วิธีการ ป้องกันภาวะโบทูลิซึม

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

โบทูลิซึมเป็นอาการป่วยร้ายแรงที่สามารถเกิดขึ้นได้บ่อยหลังจากที่ใครได้รับประทานอาหารที่มีเชื้อแบคทีเรีย Clostridium botulinum แฝงอยู่ อาหารกระป๋องที่ทำกันเองในครอบครัวและอาหารที่ไม่ได้รับการเก็บรักษาอย่างดีอาจเป็นแหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรียตัวนี้ โบทูลิซึมสามารถเข้าสู่ร่างกายคนเราได้ทางบาดแผล วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือต้องระมัดระวังเรื่องการจัดเตรียมอาหารให้สะอาดปลอดภัยและมองหาวิธีการรักษาบาดแผลในทันที

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

หลีกเลี่ยงภาวะโบทูลิซึมทุกประเภท

ดาวน์โหลดบทความ
  1. 1
    ทิ้งอาหารกระป๋องทุกอย่างที่กระป๋องบวม มีกลิ่นเหม็น มีฟองขึ้นไปในทันที. ถ้าไม่แน่ใจ ให้ทิ้งไปก่อนเลย นี่รวมไปถึงพวกอาหารหมักดองทั้งหลายด้วย แม้ว่ากระป๋องจะเป็นตัวที่ไวต่อเชื้อที่สุด
  2. 2
    อย่าป้อนน้ำผึ้งให้ทารกที่มีอายุต่ำกว่าหนึ่งปี. น้ำผึ้งอาจติดสปอร์ของเชื้อโบทูลิซึมซึ่งผู้ใหญ่สามารถต้านทานได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตาม เด็กที่มีอายุน้อยกว่า 12 เดือนนั้นอาจไม่มีระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายเพียงพอต่อการจัดการแม้จะเป็นเพียงน้ำผึ้งแค่หนึ่งช้อนก็ตาม[1]
  3. 3
    ระมัดระวังพวกปลาเค็ม มันฝรั่งอบ และอาหารที่มีการอุ่นเป็นระยะเวลานานๆ. รักษาอาหารให้ร้อน โดยเฉพาะมันฝรั่งอบในฟอยล์ เมื่อทานเหลือก็นำเข้าตู้เย็นเสียเพื่อป้องกันเชื้อโบทูลิซึมซึ่งจะเจริญเติบโตได้ดีในอาหารแฉะและอุ่นเป็นเวลานาน
  4. 4
    ต้มอาหารกระป๋องที่ทำกันเองในครอบครัวเป็นเวลาอย่างน้อย 10 นาที. มันจะฆ่าเชื้อโบทูลิซึม จงตรวจสอบขั้นตอนการนำอาหารแต่ละอย่างมาเก็บใส่กระป๋องก่อนเริ่มทำอยู่เสมอ
  5. 5
    ใช้หม้ออบความดันสูงมาใช้ปรุงอาหารที่มีปริมาณกรดต่ำ อย่างผัก. การผลิตอาหารกระป๋องเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ เพราะว่ากรดฆ่าแบคทีเรียได้ อาหารที่ปราศจากกรดจึงต้องนำมาผ่านความร้อนสูงก่อนจะเก็บถนอมเอาไว้อย่างปลอดภัย[2]
  6. 6
    เก็บน้ำมันที่ผสมกระเทียมหรือสมุนไพรไว้ในตู้เย็น. ถ้าหากน้ำมันได้รับการผสมกับอะไรก็ตามที่ดึงขึ้นมาจากพื้นดิน ให้แน่ใจว่ามันถูกแช่เย็น ถ้าคุณทำน้ำมันใช้เอง ก็ต้องทำความสะอาดและ/หรือปอกทุกอย่างจนหมดจด[3]
  7. 7
    ล้างแผลใดๆ ด้วยสบู่และน้ำ ก่อนทายาปฏิชีวนะและผ้าปิดแผล. สามารถป้องกันเชื้อโบทูลิซึมที่เข้าสู่ร่างกายทางบาดแผลนั้นได้เสมอด้วยการทำความสะอาดแผลอย่างถูกวิธี[4]
  8. 8
    ไปพบแพทย์ทันทีถ้าหากตัวทารกนั้นแสดงอาการเซื่องซึม ร้องเสียงอ่อนเบาแรง หรือดูไม่ขยับเคลื่อนไหว. โบทูลิซึมสามารถรักษาหายได้ แต่มันเป็นโรคร้ายแรงที่ควรได้รับการตรวจรักษาทันทีเท่าที่จะทำได้
  9. 9
    พบแพทย์ทันทีถ้าคุณเห็นภาพซ้อน แขนขาขยับไม่ได้ พูดลิ้นพันกัน หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง. ผู้ใหญ่จะแสดงอาการของโรคออกมาภายใน 1-3 วันนับจากการติดเชื้อ[5]
  10. 10
    เรียนรู้ว่าโบทูลิซึมหลายประเภทไม่สามารถป้องกันได้. โบทูลิซึมโผล่มาในที่ไม่คาดคิดได้เสมอ เช่นตามพื้นดิน อย่างไรก็ดี ถ้าตรวจพบอาการเร็ว มันสามารถรักษาหายได้[6]
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

เข้าใจโบทูลิซึม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เรียนรู้โบทูลิซึมประเภทต่างๆ.
    โบทูลิซึมนั้นเกิดยาก แต่พอเกิดขึ้นก็ถือเป็นเรื่องฉุกเฉินทางการแพทย์ ไม่ว่าจะไปติดโบทูลิซึมทางไหน มันนำไปสู่การเป็นอัมพาตหรือถึงตายได้ การรู้ว่าไปติดเชื้อทางไหนเป็นก้าวแรกของการป้องกัน ต่อไปนี้คือโบทูลิซึมประเภทต่างๆ:
    • ภาวะโบทูลิซึมจากอาหารเกิดขึ้นเมื่อใครรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย
    • ภาวะโบทูลิซึมจากบาดแผลเกิดขึ้นเมื่อเชื้อเข้าไปบางปากแผลสด และเป็นผลให้ร่างกายเริ่มสร้างสารพิษ ภาวะแบบนี้จะมีโอกาสเกิดขึ้นกับผู้ที่ทำงานอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่สกปรกหรือผู้ที่แชร์เข็มฉีดยาร่วมกัน[7]
    • ภาวะโบทูลิซึมในเด็กทารกเกิดขึ้นเมื่อตัวทารกนำสปอร์ของเชื้อโบทูลิซึมเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งจะเข้าไปเจริญเติบโตในอวัยวะภายในและสร้างสารพิษขึ้นมา
    • ภาวะโบทูลิซึมในอวัยวะภายในของผู้ใหญ่เกิดขึ้นเมื่อผู้ใหญ่นำสปอร์ของเชื้อโบทูลิซึมเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งจะเข้าไปเจริญเติบโตในอวัยวะภายในและสร้างสารพิษขึ้นมา
    • โบทูลิซึมไม่ใช่โรคติดต่อ อย่างไรก็ตามคนที่รับประทานอาหารเดียวกันที่มีการปนเปื้อนก็มีโอกาสที่จะเกิดปฏิกิริยาตอบสนองอย่างเดียวกัน ซึ่งทำให้คนทั่วไปเข้าใจไปว่า “ติด” มาจากคนอื่นได้
  2. How.com.vn ไท: Step 2 รู้ว่าประเภทไหนที่สามารถป้องกันได้.
    น่าเสียดายที่ไม่ใช่โบทูลิซึมทุกประเภทจะสามารถป้องกันได้ ภาวะโบทูลิซึมจากอาหารและจากบาดแผลสามารถป้องกันได้ แต่ภาวะโบทูลิซึมในเด็กทารกและในอวัยวะภายในนั้นป้องกันไม่ได้ นี่คือสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้ไว้:
    • ภาวะโบทูลิซึมจากอาหารสามารถป้องกันได้โดยการระมัดระวังเวลาเตรียมทำอาหาร
    • ภาวะโบทูลิซึมจากบาดแผลสามารถป้องกันได้โดยการทำความสะอาดแผลและรักษาแผลอย่างถูกต้องในทันที หลีกเลี่ยงภาวะนี้ได้โดยการไม่ใช้เข็มฉีดยาหรือสูดดมยาเสพติด
    • ภาวะโบทูลิซึมในเด็กทารกและในอวัยวะภายในนั้นเกิดจากสปอร์ของแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในดิน ไม่ว่าคุณจะทำความสะอาดบ้านได้เกลี้ยงเกลาแค่ไหน หรือทนุถนอมลูกวัยแบเบาะไม่ให้เล่นในลานดินนอกบ้านอย่างไร ก็ไม่มีทางที่จะป้องกันไม่ให้สปอร์เข้าสู่ร่างกายได้ ข่าวดีก็คือโบทูลิซึมนั้นหาได้ยากมากๆ และไม่อันตรายสักเท่าไหร่ถ้าตรวจพบรักษาทันเวลา[8]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 รู้อาการของภาวะโบทูลิซึม.
    อาการของโบทูลิซึมสามารถปรากฏขึ้นตั้งแต่หลังรับประทานอาหารปนเปื้อนไปหกชั่วโมง และสามารถเกิดอาการสายไปถึงสิบวัน โบทูลิซึมเป็นอันตรายถ้าไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที ถ้าหากคุณมีอาการดังต่อไปนี้และสันนิษฐานว่ามาจากภาวะโบทูลิซึม ให้ไปพบแพทย์ในทันที นี่คืออาการโดยทั่วไปจากการเกิดภาวะโบทูลิซึม:
    • เห็นภาพซ้อน ภาพเบลอ หรือหนังตาตก
    • พูดจาลิ้นพันกัน
    • กลืนอะไรลำบากหรือปากแห้ง
    • กล้ามเนื้ออ่อนแรง
  4. How.com.vn ไท: Step 4 สังเกตดูภาวะโบทูลิซึมในเด็กทารก.
    ภาวะโบทูลิซึมส่วนใหญ่จะเกิดกับเด็กทารก ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องจับตาดูอาการ[9] ถ้าหากลูกตัวน้อยของคุณแสดงสัญญาณอย่างหนึ่งอย่างใดของการเป็นอัมพาตที่สืบเนื่องมาจากภาวะโบทูลิซึม ให้ไปพบแพทย์ทันที:
    • ดูท่าทางเซื่องซึม
    • กินอาหารไม่ได้
    • ร้องออกมาแบบไม่มีเสียง
    • ขยับแขนขาแบบเปลี้ยไม่มีเรี่ยวแรง
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

การป้องกันภาวะโบทูลิซึมทางอาหาร

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 รู้ว่าอาหารประเภทไหนที่สุ่มเสี่ยงต่อการปนเปื้อนแบคทีเรีย....
    รู้ว่าอาหารประเภทไหนที่สุ่มเสี่ยงต่อการปนเปื้อนแบคทีเรีย. ภาวะโบทูลิซึมมักจะมีสาเหตุจากการบริโภคอาหารที่ผ่านการหมักดองหรือเก็บรักษาไม่ถูกสุขลักษณะ ตัวอย่างเวลาที่เชื้ออาจปนเปื้อนอยู่ในอาหารได้แก่:[10]
    • ปลาที่ได้รับการหมักดองโดยมีความเค็มหรือความเป็นกรดในน้ำเกลือไม่เพียงพอต่อการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
    • เนื้อปลารมควันที่เก็บไว้ในอุณหภูมิสูงเกินไป
    • ผักผลไม้ที่มีความเป็นกรดสูงไม่พอต่อการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
    • อาหารกระป๋องที่ไม่ได้รับการบรรจุใส่กระป๋องด้วยกรรมวิธีทันสมัยได้มาตรฐาน
    • ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำผึ้งสำหรับใครก็ตามที่มีอายุต่ำกว่าหนึ่งขวบและสำหรับใครก็ตามที่ระบบภูมิคุ้มกันดันแพ้ในเรื่องนี้
  2. How.com.vn ไท: Step 2 เตรียมอาหารด้วยความระมัดระวัง.
    ทุกครั้งที่ปรุงอาหาร ให้แน่ใจว่าได้เตรียมอาหารอย่างปลอดภัยถูกสุขลักษณะ ด้านล่างนี้เป็นข้อปฏิบัติเบื้องต้นของสุขอนามัยภายในครัวที่คุณควรกระทำตามทุกครั้ง:
    • ล้างเศษดินออกจากผักผลไม้ เชื้อแบคทีเรียโบทูลินัมอาศัยอยู่ในดิน และอาหารชนิดใดก็ตามที่ยังคงมีเศษดินอยู่สามารถก่ออันตรายได้
    • ถูผิวมันฝรั่งให้สะอาดก่อนนำไปอบ มันฝรั่งที่ห่อและอบในกระดาษฟอยล์ควรจะถูกเก็บให้ร้อนจนถึงเวลารับประทานหรือเก็บไว้ในตู้เย็น
    • ล้างเห็ดก่อนใช้ปรุงอาหาร เพื่อขจัดเศษดิน
    • ต้มอาหารกระป๋องที่ทำเองที่บ้านเป็นเวลา 10 นาทีก่อนนำมารับประทาน
    • ซาลซ่าทำเองหรือชีสซอสสมควรเก็บไว้ในตู้เย็น
    • ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมทุกชนิดต้องเก็บไว้ในตู้เย็น
    • ทิ้งอาหารผ่านความร้อนที่อยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่มีร่องรอยว่ามีการรั่วซึมของภาวะสุญญากาศ เช่น อาหารกระป๋องที่มีรูเข็มหรือขึ้นสนิม
    • และในกรณีที่คุณกำลังผจญภัยหรือใช้ชีวิตกลางแจ้ง หลีกเลี่ยงการรับประทานเนื้อสัตว์ที่ถูกรถชนหรือสัตว์น้ำที่ซากลอยมาติดฝั่ง คุณไม่รู้ว่าเจ้าสัตว์พวกนี้ตายมานานแค่ไหนแล้วและเชื้อแบคทีเรียอาจจะปนเปื้อนอยู่ในนั้นแล้วก็ได้
  3. How.com.vn ไท: Step 3 รู้ว่าเมื่อไหร่ต้องทิ้งอาหาร.
    บางครั้งคนเราก็ติดเชื้อโบทูลิซึมได้จากการรับประทานอาหารสำเร็จรูปบรรจุห่อที่ถูกปนเปื้อน การรู้ว่าเมื่อไหร่ที่จะ “ห้าม” กินอาหารสำเร็จรูปบรรจุห่อหรืออาหารสำเร็จเป็นวิธีสำคัญที่จะป้องกันเชื้อโบทูลิซึม ตัวสปอร์โบทูลิซึมนั้นไม่มีรสชาติและกลิ่น ดังนั้นอย่าวางใจกับการแค่ดมกลิ่นอาหารแล้วตัดสินใจว่ามันปลอดภัยหรือไม่[11]
    • ถ้าอาหารกระป๋องมีรอยบุบ มีบางส่วนถูกเปิดออก หรือดูผิดรูปทรง อย่ารับประทานอาหารข้างในนั้น
    • ถ้าอาหารกระป๋องมีเสียงฟู่ มีฟอง หรือมีกลิ่นเหม็นโชยเวลาเปิดฝา ทิ้งมันไปซะ
    • ถ้าฝาถูกเปิดออกมาอย่างง่ายดายเกินไป ทิ้งมันไป
    • ถ้าหากอาหารมีกลิ่นเหม็น ทิ้งมันไปซะ เว้นเสียแต่ว่าคุณทราบดีว่าอาหารในกระป๋องจะต้องมีกลิ่นเหม็นแบบนั้น (มีไม่กี่กรณีที่อาหารหมักดองที่กินได้หรือผลิตภัณฑ์อาหารที่ถูกเก็บไว้เป็นเวลานานจะมีกลิ่นเหม็นตามธรรมชาติสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่อาหารจำพวกนี้มีไม่เยอะนัก
    • ถ้าหากมีคราบหรืออาหารเปลี่ยนสี ทิ้งไปซะ
    • ถ้าหากรู้สึกไม่แน่ใจ ให้ตัดใจทิ้งเสมอ มันไม่คุ้มที่จะเสี่ยงหรอก
  4. How.com.vn ไท: Step 4 อย่าป้อนน้ำผึ้งแก่เด็กที่มีอายุต่ำกว่าหนึ่งขวบ....
    อย่าป้อนน้ำผึ้งแก่เด็กที่มีอายุต่ำกว่าหนึ่งขวบ. เด็กอายุน้อยขนาดนี้ยังไม่ได้พัฒนาระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจนสามารถฆ่าเชื้อโบทูลิซึมที่อาจเจริญเติบโตในน้ำผึ้งได้ ผู้ใหญ่มีระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงพอที่จะรับมือเรื่องนี้ได้อย่างสบาย
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

ใช้เทคนิคการถนอมอาหารอย่างปลอดภัย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 หาสูตรการถนอมอาหารที่ทันยุค.
    ตลอดเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมานี้ เทคนิคการถนอมอาหารและการบรรจุกระป๋องเองที่บ้านได้รับการพัฒนาตามความเข้าใจใหม่ๆ ในเรื่องแบคทีเรียและการถนอมอาหาร นั่นหมายถึงหนังสือหรือสูตรภายในช่วงเวลานี่จะสามารถช่วยให้คุณเรียนรู้กระบวนการและให้คำแนะนำที่ปลอดภัย
    • การที่มันอยู่ในอินเตอร์เน็ตไม่ได้หมายความว่ามันทันสมัย สูตรเก่าๆ มีให้เห็นออนไลน์เหมือนที่ได้เห็นหนังสือเก่าๆ เช่นกัน! ตรวจดูแหล่งที่มาและเอ่ยถาม ถ้าหากมีข้อสงสัย ให้มองข้ามไปหาแหล่งข้อมูลใหม่ที่คุณตรวจสอบได้ว่าทันยุคดีกว่า
    • อาจมีทางเป็นไปได้ที่จะอัพเดตสูตรถนอมอาหารเก่าๆ โดยการตรวจเช็คข้อมูลกับภาคที่ใหม่กว่า ส่วนที่สูตรเก่าๆ ไม่มี (หลายอย่างไม่ได้ถูกกล่าวถึงเพราะคนทำอาหารในสมัยก่อนรู้จากการทำซ้ำๆ กันเรื่อยมา) อาจจะแก้ไขได้โดยการแทรกขั้นตอนที่หายไปซึ่งพิจารณาแล้วน่าจะสำคัญต่อความปลอดภัย
  2. How.com.vn ไท: Step 2 หลีกเลี่ยงอาหารกระป๋องที่มีความเป็นกรดต่ำเว้นแต่ว่าคุณได้เตรียมเครื่องไม้เครื่องอย่างถูกต้อง....
    หลีกเลี่ยงอาหารกระป๋องที่มีความเป็นกรดต่ำเว้นแต่ว่าคุณได้เตรียมเครื่องไม้เครื่องอย่างถูกต้อง. ความเป็นกรดทำลายเชื้อโบทูลินัม แต่ในเวลาที่ระดับความเป็นกรดลดน้อยลงหรือไม่มีเลยนั้น ความเสี่ยงที่แบคทีเรียจะแพร่เชื้อมีสูงขึ้น โดยเฉพาะผักหลายชนิดไม่ได้เหมาะแก่การถนอมแบบกระป๋องถ้าหากไม่สามารถให้ความร้อนแก่มันด้วยอุณหภูมิที่สูงมาก
    • ผักที่มีความเป็นกรดน้อยแต่ถูกปลูกในสวนโดยทั่วไปและอาจชวนให้อยากนำมันมาถนอมในกระป๋องได้แก่ หน่อไม้ฝรั่ง ถั่วลันเตา มะเขือเทศ พริกชี้ฟ้า บีต แครอท และข้าวโพด
    • เป็นไปได้ที่จะถนอมผักเหล่านี้ในกระป๋อง แต่ก็ต่อเมื่อคุณมีอุปกรณ์ที่สามารถให้ความร้อนได้ “เกิน” จุดเดือดของน้ำเท่านั้น มันต้องใช้เครื่องอัดกระป๋องแบบพิเศษที่สามารถเป็นหม้ออัดความดันได้ด้วย ถ้าหากคุณตัดสินใจซื้อ ลองอ่านคำแนะนำด้วยความระมัดระวังและทำตามขั้นตอนอย่างใกล้ชิดเพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้ทำตามอย่างถูกต้อง
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ใช้ส่วนผสมที่ถูกต้องในการฆ่าเชื้อ.
    แอลกอฮอล์, น้ำเกลือและน้ำเชื่อมจะฆ่าแบคทีเรีย ในกรณีของน้ำเกลือและน้ำเชื่อมนั้นจะต้องทำร่วมไปกับการให้ความร้อนซึ่งจะฆ่าเชื้อโรคขนาดจิ๋วเหล่านี้ และเช่นเดียวกับการฆ่าแบคทีเรีย สารที่มีคุณสมบัติเป็นด่างเหล่านี้ยังฆ่าเชื้อไวรัส เชื้อเห็ดราอีกด้วย
    • การเพิ่มความเป็นกรดให้อาหารที่มีความเป็นกรดน้อยจะช่วยฆ่าแบคทีเรียได้แต่ก็ยังต้องมีกระบวนการให้ความร้อนร่วมอยู่ด้วย ดังนั้น น้ำมะนาว กรดซิตริก น้ำส้มสายชูและตัวที่เป็นกรดอื่นๆ ที่สามารถนำมาใช้เพิ่มความเป็นกรดให้อาหารนั้นจะต้องผ่านการถนอมรักษาโดยใช้วิธีให้ความร้อน
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ใช้วิธีที่ให้ความร้อนระดับสูงพอต่อการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย....
    ใช้วิธีที่ให้ความร้อนระดับสูงพอต่อการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย. ดังที่ได้กล่าวเอาไว้แล้ว แม้แต่จุดเดือดในระดับน้ำทะเลยังไม่เพียงพอสำหรับอาหารที่มีความเป็นกรดต่ำ (เชื้อโบทูลิซึมสามารถมีชีวิตรอดในอุณหภูมิที่สูงกว่า 212ºF/100ºC อย่างไรก็ตาม สำหรับอาหารที่มีความเป็นกรด ความร้อนจะฆ่าเชื้อร่วมกับสภาพกรดนั้น วิธีการอัดกระป๋องสมัยใหม่นั้นได้แก่:
    • วิธีใช้กระทะ: ล้างและฆ่าเชื้อโถที่จะใช้ใส่อาหารโดยการนำไปแช่น้ำเดือดนานห้านาที เติมผลไม้ลงในโถจนเต็มและเติมซีลยางที่ที่แช่ในน้ำเดือดไว้ที่ปากโถก่อนจะปิดฝา นำโถไปตั้งบนกระทะร้อนในเวลาตามที่กำหนดในสูตร
    • วิธีใช้เตาอบ: เปิดเตาอบทิ้งไว้ให้ร้อน นำผลไม้ใส่โถและปิดฝาบนโถไว้หลวมๆ วางโถไว้บนถาดหรือแผ่นอบขนมปังแล้วนำเข้าเตาอบตามเวลาที่ตั้งไว้ (ขึ้นอยู่กับสูตร) เสร็จแล้วนำออกมาจากเตา เติมน้ำเกลือหรือน้ำเชื่อมที่อุ่นจนเดือด ปิดฝาให้แน่นและทิ้งไว้ให้เย็น
  5. How.com.vn ไท: Step 5 สำหรับอาหารสดให้ผ่านกระบวนการให้ความร้อนที่ 240ºF/115.6ºC หรือสูงกว่านั้น....
    สำหรับอาหารสดให้ผ่านกระบวนการให้ความร้อนที่ 240ºF/115.6ºC หรือสูงกว่านั้น. มันจะได้ทำลายสปอร์ที่อาจมีอยู่ในนั้น เช่นเดียวกับผักที่มีความเป็นกรดต่ำ ซึ่งจะต้องอาศัยเครื่องอัดกระป๋องแบบความดันที่สามารถเพิ่มอุณหภูมิให้สูงขนาดนี้หรือมากกว่านี้ได้
    • ให้ความร้อนอาหารประเภทเนื้อในกระป๋องที่อุณหภูมิ 212ºF/100ºC หลังเปิด จากนั้นค่อยลดความร้อนลงและตั้งทิ้งบนกระทะอีกอย่างน้อย 15 นาทีจนกว่าจะพอใจว่าเชื้อแบคทีเรียถูกฆ่าเกลี้ยงแล้ว
  6. How.com.vn ไท: Step 6 หาวิธีทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าการถนอมอาหารทางกระป๋อง....
    หาวิธีทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าการถนอมอาหารทางกระป๋อง. การถนอมอาหารทางกระป๋องเป็นศิลปะที่ต้องการความพยายามและการเอาใจใส่มากมาย ถ้านั่นไม่ใช่สิ่งที่คุณสนใจ ยังมีทางอื่นที่ปลอดภัยสำหรับถนอมอาหาร ซึ่งได้แก่:
    • อาหารแช่แข็ง: ให้แน่ใจว่าได้ศึกษาข้อมูลของอาหารชนิดที่ว่า เพราะอาหารแต่ละอย่างต่างต้องการการแช่เย็นต่างกัน ในขณะที่บางอย่างอาจไม่สามารถรอดจากกระบวนการแช่แข็งเลย
    • อาหารแห้ง: การทำแห้งจะฆ่าแบคทีเรีย ยีสต์ รา และเอ็นไซม์ และก็เหมือนกันว่าต้องทำตามคำแนะนำให้ออกมาถูกกรรมวิธี
    • น้ำส้มสายชู: อาหารบางชนิดสามารถเก็บถนอมไว้ในน้ำส้มสายชูได้ ส่วนใหญ่ก็มักเป็นแตงกวา โดยใส่เครื่องเทศเพิ่มเพื่อปรุงรส
    • รมควัน: อาหารบางอย่าง เช่นเนื้อหรือปลาสามารถนำมารมควันได้
    • ไวน์, ไซเดอร์, เบียร์ หรือเหล้า: เปลี่ยนผักและผลไม้เป็นแอลกอฮอล์แล้วแบคทีเรียจะจากไป
  7. How.com.vn ไท: Step 7 ทำการแช่ในน้ำมันอย่างปลอดภัย.
    ไม่ว่าอาหารชนิดใดก็มีสิทธิติดเชื้อได้ถ้าหากเติบโตในดินหรือสัมผัสกับดิน การถนอมอาหารโดยใช้น้ำมันยังคงเป็นวิธีที่ปลอดภัย แต่ใช้ด้วยความระมัดระวังดังที่อธิบายตามขั้นตอนต่อไปนี้[12]
    • ทำการแช่ในน้ำมันอย่างปลอดภัย. ไม่ว่าอาหารชนิดใดก็มีสิทธิติดเชื้อได้ถ้าหากเติบโตในดินหรือสัมผัสกับดิน การถนอมอาหารโดยใช้น้ำมันยังคงเป็นวิธีที่ปลอดภัย แต่ใช้ด้วยความระมัดระวังดังที่อธิบายตามขั้นตอนต่อไปนี้
    • เติมสารที่ช่วยเพิ่มความเป็นกรด กฎหมายของทางสหรัฐบังคับให้การเตรียมอาหารแช่น้ำมันทุกประเภทต้องใช้ สารช่วยเพิ่มความเป็นกรดทั่วไปที่หาซื้อได้ง่ายก็เช่น น้ำมะนาว น้ำส้มสายชู และกรดซิตริก อัตราส่วนก็คือสารช่วยเพิ่มความเป็นกรดหนึ่งช้อนโต๊ะต่อน้ำมันหนึ่งถ้วย
    • เอาน้ำมันผสมแช่ตู้เย็น ถ้าคุณมีชั้นใต้ดินที่มืดและเย็น อาจเพียงพอต่อการเก็บ แต่ควรปลอดภัยไว้ก่อน การแช่ตู้เย็นเป็นวิธีที่จะเก็บรักษาน้ำมันผสมไว้ใช้ได้นานขึ้น
    • ทิ้งน้ำมันไปทันทีถ้าเห็นว่ามันเริ่มขุ่น เป็นฟองและมีกลิ่นเหม็น
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • อย่าบริโภคอะไรก็ตามที่คุณนำมาอัดใส่กระป๋องเองเว้นแต่คุณมั่นใจว่าได้จัดการมันอย่างถูกวิธีระหว่างขั้นตอนการเตรียม
  • ถ้าหากคุณยังเป็นมือใหม่ในการใช้กระป๋องถนอมอาหารด้วยตัวเอง จงเรียนรู้เรื่องพิษเหล่านี้ก่อน!
  • กระทรวงเกษตรของสหรัฐมีเว็บไซต์พิเศษที่ให้ความรู้เรื่องคำแนะนำการทำอาหารกระป๋องด้วยตัวเองที่: http://www.uga.edu/nchfp/publications/publications_usda.html.
โฆษณา

คำเตือน

  • ผู้คนที่รอดจากการติดเชื้อโบทูลิซึมมาได้มักมีอาการเหนื่อยเพลียและหายใจไม่สะดวกอีกเป็นเวลาหลายปี จึงจำเป็นต้องรับการเยียวยาระยะยาวเพื่อช่วยในการฟื้นฟูร่างกายตนเอง
  • โบทูลิซึมอาจทำให้ถึงตายได้เนื่องจากภาวะการหายใจล้มเหลว
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

วิกิฮาวเป็น "wiki" ซึ่งหมายความว่าบทความหลายๆ บทความของเรานั้นเป็นการร่วมมือกันเขียนของผู้เขียนหลายคน ในการเขียนบทความชิ้นนี้ ผู้คน 14 คน ซึ่งบางคนไม่ขอเปิดเผยตัว ได้ร่วมกันเขียนและปรับปรุงเนื้อหาของบทความอย่างต่อเนื่อง บทความนี้ถูกเข้าชม 2,206 ครั้ง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 2,206 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา