วิกิฮาวเป็น "wiki" ซึ่งหมายความว่าบทความหลายๆ บทความของเรานั้นเป็นการร่วมมือกันเขียนของผู้เขียนหลายคน ในการเขียนบทความชิ้นนี้ นักเขียนที่อาสาสมัครมาได้ร่วมกันเขียนและปรับปรุงเนื้อหาของบทความอย่างต่อเนื่อง
บทความนี้ถูกเข้าชม 48,348 ครั้ง
เนื้อหมูสันในอบในเตาได้ง่ายมาก แต่คุณต้องแน่ใจว่าไม่ได้ “อบนานเกิน” เพื่อป้องกันไม่ให้เนื้อมันแห้งมากเกินไป การหมักเนื้อไว้ล่วงหน้าเป็นวิธีทั่วไปที่จะช่วยเพิ่มรสชาติ ความนุ่ม และความฉ่ำ จากบทความที่ผ่านๆ มาก สันในหมูสามารถนำมาอบหรือย่างได้ สันในหมูที่อบในเตาเป็นอีกหนึ่งเมนูง่ายๆ ที่จะไม่ทำให้ผิดหวัง
ส่วนประกอบ
สำหรับ 2-4 ที่
- สันในหมู 1 ถึง 1 1/2 ปอนด์ (450 ถึง 675 กรัม)
- น้ำมะนาว 1/2 ถ้วย (125 มิลลิลิตร)
- น้ำมันมะกอก 1/4 ถ้วย (60 มิลลิลิตร)
- กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ (15 มิลลิลิตร)
- ใบโรสแมรี่สับ 1 ช้อนโต๊ะ (15 มิลลิลิตร)
- ใบไทม์สับ 1 ช้อนชา (10 มิลลิลิตร)
- เกลือ 1 ช้อนชา (5 มิลลิลิตร)
ขั้นตอน
- ตีส่วนผสมที่ใช้ทำน้ำหมักเข้าด้วยกัน. นำน้ำมะนาว น้ำมันมะกอก กระเทียม ใบโรสแมรี่ ใบไทม์ และเกลือใส่ในชามเล็กแล้วตีให้เข้ากัน นำน้ำหมักที่ได้ใส่ไปในถุงพลาสติกที่มีความจุ 1 แกลลอน (4 ลิตร) และสามารถปิดปากถุงได้[1]
- คุณสามารถปรับเปลี่ยนน้ำหมักได้ตามต้องการ โดยการเพิ่มเครื่องปรุงลงไปตามรสชาติที่คุณชอบ คุณสามารถเปลี่ยนน้ำหมักที่เราแนะนำได้โดยใช้น้ำหมักอย่างอื่น แต่จำไว้ว่าในน้ำหมักควรจะต้องมีกรด น้ำมัน และเครื่องปรุงรสอยู่ด้วย
- เคลือบเนื้อสันในหมู. ใส่สันในหมูลงไปในถุงน้ำหมัก ปิดปากถุง และพลิกไปมาหลายๆ รอบเพื่อให้น้ำหมักเคลือบโดนทุกส่วนของเนื้อหมู
- บีบไล่อากาศที่อยู่ในถุงมากเกินโดยเปิดปากถุงเล็กน้อยแล้วใช้มือบีบถุงให้ดันอากาศออกมา แล้วปิดปากถุงทันที
- หมักทิ้งไว้อย่างน้อย 3 ชั่วโมง. นำถุงไปแช่ในตู้เย็น ทิ้งไว้ 3 ชั่วโมงหรือข้ามคืน
- พลิกถุงกลับไปกลับมาหลายๆ ครั้งระหว่างกระบวนการหมักเพื่อให้ส่วนผสมมันเข้ากันและเคลือบผิวเนื้อสันในอีกครั้ง
- ยิ่งคุณหมักสันในหมูไว้นานแค่ไหน ก็จะยิ่งทำให้เนื้อมีความนุ่ม ชุ่มฉ่ำและรสชาติดีมากขึ้นเท่านั้นหลังทำเสร็จ อย่างไรก็ตาม อย่าหมักนานเกิน 12 ชั่วโมง เพราะจะทำให้เนื้อเหนียวได้
- นำสันในหมูออกมาจากถุงทันทีก่อนปรุง. ถือเนื้อหมูไว้บนปากถุงหรืออ่างล้างจานเพื่อให้น้ำหมักที่มากเกินไหลออกไป อย่าปัดสมุนไพรหรือน้ำหมักที่เคลือบอยู่ที่ผิวออกโฆษณา
- อุ่นเตาอบและอุ่นกระทะไว้. ตั้งเตาอบไว้ที่อุณหภูมิ 425 องศาฟาห์เรนไฮต์ (218 องศาเซลเซียส) และตั้งน้ำมันหรือเนย 2 ช้อนโต๊ะ (30 มิลลิลิตร) ให้ร้อนระดับปานกลางในกระทะสำหรับเข้าเตาอบ
- ถ้าคุณไม่มีกระทะสำหรับเข้าเตาอบ คุณสามารถใช้กระทะอื่นเพื่อย่างเนื้อแทนก็ได้ แต่คุณก็จะต้องเตรียมทั้งกระทะสำหรับปิ้งและกระทะสำหรับย่างโดยการพ่นสเปรย์กันเนื้อติดกระทะ ย้ายเนื้อที่ย่างในกระทะเสร็จแล้วเข้าไปอบในเตา
- ย่างเนื้อสันใน. นำเนื้อสันในลงไปย่างในกระทะที่ร้อนและย่างจนทุกด้านเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล
- อบเนื้อสันใน 15-20 นาที. นำกระทะลงจากเตาแล้วใส่เข้าเตาอบทั้งกระทะ อบจนมีน้ำฉ่ำๆ และเนื้อหายเป็นสีชมพู ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
- พักไว้ 5-10 นาที. เนื้อสันในจะเย็นลงนิดหน่อยแต่ยังคงอุ่นอยู่
- หั่นสันในหมูที่ได้เป็นแผ่นๆ หนาครึ่งนิ้ว (1.25 เซนติเมตร)
- ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยตามต้องการ นำน้ำที่เหลือในกระทะมาพรมบนชิ้นเนื้อได้เพื่อเพิ่มรสชาติ
โฆษณา
- อุ่นเตาย่างไว้สัก 10 นาที. แนะนำให้ซื้อกระทะย่างแบบมีตะแกรง
- ปัจจุบันเตาย่างส่วนใหญ่จะมีที่ตั้งค่าความร้อนสูงและต่ำ ถ้าเตาย่างของคุณมีทั้งสองอย่างให้ตั้งค่าความร้อนสูง แต่ถ้าไม่มีการตั้งค่าทั้งสองแบบ เพียงหมุนเปิดธรรมดาก็พอ
- แน่ใจว่าใช้กระทะย่างแบบมีตะแกรง เพราะมันดีกว่ากระทะที่ใช้ปิ้งหรืออบโดยทั่วไป ตะแกรงจะช่วยแยกน้ำมันที่ไหลออกมาจากชิ้นเนื้อเวลาที่มันละลายออกมา และป้องกันไม่ให้ชิ้นเนื้อร้อนเกินไป
- อย่าทาน้ำมันที่กระทะ หรือห่อมันด้วยกระดาษฟอยล์
- ย้ายชิ้นเนื้อไปใส่ในกระทะย่าง. วางไว้ตรงกลางของตะแกรงและนำกระทะเข้าเตาย่างโดยวางไว้ชั้นบนสุด
- เนื้อสันในควรอยู่ห่างจากส่วนที่ให้ความร้อนในเตาซึ่งอยู่บนสุดของเตาประมาณ 4 นิ้ว (10 เซนติเมตร)
- ย่างเนื้อสันในด้านละประมาณ 8-12 นาที. เมื่อเห็นด้านบนของชิ้นเนื้อเป็นสีน้ำตาล ให้นำกระทะออกมาจากเตาและพลิกชิ้นเนื้ออีกด้านขึ้นมา จากนั้นนำกระทะเข้าเตาย่างแล้วย่างต่อไป
- เวลาย่างทั้งหมดควรอยู่ระหว่าง 16-24 นาที
- พักไว้สัก 5 นาที. ให้สันในหมูที่ได้เย็นลงสักนิดก่อนนำไปเสิร์ฟ
- หั่นสันในหมูที่ได้เป็นแผ่นๆ หนาครึ่งนิ้ว (1.25เซนติเมตร)
- ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยตามต้องการ
โฆษณา
- ลองใช้น้ำหมักที่แตกต่างจากเดิม. น้ำหมักส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยน้ำมัน กรด และเครื่องปรุงรส แต่มันจะเรียบง่ายหรือเลิศหรูอลังการนั้นก็ขึ้นอยู่กับคุณ
- ลองทำน้ำหมักแบบง่ายๆ โดยใช้กระเทียม น้ำมันมะกอก และน้ำส้มสายชู
- เพื่อประหยัดเวลา ให้ใช้น้ำหมักที่เตรียมไว้หรือน้ำสลัดวินนะเกรท
- ทำซอสจากน้ำหมักที่เหลือโดยนำไปต้มในกระทะใบเล็ก ลดความร้อนและเคี่ยวไปเรื่อยๆ ช้าๆ จนกระทั่งมันเหนียวและลดตัวลงมาเหลือปริมาณประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ (30 มิลลิลิตร)
- ใช้การหมักแบบแห้ง. การหมักแบบแห้งประกอบด้วยเครื่องเทศและสมุนไพรหลายอย่าง
- เครื่องปรุงทั่วไปสำหรับการหมักสันในหมูแบบแห้งคือ ผักชีฝรั่ง ใบโหระพา และผักชีไทย
- คุณสามารถทาเครื่องปรุงไว้ที่เนื้อได้หลายชั่วโมงเพื่อที่เนื้อจะได้ดูดซึมรสชาติ หรือคุณจะทาเครื่องปรุงทันทีก่อนที่จะย่างเนื้อก็ได้
- ลองใช้น้ำเกลือ. การใช้น้ำเกลือมีประโยชน์อย่างมากที่จะทำให้เนื้อหมูสันในฉ่ำ
- แช่เนื้อลงในน้ำเกลือสัก 30 นาที น้ำไปแช่ในตู้เย็นในขณะที่เนื้อยังอยู่ในน้ำเกลือ
- ปรุงรสน้ำเกลือด้วยสมุนไพรหรือเครื่องเทศ เช่น ผักชีฝรั่ง หรือผงกระเทียม เพื่อเพิ่มรสชาติ
- ทาให้เงา. ทาน้ำซอสลงไปบนชิ้นเนื้อหลังจากที่ย่างแต่ก่อนที่ใกล้จะย่างเสร็จ
- น้ำที่ใช้เคลือบควรมีส่วนผสมของน้ำเชื่อม ซอสบาร์บีคิว แยมผลไม้ หรือน้ำผลไม้ผสมน้ำตาลคือตัวเลือกมาตรฐาน
โฆษณา
คำเตือน
- USDA เตือนว่าไม่ควรทานเนื้อสันในหมูถ้าอุณหภูมิภายในของเนื้อยังไม่ถึง 145 ฟาห์เรนไฮต์ (63 องศาเซลเซียส)[2] ตรวจอุณหภูมิด้านในของเนื้อได้โดยใช้เครื่องวัดอุณหภูมิเนื้อแทงเข้าไปตรงกลางของชิ้นเนื้อทันทีที่เอาออกมาจากเตา นำกลับเข้าเตาอีกรอบถ้าอุณหภูมิยังไม่สูงพอ
สิ่งของที่ใช้
- เครื่องตีส่วนผสม
- ชามเล็ก
- ถุงพลาสติกที่มีความจุ 1 แกลลอน (4 ลิตร) และสามารถปิดปากถุงได้
- กระทะสำหรับเข้าเตาอบ
- กระทะย่างที่มีตะแกรง
- คีมหรือที่คีบใหญ่ๆ
- เครื่องวัดอุณหภูมิเนื้อ
ข้อมูลอ้างอิง
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.