วิธีการ รักษาสิวให้หายเร็วและด้วยวิธีธรรมชาติ

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

ถ้าคุณกำลังระทมทุกข์กับปัญหาสิว คุณไม่ได้โดดเดี่ยวหรอก สิวนั้นเป็นอาการทางผิวหนังที่พบเห็นได้โดยทั่วไปจากการที่ไขมันกับเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วไปอุดตันรูขุมขน มันเกิดขึ้นได้บนใบหน้า, ตามหน้าอก, แผ่นหลัง, ไหล่ หรือบริเวณลำคอ สิวนั้นมีสาเหตุหลายประการ: กรรมพันธุ์, ฮอร์โมน และการผลิตไขมัน มีหลายวิธีที่คุณจะรักษาสิวให้หายเร็วและด้วยวิธีธรรมชาติ เรียนรู้วิธีการดูแลผิวที่ดี, ปรับปรุงอาหารการกิน และลองใช้การรักษาพวกสมุนไพรดู

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

ดูแลรักษาผิวให้ดี

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 พิจารณาดูว่าคุณเป็นสิวประเภทไหน.
    วิธีการรักษาสิวนั้นมีความแตกต่างกันไปตามแต่สภาพใบหน้าว่ารุนแรงเพียงไหน ส่วนใหญ่แล้วก็มีระดับการเป็นสิวปานกลาง แต่สิวที่มีระดับรุนแรงแบบเป็นก้อนหนองหรือเป็นก้อนนูนแดงอาจเกิดการบวมอักเสบขึ้นมาได้ สิวแบบนี้ต้องได้รับการรักษาในทันที[1][2][3] สิวชนิดที่พบเห็นได้ทั่วไปก็มี:
    • สิวหัวขาว (สิวอุดตันแบบรูปิด - closed comedones): จะเกิดขึ้นเมื่อมีฝุ่นผงหรือไขมันส่วนเกิน (sebum) ไปอุดค้างอยู่ใต้ชั้นผิวหนัง ก่อให้เกิดตุ่มกลมสีขาว
    • สิวหัวดำ (สิวอุดตันแบบรูเปิด - open comedones): จะเกิดขึ้นเมื่อรูขุมขนเปิดออก ทำให้ฝุ่นผงและไขมันส่วนเกินผุดขึ้นมาบนชั้นผิวหนัง สีดำนั้นเกิดจากปฏิกิริยาอ็อกไซด์เมื่ออากาศทำปฏิกิริยากับเมลานิน ซึ่งเป็นสารเม็ดสีในไขมันส่วนเกิน
    • สิวอักเสบ - Pimples (หรือ pustules): เป็นร่องรอยสิวที่ก่อตัวเมื่อฝุ่นผงหรือไขมันส่วนเกินอุดตันอยู่ใต้ชั้นผิวหนัง และก่อให้เกิดอาการอักเสบ, คัน, บวมแดงมาพร้อมกับหนอง หนองนั้นเป็นของเหลวเหนียวเหนอะสีเหลืองที่เกิดจากเซลล์เม็ดเลือดขาว (leukocytes) กับแบคทีเรียที่ตายแล้ว มักเป็นผลมาจากการอักเสบหรือติดเชื้อของเนื้อเยื่อในร่างกาย
    • สิวก้อนสีแดง (Nodules): เป็นสิวอักเสบที่เป็นก้อนแข็งขนาดใหญ่ที่เกิดลึกลงไปในชั้นผิวหนัง
    • สิวก้อนนูนแดงแบบซีสต์ (Cysts): เป็นสิวอักเสบชนิดที่มีหัวหนองและรู้สึกปวด ซึ่งเกิดลึกลงไปในชั้นผิวหนังและมักจะทำให้เกิดแผลเป็น
  2. How.com.vn ไท: Step 2 หยุดสูบบุหรี่.
    การสูบบุหรี่สามารถทำให้เกิดสภาวะที่เรียกว่าสิวในผู้สูบบุหรี่ ซึ่งร่างกายไม่ตอบสนองต่อการอักเสบเพื่อจะรักษาผิวให้กลับคืนได้เร็วเท่ากับสิวธรรมดาทั่วไป ผู้สูบบุหรี่ยังมักจะเป็นสิวระดับปานกลางหลังจากผ่านช่วงวัยรุ่นมากกว่าคนปกติถึงสี่เท่า โดยเฉพาะผู้หญิงอายุระหว่าง 25-50 ปี การสูบบุหรี่ยังอาจทำให้ผิวหน้าเกิดอาการคันในผู้ที่มีผิวบอบบางอีกด้วย
    • เป็นที่ทราบกันดีว่าการสูบบุหรี่จะทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่นและมีริ้วรอยก่อนวัยอันควร ทั้งนี้เนื่องจากมันจะสร้างอนุมูลอิสระ ลดการผลิตคอลลาเจน และลดคุณภาพของโปรตีนบำรุงผิว[4]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า.
    เศษฝุ่นสกปรกและแบคทีเรียบนมือสามารถไปอุดรูขุมขนและทำให้หน้าที่เป็นสิวยิ่งมีสภาพแย่ลงหากยังสัมผัสใบหน้าอยู่เนืองๆ ถ้าผิวรู้สึกคันระคายเคืองจากการเป็นสิว ให้ใช้แผ่นเช็ดหน้าชนิดไร้ส่วนผสมของน้ำมันเช็ดเบาๆ เพื่อขจัดคราบสกปรกและทำให้ผิวคืนสู่สภาพเดิม
    • อย่าบีบหรือกดหัวสิว ไม่งั้นอาจเกิดเป็นรอยแผลเป็นได้ การบีบสิวอักเสบอาจจะยิ่งทำให้แบคทีเรียแพร่กระจายมากขึ้นด้วย[5]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่เหมาะสม....
    เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่เหมาะสม. ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าสูตรบางเบาปราศจากโซเดียม ลอเรท ซัลเฟต (sodium laureth sulfate) โซเดียม ลอเรท ซัลเฟตเป็นสารซักฟอกและทำให้เกิดฟองซึ่งสามารถทำให้ผิวระคายเคือง ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าหลายยี่ห้อที่ไร้สารเคมีเข้มข้น และใช้ส่วนผสมตามธรรมชาติ มีวางขายตามร้านขายยาทั่วไป[6][7][8]
    • สบู่ที่สากและจำพวกสครับผิวอาจทำให้ผิวระคายเคืองและทำให้สิวแย่ลงกว่าเดิมได้
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ล้างหน้าเป็นประจำ.
    ล้างหน้าโดยใช้ปลายนิ้ว ตอนเช้าหนึ่งครั้งและตอนกลางคืนอีกหนึ่งครั้งจำไว้ว่าให้ใช้น้ำพออุ่นล้างทั่วหน้าหลังการทำความสะอาดเสร็จ จำกัดการล้างเพียงวันละสองครั้งและหลังจากทำกิจกรรมที่มีเหงื่อออก[9][10][11]
    • เหงื่อสามารถทำให้ผิวระคายเคือง ให้ล้างหน้าให้เร็วที่สุดหลังจากเหงื่อออก
  6. How.com.vn ไท: Step 6 ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวให้ถูกประเภท.
    ทามอยส์เจอไรเซอร์ชนิดปราศจากน้ำมันถ้าหากคุณมีผิวแห้งหรือคัน ส่วนสารสมานผิวจะถูกแนะนำให้ใช้เฉพาะถ้าคุณมีผิวมัน และต่อให้เป็นเช่นนั้นก็ควรทาสารสมานผิวเฉพาะตรงจุดที่มันมากเท่านั้น ถ้าหากคุณต้องการจะใช้ผลิตภัณฑ์ขัดผิว ให้ถามหมอผิวหนังว่าอย่างไหนถึงจะเหมาะกับชนิดผิวของคุณ[12][13][14]
    • คนที่ไม่ได้มีสิวอักเสบ คือมีแต่สิวหัวขาวกับสิวหัวดำซึ่งไม่ก่อให้เกิดผื่นแดง สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ขัดผิวสูตรบางเบาที่มีจำหน่ายทั่วไปได้ คนที่มีผิวแห้งและแพ้ง่ายควรจำกัดการขัดผิวแค่สัปดาห์ละครั้งหรือสองครั้ง ส่วนคนที่ผิวมันหนาสามารถขัดผิวได้ทุกวัน
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

กินอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ.
    หลีกเลี่ยงเนื้อที่มีฮอร์โมนและสารประกอบแบบเดียวกันซึ่งจะทำให้ฮอร์โมนของคุณเสียสมดุลจนทำให้เกิดสิวขึ้นได้ ให้รับประทานเส้นใยอาหารเยอะๆ พวกผักและผลไม้สด อาหารที่อุดมด้วยวิตามิน เอ, ซี, อี และสังกะสี (ซิงค์) จะช่วยลดอาการรุนแรงของสิวผ่านทางคุณสมบัติต่อต้านการอักเสบของสารอาหาร แหล่งที่มีวิตามินเหล่านี้ชั้นดีได้แก่:[15][16]
    • พริกแดงหวาน
    • คะน้า
    • ปวยเล้ง
    • ผักโขม
    • หัวผักกาดเขียว
    • มันหวาน (มันเทศ)
    • ฟักทอง
    • ฟักบัตเตอร์นัท
    • มะม่วง
    • เกรปฟรุต
    • แคนตาลูป
  2. How.com.vn ไท: Step 2 รับประทานซิงค์.
    จากการศึกษาพบว่าการบำบัดโดยรับประทานซิงค์สามารถรักษาสิวได้[17][18] ซิงค์เป็นแร่ธาตุสำคัญที่มีคุณสมบัติต่อต้านสารอนุมูลอิสระ มันจะช่วยปกป้องเซลล์ภายในร่างกายจากความเสียหายที่เกิดจากแบคทีเรียและไวรัส เป็นเรื่องปกติที่เราจะมีปริมาณซิงค์ในระดับต่ำ แต่การรับประทานวิตามินรวมและอาหารเพื่อสุขภาพก็ทำให้คุณได้รับซิงค์เพียงพอแล้ว ถึงแม้คุณอาจทานอาหารเสริมได้ แต่แหล่งอาหารที่มีซิงค์ก็คือ:[19]
    • หอยนางรม, กุ้ง, ปู และเชลล์ฟิช
    • เนื้อแดง
    • เนื้อสัตว์ปีก
    • ชีส
    • ถั่วลันเตา
    • เมล็ดทานตะวัน
    • ฟักทอง
    • เต้าหู้
    • มิโสะ
    • เห็ด
    • ผักใบเขียวปรุงสุก
    • ซิงค์ที่ดูดซึมได้ง่าย: ซิงค์ พิโคลิเนต (zinc picolinate), ซิงค์ ไซเตรต (zinc citrate), ซิงค์ อะซีเทต (zinc acetate), ซิงค์ ไกลซีเรต (zinc glycerate), และ ซิงค์ โมโนเมทิโอไนน์ (zinc monomethionine) ถ้าหากซิงค์ ซัลเฟตทำให้รู้สึกมวนท้อง คุณสามารถเปลี่ยนไปใช้ซิงค์รูปแบบอื่นอย่างซิงค์ ไซเตรตก็ได้
  3. How.com.vn ไท: Step 3 บริโภควิตามินเอให้มากขึ้น.
    จากการศึกษาพบว่าคุณอาจมีวิตามินในระดับต่ำจึงมีปัญหาสิวรุนแรง วิตามินเอเป็นสารที่ต่อต้านการอักเสบที่จะทำให้ฮอร์โมนสมดุลและอาจช่วยลดการผลิตไขมัน คุณสามารถเพิ่มปริมาณของวิตามินเอได้โดยการทานอาหารเพื่อสุขภาพและหลีกเลี่ยงไขมันชนิดเลวอาทิ มาร์การีน, น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี, และอาหารแปรรูป[20]
    • วิตามินเอจะพบมากในแครอท, ผักใบเขียวและผลไม้ที่มีสีเหลืองหรือสีส้ม ถ้าคุณจะทานในรูปของอาหารเสริม ปริมาณที่แนะนำต่อวันคือ 10,000 to 25,000 IU (international units – หน่วยสากล) การบริโภควิตามินเอเกินขนาดอาจมีผลข้างเคียงที่เป็นพิษ เช่น มีผลต่อทารกในครรภ์ ฉะนั้นจงระมัดระวังในปริมาณที่บริโภค
  4. How.com.vn ไท: Step 4 บริโภควิตามินซีเพิ่มขึ้น.
    วิตามินซีสามารถเพิ่มอัตราการรักษาตัวเอง มันทำได้โดยการช่วยสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญที่ใช้ในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อผิว, กระดูกอ่อน, เส้นเลือด และรักษาแผล คุณสามารถรับประทานวิตามินซี 2 ถึง 3 โดสให้ได้ปริมาณรวม 500 มก. ต่อวัน คุณยังสามารถเพิ่มอาหารที่อุดมวิตามินซีเข้าไปในการทานอาหารแต่ละวันได้ด้วย[21] แหล่งวิตามินซีตามธรรมชาติได้แก่:
    • พริกหวานสีแดงและสีเขียว
    • ผลไม้แบบซิตรัสอาทิเช่น ส้ม, ส้มโอ, เกรปฟรุต, มะนาว หรือน้ำผลไม้ซิตรัสที่คั้นสด
    • ปวยเล้ง, บร็อคโคลี่ และกะหล่ำดาว
    • สตรอเบอร์รี่และราสเบอร์รี่
    • มะเขือเทศ
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ดื่มชาเขียว.
    การดื่มชาเขียวไม่ได้เกี่ยวข้องกับการป้องกันสิวโดยตรง แต่มันมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระจำนวนมากซึ่งมีผลต่อการชะลอวัยและปกป้องดูแลผิว ซึ่งจะช่วยให้ผิวดูสดใสอ่อนเยาว์ขึ้น[22][23] สำหรับการชงชาเขียวนั้น ให้ใส่ใบชาเขียว 2-3 กรัมลงในถ้วยที่ใส่น้ำร้อน (80-85 องศาเซลเซียส) สัก 3-5 นาทีชาเขียวสามารถนำมาดื่มได้สองสามครั้งต่อวัน
    • ชาเขียวยังอาจมีผลต้านอาการอักเสบที่ช่วยลดความเสี่ยงเป็นมะเร็ง การวิจัยบางชิ้นแสดงให้เห็นว่าชาเขียวนั้นมีประโยชน์อย่างยิ่งในการปกป้องผิวจากรังสียูวีอันเป็นอันตราย[24][25]
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

ใช้ยาสมุนไพร

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ใช้น้ำมันทีทรี.
    น้ำมันทีทรีมักถูกใช้เป็นประจำในเรื่องของสิว, บาดแผล, แผลติดเชื้อ และแผลที่ผิวหนัง[26] สำหรับการรักษาสิว ให้ใช้น้ำมันทีทรีที่มีความเข้มข้น 5-15 เปอร์เซ็นต์ หยดลงบนก้อนสำลี 2-3 หยดและซับเบาๆ บริเวณที่เป็นสิว
    • ห้ามรับประทานน้ำมันทีทรี คุณยังควรไม่เปิดมันค้างโดนอากาศนานเกินไป น้ำมันทีทรีที่เกิดปฏิกิริยาอ็อกไซด์แล้วนั้นอาจก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ง่ายกว่าน้ำมันทีทรีสด
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ใช้น้ำมันโจโจบา.
    หยดน้ำมันโจโจบาลงบนก้อนสำลีสัก 5-6 หยดแล้วนำไปซับเหนือบริเวณสิว น้ำมันโจโจบานั้นสกัดมาจากเมล็ดของต้นโจโจบา มันมีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับน้ำมันธรรมชาติ (ซีบัม) ที่ผิวคุณผลิตขึ้น แต่มันไม่ไปอุดรูขุมขนหรือทำให้เกิดน้ำมันส่วนเกิน[27]
    • น้ำมันโจโจบาจะทำให้ผิวชุ่มชื้นอยู่เสมอ มันมักไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง แต่ทางที่ดีก็ควรปรึกษาหมอผิวหนังก่อนใช้มันในกรณีที่คุณเป็นพวกผิวแพ้ง่าย
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ใช้น้ำมันจูนิเปอร์.
    น้ำมันจูนิเปอร์เป็นสารสมานผิวที่ปราศจากเชื้อโรคตามธรรมชาติ คุณสามารถใช้มันเป็นตัวทำความสะอาดใบหน้าและตัวปรับสภาพผิวเพื่อสลายรูขุมขนอุดตันและรักษาสิว, ผิวหนังอักเสบ หรือกลากได้[28] ให้เหยาะน้ำมันลงบนก้อนสำลี 1-2 หยดหลังการล้างหน้า
    • หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันจูนิเปอร์มากเกินไป ไม่งั้นมันอาจทำให้ผิวระคายเคืองและทำให้สภาพแย่ลงกว่าเดิม
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ทาเจลว่านหางจระเข้.
    การทาเจลว่านหางจระเข้ทุกวันช่วยฟื้นสภาพผิว คุณหาซื้อมันได้ตามร้านขายยาทั่วไป ว่านหางจระเข้เป็นพืชที่มีความชุ่มฉ่ำพร้อมคุณสมบัติต่อต้านเชื้อโรค ซึ่งใช้ได้ผลกับการรักษาสิวและลดอาการอักเสบ มันจะป้องกันแบคทีเรียจากแผลสิวติดเชื้อและเร่งกระบวนการเยียวยารักษา[29]
    • คนบางคนอาจแพ้ว่านหางจระเข้ หากเกิดรอยผื่นแดง ให้หยุดใช้และปรึกษาหมอผิวหนัง
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ใช้เกลือสมุทร.
    มองหาโลชั่นหรือครีมเกลือสมุทรที่มีโซเดียมคลอไรด์น้อยกว่า 1% ทาทิ้งไว้ 5 นาทีวันละหกครั้ง จากการศึกษาพบว่าเกลือสมุทรอาจมีคุณสมบัติต่อต้านการอักเสบ, ชะลอวัยและปกป้องผิวต่อรังสีอุลตราไวโอเล็ตที่เป็นอันตราย คุณสามารถใช้เกลือสมุทรเป็นมาสก์หน้าเพื่อลดความเครียดได้ด้วย[30] มองหาเกลือสมุทรและผลิตภัณฑ์เกลือสมุทรตามร้านขายเวชสำอางทั่วไป
    • คนที่มีสิวระดับเบาบางถึงระดับปานกลางสามารถใช้ผลิตภัณฑ์เกลือสมุทรได้อย่างไม่มีปัญหา คนที่มีผิวแห้ง, ผิวแพ้ง่าย หรือเป็นสิวระดับปานกลางขึ้นไปถึงระดับรุนแรงควรจะต้องพบหมอผิวหนังก่อนจะเริ่มทำการใช้เกลือสมุทร เนื่องจากมันอาจทำให้ผิวแห้งและระคายเคืองได้
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

มองหาการดูแลจากมืออาชีพ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ลองพิจารณาการใช้แสงบำบัด.
    เลเซอร์และการใช้แสงบำบัดเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมในการรักษาสิว การใช้แสงบำบัดจะใช้แสงไฟรักษาแผลสิวอักเสบ, สิวแบบก้อนแดงและสิวก้อนซีสต์[31]
    • การศึกษาแสดงว่าการใช้แสงบำบัดนั้นเป็นการรักษาที่ได้ผลในคนส่วนใหญ่ ให้ปรึกษาหมอผิวหนังเพื่อดูว่าวิธีไหนจะเหมาะกับคุณที่สุด
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ลองพิจารณาการใช้ฮอร์โมนบำบัด.
    การมีปริมาณของฮอร์โมนแอนโดรเจนสูง โดยเฉพาะในผู้หญิง อาจนำไปสู่การผลิตซีบัมส่วนเกินที่นำไปสู่การเกิดสิว[32] ซีบัมยังมีกรดไขมันที่กระตุ้นแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว ส่วนสาเหตุอื่นๆ ที่อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและส่งผลให้เกิดสิวก็มีการเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น, การตั้งครรภ์, ภาวะขาดประจำเดือน หรือมีการเปลี่ยนแปลงทางการรักษาด้วยยา
    • ทางที่ดีที่สุดที่จะรู้ว่าสิวคุณเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนหรือไม่นั้นคือการปรึกษาหมอผิวหนัง
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ปรึกษามืออาชีพ.
    หมอผิวหนังสามารถวินิจฉัยสภาพผิวคุณและเสนอทางเลือกที่เหมาะในการรักษาสิวให้คุณได้[33][34] ทางเลือกโดยการศัลยกรรมก็มีการจี้สิวหัวขาวและสิวหัวดำหรือศัลยกรรมโดยจี้ด้วยความเย็นจัด (cryosurgery) ซึ่งจะมีการฉีดสเตียรอยด์เข้าไปในก้อนสิว ส่วนการกรอหน้าขัดผิว (Dermabrasion) ก็เป็นการศัลยกรรมที่ทำการกำจัดรอยแผลบนชั้นผิวและลดรูแผลเป็นจากสิวให้ตื้นลงโดยการกำจัดเซลล์ผิวหนังชั้นที่ตายแล้วออกไป ทั้งนี้อาจต้องเข้ารับการรักษาหลายครั้งขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสภาพสิวบนใบหน้าคุณ
    • ถ้าคุณตกอยู่ในวงจรการเกิดสิวซ้ำแล้วซ้ำเล่า และได้ลองวิธีการรักษามาแล้วทุกรูปแบบ อย่ากลัวที่จะขอความช่วยเหลือ
    โฆษณา


เคล็ดลับ

  • หมอผิวหนังจะแนะนำให้คุณสระผมบ่อยๆ ถ้าคุณมีผมมัน น้ำมันของเส้นผมอาจไหลมาตรงหน้าผากหรือใบหน้าและทำให้สิวเห่อขึ้นมาได้
  • อย่าลงเครื่องสำอางในทันทีที่ล้างหน้าเสร็จ เนื่องจากมันจะอุดรูขุมขน ให้ใช้เครื่องสำอางชนิดไร้น้ำมันสำหรับผิวและผมของคุณ
  • อย่าใช้น้ำที่ร้อนหรือเย็นจนเกินไปเวลาล้างหน้า เพราะมันจะทำให้ผิวแห้ง ให้ใช้น้ำพออุ่นและลองไม่ใช้ผ้าเช็ดถูใบหน้า
  • ซิงค์อาจไปลดระดับของทองแดงในร่างกายถ้าคุณใช้มันนานเป็นเดือนๆ ดังนั้นแพทย์จะแนะนำให้ทานอาหารเสริมที่ให้ทองแดงปริมาณอย่างน้อย 2 มิลลิกรัม ไปพร้อมกับซิงค์ทุกวัน
  • เนื่องจากวิตามินอีและซิงค์เป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการสร้างวิตามินเอ คุณจึงควรเพิ่มมันในอาหาร ปริมาณวิตามินอีที่แนะนำเมื่อทานร่วมกับวิตามินเอคือ 400-800 IU.
  • เวลาทาครีมรอบดวงตาให้ทาเบาๆ เพื่อผิวบริเวณนั้นบอบบาง
  • การทานซิงค์ครั้งละ 30 มิลลิกรัมวันละสามครั้งคือปริมาณที่แนะนำสำหรับผู้ป่วยเป็นสิวรุนแรง พอสิวอยู่ในสภาพที่ควบคุมได้แล้ว การทานเพื่อรักษาสภาพครั้งละ 10 ถึง 30 มิลลิกรัมต่อวันนับเป็นปริมาณที่เหมาะสม


โฆษณา

คำเตือน

  • คุณไม่ควรทานซิงค์ปริมาณสูงติดต่อกันหลายวันเว้นแต่แพทย์จะแนะนำ ให้ปรึกษาแพทย์ก่อนหาอาหารเสริมซิงค์มาทาน
  • ถ้าคุณไม่ได้สังเกตเห็นพัฒนาการของผิวหน้าหลังจากผ่านไป 8 สัปดาห์ ให้ปรึกษาหมอผิวหนัง
  • อย่าใช้เกลือสมุทรเสริมไอโอดีนหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไอโอดีนเนื่องจากมันอาจก่อให้เกิดการระคายเคือง ไม่ว่าจะโดยการรับประทานหรือทาบนผิว ทำให้สิวเห่อหนักกว่าเดิม


โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

  1. http://brown.edu/Student_Services/Health_Services/Health_Education/common_college_health_issues/acne.php
  2. http://www.aad.org/dermatology-a-to-z/health-and-beauty/general-skin-care/face-washing-101
  3. http://www.gannett.cornell.edu/cms/pdf/health/upload/Acne.pdf
  4. http://brown.edu/Student_Services/Health_Services/Health_Education/common_college_health_issues/acne.php
  5. http://www.aad.org/dermatology-a-to-z/health-and-beauty/general-skin-care/face-washing-101
  6. http://www.pacificcollege.edu/acupuncture-massage-news/om-essay-contest/om-essay-contest-2011/1117-acne-and-diet-by-alex-garcia-osuna.html
  7. http://www.hchs.edu/literature/Acne.pdf
  8. http://www.hchs.edu/literature/Acne.pdf
  9. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/16029676
  10. http://umm.edu/health/medical/altmed/supplement/zinc
  11. http://www.hchs.edu/literature/Acne.pdf
  12. http://umm.edu/health/medical/altmed/supplement/vitamin-c-ascorbic-acid
  13. http://nccih.nih.gov/research/results/spotlight/022110.htm
  14. http://nccih.nih.gov/health/greentea
  15. http://nccih.nih.gov/research/results/spotlight/022110.htm
  16. http://nccih.nih.gov/health/greentea
  17. https://nccih.nih.gov/health/tea/treeoil.htm
  18. Michalun, V. M. , DiNardo J. (2014) Skin Care and Cosmetic Ingredients Dictionary, ISBN: 978-1-285-06079-8
  19. Michalun, V. M. , DiNardo J. (2014) Skin Care and Cosmetic Ingredients Dictionary, ISBN: 978-1-285-06079-8
  20. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/23336746
  21. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/21597673
  22. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/14756640
  23. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2923944/
  24. http://www.uhs.umich.edu/acne
  25. http://www.womenshealth.gov/publications/our-publications/fact-sheet/acne.html

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Zora Degrandpre, ND
ร่วมเขียน โดย:
แพทย์แนวธรรมชาติบำบัด
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Zora Degrandpre, ND. ดร.เดกรองด์เปรเป็นแพทย์แนวธรรมชาติบำบัดที่มีใบอนุญาตในวอชิงตัน เธอได้รับปริญญาโทจากวิทยาลัยแห่งยาธรรมชาติแห่งชาติในปี 2007 บทความนี้ถูกเข้าชม 41,674 ครั้ง

คำจำกัดสิทธิ์ความรับผิดชอบทางการแพทย์

เนื้อหาของบทความชิ้นนี้มิได้มีเจตนาที่จะใช้ทดแทนคำแนะนำ การตรวจ วินิจฉัยและการรักษาทางการแพทย์ คุณควรปรึกษาแพทย์หรือมืออาชีพทางการดูแลสุขภาพที่ได้รับอนุญาตเสมอ ก่อนที่จะทำการเริ่มต้น เปลี่ยนแปลง หรือหยุดการดูแลสุขภาพไม่ว่าประเภทใด

มีการเข้าถึงหน้านี้ 41,674 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา