเข้าใจ เพราะฉะนั้นในที่นี้เราจะพูดว่า "I will go to the store then." (ฉันจะไปร้าน ต่อจากนั้น)
    • ถ้าฉันเขียนว่า "in comparison to" (เมื่อเปรียบเทียบกับ) แทนคำว่า "than" ประโยคนี้จะยังอ่านรู้เรื่องไหม
      • ประโยค "A used car costs less in comparison to a new car" (รถมือสองราคาต่ำกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับ รถมือหนึ่ง) อ่านแล้วรู้เรื่อง ดังนั้นคุณต้องพูดว่า "It costs less than a new car." (มันราคาต่ำ กว่า รถมือหนึ่ง)
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ฝึกเขียนคำว่า then กับ than บ่อยๆ.
    วิธีที่จะทำให้คุณคุ้นเคยกับความแตกต่างของการใช้ then กับ than ได้ดีที่สุดก็คือการใส่เข้าไปในบริบท ลองเขียนเรียงความเปรียบเทียบสั้นๆ เพื่อนช่วยให้คุณคุ้นเคยกับคำว่า than จากนั้นก็ลองเขียนชุดคำสั่งเพื่อฝึกการใช้ then [8]
    • สังเกตการใช้คำว่า then และ than เวลาเขียนในชีวิตประจำวันด้วย แบ่งเวลาอีกสักนิดในการตรวจทานเรียงความ จดหมาย การบ้าน และเอกสาร เพื่อที่คุณจะได้ตรวจสอบการใช้ให้ถูกต้อง
    • นอกจากนี้คุณยังสามารถค้นหาคำถามและแบบฝึกหัดการใช้คำว่า then และ than ในอินเทอร์เน็ตเพื่อช่วยทดสอบได้ด้วยว่าคุณใช้ถูกไหม[9]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ออกเสียงสองคำนี้ต่างกัน.
    ในทางสัทศาสตร์ เจ้าของภาษาอังกฤษใช้เสียง Schwa (ǝ คล้ายเสียง "เออะ" กึ่งเสียง) เพราะมันลื่นไหลกว่าเวลาพูดในชีวิตประจำวัน ดังนั้นเสียง "แอ" และ "เอ" ในหลายๆ คำจริงออกเสียงคล้ายกัน ทำให้เราสับสนไปด้วย อย่างไรก็การตามหาเวลาฝึกออกเสียงสองคำนี้ให้แตกต่างกันจะช่วยให้คุณจดจำวิธีการใช้ได้ดีขึ้น[10]
    • ลองพูดคำว่า than โดยอ้าปากกว้างและกดลิ้นลงไปที่ฟัน เสียงสระที่มาจากด้านหลังของปากและลำคอจะถูกบีบประมาณนึง
    • พูดคำว่า then โดยอ้าปากเพียงแค่บางส่วน เสียงสระจะออกมาจากลำคอที่คลายตัวและลิ้นขยับเล็กน้อย
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • เทคนิคช่วยจำที่ง่ายที่สุดก็คือ "then" เป็นคำเกี่ยวกับเวลาที่มีความหมายเท่ากับคำว่า "when" (เมื่อ) เพราะฉะนั้นทั้งสองคำนี้ก็เลยสะกดด้วยตัว "e" เหมือนกัน
  • สังเกตการตรวจสอบไวยากรณ์ ถ้าโปรแกรมประมวลผลคำขีดเส้นใต้หรือไฮไลต์คำว่า "then" หรือ "than" คุณก็อาจจะเลือกใช้คำผิด อ่านประโยคทวนอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ
  • คนมักจะใช้คำว่า then ผิดมากกว่า than คำว่า than ถ้าใช้ผิดจะดูแปลกหรือผิดชัดเจน แต่ถ้าใช้คำว่า then ผิด ดูผ่านๆ อาจจะเหมือนว่าใช้ได้ เพราะฉะนั้นให้สังเกตคำว่า then และการใช้มากเป็นพิเศษ
  • อีกหนึ่งเทคนิคการจำที่อาจจะช่วยได้ก็คือ คำว่า "then" กับ "time" (เวลา) มีตัว "e" ทั้งคู่ แต่ไม่มีตัว "a" ส่วนคำว่า "than" กับ "comparison" (การเปรียบเทียบ) นั้นมีตัว "a" แต่ไม่มีตัว "e" ทั้งคู่
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Christopher Taylor, PhD
ร่วมเขียน โดย:
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ภาควิชาภาษาอังกฤษ
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Christopher Taylor, PhD. คริสโตเฟอร์ เทย์เลอร์เป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ภาควิชาภาษาอังกฤษของมหาวิทยาลัยชุมชนออสตินในเท็กซัส เขาได้รับปริญญาเอกด้านวรรณคดีอังกฤษและการศึกษายุคกลางจากมหาวิทยาลัยเท็กซัสแห่งออสตินในปี 2014 บทความนี้ถูกเข้าชม 34,780 ครั้ง
หมวดหมู่: ภาษาสากล
มีการเข้าถึงหน้านี้ 34,780 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา