วิธีการ แยกอาการติดเชื้อไวรัสกับแบคทีเรีย

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

โรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนที่เกิดจากไวรัสกับแบคทีเรียนั้นอาการจะคล้ายกันมาก จะรู้แน่ก็ต้องไปตรวจร่างกายกับคุณหมอเท่านั้น แต่บางทีก็แพงและใช้เวลากว่าจะรู้ผล ถ้าพอรู้ว่าอาการไหนแตกต่างกันบ้าง ก็จะได้รู้ตัวว่าตกลงติดเชื้ออะไรกันแน่ จุดแตกต่างอยู่ที่ระยะเวลาที่มีอาการ รวมถึงสีน้ำมูกจะต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ควรพักผ่อนอยู่บ้าน ดูแลตัวเองจนกว่าจะหายดี ให้เวลาร่างกายได้ฟื้นตัวหน่อย

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

สังเกตอาการ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 มีอาการนานแค่ไหน.
    ส่วนใหญ่อาการติดเชื้อไวรัสจะไม่หนักเท่าติดเชื้อแบคทีเรีย แต่จะเป็นนานกว่า คุณจะป่วยอยู่ 1 - 3 วัน แล้วค่อยทุเลาเบาบางลง แต่บางอาการก็ยังไม่ทันหาย ถ้ามีอาการเป็น 1 อาทิตย์หรือมากกว่า แสดงว่าติดเชื้อไวรัส[1]
    • ถ้ามีอาการต่อเนื่องนานๆ ห้ามนิ่งนอนใจ ให้ปรึกษาคุณหมอเรื่องรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ
    • ไวรัสบางทีก็กลายเป็นไซนัสอักเสบหรือหูชั้นกลางติดเชื้อได้ ทีนี้ก็พลอยติดเชื้อแบคทีเรียไปด้วย
  2. How.com.vn ไท: Step 2 สังเกตสีน้ำมูก.
    เวลาคุณสั่งน้ำมูกหรือไอมีเสมหะ ให้คอยสังเกตว่าสีอะไร อย่าไปมองว่าน่ารังเกียจ เพราะสีของน้ำมูกและเสมหะบอกได้ ว่าคุณติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย[2]
    • ถ้าน้ำมูกใสไม่ข้น แสดงว่าติดเชื้อไวรัส แต่ถ้าเขียวข้น แปลว่าติดเชื้อแบคทีเรีย
    • แต่ดูแค่สีน้ำมูกหรือเสมหะอย่างเดียวก็บอกไม่ได้ 100% ว่าคุณติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย ต้องมีปัจจัยอื่นร่วมด้วย
  3. How.com.vn ไท: Step 3 คอเป็นยังไง.
    ทั้งไวรัสและแบคทีเรียก็ทำให้เจ็บคอได้ทั้งนั้น เวลาไปตรวจร่างกายกับคุณหมอ จะเช็คเป็นอย่างแรกว่าคุณเจ็บคอไหม จะได้จ่ายยาปฏิชีวนะ อาการเจ็บคอบางชนิดก็บอกได้เหมือนกัน ว่าคุณติดเชื้อแบคทีเรียหรือเปล่า[3]
    • เช่น ถ้ามีจุดขาว ส่วนใหญ่จะเป็นเพราะแบคทีเรีย ส่วนเจ็บคอแบบไม่มีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น น้ำมูกไหลหรือจาม อาจเป็นเพราะติดเชื้อแบคทีเรีย อย่างอาการคออักเสบ (strep throat) เป็นต้น
  4. How.com.vn ไท: Step 4 มีไข้ไหม.
    ทั้งไวรัสและแบคทีเรียก็ทำให้มีไข้ได้ แต่ถ้าติดเชื้อคนละชนิด อาการไข้ก็แตกต่างกันไป ถ้าติดเชื้อแบคทีเรีย ไข้จะสูงกว่าและผ่านไป 2 - 3 วันก็ยิ่งเป็นหนักขึ้น แต่ถ้าติดเชื้อไวรัส อาการจะดีขึ้นใน 2 - 3 วัน[4]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ประเมินความเสี่ยง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 บางทีอาจเป็นไข้หวัดใหญ่.
    ไข้หวัดใหญ่ (flu) นั้นเกิดจากการติดเชื้อไวรัส ถ้าตอนนี้ในที่ทำงานคนเป็นกันเยอะ แสดงว่าคุณก็มีสิทธิ์ติดมาเหมือนกัน ถ้าคุณเพิ่งแตะต้องหรือมีปฏิสัมพันธ์กับคนเป็นไข้หวัดใหญ่ไป ก็เป็นไปได้มากว่าอาการที่เป็นอยู่เกิดจากไข้หวัดใหญ่[6]
    • ถ้าคุณเพิ่งมีอาการได้ 2 วันแล้วรีบไปตรวจรักษา ก็ยิ่งหายเร็ว เพราะงั้นถ้ามีอาการผิดปกติเมื่อไหร่ให้สงสัยไว้ก่อนแล้วรีบไปหาหมอ โดยเฉพาะช่วงไข้หวัดใหญ่ระบาด
  2. How.com.vn ไท: Step 2 พิจารณาจากอายุ.
    ยิ่งเด็กก็ยิ่งติดเชื้อไวรัสง่าย โดยเฉพาะโรคยอดนิยมของเด็กอย่างโรคติดเชื้อในทางเดินหายใจส่วนบน ถ้าลูกหลานคุณมีอาการเจ็บคอ จาม หรือไอ เป็นไปได้มากว่าเกิดจากการติดเชื้อในทางเดินหายใจส่วนบน[7]
    • ถ้าคิดว่าเป็นแบบนั้น ให้รีบพาไปหาหมอ
  3. How.com.vn ไท: Step 3 อาจจะเพิ่งไซนัสอักเสบมา.
    บางทีพอติดเชื้อไวรัสแล้วก็ลามไปติดเชื้อแบคทีเรียได้ ถ้าคุณเพิ่งติดเชื้อไวรัสอะไรไป เช่น ไซนัสอักเสบ ก็อาจพัฒนาไปเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียทุติยภูมิ (secondary bacterial infection) ได้ ถ้าคุณป่วย 2 โรคติดกัน น่าจะเกิดจากแบคทีเรีย[8]
    • ในบางเคสที่ติดเชื้อไวรัสแล้วลามไปติดแบคทีเรีย ให้สังเกตอาการที่เป็นนานเกิน 1 - 2 อาทิตย์ แบบนั้นควรรีบไปหาหมอ
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ไปหาหมอ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ถ้ามีอาการต่อไปนี้ให้รีบไปหาหมอ.
    ปกติติดเชื้อไวรัสแล้วพักผ่อนอยู่ที่บ้านก็หายได้ แต่ถ้ามีอาการต่อไปนี้ ควรไปหาหมอทันที โดยเฉพาะถ้าเป็นอาการในเด็ก[9]
    • ฉี่น้อยกว่า 3 ครั้งใน 24 ชั่วโมง
    • หายใจติดขัด
    • อาการไม่ดีขึ้นใน 3 - 5 วัน
    • อาการหนักขึ้น หรือเข้าขั้นอันตราย
    • ถ้าสมาชิกในบ้านเป็นโรคภูมิคุ้มกันต่ำ (compromised immune system) ยิ่งต้องรีบไปหาหมอแต่เนิ่นๆ จะได้ไม่เกิดอาการแทรกซ้อน
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ถ้าติดเชื้อแบคทีเรียให้กินยาปฏิชีวนะ.
    ยาปฏิชีวนะนั้นใช้รักษาอาการติดเชื้อแบคทีเรีย แต่ทำอะไรไวรัสไม่ได้ แต่บางทีติดเชื้อแบคทีเรียคุณหมอก็ไม่ได้จ่ายยาปฏิชีวนะให้ เว้นแต่จะอาการหนักจริงๆ[10]
    • ถ้าอยากรู้แน่ว่าตัวเองติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียกันแน่ ก็ต้องไปตรวจรักษากับคุณหมอ โดยคุณหมอจะเก็บตัวอย่างน้ำมูกหรือเสมหะส่งไปตรวจที่แล็บ คือตรวจให้แน่ใจก่อนว่าติดเชื้อแบคทีเรีย ถึงจะให้ยาปฏิชีวนะ[11]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ซื้อยาแก้ปวดกินเอง.
    ถ้าเกิดอาการปวดจากเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส ให้สอบถามเภสัชกรเรื่องยาแก้ปวดที่เหมาะสม และต้องใช้ตามคำแนะนำที่ฉลากอย่างเคร่งครัด ถ้าใช้ยาอะไรอยู่ก็ต้องบอกรายละเอียดเภสัชกร เผื่อยาจะไปตีกัน[12]
    • ถ้าคุณหมอจ่ายยาปฏิชีวนะให้ ก็ลองปรึกษาคุณหมอดูว่ากินยาแก้ปวดตัวไหนได้บ้าง
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ฉีดวัคซีนตามกำหนด.
    ถ้าช่วงนี้คุณหมอแนะนำให้ฉีดวัคซีนตัวไหนป้องกันโรคแทรกซ้อนทั้งจากไวรัสและแบคทีเรียก็อย่าให้ขาด โดยเฉพาะวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ จะได้ป้องกันการติดเชื้อไวรัสแต่แรก นอกจากนี้การติดเชื้อไวรัสบางครั้งยังทำคุณติดเชื้อแบคทีเรียต่อด้วย อย่างน้อยฉีดไวรัสป้องกันไข้หวัดใหญ่ก็ช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อทั้ง 2 ชนิด[13]
    • ถึงฉีดวัคซีนแล้ว บางไวรัสและแบคทีเรียก็ยังเล็ดลอดมาได้ ถึงจะป้องกันไม่ได้ 100% ก็ถือว่ายังลดความเสี่ยง
    • บางคนก็ต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบด้วย ยังไงลองปรึกษาคุณหมอก่อน
    • แจ้งคุณหมอหรือพยาบาลในแผนกฉุกเฉินด้วย ถ้าคุณหรือลูกฉีดวัคซีนบังคับไม่ครบ ซึ่งอาจทำให้ติดไวรัสหายากได้ เช่น โรคไอกรน หรือโรคหัด
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่แล้วช่วยป้องกันไม่ให้ติดเชื้อไวรัส
  • ไม่ว่าจะติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียต้องรู้จักดูแลตัวเอง ดื่มน้ำและพักผ่อนให้มากๆ ถ้าเป็นไปได้ก็ให้ลางานหรือหยุดเรียน โดยเฉพาะถ้าอาการหนัก[14]
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Janice Litza, MD
ร่วมเขียน โดย:
อายุรแพทย์
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Janice Litza, MD. ดร.ลิตซ่าเป็นอายุรแพทย์ที่มีใบรับรองในวิสคอนซิน เธอเป็นแพทย์ที่ผ่านงานคลินิกกว่า 13 ปี หลังจากได้รับปริญญาโทด้านแพทยศาสตร์จากคณะแพทยศาสตร์และการสาธารณสุขของมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-เมดิสันในปี 1998 บทความนี้ถูกเข้าชม 8,993 ครั้ง
หมวดหมู่: สุขภาพ
มีการเข้าถึงหน้านี้ 8,993 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา