วิธีการ รู้ตัวเมื่อเกิดภาวะบวมน้ำเหลือง

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

Lipedema หรือ painful fat syndrome ก็คือภาวะบวมน้ำเหลืองนั่นเอง เป็นอาการผิดปกติที่ทำให้ไขมันสะสมบริเวณช่วงล่างของร่างกาย มักเกิดเฉพาะกับผู้หญิง ส่วนในผู้ชายก็มีแต่หาได้ยากมาก[1]คนที่มีภาวะบวมน้ำเหลือง ไม่ว่าใช้วิธีไหนก็จะลดน้ำหนักหรือกระชับสัดส่วนท่อนล่างไม่ได้ ทั้งๆ ที่เบิร์นไขมันท่อนบนไปแล้ว นอกจากขายังช้ำง่าย กดแล้วเจ็บด้วย

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

วินิจฉัยโรค

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ไปหาหมอ.
    ทางเดียวที่จะรู้แน่ว่าคุณมีภาวะบวมน้ำเหลือง คือต้องไปหาหมอ ถ้าคุณหมอทั่วไปไม่เชี่ยวชาญด้านนี้พอ ก็จะโอนเคสไปให้คุณหมอเฉพาะทาง ที่จะเป็นคนตรวจวินิจฉัยอาการของคุณเอง ว่าตกลงเป็นภาวะบวมน้ำเหลืองหรือโรคอื่นๆ ที่เกิดจากไขมัน
    • อาการของภาวะนี้มักน่าอายในความรู้สึกของใครหลายคน เลยทำให้ไม่กล้าปรึกษาคุณหมอ ขอให้ท่องไว้ว่าคุณหมอจะไม่ตัดสินคุณ ให้นึกถึงความปลอดภัยของตัวเองเป็นสำคัญ เพราะภาวะบวมน้ำเหลืองยิ่งรู้แต่เนิ่นๆ ก็ยิ่งรักษาง่าย
  2. How.com.vn ไท: Step 2 รู้จัก stages หรือขั้นต่างๆ ของภาวะบวมน้ำเหลือง.
    ซึ่งก็เหมือนกับโรคหรืออาการอื่นๆ ที่ขั้นแรกๆ จะรักษาง่ายกว่าขั้นท้ายๆ โดยภาวะบวมน้ำเหลืองแบ่งออกเป็น 4 ขั้นด้วยกัน[2]
    • ขั้นที่ 1 ผิวของคุณจะยังเรียบเนียน มีบวมขึ้นบ้างระหว่างวัน แต่ถ้าพักผ่อนเพียงพอก็จะหายไปเอง ถ้าอยู่ในขั้นนี้ ร่างกายจะตอบสนองกับการรักษาได้ดีกว่าขั้นอื่นๆ
    • ขั้นที่ 2 ผิวจะเริ่มบุ๋มและมีก้อน/เนื้องอกไขมัน (lipomas) ในขั้นนี้อาจมีผื่นผิวหนังอักเสบ (eczema) หรือโรคติดเชื้ออย่าง "ไฟลามทุ่ง" (erysipelas) ร่วมด้วย ระหว่างวันจะยังตัวบวม แต่ที่เปลี่ยนไปคือไม่หายง่ายๆ หรือหายไม่สนิท ทั้งๆ ที่พักผ่อนและยกขาสูงแล้ว ถ้ารักษาตั้งแต่มีอาการในขั้นนี้ ร่างกายก็ยังตอบสนองดีเช่นกัน
    • ขั้นที่ 3 เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (connective tissues) จะแข็งขึ้น และอาการบวมจะไม่หายไป แม้จะยกขาสูงหรือพักผ่อนมากแค่ไหน นอกจากนี้ผิวหนังจะเริ่มหย่อนคล้อย อาการขั้นนี้ยังพอรักษาทัน แต่อาจไม่ค่อยตอบสนองกับวิธีการต่างๆ
    • ขั้นที่ 4 อาการที่พบในขั้นที่ 3 จะทวีความรุนแรงขึ้น ถึงขั้นนี้ คุณหมอจะเรียกว่า lipo-lymphedema (ภาวะบวมน้ำเหลืองและไขมัน) อาการขั้นนี้จะเหมือนขั้นที่ 3 คือรักษาแล้วร่างกายไม่ค่อยตอบสนองกับวิธีการของคุณหมอเท่าไหร่
  3. How.com.vn ไท: Step 3 คุณหมอจะตรวจวินิจฉัยยังไง.
    วิธีตรวจวินิจฉัยภาวะบวมน้ำเหลืองได้ดีที่สุด คือสังเกตบริเวณที่มีอาการด้วยตาเปล่า รวมถึงสัมผัสเพื่อตรวจหาตุ่มหรือก้อนไขมันที่เป็นอาการเด่นของภาวะนี้ และจะสอบถามคุณเรื่องความเจ็บปวด ให้อธิบายว่าบวมมากขึ้นหรือน้อยลงหรือเปล่า และเป็นเมื่อไหร่[3]
    • ณ ตอนนี้การตรวจเลือดยังบอกไม่ได้ ว่าคุณมีภาวะบวมน้ำเหลืองหรือเปล่า
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

รู้จักอาการ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 สำรวจว่าขาบวมไหม.
    เพราะเป็นอาการที่ชัดเจนและพบบ่อยที่สุดของภาวะบวมน้ำเหลือง ปกติจะบวมทั้ง 2 ขา และอาจลามไปถึงก้นกับสะโพกด้วย ท่อนล่างของคุณอาจจะบวมขึ้นช้าๆ หรืออีกทีคือเห็นว่าท่อนล่างกับท่อนบนต่างกันชัดเจน[4]
    • เช่น บางคนที่มีภาวะบวมน้ำเหลือง ร่างกายจากช่วงเอวขึ้นไปจะผอมมาก แต่จะบวมจนผิดส่วนที่ท่อนล่าง ตั้งแต่เอวลงมา
  2. How.com.vn ไท: Step 2 เท้าจะยังขนาด “เท่าเดิม”.
    มักบวมเฉพาะที่ขา อย่างมากก็ไปสุดที่ข้อเท้า ทำให้ขาบวมตันเหมือนท่อนเสา[5]
    • อาการบวมจะเปลี่ยนลักษณะไปได้เรื่อยๆ บางทีก็ไม่ได้บวมทั้งขา หรืออีกทีคือบวมตั้งแต่เหนือข้อเท้าขึ้นมาจนถึงสะโพกเลย แต่บางคนก็แค่มีก้อนไขมันเล็กๆ บวมขึ้นมาเหนือข้อเท้า 2 ข้าง
  3. How.com.vn ไท: Step 3 บางทีต้นแขนก็บวมด้วย.
    ส่วนใหญ่อาการบวมจะเกิดเฉพาะร่างกายท่อนล่าง แต่บางทีก็ไปบวมที่ต้นแขนได้ด้วย เพราะไขมันที่แขนก็เหมือนที่ขา เลยอาจสะสมจนเกิดอาการบวมทั้ง 2 แขน[6]
    • ต้นแขนอาจบวมตันเหมือนท่อนเสาจนมาสุดที่ข้อศอกหรือข้อมือ
  4. How.com.vn ไท: Step 4 แตะผิวแล้วรู้สึกเย็นไหม.
    คนที่มีภาวะบวมน้ำเหลืองมักพบว่าผิวบริเวณที่มีอาการจะเย็นๆ เวลาแตะ แถมยังหยุ่นๆ เหมือนก้อนแป้งด้วย[7]
    • นอกจากนี้แตะแล้วอาจเจ็บปวดร่วมด้วย แถมช้ำง่ายเป็นพิเศษ
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

อะไรคือสาเหตุ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ตอนนี้ยังไม่รู้สาเหตุแน่ชัด.
    มีแค่ข้อสงสัยเท่านั้น ในทางการแพทย์ก็ยังฟันธงไม่ได้ว่าภาวะบวมน้ำเหลืองเกิดจากอะไร เลยทำให้โชคร้ายตกมาอยู่ที่เรา เพราะไม่มีแนวทางดูแลป้องกันเป็นพิเศษ แถมพอเป็นขึ้นมาก็รักษายากอีกต่างหาก
    • พยายามบอกเล่าเก้าสิบทุกอาการให้คุณหมอฟัง รวมถึงประวัติสุขภาพทั้งของตัวเองและคนในครอบครัว คุณหมอจะได้ตรวจวินิจฉัยและหาทางรักษาได้ถูก[8]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 บางทีก็เป็นที่พันธุกรรม.
    ผู้ป่วยหลายเคสก็เกิดจากพันธุกรรม เพราะสืบย้อนไปเจอว่ามีคนในครอบครัวหรือญาติเคยเป็น[9]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 บางทีเป็นเพราะฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง.
    คุณหมอหลายท่านเชื่อว่าภาวะบวมน้ำเหลืองอาจเกี่ยวพันกับระดับฮอร์โมน เพราะผู้ป่วยแทบทั้งหมดเป็นผู้หญิง และมักเกิดอาการช่วงฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง เช่น วัยเจริญพันธุ์ ตั้งครรภ์ หรือหมดประจำเดือน[11]
    • ถึงจะหาสาเหตุได้ยาก และถึงรู้ก็ยากจะป้องกัน แต่อย่างน้อยถ้าพอรู้ คุณหมอก็นำไปพิจารณาหาวิธีรักษาที่ตรงจุดมากขึ้นได้
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้ามีภาวะบวมน้ำเหลือง บางทีก็มีอาการเส้นเลือดขอด ปวดเข่า และโรคอ้วนร่วมด้วย[12]ลองปรึกษาคุณหมอดู ว่าพอทำอะไรเพื่อป้องกันอาการข้างเคียงพวกนี้ได้บ้าง
โฆษณา

คำเตือน

  • ภาวะบวมน้ำเหลืองนั้นคนละอย่างกับโรคอ้วน ถ้าได้รับการตรวจวินิจฉัยจากคุณหมอและอยู่ระหว่างการรักษาแล้ว ก็พยายามทำใจให้สบาย ท่องไว้ว่าคุณไม่ได้ทำอะไรผิด อย่ารู้สึกไม่ดีกับรูปร่างของตัวเอง[13]
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: ทีมงานวิกิฮาว
ร่วมเขียน โดย:
นักเขียนในทีมวิกิฮาว
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา

ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 4,925 ครั้ง
หมวดหมู่: สุขภาพ
มีการเข้าถึงหน้านี้ 4,925 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา