วิธีการ มีสุขลักษณะที่ดี (ผู้หญิง)

สุขลักษณะที่ดีทำให้คุณรู้สึกดีและดูดีขึ้นได้ มันไม่เป็นไรถ้าหากคุณไม่รู้ว่าต้องเริ่มตรงไหนหรือถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือกับการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย หญิงสาววัยรุ่นส่วนใหญ่ต้องเผชิญกับเรื่องนี้เหมือนกัน การมีสุขลักษณะที่ดีเป็นเรื่องง่ายพอๆ กับการรักษาความสะอาด มีนิสัยประจำวันที่ดีและรักสวยรักงามอย่างสะอาด

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 4:

การรักษาความสะอาด

ดาวน์โหลดบทความ

1
อาบน้ำ. แบคทีเรียดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยเหงื่อและเซลล์ผิวของเราที่สะสมบนร่างกายตลอดทั้งวันซึ่งเป็นสาเหตุของกลิ่นตัว อาบน้ำทุกวันและใช้สบู่อ่อนๆ เพื่อชะล้างสิ่งสกปรก ^{[1]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณควรอาบน้ำและค่อยๆ เช็ดบริเวณเท้า ใบหน้า มือ รักแร้และท่อนล่าง^{[2]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- นอกเหนือจากการอาบน้ำทุกวัน คุณควรอาบน้ำหลังการออกกำลังกายหรือเมื่อมีเหงื่อออกมากเพื่อทำให้ผิวสะอาด ^{[3]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- คุณสามารถอาบน้ำในตอนกลางคืนหรือในตอนเช้าก็ได้ ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัว
- อย่าใช้สบู่เพื่อทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นเพราะมันจะทำลายสมดุลสารเคมีตามธรรมชาติในบริเวณนั้น ทำความสะอาดต้นขาด้านในและบริเวณอวัยวะเพศด้วยสบู่อ่อนๆ แต่ชะล้างด้านนอกและด้านในของอวัยวะเพศ (ด้านนอกของช่องคลอด) ด้วยน้ำอุ่นเท่านั้น ^{[4]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} ช่องคลอดของคุณสามารถทําความสะอาดตัวเองได้ด้วยสารคัดหลั่งตามธรรมชาติ (ของเหลวใสๆ ที่ไหลออกมาจากช่องคลอด) ^{[5]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายและน้ำหอมไม่สามารถแทนการอาบน้ำประจำวันได้ ^{[6]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
2
สระผมด้วยแชมพูและครีมนวดให้ถูกวิธี. สระผมด้วยแชมพู 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ การสระผมบ่อยเกินไปจะกำจัดน้ำมันตามธรรมชาติและทำให้ผมแห้งได้ ^{[7]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} เลือกแชมพูและครีมนวดที่เหมาะสำหรับคุณไม่ว่าผมของคุณจะแห้ง มัน ชี้ฟู เหยียดตรงหรือหยักศก คุณสามารถเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีวางจำหน่ายมากมาย ^{[8]Xแหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้PubMed Centralไปที่แหล่งข้อมูล}
- ทำให้ผมเปียกด้วยน้ำอุ่น เทแชมพูปริมาณเศษหนึ่งส่วนสี่ของฝ่ามือและนวดลงบนหนังศีรษะ (ไม่แรงจนเกินไป) ลงไปจนถึงปลายผม ล้างแชมพูออกจากนั้นจึงใช้ครีมนวด ใช้ปริมาณครีมนวดมากขึ้นสำหรับผมแห้งและน้อยลงสำหรับผมมัน ปล่อยครีมนวดทิ้งไว้ 2-3 นาทีในขณะที่คุณทำความสะอาดร่างกายจากนั้นจึงล้างออก
- ถ้าหากผมบริเวณใกล้หนังศีรษะของคุณรู้สึกมันหลังจาก 1-2 วันคุณสามารถสระผมทุกวันหรือวันเว้นวันโดยใช้แชมพูอ่อนๆ ใช้ครีมนวดบริเวณปลายผมเท่านั้นและไม่ใช่บริเวณหนังศีรษะ ใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมที่ไม่เหนียวเหนอะหนะหรือไม่มีน้ำมัน ^{[9]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
3
ล้างหน้า. ใช้น้ำอุ่นและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าอ่อนๆ ในตอนเช้าและก่อนนอน ใช้ปลายนิ้วนวดผลิตภัณฑ์ให้ซึมสู่ผิวเพราะการใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กหรือฟองน้ำอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้ อย่าขัดผิวแรงจนเกินไป ล้างออกด้วยน้ำอุ่นและซับผิวให้แห้ง (ห้ามถู) ด้วยผ้าขนหนูสะอาด ^{[10]Xแหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้American Academy of Dermatologyไปที่แหล่งข้อมูล}
- หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ขัดถูผิวหรือมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ อย่าใช้สบู่ทั่วไป ผลิตภัณฑ์เหล่านี้รุนแรงต่อผิวหน้า
- ถ้าหากผิวของคุณเป็นขุย คันหรือแห้ง ลองทามอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับผิวหน้าปริมาณเท่าเหรียญบาท ถ้าหากผิวของคุณรู้สึกระคายเคืองมากหรือผิวมันง่าย คุณควรใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวบอบบาง
- คุณยังควรล้างหน้าหลังจากออกกำลังกายหรือเมื่อมีเหงื่อมาก
4
สวมเสื้อผ้าที่สะอาด. คุณไม่จำเป็นต้องซักผ้าหลังการใส่ทุกครั้งแต่ควรสวมเสื้อผ้าที่ไม่มีคราบสกปรก รอยยับหรือกลิ่นเหม็น ถ้าหากคุณทำเสื้อผ้าสกปรกหรือมีเหงื่อออกมาก คุณต้องซักผ้าก่อนสวมใส่อีกครั้ง สวมชุดชั้นในและเสื้อชั้นในที่สะอาดสดชื่นทุกวัน เปลี่ยนถุงเท้าตามต้องการเพื่อความสบายและหลีกเลี่ยงกลิ่นเหม็น คุณอาจจะต้องเปลี่ยนถุงเท้ามากกว่า 1 ครั้งต่อวันหรือน้อยกว่านั้นถ้าหากคุณใส่ถุงเท้าเพียงไม่กี่ชั่วโมงเพื่อเดินรอบบ้านโดยไม่ใส่รองเท้า ^{[11]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- เปลี่ยนผ้าปูที่นอนทุกสัปดาห์หรือมากกว่านั้นถ้าหากคุณมีเหงื่อออกมากในตอนกลางคืน เปลี่ยนปลอกหมอนทุกสัปดาห์หรือทุก 2-3 วันถ้าหากคุณมีผิวมัน
5
ล้างมือให้สะอาด. คุณควรล้างมือบ่อยครั้งตลอดวันโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการเข้าห้องน้ำ จามหรือไอ ก่อนทำหรือสัมผัสอาหารและหลังการสัมผัสสิ่งของที่มีผู้คนจับต้องหลายคน (เช่น หลังจับเงิน ลองนึกดูว่ามีกี่คนที่ได้จับเงินก้อนนี้)
- ล้างมือด้วยน้ำอุ่น จากนั้นจึงฟอกสบู่อย่างน้อย 20 วินาที อย่าลืมล้างข้อมือ ระหว่างนิ้วและใต้เล็บ ล้างน้ำให้สะอาดและซับให้แห้งด้วยกระดาษเช็ดมือแล้วจึงปิดน้ำด้วยกระดาษแผ่นนั้น ^{[12]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
เตรียมผลิตภัณฑ์สำหรับการรักษาสุขลักษณะในกระเป๋าหรือเป้ พกลูกอมมิ้น หมากฝรั่งหรือน้ำยาบ้วนปากหลังมื้ออาหาร พกกระจกพกพา เจลทำความสะอาดมือ ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย กระดาษทิชชู่และหวีสำหรับการใช้งานประจำวัน
ถ้าหากคุณป่วย คุณต้องฝึกการรักษาสุขลักษณะที่ดีเพื่อป้องกันผู้อื่น ปิดปากเมื่อคุณจามหรือไอ ล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการจามหรือไอ ถ้าหากคุณอาเจียนหรือมีไข้ก็ควรอยู่บ้านและไม่ปะปนกับผู้อื่น ^{[13]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 4:

การเสริมสวย

ดาวน์โหลดบทความ

1
ใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายทุกวัน. คุณอาจจะมีกลิ่นตัวโดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณรักแร้ บริเวณรักแร้มักจะมีเหงื่อออกมากตามธรรมชาติเมื่อคุณแตกเนื้อสาวและขนรักแร้สามารถดักจับเหยื่อและแบคทีเรีย ^{[14]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} ใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายทุกวันเพื่อให้คุณรู้สึกและมีกลิ่นสดชื่น มีผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายหลายแบบไม่ว่าจะเป็นแบบโรลออน สเปรย์ แท่งและมีสารป้องกันเหงื่อหรือไม่ก็ตาม (ช่วยลดการเหงื่อออกเช่นเดียวกับป้องกันไม่ให้มีกลิ่นตัว) ผลิตภัณฑ์บางตัวมีส่วนผสมของน้ำหอมและบางตัวไม่มีกลิ่น คุณสามารถเลือกได้ตามใจชอบ ^{[15]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่ดูเหมือนจะแตกต่างกันสำหรับผู้ชายและผู้หญิงนั้นแท้จริงแล้วมีสิ่งเดียวที่แตกต่างกันคือกลิ่น
2
โกนขนถ้าคุณต้องการ. ไม่ว่าคุณจะต้องการโกนขนหน้าแข้ง ขนรักแร้และขนบริเวณจุดซ่อนเร้นหรือไม่ก็แล้วแต่คุณ ขนเส้นยาวบริเวณรักแร้และระหว่างขาสามารถดักจับความชื้นและกลิ่นตัวแต่การอาบน้ำทุกวันและทำความสะอาดบริเวณนั้นและทำให้แห้งจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ ถ้าหากคุณต้องการโกนขนก็ควรทำอย่างปลอดภัยและถูกสุขลักษณะ:^{[16]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ใช้มีดโกนที่สะอาด ใหม่ คมและครีมหรือเจลโกนขนปริมาณมาก (ไม่ควรใช้สบู่ธรรมดา) ห้ามโกนขนทั้งที่ผิวแห้ง
- อย่าโกนขนบนใบหน้า ถอนหรือใช้แหนบดึงขนที่ไม่ต้องการหรือลองใช้ยาฟอกสี ครีมหรือแว๊กซ์ที่ออกแบบมาสำหรับขนบนใบหน้าเท่านั้น หากคุณมีขนบนใบหน้าจำนวนมากก็ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการกำจัดขนหรือใช้เลเซอร์กำจัดขนถาวร ^{[17]Xแหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้American Academy of Family Physiciansไปที่แหล่งข้อมูล}^{[18]Xแหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้PubMed Centralไปที่แหล่งข้อมูล}
- ใช้โลชั่นบำรุงที่ไม่เหนอะหนะหลังการโกนขนเพื่อทำให้ผิวไม่แห้ง ห้ามใช้อาฟเตอร์เชฟของผู้ชายเพราะจะทำให้ผิวแสบ
3
จัดการกับขนบริเวณจุดซ่อนเร้น. การโกนขนบริเวณจุดซ่อนเร้นอาจทำให้ผิวบริเวณนั้นคัน ระคายเคืองหรือมักจะมีอาการขนคุดและรูขุมขนติดเชื้อ ^{[19]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} มันขึ้นอยู่กับคุณว่าคุณต้องการจัดการกับขนบริเวณนั้นอย่างไร คุณสามารถโกนขนแนวบิกินี่ด้านในของต้นขาและปล่อยขนบริเวณจุดซ่อนเร้นเป็นธรรมชาติ เล็มขนบริเวณจุดซ่อนเร้นอย่างระมัดระวังด้วยกรรไกรหรือปล่อยตามธรรมชาติโดยสิ้นเชิง อย่าลืมทำความสะอาดระหว่างการอาบน้ำ ถ้าหากคุณต้องการโกนขนก็ควรทำตามขั้นตอนเหล่านี้:^{[20]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ใช้กรรไกรที่สะอาดเล็มขนเส้นยาวออกก่อนเพื่อทำให้การโกนขนง่ายขึ้น (ทำวิธีนี้ระหว่างนั่งโถส้วมเพื่อไม่ให้ห้องน้ำเลอะเทอะ) ทำให้มั่นใจว่าไม่มีใครใช้กรรไกรเล่มนี้
- แช่อ่างอาบน้ำหรืออาบน้ำ 2-3 นาทีเพื่อทำให้เส้นขนและผิวอ่อนตัวลง
- ใช้มีดโกนที่ปลอดภัย (มีดโกนที่ไม่มีใบมีดแบบตั้งตรงหรือมีดโกนแบบใช้แล้วทิ้ง) มีดโกนที่ดีต้องมีแผ่นให้ความชุ่มชื้น
- ทำผิวบริเวณนั้นให้ตึงและเรียบเนียนและโกนขนตามแนวขนอย่างระมัดระวัง อย่าใช้แรงกดมากเกินไป
- ล้างด้วยน้ำอุ่น ซับให้แห้งและใช้เบบี้ออย ว่านหางจระเข้หรือมอยซ์เจอไรเซอร์ที่ไม่มีน้ำหอมทาผิว
- อ่านบทความวิธีการเล็มขนบริเวณจุดซ่อนเร้น วิธีการโกนขนบริเวณจุดซ่อนเร้นหรือวิธีการดูแลขนบริเวณจุดซ่อนเร้นเพื่อคำแนะนำที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น
4
มีสุขลักษณะในช่องปากที่ดี. แปรงฟัน ใช้ไหมขัดฟันและใช้น้ำยาบ้วนปากอย่างน้อย 2 ครั้งต่อวันหลังมื้อเช้าและก่อนนอน วิธีนี้ช่วยลดอาการฟันผุ โรคเหงือกและป้องกันการเกิดกลิ่นปาก พยายามใช้ยาสีฟันหรือน้ำยาบ้วนปากที่มีสารฟลูออไรด์^{[21]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} ถ้าหากคุณจัดฟันหรือใส่รีเทนเนอร์ คุณอาจจะต้องแปรงฟันหลังมื้ออาหารทุกมื้อ
- ค่อยๆ แปรงฟันเพื่อป้องกันการเกิดกลิ่นปาก
- เปลี่ยนแปรงสีฟันทุก 3 เดือนหรือหลังจากที่คุณป่วยด้วยโรคติดต่อ เช่น คออักเสบ ^{[22]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- พบทันตแพทย์ 2 ครั้งต่อปีเพื่อตรวจสภาพและทำความสะอาดช่องปาก ^{[23]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
5
ทำความสะอาดรีเทนเนอร์. ยีสต์และแบคทีเรียสามารถดำรงชีวิตอยู่บนรีเทนเนอร์และกล่องใส่รีเทนเนอร์ถ้าหากคุณไม่ทำความสะอาดเป็นอย่างดี ใช้แปรงทำความสะอาดกล่องใส่รีเทนเนอร์ทุกครั้งที่คุณแปรงฟันและฆ่าเชื้อสัปดาห์ละครั้ง ^{[24]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- คุณสามารถใช้น้ำยาสำหรับรีเทนเนอร์ เช่น Efferdent หรือ Polident ในถ้วยผสมน้ำอุ่นและแช่รีเทนเนอร์ลงในถ้วย ล้างด้วยน้ำก่อนใช้อีกครั้ง ^{[25]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
ถ้าหากคุณใส่คอนแทคเลนส์ คุณต้องรักษาความสะอาดให้มากที่สุดเพื่อป้องกันการติดเชื้อที่ดวงตา อย่าเพียงแต่ล้างด้วยน้ำเปล่าและใช้มันซ้ำหรือใช้น้ำยาแช่คอนแทคเลนส์ซ้ำกันหลายวัน คุณสามารถติดเชื้อแบคทีเรียในดวงตาได้ ล้างคอนแทคเลนส์ทุกครั้งที่คุณถอดออก ทำความสะอาดตลับใส่คอนแทคเลนส์ให้ทั่วและใช้น้ำยาแช่คอนแทคเลนส์ที่ใหม่เสมอ อย่าลืมเปลี่ยนตลับใส่คอนแทคเลนส์เป็นประจำทุก 3 เดือน^{[26]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}^{[27]Xแหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้American Academy of Opthamologistsไปที่แหล่งข้อมูล}
7
รักษาสุขภาพเท้า. เป็นเรื่องธรรมดาที่เท้าและรองเท้าของคุณจะมีกลิ่นแต่คุณควรควบคุมปัญหานี้ ทำให้เท้าแห้งก่อนสวมถุงเท้าและรองเท้าเสมอ สลับคู่รองเท้าที่ใส่เป็นประจำและปล่อยให้รองเท้าระบายอากาศชั่วข้ามคืนในที่ที่อากาศถ่ายเท (ไม่ใช่ในตู้เสื้อผ้า) ^{[28]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} สวมถุงเท้าเมื่อใส่รองเท้าที่หุ้มนิ้วเท้าทั้งหมดและเลือกถุงเท้าที่ทำจากผ้าฝ้ายแทนวัสดุสังเคราะห์ ^{[29]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าหากคุณมีอาการแดง คันหรือเป็นผื่นระหว่างนิ้วเท้าหรือบนเท้า คุณอาจจะเป็นเชื้อราที่เท้า หลีกเลี่ยงสิ่งนี้โดยการสวมรองเท้าแตะในโรงเรียนและห้องอาบน้ำในห้องล็อกเกอร์แทนที่จะเดินเท้าเปล่า คุณอาจจะต้องใช้ยาทาเท้าชนิดผงที่มีจำหน่ายตามร้านขายยาทั่วไปหรือขอความช่วยเหลือจากแพทย์ถ้าจำเป็น ^{[30]Xแหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้Mayo Clinicไปที่แหล่งข้อมูล}
การแบ่งปันเป็นเรื่องที่ดีแต่ไม่ใช่การใช้แปรงสีฟัน มีดโกนหรือแปรงหวีผมร่วมกับผู้อื่น เก็บอุปกรณ์เหล่านี้เอาไว้ใช้ส่วนตัวเท่านั้นและอย่าใช้อุปกรณ์เหล่านี้ของผู้อื่น อย่าใช้ผ้าเช็ดตัวร่วมกับผู้อื่นด้วยเช่นกัน ^{[31]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}

วิธีการ 3

วิธีการ 3 ของ 4:

การรับมือกับประจำเดือน

ดาวน์โหลดบทความ

1
เปลี่ยนผ้าอนามัยเป็นประจำ. โดยเฉลี่ยแล้วคุณอาจจะต้องใช้ผ้าอนามัยหรือผ้าอนามัยแบบสอด 3-6 ชิ้นต่อวัน ใช้ผ้าอนามัยที่ยาวและหนากว่าเดิมซึ่งมีปีก (ปกป้องด้านข้าง) เพื่อป้องกันการซึมเปื้อนในวันที่ประจำเดือนมามาก (ช่วง 2-3 วันแรกของประจำเดือน) และในตอนกลางคืน เปลี่ยนผ้าอนามัยหรือผ้าอนามัยแบบสอดทุกๆ 4-8 ชั่วโมงโดยขึ้นอยู่กับปริมาณของประจำเดือน ^{[32]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} ห้ามใส่ผ้าอนามัยเกิน 8 ชั่วโมงเพราะคุณอาจจะเสี่ยงกับอาการท็อกซิกช็อก ^{[33]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}^{[34]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- อย่าอายถ้าหากประจำเดือนของคุณเปื้อนกางเกงในหรือผ้าปูที่นอนโดยที่คุณไม่ตั้งใจ สิ่งนี้เกิดขึ้นกับผู้หญิงเกือบทุกคน ชะล้างผ้าปูที่นอนด้วยน้ำเย็นและนำไปซักทันที
- สวมกางเกงในและเสื้อผ้าสีเข้มในช่วงที่มีประจำเดือน วิธีนี้จะช่วยให้รอยซึมเปื้อนที่คุณไม่ตั้งใจนั้นให้เป็นที่สังเกตน้อยลง ถ้าหากสิ่งนี้เกิดขึ้นที่โรงเรียนหรือในที่สาธารณะ คุณสามารถใช้เสื้อกันหนาวผูกรอบเอวจนกว่าคุณจะกลับถึงบ้าน ^{[35]Xแหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้Mayo Clinicไปที่แหล่งข้อมูล}
- การคุ้นชินกับผ้าอนามัยแบบสอดสามารถช่วยคุณได้ถ้าหากคุณชอบว่ายน้ำ เล่นกีฬาหรือเคลื่อนไหวตลอดเวลา ผ้าอนามัยแบบสอดที่มีอุปกรณ์สอดในตัวใช้ง่ายกว่าแบบที่ไม่มีอุปกรณ์ ถ้าหากคุณยังไม่คุ้นเคยกับการใช้ผ้าอนามัยแบบสอด ลองใช้เจลหล่อลื่นทาบริเวณปลายผ้าอนามัยแบบสอดก่อนที่จะสอดใส่ อย่างไรก็ตาม ห้ามใช้เจลปิโตรเลียมเพราะคุณอาจจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ^{[36]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}^{[37]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- คุณยังสามารถลองใช้ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในช่วงที่มีประจำเดือน เช่น ถ้วยอนามัยหรือกางเกงในอนามัย
2
อาบน้ำเป็นประจำ. คุณไม่เพียงแต่จะสามารถอาบน้ำในช่วงที่มีประจำเดือนได้แต่คุณยังจำเป็นต้องอาบน้ำ การอาบน้ำช่วยให้คุณรู้สึกสะอาดและน้ำอุ่นสามารถบรรเทาอาการปวดประจำเดือนได้ อาบน้ำตามปกติโดยล้างช่องคลอดด้วยน้ำอุ่น เมื่อคุณอาบน้ำเสร็จก็ควรเช็ดตัวให้แห้งด้วยผ้าเช็ดตัวสีเข้มเพื่อหลีกเลี่ยงรอยเปื้อน จากนั้นจึงใช้ผ้าอนามัย ผ้าอนามัยแบบสอดหรือถ้วยอนามัยก่อนที่จะใส่เสื้อผ้า
- คุณสามารถถอดผ้าอนามัยแบบสอดและถ้วยอนามัยออกก่อนการอาบน้ำแต่ไม่จำเป็น แน่นอนว่าคุณต้องถอดกางเกงในและผ้าอนามัยก่อนการอาบน้ำเสมอ
- ถ้าหากประจำเดือนของคุณมามาก คุณควรเลี่ยงการแช่อ่างอาบน้ำ น้ำที่ไหลจากการอาบน้ำจะช่วยชะล้างเลือดออกได้ดีกว่าน้ำนิ่งในอ่างอาบน้ำ
- ชะล้างสิ่งสกปรกออกจากห้องอาบน้ำเมื่อคุณอาบน้ำเสร็จ อย่าทิ้งไว้ให้คนที่ใช้ห้องน้ำต่อจากคุณ
3
รู้ว่าประจำเดือนกำลังจะมาเป็นครั้งแรก. วิธีที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงการซึมเปื้อนของประจำเดือนหรือมีประจำเดือนมาโดยไม่ได้พกผ้าอนามัยแบบสอดมาด้วยคือการคาดเดาวันที่คุณจะมีประจำเดือน ^{[38]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} คุณสามารถใช้เว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นต่างๆ เพื่อช่วยทำสิ่งนี้ เช่น โปรแกรม WebMDs Ovulation Calculator หรือใช้สมุดจด ไดอารี่หรือปฏิทินประจำเดือน จดวันแรกที่คุณมีประจำเดือนและบันทึกติดตามเป็นเวลาหลายเดือน
- รอบเดือนโดยเฉลี่ยคือ 28 วันแต่อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ นับจากวันแรกที่คุณมีประจำเดือนของเดือนนี้ไปจนถึงวันแรกที่คุณมีประจำเดือนของเดือนถัดไป เมื่อคุณหาค่าเฉลี่ยของรอบเดือนในระยะเวลา 3 เดือนคุณก็จะพบรอบเดือนของคุณ เช่น ถ้าหากรอบเดือนของเดือนแรกคือ 29 วัน รอบเดือนของเดือนถัดไปคือ 30 วันและรอบเดือนของเดือนที่สามคือ 28 วัน คุณต้องรวมรอบเดือนของ 3 เดือนนี้และหารด้วย 3 คุณก็จะได้รอบเดือนเฉลี่ยของคุณคือ 29 วัน อย่างไรก็ตาม จำไว้ว่ารอบเดือนอาจเปลี่ยนแปลงไปถ้าหากคุณยังเป็นวัยรุ่นและอาจมีระยะเวลาระหว่าง 21 ถึง 45 วัน ^{[39]Xแหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้US Office on Women's Healthไปที่แหล่งข้อมูล}
- ถ้าหากคุณมีรอบเดือนไม่ปกติ คุณควรปรึกษาผู้ปกครองหรือแพทย์เพื่อขอคำแนะนำและการรักษาที่อาจเกิดขึ้น
ถ้าหากคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับวิธีการใช้ผ้าอนามัยแบบสอด ต้องการความช่วยเหลือเพื่อซื้อผลิตภัณฑ์สำหรับสุขอนามัยหรือมีข้อสงสัยหรือความกังวลเกี่ยวกับประจำเดือน คุณควรปรึกษาญาติผู้ใหญ่เพื่อขอคำแนะนำ จำไว้ว่าแม่ ป้าและพี่สาวของคุณเคยผ่านจุดนี้มาก่อน คุณยังสามารถปรึกษาแพทย์ถ้าหากคุณรู้สึกสบายใจกว่า

วิธีการ 4

วิธีการ 4 ของ 4:

การรักษากิจวัตรเพื่อสุขลักษณะที่ดี

ดาวน์โหลดบทความ

1
รักษาสิว. ถ้าหากคุณมีสิวก็ควรใช้ยารักษาที่อ่อนโยน ไม่รุนแรงและไม่มีแอลกอฮอล์ อย่าขัดผิวอย่างรุนแรงเมื่อคุณล้างหน้าเพราะวิธีนี้จะกำจัดน้ำมันตามธรรมชาติและทำให้ผิวของคุณแห้ง เป็นขุยและทำให้เกิดสิวมากขึ้น ^{[40]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} พยายามรักษาสิวให้หายเร็วและด้วยวิธีธรรมชาติหรือปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่คุณสามารถใช้
- ขอให้แพทย์แนะนำแพทย์ผิวหนังถ้าหากคุณมีสิวที่ไม่หายภายใน 4-8 สัปดาห์หลังจากการใช้ยารักษาที่ซื้อจากร้านขายยาทั่วไปหรือถ้าหากสิวทำให้คุณเจ็บ ^{[41]Xแหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้American Academy of Dermatologyไปที่แหล่งข้อมูล} คุณสามารถใช้ยาชนิดรับประทาน เช่น Accutane ซึ่งมีผลข้างเคียงจำนวนมาก ^{[42]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ห้ามใช้เล็บแกะผิวหรือบีบสิว การบีบ กดหรือแกะสิวทำให้เกิดการติดเชื้อและแผลเป็น^{[43]Xแหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้American Academy of Dermatologyไปที่แหล่งข้อมูล}
2
อย่าแต่งหน้าจัดเกินไป. ถ้าคุณรู้สึกไม่มั่นใจกับผิวของตัวเอง คุณอาจจะต้องการแต่งหน้าจัด อย่างไรก็ตาม การแต่งหน้าจัดเกินไปสามารถทำให้ผิวของคุณแห้งหรือมันและทำให้เกิดสิว ทารองพื้นบางๆ และแต่งหน้าให้น้อยที่สุดเพื่อแต่งหน้าให้ดูเป็นธรรมชาติ
- มีหลายเทคนิคที่คุณสามารถใช้เพื่อปกปิดสิวด้วยเครื่องสำอางได้
3
ดูแลเล็บ. เล็มเล็บมือและเล็บเท้าไม่ให้มีขอบแหลมคม ทำความสะอาดใต้เล็บเมื่อคุณล้างมือ (และเท้า) และใช้ตะไบเพื่อกำจัดสิ่งสกปรกออกจากใต้เล็บถ้าจำเป็น ^{[44]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} ใช้กรรไกรตัดเล็บที่คมหรือกรรไกรทำเล็บขนาดเล็กเพื่อตัดเล็บและทำมุมให้โค้งมนด้วยตะไบ ใช้โลชั่นทามือเพื่อทาเล็บและหนังเล็บ ^{[45]Xแหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้Mayo Clinicไปที่แหล่งข้อมูล}
- เลิกกัดเล็บหรือหนังเล็บที่ห้อยออก วิธีนี้อาจทำให้เกิดการติดเชื้อและดูสกปรก คุณต้องใช้ที่ตัดเล็บที่สะอาดแทน ^{[46]Xแหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้American Academy of Dermatologyไปที่แหล่งข้อมูล}
- ทาเล็บถ้าต้องการหรือเพียงปกป้องชั้นบนของเล็บหรือทาท็อปโค้ทเพื่อเพิ่มความเงางาม ^{[47]Xแหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้Mayo Clinicไปที่แหล่งข้อมูล} ใช้น้ำยาล้างเล็บที่ไม่มีอะซิโตน ^{[48]Xแหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้Mayo Clinicไปที่แหล่งข้อมูล}
4
ฉีดน้ำหอมแต่อย่าเยอะเกินไป. ถ้าหากคุณต้องการฉีดน้ำหอมหรือบอดี้สเปรย์ก็สามารถทำได้เพียงแต่อย่าฉีดมากเกินไปเพราะอาจทำให้ฉุนและไม่เป็นที่พึงประสงค์สำหรับคนอื่น ฉีดน้ำหอม 2-3 ครั้งด้านหน้าคุณและเดินผ่านละอองน้ำหอม วิธีนี้จะทำให้คุณมีกลิ่นหอมโดยที่ไม่ฉุนจนเกินไป
- อย่าฉีดน้ำหอมหรือบอดี้สเปรย์บนหวีแปรงหรือฉีดลงบนผมโดยตรงเพราะอาจทำให้ผมของคุณแห้งได้
- จำไว้ว่าการใส่น้ำหอมไม่สามารถแทนที่การอาบน้ำเป็นประจำทุกวันได้

เคล็ดลับ

ทุกคนแตกต่างกันและขั้นตอนที่กล่าวข้างต้นอาจจะไม่ได้ผลสำหรับคุณ ลองหากิจวัตรที่ได้ผลสำหรับคุณและทำให้คุณรู้สึกดีเกี่ยวกับตัวเอง
รักษาสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อให้คุณรู้สึกและดูดีที่สุด รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำให้มากและออกกำลังกายสม่ำเสมอ^{[49]Xแหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้Mayo Clinicไปที่แหล่งข้อมูล}
อย่าล้างภายในช่องคลอดด้วยสบู่ อย่าใช้สบู่หรือครีมอาบน้ำที่มีน้ำหอมเพื่อทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น อย่าฉีดน้ำหอมบนกางเกงในเพราะเป็นสิ่งที่อันตราย
เปลี่ยนผ้าปูที่นอนบ่อยครั้งเพราะมันเป็นที่สะสมแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่นตัว

คำเตือน

เมื่อคุณอายุมากขึ้นและเข้าใกล้วัยแตกสาว คุณอาจจะสังเกตเห็นของเหลวสีใสหรือสีขุ่นที่กางเกงใน สิ่งนี้เป็นเรื่องปกติและคุณไม่ควรกังวล อย่างไรก็ตาม ปรึกษาแพทย์ถ้าหากของเหลวนั้นมีสีเขียว มีกลิ่นคาวหรือดูเหมือนชีส ^{[50]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}