วิธีการ ยอมรับการเป็นคนเงียบและเก็บตัว

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง คนบางคนจึงมักคิดว่าการเป็นคนเงียบๆ และเก็บตัวนั้นเป็นคุณสมบัติที่ไม่ดี จริงๆ แล้วการมีบุคลิกแบบนี้นั้นอาจเป็นเรื่องดีก็ได้ หรืออย่างน้อยก็ไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดีแน่ ทั้งที่จริงแล้ว มีประโยชน์มากมายที่จะทำตัวเงียบและสงวนท่าที[1] มีหลายวิธีที่คุณจะสามารถยอมรับตัวเองว่าเป็นคนเงียบมีโลกส่วนตัวสูง

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

รู้ข้อดี

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 แจกแจงข้อดี.
    ในขณะที่สังคมมักชอบคนที่มีบุคลิกเฮฮาเปิดเผย นี่ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ค่อยมีค่าหรืออะไร แจกแจงผลดีต่างๆ ของการเป็นคนเงียบๆ ไม่แสดงความรู้สึกออกมาเป็นข้อๆ[2]
    • คุณอาจจะเป็นผู้ฟังที่ดี
    • คุณอาจจะเน้นปลอดภัยและฉลาด[3]
    • คุณอาจเป็นผู้สังเกตการณ์เรื่องราวกับผู้คนได้ดี
    • คนอาจมองว่าคุณถ่อมตัว
    • คนอาจมองว่าคุณเป็นคนช่างคิด
    • อะไรอีกที่คุณคิดว่าเป็นข้อดีของการเงียบและสงวนท่าที?
  2. How.com.vn ไท: Step 2 เริ่มบันทึก.
    ถ้าคุณคิดหาข้อดีของการเป็นคนเงียบๆ ได้ยาก ให้เริ่มบันทึกตัวอย่างเหตุการณ์ที่ระบุได้ว่าบุคลิกแบบนี้มีส่วนช่วยคุณ คุณอาจพบว่าความทรงจำของตัวเองมีอคติชอบจำแต่เรื่องแย่ๆ แต่วิธีนี้จะช่วยคุณหาข้อดีของบุคลิกภาพแบบนี้ได้[4]
    • หากคุณมีสมาร์ทโฟน ให้จดบันทึกแล้วคัดลอกลงในเอกสารเวิร์ดหรือเขียนลงในสมุดบันทึก
    • ถ้าไม่มีโทรศัพท์ที่สามารถเขียนโน้ตตอนที่นึกขึ้นได้เวลาอยู่ข้างนอก ให้ลองพกกระดาษกับปากกาติดตัวเพื่อจะได้เขียนสิ่งที่คิดขึ้นมาได้ในตอนนั้นก่อนที่จะลืมว่าเกิดอะไรขึ้น
  3. How.com.vn ไท: Step 3 หาอ่านเรื่องราวของบุคลิกภาพแบบนี้.
    คนเราได้สนใจศึกษาพลังของการมีบุคลิกเก็บตัวมานานแล้ว มีแหล่งข้อมูลมากมายที่จะให้มุมมองใหม่ๆ แก่คุณ พร้อมเสริมกำลังใจให้ตัวคุณเอง ยกตัวอย่างเช่น:
    • ลองอ่านหนังสือชื่อ Quiet โดยซูซาน เคน (Susan Cain): http://www.npr.org/books/titles/145928609/quiet-the-power-of-introverts-in-a-world-that-cant-stop-talking
    • ลองอ่านการพัฒนาตรรกะเบื้องหลังบุคลิกภาพเช่นนี้ ในบางสถานการณ์นั้น คนที่เก็บงำความรู้สึกถือว่าเติบโตหรือประสบความสำเร็จมากกว่าคนที่เปิดเผยความรู้สึกเสียด้วยซ้ำ โดยเฉพาะในเวลาที่การชอบออกไปสังคมพบปะผู้คนนั้นมีความเสี่ยง (อย่างเช่นการอาศัยอยู่ในสถานที่ซึ่งมีโรคระบาด เพราะการชอบพบปะผู้คนย่อมมีโอกาสเสี่ยงติดโรคสูงกว่า)[5]
    • พูดอีกอย่างก็คือ ไม่มีบุคลิกภาพแบบไหนที่จะ “ดีที่สุด” เมื่อมองในแง่มุมของความสำเร็จหรือการอยู่รอด แต่มันจะขึ้นอยู่กับปัจจัยอันซับซ้อนของสิ่งต่างๆ อย่างเช่น สภาพแวดล้อมที่ตนอยู่: http://www.nytimes.com/2011/06/26/opinion/sunday/26shyness.html
  4. How.com.vn ไท: Step 4 พยายามทำตัวสบายๆ เป็นตัวของตัวเอง.
    เมื่อคุณได้ตระหนักว่าการเป็นคนเก็บตัวก็มีข้อดีแล้วนั้น ให้พยายามยอมรับในตัวตนของคุณ การยอมรับในตัวเองนั้นเป็นนิสัยที่ดีในตัวของมันเองอยู่แล้ว และตราบเท่าที่คุณรู้สึกดีกับสิ่งที่ตัวเองเป็น นั่นแหละคือสิ่งที่สำคัญที่สุดละ จริงๆ แล้วหลายคนแนะนำว่าการพอใจในสิ่งที่ตนเองเป็นนั้นมันสำคัญยิ่งกว่าการพยายามมี “บุคลิก” ดีๆ เสียด้วยซ้ำ มีเคล็ดลับมากมายที่คุณสามารถลองเพื่อจะพอใจกับสิ่งที่ตนเองเป็น[6]:
    • แจกแจงจุดแข็งของคุณ
    • ให้อภัยตัวเองสำหรับความผิดพลาดในอดีตที่เคยทำ พยายามคิดไว้ว่าข้อผิดพลาดนั้นเป็นบทเรียนแต่ไม่จำเป็นต้องมารั้งชีวิตคุณเอาไว้
    • ปฏิบัติกับตัวเองให้ดีและจำไว้ว่าความสมบูรณ์แบบนั้นไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนเราเลย คุณเองก็เปิ่นรู้พลาดได้เหมือนกับคนอื่นๆ นั่นแหละ และมันไม่เห็นเป็นไรเลย!
  5. How.com.vn ไท: Step 5 เรียนรู้เรื่องคนเก็บตัวที่ประสบความสำเร็จ.
    มีคนที่เงียบเก็บตัวซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูงในแบบของตัวเขาเองอยู่มากมาย ลองคิดถึงบุคคลดังต่อไปนี้[7]:
    • บิล เกตส์ ผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์
    • เจ.เค. โรว์ลิ่ง ผู้แต่งนิยายชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์
    • อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ หนึ่งในนักฟิสิกส์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล
    • โรซ่า พาร์คส์ นักต่อสู้เรียกร้องสิทธิของชนผิวดำ
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

หาผู้คนที่มีบุคลิกนิสัยเหมือนกัน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 คิดถึงคนที่คุณรู้จัก.
    ถามตัวเองว่าคุณรู้จักใครในวงโซเชียลเน็ตเวิร์คที่มีบุคลิกนิสัยเหมือนคุณบ้าง คุณอาจทำความพยายามรู้จักตัวเขาให้มากขึ้น ถ้าคุณอยู่ท่ามกลางคนที่คล้ายกับคุณจะทำให้การยอมรับบุคลิกของตนเองนั้นทำได้ง่ายขึ้น
    • คุณอาจมีอะไรหลายๆ อย่างที่เข้ากันได้กับคนที่นิ่งเงียบและเก็บตัวเหมือนๆ กันมากกว่ากับคนที่ชอบสังสรรค์และเปิดเผย
  2. How.com.vn ไท: Step 2 หากลุ่มพบปะระหว่างคนแบบเดียวกัน.
    คุณสามารถใช้เว็บไซต์ http://shy.meetup.com/ เพื่อหาคนอื่นที่เงียบและเก็บตัวเพื่อพบปะกันได้
    • หากไม่มีกลุ่มดังว่าในแถบที่คุณอาศัยอยู่เลย ไม่ลองเป็นโต้โผจัดมันขึ้นมาเองเลยล่ะ!
  3. How.com.vn ไท: Step 3 เข้าร่วมชุมชนอินเทอร์เน็ต.
    คุณอาจพบว่าการได้พูดคุยกับคนอื่นทางเน็ตที่เหมือนๆ กับคุณจะช่วยให้คุณยอมรับในตัวเองได้ง่ายขึ้น ยามที่คุณได้ตระหนักว่ามีผู้คนอีกมากมายที่ช่างเก็บตัวเหมือนกันแล้ว มันจะช่วยให้เข้าใจกระจ่างว่าลักษณะบุคลิกภาพแบบคุณนั้นมันปกติและไม่เห็นมีอะไรให้ต้องอายเลย
    • จะหาเว็บบอร์ดบนอินเทอร์เน็ต ลองค้นด้วยคำว่า “เว็บบอร์ดสำหรับคนขี้อาย”
  4. How.com.vn ไท: Step 4 สร้างกลุ่มคอยให้กำลังใจ.
    หากคุณต้องดิ้นรนในการยอมรับตนเอง ให้ลองคิดก่อตั้งกลุ่มให้กำลังใจและเปิดรับอาสาสมัครคนที่มีนิสัยคล้ายกันคอยให้กำลังใจต่อกัน[8]
    • คุณจำต้องตัดสินใจบางอย่างในการตั้งกลุ่ม ถามตัวเองว่าคุณจะจัดการพบปะกันที่ไหน เมื่อไหร่ และจะใช้ชื่อกลุ่มว่าอะไร
    • คุณยังต้องโฆษณาประชาสัมพันธ์กลุ่ม อาจต้องลองหาสมาชิกทางอินเทอร์เน็ตหรือติดใบปลิวโฆษณาตามป้ายรถเมล์เป็นต้น
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

รับการช่วยเหลือจากมืออาชีพ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 หามืออาชีพด้านสุขภาพจิต.
    บางครั้งไม่ว่าคุณจะพยายามลงมือทำอย่างหนักขนาดไหน ก็ไม่สามารถทำใจยอมรับตัวเองได้ มันเป็นเรื่องปกติ ไม่เป็นอะไรหรอก คุณอาจได้รับประโยชน์จากการเข้าพบมืออาชีพด้านสุขภาพจิตอย่างเช่น นักจิตวิทยา นักจิตเวช นักสังคมสงเคราะห์ที่ได้รับใบอนุญาต (LCSW) ผู้ให้คำปรึกษาที่ได้รับใบอนุญาต (LPC) หรือนักบำบัดชีวิตสมรสและชีวิตครอบครัว (MFT) ทั้งหมดนี้สามารถช่วยคุณแก้ไขปัญหาได้
    • ใช้เว็บไซต์นี้ค้นหารายชื่อนักจิตวิทยา: http://locator.apa.org/
    • จะหาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตให้ลองค้นอินเทอร์เน็ตอย่าง LPC + รหัสไปรษณีย์ หรืออย่าง LCSW + ชื่อเมืองที่อยู่
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ถามแพทย์ประจำครอบครัว.
    มันอาจเป็นได้ว่าคุณเป็นโรคกลัวการเข้าสังคม หากเป็นเช่นนี้ มันอาจคุ้มค่าที่จะลองเข้ารับการรักษาแก้อาการเช่นว่านี้[9]
    • คุณอาจเป็นโรคกลัวการเข้าสังคมหากการพบปะพูดคุยทางสังคมทำให้คุณรู้สึกกังวล กลัว หรือเขินอายอย่างมาก เพราะคุณรู้สึกว่าตัวเองถูกประเมินในเชิงลบจากคนอื่นๆ
  3. How.com.vn ไท: Step 3 แจกแจงอาการของคุณ.
    ถ้าคุณตัดสินใจจะพบมืออาชีพด้านสุขภาพจิต มีหลายสิ่งที่คุณสามารถทำได้เพื่อได้รับประโยชน์จากการไปพบมากที่สุด คุณอาจเริ่มโดยการเขียนอาการที่เกิดขึ้นกับคุณว่ามีอะไรและเกิดขึ้นในสถานการณ์ใดบ้าง[10]
    • ยิ่งเล่ารายละเอียดมากแค่ไหนยิ่งถือว่าดีกว่าขาดข้อมูล ปล่อยให้แพทย์เป็นฝ่ายตัดสินใจว่าข้อมูลใดที่สำคัญและข้อมูลใดที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ทำรายการคำถาม.
    คุณอาจมีข้อสงสัยในใจและอยากจะทำให้แน่ใจว่าได้ประโยชน์จากการนัดพบแพทย์จริงๆ ให้เตรียมตัวเขียนรายการคำถามที่คุณจะเอ่ยถามในระหว่างการนัดพบแพทย์ได้[11] ตัวอย่างคำถามก็อาทิ:
    • ถามถึงการใช้ยารักษาใดๆ ที่คุณอาจต้องเข้ารับ
    • ถามถึงข้อดีและข้อเสียของการใช้ยาเหล่านั้น
    • ถามถึงทางเลือกอื่นแทนการใช้ยา เช่น การปรับเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิต
    • ถามถึงผลข้างเคียงของการใช้ยา
    • ถามถึงสาเหตุซ่อนเร้นที่เป็นไปได้ของอาการหวาดกลัวสังคมของคุณ
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Sarah Schewitz, PsyD
ร่วมเขียน โดย:
นักจิตวิทยาด้านความรักและความสัมพันธ์
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Sarah Schewitz, PsyD. ซาราห์ เชวิตซ์เป็นนักจิตวิทยาด้านความรักและความสัมพันธ์ระดับปริญญาเอกที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปีในการช่วยเหลือคู่รักให้พัฒนาและเปลี่ยนรูปแบบจำเจของความรักและความสัมพันธ์ เธอเป็นผู้ก่อตั้ง Couples Learn บริการฝึกจิตวิทยาออนไลน์ บทความนี้ถูกเข้าชม 4,271 ครั้ง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 4,271 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา