วิธีการ รักษาโรคปอดอักเสบ

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

โรคปอดอักเสบเป็นอาการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนล่างที่ส่งผลต่อเนื้อเยื่อปอด อาการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนล่างเป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งของโรคที่เกิดจากการติดเชื้อในประเทศสหรัฐ[1] อาการปอดอักเสบจึงเป็นโรคที่ร้ายแรงและควรได้รับการรักษาให้หายขาดอย่างถูกวิธี

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

การรักษาโรคปอดอักเสบ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 การดูแลรักษาในรายที่ไม่ร้ายแรง.
    ถ้าอาการปอดอักเสบของคุณยังไม่ร้ายแรง คุณจะได้รับการรักษาในฐานะผู้ป่วยนอก ในกรณีที่ผู้ป่วยเป็นเด็ก แพทย์อาจให้เข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลถ้าเห็นว่าอาการอาจทรุดลง โดยแพทย์จะเริ่มการรักษาด้วยการให้ยาปฏิชีวนะ รวมถึงแนะนำให้พักผ่อนและนอนหลับให้มากขึ้นเพื่อให้อาการดีขึ้นเร็วที่สุด และแม้อาการจะไม่ร้ายแรง ก็ยังไม่ควรไปโรงเรียนหรือไปทำงานจนกว่าแพทย์จะอนุญาต ซึ่งโดยทั่วไป ระยะการพักฟื้นจะอยู่ที่ประมาณ 7-10 วัน
    • โรคปอดอักเสบบางชนิดสามารถติดต่อได้ง่าย ในขณะที่บางชนิดจะแพร่กระจายไปยังผู้อื่นก็ต่อเมื่ออยู่ในสภาวะที่เหมาะสมเท่านั้น[2] ดังนั้น ในระหว่างที่แพทย์วินิจฉัยโรค ควรสอบถามแพทย์ดูว่าอาการปอดอักเสบของคุณสามารถแพร่กระจายได้ง่ายแค่ไหน[3]
    • อาการของคุณควรจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดภายใน 48 ชั่วโมงหลังจากได้รับการรักษา ซึ่งหมายความว่าคุณควรหายไข้และรู้สึกมีเรี่ยวแรงมากขึ้น
    • เราไม่จำเป็นต้องใส่ใจมากเป็นพิเศษในการทำความสะอาดสิ่งของที่ผู้ป่วยโรคปอดอักเสบใช้ เพราะเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุของโรคไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้นานนักบนวัตถุที่ไม่มีชีวิต และสามารถกำจัดให้หมดไปได้ด้วยวิธีการเช็ดล้างทั่วไป[4]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 การดูแลรักษาในรายที่อาการอยู่ในระดับปานกลาง....
    การดูแลรักษาในรายที่อาการอยู่ในระดับปานกลาง. รายที่อาการปอดอักเสบอยู่ในระดับปานกลาง คือผู้ที่ระบบทางเดินหายใจทรุดลงอย่างเห็นได้ชัด และจำเป็นต้องให้ออกซิเจนเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด นอกจากนี้ ผู้ป่วยอาจมีไข้และดูป่วย ถ้าโรคปอดอักเสบของคุณแสดงอาการเหล่านี้ออกมาล่ะก็ มีแนวโน้มที่คุณจะต้องเข้าพักรักษาตัวในห้องผู้ป่วยในเพื่อรับยาปฏิชีวนะเข้าทางหลอดเลือดดำ ประเภทของยาปฏิชีวนะที่คุณได้รับจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง และจะใช้วิธีการให้ยาเข้าทางหลอดเลือดดำเท่านั้นเพื่อให้ยาเข้าสู่ระบบต่างๆ ภายในร่างกายเร็วขึ้น
    • แพทย์จะเปลี่ยนเป็นยาปฏิชีวนะชนิดทานเมื่อไข้เริ่มลดลงและร่างกายของคุณเริ่มตอบสนองต่อการรักษา ซึ่งมักจะใช้เวลาไม่เกิน 48 ชั่วโมง
    • การรักษาหลังจากนี้มักเหมือนในกรณีที่อาการไม่รุนแรงนัก เพราะอาการเริ่มเปลี่ยนจากความรุนแรงระดับปานกลางเป็นระดับต่ำแล้ว[5]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ขอความช่วยเหลือในกรณีที่อาการอยู่ในขั้นรุนแรง....
    ขอความช่วยเหลือในกรณีที่อาการอยู่ในขั้นรุนแรง. ผู้ป่วยโรคปอดอักเสบขั้นรุนแรงคือรายที่ระบบทางเดินหายใจล้มเหลว จึงต้องใส่ท่อช่วยหายใจและใช้เครื่องมือช่วยในการขนส่งอากาศภายในปอด และอาจต้องย้ายผู้ป่วยเข้าห้องไอซียู[6][7]
    • ผู้ป่วยต้องได้รับยาปฏิชีวนะเข้าทางหลอดเลือดดำเหมือนอย่างในรายที่มีอาการระดับปานกลาง นอกจากนี้ ผู้ป่วยขั้นรุนแรงมักต้องใช้ยาช่วยหดหลอดเลือดเพื่อกดบีบหลอดเลือดให้ตีบ (ยาช่วยเพิ่มความดันโลหิต) เพื่อป้องกันภาวะช็อกเนื่องจากการติดเชื้อในกระแสเลือด
    • ขณะที่อยู่โรงพยาบาล คุณจำเป็นต้องได้รับการดูแลเพื่อให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้นในขณะที่ยากำลังทำหน้าที่ เมื่ออาการเริ่มดีขึ้นแล้ว คุณจะได้รับการดูแลเหมือนอย่างผู้ป่วยที่มีอาการระดับปานกลางและระดับต่ำตามลำดับ โดยระยะเวลาที่ต้องพักฟื้นในโรงพยาบาลจะขึ้นอยู่กับระดับความเสียหายของปอดและระดับความรุนแรงของอาการปอดอักเสบของคุณ[8]
    • แพทย์อาจใช้เครื่องเป่าความดันลม 2 ระดับ (BiPAP) ในผู้ป่วยบางรายเพื่อไม่ให้จำเป็นต้องใช้ท่อช่วยหายใจและเครื่องมือช่วยในการขนส่งอากาศภายในปอด[9] เครื่อง BiPAP จะมีท่อที่ค่อยๆ ส่งแรงดันอากาศไปยังผู้ป่วย ซึ่งมักจะใช้ในการรักษาโรคหยุดหายใจขณะหลับ[10]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ใช้ยาปฏิชีวนะที่เหมาะสม.
    มียาปฏิชีวนะมากมายหลายชนิดที่คุณสามารถใช้เมื่อเป็นโรคปอดอักเสบ แพทย์จะประเมินว่าเชื้อโรคชนิดใดที่เป็นสาเหตุของโรคปอดอักเสบของคุณ ซึ่งจะบอกได้ว่าคุณควรใช้ยาตัวใด โรคปอดอักเสบในรูปแบบที่พบได้บ่อยที่สุดจะใช้ยาปฏิชีวนะ เช่น ซิโทรแมกซ์หรือดอกดิไซคลิน ร่วมกับอะมอกซิซิลลิน ออกเมนติน แอมพิซิลลิน เซฟาคลอร์ หรือเซโฟแทกซีม โดยปริมาณที่ใช้จะขึ้นอยู่กับอายุและความรุนแรงของอาการ รวมถึงอาการแพ้และปฏิกิริยาของเชื้อโรค
    • แพทย์อาจจ่ายยาที่ใช้กันไม่บ่อยนัก แต่ก็เป็นหนทางการเยียวยาด้วยยาปฏิชีวนะเดียวที่จะได้ผล นั่นคือยาควิโนโลนสำหรับระบบทางเดินหายใจ เช่น ยี่ห้อ Levaquin หรือ Avelox สำหรับผู้ใหญ่[11] อย่างไรก็ตาม ยาควิโนโลนจะไม่ใช้ในผู้ป่วยของกุมารแพทย์
    • ในรายที่อาการอยู่ในระดับปานกลางหรือไม่ร้ายแรง ในช่วงที่มีแนวโน้มว่าอาจต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล แพทย์อาจให้ยาโรเซฟินเข้าทางหลอดเลือดดำ ตามด้วยการให้ยาทาน
    • ในกรณีทั้งหมดเหล่านี้ แพทย์จะนัดติดตามอาการภายใน 2-3 วัน เพื่อดูว่าอาการของคุณดีขึ้นหรือไม่[12]
  5. How.com.vn ไท: Step 5 รักษาโรคปอดอักเสบชนิดติดเชื้อในโรงพยาบาล (Hospital-acquired pneumonia)....
    รักษาโรคปอดอักเสบชนิดติดเชื้อในโรงพยาบาล (Hospital-acquired pneumonia). ผู้ป่วยโรคปอดอักเสบชนิดติดเชื้อในโรงพยาบาล คือผู้ที่กำลังเผชิญกับปัญหาสุขภาพอื่นๆ อยู่ก่อนแล้ว ทำให้วิธีการรักษาแตกต่างไปจากโรคปอดอักเสบชนิดติดเชื้อในชุมชน (community-acquired pneumonia) เล็กน้อย อย่างไรก็ดี วิธีการต่อไปนี้จะนำมาใช้ในรายที่มีอาการซึ่งพบยากหรืออยู่ในขั้นรุนแรงเท่านั้น โรคปอดอักเสบชนิดติดเชื้อในโรงพยาบาลอาจเกิดได้จากเชื้อโรคหลายชนิด แพทย์จึงจะทำการวินิจฉัยว่าร่างกายของคุณได้รับเชื้อโรคชนิดใด จากนั้นจึงเลือกใช้ยาปฏิชีวนะที่เหมาะกับเชื้อโรคที่ทำให้คุณมีอาการป่วย วิธีการรักษาที่ใช้กันทั่วไป ได้แก่
    • สำหรับเชื้อเคลบเซลลาและอีโคไล แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะ เช่น ควิโนโลน เซฟตาซิดีม หรือเซฟไตรอะโซน เข้าทางหลอดเลือดดำ
    • สำหรับเชื้อซูโดโนแนส แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะ ร่วมกับไอมิเพเนม พิเพอราซิลลิน หรือเซฟีพิม เข้าทางหลอดเลือดดำ
    • สำหรับเชื้อสแตฟ ออกเรียส หรือ MRSA แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะ เช่น แวนโคไมซิน เข้าทางหลอดเลือดดำ
    • สำหรับโรคปอดอักเสบจากเชื้อรา แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะ เช่น แอมโฟเทอริซิน บี หรือไดฟลูแคน เข้าทางหลอดเลือดดำ
    • สำหรับเชื้อแอนเทอโรคอคคัยที่ดื้อยาแวนโคไมซิน แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะของ Ceftaroline เข้าทางหลอดเลือดดำ[13]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

การป้องกันโรคปอดอักเสบ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่.
    โรคปอดอักเสบอาจเกิดขึ้นได้เมื่อโรคไข้หวัดใหญ่เกิดการติดเชื้อและมีอาการรุนแรงขึ้น ด้วยเหตุนี้ จึงแนะนำให้คุณฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี และเพราะวัคซีนตัวนี้สามารถป้องกันเชื้อไข้หวัดใหญ่ได้ จึงช่วยป้องกันโรคปอดอักเสบได้เช่นกันนั่นเอง
    • วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สามารถให้ได้ในผู้ที่มีอายุ 6 เดือนขึ้นไป
    • ปัจจุบันมีวัคซีนชนิดพิเศษสำหรับใช้ในเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 2 ปี รวมถึงวัคซีนสำหรับเด็กอายุระหว่าง 2-5 ปี ที่มีโอกาสเป็นโรคปอดอักเสบสูง เด็กๆ ที่ไปสถานพยาบาลในชุมชนควรได้รับวัคซีนตัวนี้ด้วยเช่นเดียวกัน[14]
    • นอกจากนี้ยังมีวัคซีนสำหรับผู้ที่ไม่มีม้าม ผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับปอด เช่น หอบหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) รวมถึงผู้ที่เป็นโรคโลหิตจางจากเม็ดเลือดแดงรูปเคียว (sickle cell anemia)
  2. How.com.vn ไท: Step 2 หมั่นล้างมือบ่อยๆ.
    ถ้าอยากห่างไกลจากโรคปอดอักเสบล่ะก็ คุณจะต้องหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับเชื้อไวรัสและเชื้อโรคต่างๆ ที่เป็นสาเหตุของโรค ซึ่งสามารถทำได้โดยการล้างมืออย่างถูกวิธี ถ้าอยู่ในที่สาธารณะหรือใกล้ชิดกับผู้ที่คุณรู้ว่ามีอาการป่วย ก็ควรหมั่นล้างมือให้บ่อยที่สุด รวมถึงหลีกเลี่ยงการเอามือที่ไม่สะอาดไปใกล้กับใบหน้า เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคอันไม่พึงประสงค์จากมือแพร่เข้าสู่ระบบต่างๆ ในร่างกาย ในการล้างมืออย่างถูกวิธีนั้น สิ่งที่คุณต้องทำมีดังนี้
    • เปิดก๊อกน้ำและทำให้มือเปียก
    • บีบสบู่ลงไปบนมือและขัดถูให้ทั่วทุกซอกทุกมุมของนิ้ว ทั้งใต้เล็บ หลังมือ และระหว่างง่ามนิ้ว
    • ถูมืออย่างน้อย 20 วินาที ซึ่งเป็นเวลาเท่ากับการร้องเพลง "Happy Birthday" 2 รอบจบ
    • ใช้น้ำล้างมือเพื่อล้างเอาสบู่ออก โดยควรใช้น้ำอุ่นเพื่อล้างสบู่และเชื้อโรคต่างๆ ออกไปให้หมด
    • เช็ดให้แห้งด้วยผ้าขนหนูสะอาด[15]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ดูแลตัวเอง.
    วิธีการอันยอดเยี่ยมในการป้องกันโรคปอดอักเสบคือการดูแลร่างกายให้แข็งแรงมากที่สุด ซึ่งหมายความว่าคุณจะต้องสมบูรณ์แข็งแรงทั้งกายและใจ โดยพยายามออกกำลังกายทุกวัน ทานอาหารที่เป็นประโยชน์ในปริมาณที่เหมาะสม และพักผ่อนอย่างเพียงพอ เพราะสิ่งเหล่านี้จะส่งผลดีต่อสุขภาพของคุณ อีกทั้งยังทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอยู่ในสภาพสมบูรณ์แข็งแรงมากที่สุด ซึ่งจะช่วยให้สุขภาพของคุณแข็งแรงอยู่เสมอนั่นเอง
    • หลายคนคิดว่าตัวเองยังคงมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงได้แม้พักผ่อนเพียงน้อยนิด หากแต่มีงานวิจัยชี้ให้เห็นแล้วว่าความสมบูรณ์ของระบบภูมิคุ้มกันมีความเชื่อมโยงกับระยะเวลาการนอนหลับของคุณ นั่นคือ ยิ่งการนอนหลับในแต่ละคืนของคุณมีคุณภาพมากเท่าไร (หมายถึง การนอนหลับในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการนอนหลับโดยไม่มีสิ่งรบกวน) ระบบภูมิคุ้มกันของคุณจะยิ่งสมบูรณ์แข็งแรงมากเท่านั้น[16]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ลองทานวิตามินและเกลือแร่.
    มีอาหารเสริมบางชนิดที่คุณสามารถทานเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกันโดยรวมได้ หนึ่งในวิตามินที่ช่วยป้องกันโรคปอดอักเสบได้ดีที่สุดคือวิตามินซี โดยควรทานประมาณ 1000-2000 มก. เป็นประจำทุกวัน วิตามินตัวนี้จะพบได้ในผลไม้ตระกูลส้ม บล็อคโคลี่ แตงโม แคนตาลูป รวมถึงผักผลไม้อื่นๆ อีกหลายชนิด[17]
    • สังกะสีก็เป็นประโยชน์ในกรณีที่คุณรู้สึกเหมือนเป็นหวัด ซึ่งอาจเปลี่ยนเป็นอาการปอดอักเสบได้ในที่สุด โดยควรทานสังกะสี 150 มก. 3 ครั้งต่อวันเมื่อเริ่มมองเห็นสัญญาณของอาการ[18]
  5. How.com.vn ไท: Step 5 รับวัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบถ้าคุณมีระบบภูมิคุ้มกันร่างกายที่อ่อนแอ....
    รับวัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบถ้าคุณมีระบบภูมิคุ้มกันร่างกายที่อ่อนแอ. ในขณะที่การฉีดยาป้องกันหวัดนั้นเป็นประโยชน์ต่อทุกคน แต่วัคซีนปอดอักเสบนั้นใช้เฉพาะกับผู้ที่จำเป็นเท่านั้น หากคุณเป็นผู้ใหญ่อายุระหว่าง 18 ปีถึง 64 ปีที่มีสุขภาพแข็งแรง คุณไ่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการฉีดวัคซีน[19] อย่างไรก็ดี ลองพิจารณาการฉีดถ้าคุณมีอายุเกิน 65 ปี, มีโรคที่ทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำ, สูบบุหรี่และดื่มสุราอย่างหนัก หรืออยู่ในระยะพักฟื้นจากความเจ็บป่วยอย่างหนัก อาการบาดเจ็บหรือเพิ่งผ่านการผ่าตัด
    • วัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบมีสองชนิด: วัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบชนิดคอนจูเกต (PCV13 หรือ Prevnar 13) ซึ่งจะป้องกันแบคทีเรียที่ทำให้เกิดปอดอักเสบได้ 13 สายพันธุ์ กับวัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบชนิดโพลีซัคคาไรด์ (PPSV23 หรือ Pneumovax) ซึ่งป้องกันได้ 23 สายพันธุ์[20]
    • การได้รับวัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบไม่ได้รับประกันว่าคุณจะไม่เป็นโรคปอดอักเสบ แต่จะลดโอกาสติด หากคุณเป็นโรคปอดอักเสบหลังรับวัคซีน ส่วนใหญ่แล้วจะมีอาการไม่รุนแรง [21]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

ทำความเข้าใจกับโรคปอดอักเสบชนิดติดเชื้อในชุมชน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เรียนรู้ชนิดของโรค.
    โรคปอดอักเสบสามารถแบ่งได้เป็น 2 ชนิดใหญ่ๆ ซึ่งมีสาเหตุและวิธีการรักษาแตกต่างกันไป ได้แก่ โรคปอดอักเสบชนิดติดเชื้อในชุมชน และโรคปอดอักเสบชนิดติดเชื้อในโรงพยาบาล ซึ่งเราจะพูดถึงกันในภายหลัง สำหรับโรคปอดอักเสบชนิดติดเชื้อในชุมชนนั้น ประกอบด้วยโรคปอดอักเสบที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียทั่วไป เชื้อแบคทีเรียที่พบยาก และเชื้อไวรัสในทางเดินหายใจ
    • โรคปอดอักเสบชนิดติดเชื้อในชุมชนเป็นชนิดที่คนส่วนใหญ่มักเป็นกันในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะอันตรายกว่าถ้าเกิดในผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หรือผู้ที่ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น เป็นโรคเบาหวาน ติดเชื้อเอชไอวี กำลังทำเคมีบำบัด และใช้ยาที่มีสเตียรอยด์ อาการของโรคปอดอักเสบชนิดติดเชื้อในชุมชนอาจมีได้ตั้งแต่ระดับเบาที่สามารถรักษาให้หายได้เองที่บ้าน ไปจนถึงรายที่ระบบทางเดินหายใจล้มเหลวและเสียชีวิตเฉียบพลัน[22]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 สังเกตอาการของโรคปอดอักเสบ.
    อาการของโรคปอดอักเสบอาจมีได้ตั้งแต่ระดับเบาไปจนถึงขั้นรุนแรง ขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุของโรคและระดับการติดเชื้อของผู้ป่วย โดยถ้าสังเกตเห็นอาการต่อไปนี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการรักษา เพราะยิ่งปล่อยไว้นานเท่าไร อาการก็จะยิ่งแย่ลง อาการของโรคปอดอักเสบชนิดติดเชื้อในชุมชนมีดังนี้[23]
    • ไอมีเสมหะ
    • มีน้ำมูกข้นๆ โดยอาจเป็นสีเขียว เหลือง หรือแดงจางๆ
    • มีอาการปวดหน้าอกรุนแรงเมื่อหายใจเข้าลึกๆ
    • มีไข้สูงกว่า 38°C แต่ส่วนใหญ่มักจะอยู่ที่ 38.3 ถึง 38.9°C
    • มีอาการหนาวสั่นหรือสั่นโดยไม่ตั้งใจ
    • หายใจติดขัด อาการอาจอยู่ในระดับเบาถึงรุนแรง
    • หายใจถี่ มักเกิดในกรณีที่ผู้ป่วยเป็นเด็ก
    • ความเข้มข้นของออกซิเจนในปอดลดลง
  3. How.com.vn ไท: Step 3 วินิจฉัยโรคปอดอักเสบชนิดติดเชื้อในชุมชน.
    เมื่อไปพบแพทย์ คุณหมอจะตรวจหาอาการทั่วไปทั้งหมด และอาจจะเอกซเรย์ทรวงอกร่วมด้วย ซึ่งจะแสดงให้เห็นว่าปอดของคุณมีอาการติดเชื้ออย่างไรบ้าง ถ้าคุณหมอเห็นจุดขาวเป็นหย่อมๆ บนก้อนปอดซึ่งควรจะเป็นสีดำตามปกติ ก็มีโอกาสที่คุณจะเป็นโรคปอดอักเสบ โดยอาจจะมีน้ำในช่องปอด หรือมีของเหลวสะสมอยู่ใกล้กับจุดที่ติดเชื้อร่วมด้วย
    • การตรวจเลือดมักไม่จำเป็นในผู้ป่วยโรคปอดอักเสบที่อาการไม่รุนแรง แต่ถ้าคุณมีอาการหนักกว่านั้นล่ะก็ แพทย์อาจต้องมีการตรวจในห้องแล็บ เช่น การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด การตรวจสารเคมีในเลือด การตรวจตัวอย่างน้ำมูก และเชื้อโรคภายในร่างกาย[24]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 เข้ารับการรักษาโดยเร่งด่วน.
    มีหลายอาการที่บ่งชี้ว่าคุณอาจต้องเข้ารับการรักษาในทันทีแม้จะได้รับการรักษามาแล้วก็ตามถ้าอาการเกิดทรุดหนักขึ้น โดยควรรีบพบแพทย์หรือเข้าห้องฉุกเฉินให้เร็วที่สุดถ้ามีอาการดังต่อไปนี้[25]
    • รู้สึกสับสนเกี่ยวกับเวลา ผู้คน หรือสถานที่
    • มีอาการคลื่นไส้และอาเจียนจนทำให้ไม่สามารถทานยาปฏิชีวนะได้
    • ความดันโลหิตลดต่ำ
    • หายใจเร็วถี่
    • จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
    • อุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 38.9 °C
    • อุณหภูมิร่างกายลดลงจนต่ำกว่าปกติ
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

ทำความเข้าใจกับโรคปอดอักเสบชนิดติดเชื้อในโรงพยาบาล

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เรียนรู้เกี่ยวกับโรคปอดอักเสบชนิดติดเชื้อในโรงพยาบาล (hospital-acquired pneumonia)....
    เรียนรู้เกี่ยวกับโรคปอดอักเสบชนิดติดเชื้อในโรงพยาบาล (hospital-acquired pneumonia). ปอดอักเสบชนิดติดเชื้อในโรงพยาบาลเกิดขึ้นกับผู้ป่วยที่ติดเชื้อโรคปอดอักเสบขณะเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล เชื้อชนิดนี้มักเป็นสายพันธุ์ที่รุนแรงมาก อีกทั้งยังมีอัตราการเสียชีวิตสูง โดยมีโอกาสเกิดสูงถึง 2% ของผู้ป่วยที่เข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลซ้ำ และเกิดกับผู้ป่วยได้ทุกประเภทในโรงพยาบาล ตั้งแต่ผู้ที่เข้ารับการผ่าตัด ไปจนถึงผู้ที่มีอาการติดเชื้อรุนแรงอยู่ก่อนแล้ว ปอดอักเสบชนิดติดเชื้อในโรงพยาบาลจึงอาจนำไปสู่ภาวะโลหิตเป็นพิษและอวัยวะหลายส่วนล้มเหลว และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ในที่สุด[26]
    • อาการของโรคปอดอักเสบชนิดติดเชื้อในโรงพยาบาลจะเหมือนกับชนิดติดเชื้อในชุมชน เนื่องจากทั้ง 2 ชนิดเป็นโรคเดียวกัน
  2. How.com.vn ไท: Step 2 สังเกตความเสี่ยงในการเป็นโรคปอดอักเสบชนิดติดเชื้อในโรงพยาบาล....
    สังเกตความเสี่ยงในการเป็นโรคปอดอักเสบชนิดติดเชื้อในโรงพยาบาล. โรคปอดอักเสบชนิดติดเชื้อในชุมชนจะแพร่กระจายผ่านการติดต่อของเชื้อโรคทั่วๆ ไป ในขณะที่โรคปอดอักเสบชนิดติดเชื้อในโรงพยาบาลจะแพร่เชื้ออยู่ภายในโรงพยาบาล และแม้ทุกคนที่อยู่ในโรงพยาบาลจะมีโอกาสได้รับเชื้อปอดอักเสบชนิดนี้ แต่ก็มีผู้ป่วยบางประเภทที่มีความเสี่ยงสูงกว่าบุคคลอื่นๆ เนื่องจากสุขภาพร่างกายของพวกเขา ปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ ได้แก่[27]
    • อยู่ในห้องไอซียู
    • ใช้เครื่องช่วยหายใจเป็นเวลา 48 ชั่วโมงขึ้นไป
    • อยู่ในโรงพยาบาลหรือห้องไอซียูเป็นระยะเวลานานๆ
    • ผู้ป่วยอาการหนักที่มีโรคบางอย่างแฝงอยู่ตั้งแต่เริ่มเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล
    • ผู้ป่วยหัวใจล้มเหลว ไตล้มเหลว ตับล้มเหลว โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง และเบาหวาน
  3. How.com.vn ไท: Step 3 เรียนรู้สาเหตุของโรคปอดอักเสบชนิดติดเชื้อในโรงพยาบาล....
    เรียนรู้สาเหตุของโรคปอดอักเสบชนิดติดเชื้อในโรงพยาบาล. ปอดอักเสบชนิดติดเชื้อในโรงพยาบาลอาจเกิดจากอาการแทรกซ้อนหลังการผ่าตัด เช่น หลังการผ่าตัดภาวะปอดแฟบ หรือเมื่อหายใจลึกได้ไม่เพียงพอเนื่องจากความเจ็บปวด นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลดูแลสุขอนามัยไม่ดีพอ โดยเฉพาะเมื่อมีหน้าที่ดูแลผู้ป่วยที่ต้องใส่สายสวนหลอดเลือดดำส่วนกลาง ผู้ที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และผู้ที่ต้องใส่หรือเปลี่ยนท่อช่วยหายใจ[28]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 หลีกเลี่ยงโรคปอดอักเสบชนิดติดเชื้อในโรงพยาบาล....
    หลีกเลี่ยงโรคปอดอักเสบชนิดติดเชื้อในโรงพยาบาล. ปอดอักเสบชนิดติดเชื้อในโรงพยาบาลสามารถหลีกเลี่ยงได้หากผู้ที่มีหน้าที่ดูแลผู้ป่วยคอยดูแลสุขอนามัยเป็นอย่างดี ด้วยการดูแลเครื่องช่วยหายใจอย่างพิถีพิถัน และดูแลความสะอาดของสไปโรมิเตอร์หลังการใช้ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยกระตุ้นการหายใจลึกในผู้ป่วยหลังการผ่าตัด นอกจากนี้ยังสามารถหลีกเลี่ยงได้ถ้าหากผู้ป่วยลุกจากเตียงเร็วขึ้นหลังการผ่าตัด และถ้ารีบถอดท่อช่วยหายใจออกให้เร็วที่สุด[29]
    โฆษณา


ข้อมูลอ้างอิง

  1. Mandell, LA, Wunderink, RG. and Anzueto, A. Infectious Disease Society of America/American Thoracic Society, Consensus Guidelines for the Management of Community Acquired Pneumonia in Adults, Clinical Infectious Disease, 2007, 44: S27-72.
  2. http://www.medicinenet.com/is_pneumonia_contagious/page2.htm
  3. http://www.medicinenet.com/is_pneumonia_contagious/page2.htm
  4. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/pneumonia/basics/treatment/con-20020032
  5. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/pneumonia/basics/treatment/con-20020032
  6. Confalonieri, Marco, Alfredo Potena, and George Carbone. Acute Respiratory Failure in Patients with severe Community Acquired Pneumonia, American Journal of Respiratory and Critical Care Medicine 1999 Vol 160 pp 1585-1591
  7. Watkins, Richard and Tracy Lemonovich. Diagnosis and Management of Community Acquired Pneumonias in Adults American Family Physician 2011 Jun; 83 (11) 1299-1306
  8. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/pneumonia/basics/treatment/con-20020032
  9. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/14720000
  1. https://www.sleepassociation.org/cpap-vs-bipap/
  2. Watkins, Richard and Tracy Lemonovich. Diagnosis and Management of Community Acquired Pneumonias in Adults American Family Physician 2011 Jun; 83 (11) 1299-1306
  3. Mandell, LA, Wunderink, RG. and Anzueto, A. Infectious Disease Society of America/American Thoracic Society, Consensus Guidelines for the Management of Community Acquired Pneumonia in Adults, Clinical Infectious Disease, 2007, 44: S27-72.
  4. Mandell, LA, Wunderink, RG. and Anzueto, A. Infectious Disease Society of America/American Thoracic Society, Consensus Guidelines for the Management of Community Acquired Pneumonia in Adults, Clinical Infectious Disease, 2007, 44: S27-72.
  5. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/pneumonia/basics/prevention/con-20020032
  6. http://www.cdc.gov/handwashing/
  7. DeKeyser Ganz, Freda. Critical Care Nurse, Sleep and Immune Function, April 2012 volume 32 (2) e 19-e-25
  8. Hemilia, H Vitamin C Supplementation and the common cold: Factors Affecting the Magnitude of the Benefit, Medical Hypotheses, 2012, 52 (2) 171-178
  9. Magini, S, Beverly S, Suter M, Combination High Dose Vitamin C plus Zinc, Journal of Internal Medicine Residency 2012 40 1-28-42
  10. http://www.webmd.com/lung/pneumococcal-vaccine-schedule#2
  11. https://www.cdc.gov/pneumococcal/vaccination.html
  12. http://www.webmd.com/lung/pneumococcal-vaccine-schedule#1
  13. Confalonieri, Marco, Alfredo Potena, and George Carbone. Acute Respiratory Failure in Patients with severe Community Acquired Pneumonia, American Journal of Respiratory and Critical Care Medicine 1999 Vol 160 pp 1585-1591
  14. Watkins, Richard and Tracy Lemonovich. Diagnosis and Management of Community Acquired Pneumonias in Adults American Family Physician 2011 Jun; 83 (11) 1299-1306
  15. Watkins, Richard and Tracy Lemonovich. Diagnosis and Management of Community Acquired Pneumonias in Adults American Family Physician 2011 Jun; 83 (11) 1299-1306
  16. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/pneumonia/basics/symptoms/con-20020032
  17. Lynch, Joseph. Hospital Acquired Pneumonia Risk Factors, Microbiology and Treatment. Chest Feb 2001, Vol 119 (2) Supp 1
  18. Lynch, Joseph. Hospital Acquired Pneumonia Risk Factors, Microbiology and Treatment. Chest Feb 2001, Vol 119 (2) Supp 1
  19. Niederman, Michael. Hospital Acquired Pneumonia, Health Care associated Pneumonia, Ventilator associated Pneumonia and associated tracheobronchitis: Definitions and Challenges in Trial Design Clinical Infectious Disease 2010, vol 51 , Supp 12-17
  20. Lynch, Joseph. Hospital Acquired Pneumonia Risk Factors, Microbiology and Treatment. Chest Feb 2001, Vol 119 (2) Supp 1

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Jonas DeMuro, MD
ร่วมเขียน โดย:
ศัลยแพทย์ดูแลผู้ป่วยขั้นวิกฤติ
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Jonas DeMuro, MD. ดร.เดอมูโรเป็นศัลยแพทย์ดูแลผู้ป่วยขั้นวิกฤติที่ได้รับใบรับรองในนิวยอร์ก เขาสำเร็จปริญญาโทแพทยศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสโตนีบรูคในปี 1996 บทความนี้ถูกเข้าชม 22,307 ครั้ง
หมวดหมู่: สุขภาพทั่วไป
มีการเข้าถึงหน้านี้ 22,307 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา