ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความX
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Tabitha Kucera. ทาบิตา คูเซราเป็นเจ้าหน้าที่เทคนิคการสัตวแพทย์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน ผู้ให้คำปรึกษาด้านพฤติกรรมแมวและสุนัข และเจ้าของ Chirrups and Chatter Cat and Dog Behavior Consulting and Training ซึ่งอยู่ที่คลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ ทาบิตามีประสบการณ์มากกว่าสิบปีในการทำงานที่โรงพยาบาลสัตว์ องค์กรช่วยเหลือชีวิตสัตว์ในฟาร์ม ศูนย์ช่วยเหลือแมวและสุนัข ทาบิตาได้ช่วยพัฒนาโปรแกรมการฝึกและปรับพฤติกรรมให้แก่โรงพยาบาลสัตว์และศูนย์พักพิงสัตว์ต่างๆ เธอทำงานเป็นผู้ให้คำปรึกษาแก่ศูนย์พักพิงสัตว์หลายแห่งและดำเนินกิจการส่วนตัวด้านสัตว์แพทย์ ประสบการณ์การสอนของเธอประกอบด้วยการบรรยายระดับภูมิภาคและระดับชาติ รวมทั้งการบรรยายในหลักสูตรด้านเทคนิคการสัตวแพทย์ต่างๆ เธอเป็นนักพูดที่มีใบรับรองด้านการลดความกลัว ผู้ให้คำปรึกษาที่มีใบรับรองด้านการปฏิบัติตามหลักลดความกลัว ผู้ให้คำปรึกษาด้านพฤติกรรมของ Cat Pawsitive Pro และผู้จัดรายการพอดแคสต์ชื่อ Tails from a Vet Tech ปัจจุบันเธอเป็นสมาชิกของคณะกรรมการ Pet Professional Guild’s Cat Committee และเป็นประธานสมาคม Veterinary Behavior Technicians เธอเป็นเจ้าหน้าที่เทคนิคการสัตวแพทย์ที่มีใบรับรองด้านการลดความกลัวระดับชั้นยอดและการควบคุมดูแลให้มีความเครียดต่ำ ผู้ให้คำปรึกษาด้านพฤติกรรมแมวที่มีใบรับรอง หุ้นส่วนการฝึกอบรมที่มีใบรับรองจาก Karen Pryor Academy
มีการอ้างอิง 7 ข้อที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ
บทความนี้ถูกเข้าชม 24,938 ครั้ง
เมื่อแมวของคุณกำลังจะตายก็อาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับคุณที่ต้องทำใจกับการสูญเสียมัน[1] อย่างไรก็ตาม คุณสามารถใช้ช่วงเวลานี้กับแมวให้ดีที่สุดโดยทำให้มันสบายตัวให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แทนที่จะเสียใจกับสิ่งที่คุณรู้ว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ให้ตักตวงช่วงเวลานี้เพื่ออยู่กับแมวและจดจำว่ามันเป็นสิ่งที่พิเศษแค่ไหนสำหรับคุณ
ขั้นตอน
ลดเสียงและกิจกรรมที่อยู่รอบตัวแมวให้น้อยที่สุด. เมื่อแมวของคุณใกล้จะจบชีวิตแล้ว คุณต้องทำให้มันสบายที่สุดในพื้นที่ของมันเอง มันจะต้องการสิ่งแวดล้อมที่สงบและเงียบซึ่งปราศจากกิจกรรมที่มีเสียงดังและความวุ่นวาย เช่น ถ้าคุณมีสัตว์เลี้ยงตัวอื่นด้วย คุณอาจจะต้องกั้นบริเวณไม่ให้อยู่ร่วมกัน- ลองย้ายบริเวณพักผ่อนของแมวไปยังส่วนอื่นของบ้านที่จะไม่ได้เห็นกิจกรรมหรือได้ยินเสียงมากนัก[2]
- ถ้าการย้ายบริเวณพักผ่อนของแมวไปยังส่วนอื่นของบ้านเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่เกินไปสำหรับมัน คุณก็ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของคุณเองเช่นเดียวกับสมาชิกครอบครัวเพื่อลดปริมาณกิจกรรมและเสียงที่อยู่รอบตัวแมว
- ปล่อยให้แมวเลือกที่ที่มันอยากนอน[3] มันอาจจะเลือกบริเวณที่มันจะได้ความสงบและเงียบอย่างที่ต้องการตามสัญชาตญาณ
- การเล่นดนตรีนุ่มๆ เสียงเบาๆ ให้แมวฟังสามารถทำให้มันรู้สึกสบายมากขึ้น ดนตรีที่ช่วยปลอบประโลม ได้แก่ เสียงนกร้องหรือเสียงน้ำไหล
- ความวุ่นวายของชีวิตประจำวันอาจจะวุ่นวายเกินไปที่แมวจะรับได้ในช่วงท้ายของชีวิตและอาจจะทำให้อาการป่วยและสุขภาพของมันแย่ลง
หาเบาะเสริมให้แมว. เมื่อแมวกำลังจะตาย มันอาจจะไม่สามารถพักผ่อนได้อย่างสบายอย่างที่เคย ผ้าห่มและเบาะเสริมจะเป็นที่นอนที่นุ่มขึ้นทำให้มันนอนและรู้สึกสบายตัว เบาะเสริมยังสามารถช่วยป้องกันอาการเจ็บจากแผลกดทับที่อาจจะเกิดขึ้นถ้ามันนอนท่าเดิมเป็นเวลานาน [4]- แมวของคุณอาจจะทำที่นอนเปียกเพราะปัญหาในการควบคุมกระเพาะปัสสาวะหรือการที่ไม่สามารถเดินไปยังกระบะทรายได้ [5]เลือกเบาะเสริมที่ทำความสะอาดได้ง่าย เช่น ผ้าห่มและผ้าขนหนู
- เบาะที่ทำจากโฟมอาจจะนอนสบายแต่ทำความสะอาดได้ยาก
- ลองดูเบาะเป็นประจำเพื่อดูว่ามันเปียกหรือไม่ (ปัสสาวะ อุจจาระ) และทำความสะอาดให้บ่อยเท่าที่จำเป็น
- เบาะเสริมยังช่วยให้แมวอบอุ่น แมวแก่ที่กำลังจะตายอาจจะไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิร่างกายและหนาวได้ง่าย [6]
ปรับเปลี่ยนแสงไฟที่อยู่ใกล้แมว. การเปลี่ยนแสงไฟให้แมวสามารถทำให้มันรู้สึกสบายมากขึ้น ในช่วงระหว่างวันก็ให้เปิดหน้าต่างหรือผ้าม่านเพื่อให้แสงธรรมชาติเข้ามารำไร เมื่อพระอาทิตย์ตกดินก็ควรเปิดไฟสลัวที่นุ่มนวล- เปิดไฟสลัวทิ้งไว้เมื่อถึงเวลาเข้านอน มันอาจจะรู้สึกสบายมากขึ้นเมื่อมีไฟสลัวมากกว่าอยู่ท่ามกลางความมืดสนิท
- ไปร้านขายวัสดุปรับปรุงบ้านเพื่อดูทางเลือกของแสงไฟให้แมว
วางของที่ทำเป็นไว้ใกล้ๆ. เมื่อแมวของคุณกำลังจะตาย มันอาจจะไม่สามารถยืนหรือเดินไปรอบๆ ระยะทางที่มันเคยเดินไปยังกระบะทรายและถาดอาหารและน้ำอาจจะไกลเกินไปสำหรับตอนนี้ วางถาดอาหารและกระบะทรายไว้ใกล้ๆ ให้มันเดินไปได้เพื่อลดความลำบากของการกิน ดื่มน้ำ และใช้กระบะทรายให้น้อยที่สุด [7]- แม้ว่าคุณจะวางไว้ใกล้ๆ แต่มันอาจจะไม่สามารถยืนขึ้นได้ด้วยตัวเอง คุณสามารถทำผ้าพยุงด้วยผ้าขนหนูหรือผ้าห่ม หรือซื้อผ้าพยุงเพื่อช่วยให้มันเดินได้[8]
- วางของเล่นชิ้นโปรดไว้ใกล้ๆ
โฆษณา
ให้อาหารที่อร่อย. ในช่วงต้นของชีวิต คุณอาจจะจำกัดปริมาณของอาหารที่อร่อยเพื่อให้แมวรักษาสุขภาพ แต่ตอนนี้มันกำลังจะตาย ทำไมไม่ให้มันดื่มดำกับอาหารสักหน่อย? เอาใจแมวด้วยปลาทูน่า เช่น เนื้อปลาหรือแม้แต่น้ำปลาทูน่าที่โรยอยู่บนอาหาร [9]- อาหารเด็กทารกที่ทำจากเนื้อ[10]เช่น ไก่งวงคืออาหารอร่อยอีกประเภทที่คุณสามารถให้กับแมวที่กำลังจะตาย คุณต้องไม่ให้อาหารที่มีส่วนผสมของผงหัวหอมเพราะหัวหอมเป็นพิษกับแมว [11]
- อาหารแมวชั้นดีคืออีกทางเลือกหนึ่งของอาหารอร่อย [12]
- ไม่ว่าคุณจะให้อาหารอะไรกับมันก็ควรให้อาหารที่มีกลิ่นแรงและหอม แมวของคุณอาจจะไม่อยากกินอาหารในช่วงสุดท้ายของชีวิต[13]แต่การให้อาหารที่มีกลิ่นหอมมากอาจจะช่วยให้มันอยากกินสักหน่อย
ทำอาหารที่มันกินได้ง่าย. แมวไม่เพียงแต่จะไม่อยากกินอาหารเมื่อมันกำลังจะตายเท่านั้น แต่มันอาจจะไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้ละเอียด ฉะนั้นคุณจะต้องทำอาหารที่มันกินได้ง่าย คุณสามารถทำให้อาหารแห้งนุ่มขึ้นด้วยการแช่น้ำหรือบดมัน- นอกเหนือจากการบดอาหารแห้งแล้ว คุณสามารถปั่นมันในเครื่องปั่นอาหารได้
- ถ้าคุณให้อาหารเด็กทารกกับแมว คุณสามารถผสมน้ำลงไปด้วยเพื่อให้อาหารนิ่มขึ้น
- การอุ่นอาหารแมวสามารถทำให้มันกินอาหารได้ง่ายขึ้นและอยากกินมากขึ้น [14]
- ปรึกษาสัตวแพทย์ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าอาหารประเภทใดที่แมวกินได้และมันอยากกินอาหารแบบใดในช่วงบั้นปลายชีวิต
จัดหาน้ำสะอาดให้แมว. ในช่วงท้ายของชีวิต แมวอาจจะไม่อยากดื่มน้ำมากเท่าที่เคย อาการอยากน้ำของร่างกายของมันอาจจะไม่ชัดเจน ฉะนั้นมันอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันต้องดื่มน้ำ การทำให้แมวที่กำลังจะตายของคุณได้รับน้ำเพียงพอเป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อให้มันรู้สึกสบาย- คุณสามารถให้น้ำอุ่นแทนน้ำเย็น
- ถ้าแมวของคุณอ่อนแอหรือเจ็บตัวเกินไปที่จะดื่มน้ำจากชาม คุณจะต้องช่วยมันด้วยการค่อยๆ ยกหัวของมันให้ตรง
- มันอาจจะไม่อยากเปิดปากเพื่อดื่มน้ำ ฉะนั้นคุณอาจจะต้องใช้สลิ้งหยอดยาเพื่อหยอดน้ำ [15] ในขณะที่คุณค่อยๆ ยกหัวของมันก็ให้สอดสลิ้งหยอดยาข้างๆ ฟันซี่ในด้านในแก้ม เมื่อมันอ้าปากก็ให้ฉีดน้ำลงคอ
โฆษณา
ระบุปัญหาสุขภาพของแมว. แมวของคุณอาจจะอยู่ในช่วงบั้นปลายชีวิต แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ควรพูดถึงปัญหาสุขภาพของมัน อันที่จริงแล้ว การไม่จัดการกับปัญหาสุขภาพของมันอาจจะทำให้มันรู้สึกไม่สบายตัวและทำให้มันตายเร็วขึ้น[16] ปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อพูดถึงปัญหาสุขภาพต่างๆ ของมัน และสิ่งที่สามารถทำได้เพื่อจัดการกับปัญหาเหล่านั้น- ถ้าแมวของคุณมีอาการป่วย เช่น มะเร็งหรือโรคไตเรื้อรังก็ให้วางแผนกับสัตวแพทย์เพื่อจัดการและบรรเทาอาการไม่สบายของแมว
ลดความเจ็บปวดของแมวให้น้อยที่สุด. แมวอาจจะเจ็บปวดมากโดยขึ้นอยู่กับอาการป่วยของมัน เมื่อมันกำลังจะตาย คุณควรทำสิ่งที่ทำได้เพื่อบรรเทาความเจ็บปวด สัตวแพทย์สามารถแนะนำชนิดของยาแก้ปวดที่แมวจะต้องกินเพื่อบรรเทาอาการปวด- จำไว้ว่าในช่วงชีวิตนี้ของแมว ยาแก้ปวดมีเพื่อทำให้มันรู้สึกสบายมากขึ้น แต่ไม่ได้รักษาอาการป่วยของมัน
- ลองใช้ที่หยอดยาเพื่อป้อนยาแก้ปวดถ้าแมวไม่สามารถอ้าปากได้ด้วยตัวเอง ใช้ที่หยอดยาในแบบที่คุณจะใช้ เมื่อมันอ้าปากก็ให้ใส่ที่หยอดยาเพื่อป้อนเม็ดยาให้ลงคอของมัน ป้อนน้ำเล็กน้อยโดยใช้ที่หยอดยาเพื่อกระตุ้นให้มันกลืนยา[17]
จัดการกับปัญหาการขับถ่ายของมัน. ความเจ็บปวด โรคภัย หรือความอ่อนแอทั่วไปสามารถทำให้แมวที่กำลังจะตายไม่สามารถไปยังกระบะทรายได้ทันเวลา ถ้าแมวของคุณไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายได้ สัตวแพทย์อาจจะจ่ายยาเพื่อจัดการกับการกลั้นไม่อยู่- แมวของคุณอาจจะมีปัญหาในการควบคุมการขับถ่าย
- ตรวจดูแมวเป็นประจำเพื่อดูการขับถ่ายของมัน [18] ค่อยๆ ทำความสะอาดอวัยวะขับถ่ายของมันเพื่อป้องกันคราบปัสสาวะและการระคายเคืองผิวอื่นๆ ซึ่งเกิดจากปัญหาการขับถ่าย [19] ทำความสะอาดด้วยผ้านุ่มๆ และน้ำอุ่น
- คุณสามารถหาซื้อผ้าอ้อมแบบใช้แล้วทิ้งสำหรับแมว ถ้าคุณหาซื้อไม่ได้ตามร้านขายของสัตว์เลี้ยงแถวบ้านก็ให้ลองหาทางออนไลน์หรือถามสัตวแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับอ้อมสำหรับแมว
- การใส่ผ้าอ้อมให้แมวอาจจะรู้สึกแปลกและท้าทายในตอนแรก ฉะนั้นคุณต้องขอคำแนะนำวิธีการใส่ผ้าอ้อมแบบที่ง่ายที่สุดจากสัตวแพทย์
โฆษณา
ปรึกษาสัตวแพทย์เกี่ยวกับการการุณยฆาต. ในขณะที่คุณกำลังใช้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่กับแมวที่กำลังจะตายให้ดีที่สุด แต่คุณจะต้องเตรียมพร้อมรับความจริงของการจากไป มันไม่ใช่เรื่องง่ายแต่เป็นสิ่งที่คุณต้องทำ การพูดคุยกับสัตวแพทย์จะช่วยให้คุณรับมือและจัดการกับการเตรียมตัวที่ยากลำบาก- การการุณยฆาตเป็นวิธีที่ไม่เจ็บปวดและมีมนุษยธรรมในการจบชีวิตของแมว การการุณยฆาตคือการที่สัตวแพทย์ให้ยาสลบเกินขนาดแก่สัตว์[20]หลังจากนั้นไม่กี่วินาที แมวของคุณจะสลบอย่างไร้สติและในที่สุดก็หยุดหายใจ [21]
- อย่ารู้สึกละอายใจหรือรู้สึกผิดเกี่ยวกับการคิดหรือพูดเกี่ยวกับการการุณยฆาต เจ้าของสัตว์เลี้ยงหลายคนรับไม่ได้กับความคิดที่จะทำให้สัตว์เลี้ยงถูกการุณยฆาต
- สัตวแพทย์สามารถช่วยให้คุณรับมือกับอารมณ์และคำถามเกี่ยวกับการการุณยฆาต
ตัดสินใจเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมกับการการุณยฆาต. หลังจากที่พูดคุยกับสัตวแพทย์แล้วก็เป็นหน้าที่ของคุณที่ต้องตัดสินใจเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมกับการการุณยฆาตแมว คุณสามารถสังเกตอาการแมวใกล้ตายว่ามันทรมาน: หลบซ่อน นอนมากขึ้น หมดแรง และไม่สนใจมนุษย์หรือไม่ค่อยเข้าใกล้[22]- ถามคำถามนี้กับตัวเอง: ‘ฉันยื้อชีวิตแมวเพื่อตัวเองหรือเพื่อแมว?’[23] คำตอบของคุณจะช่วยตัดสินใจเมื่อถึงเวลาที่ต้องการุณยฆาตแมว
- ถ้าแมวของคุณทุกข์ทรมานจริงๆ ไม่ว่าคุณจะพยายามช่วยให้มันรู้สึกสบายแค่ไหนก็ตามก็อาจจะถึงเวลาที่ต้องการุณยฆาตมัน
- วางแผนสำหรับ “เวลาที่เหมาะสม” สัตวแพทย์สามารถช่วยให้คุณเขียนแผนเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อช่วยดูว่าเมื่อไหร่คือเวลาที่เหมาะสมสำหรับการการุณยฆาต สิ่งนี้อาจจะมีประโยชน์:
- มันใช้ความรู้ของสัตวแพทย์เกี่ยวกับขั้นตอนของโรคภัยไข้เจ็บของสัตว์ (ถ้ามี) ที่จะเตือนคุณถึงอาการที่บอกความเจ็บปวดหรือความทรมาน หรือไม่
- มันช่วยกำจัดข้อกังขาระหว่างครอบครัว เพื่อนร่วมห้อง หรือเจ้าของคนอื่นๆ
- การตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ด้วยอารมณ์เป็นสิ่งที่ยากและการมีแผนที่จัดทำในเวลาที่สงบสามารถช่วยดึงอารมณ์ออกจากสมการ
- คุณควรสังเกตหรือเขียนบันทึกเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันของแมว เมื่อคุณสังเกตว่ามันมีวันที่ทุกข์มากกว่าวันที่สุขก็จะควรพิจารณาการการุณยฆาต [24]
- เมื่อคุณได้ตัดสินใจอย่างยากลำบากที่จะการุณยฆาตแมวแล้วก็ให้โทรศัพท์หาสัตวแพทย์ทันที[25] การยืดเยื้อขั้นตอนจะยิ่งทำให้มันยากมากขึ้นสำหรับคุณและอาจจะทำให้แมวทุกข์ทรมานนานขึ้น
- สัตวแพทย์บางคนจะทำการการุณยฆาตที่บ้านของเจ้าของ ลองถามสัตวแพทย์ว่าให้บริการนี้หรือไม่ ถ้าไม่ก็ควรนัดทำการการุณยฆาตเมื่อคลินิกสัตวแพทย์เงียบ เช่น ในช่วงเช้าตรู่หรือช่วงดึก[26]
วางแผนว่าจะทำอย่างไรกับศพของแมว. คุณยังต้องคิดว่าจะทำอย่างไรกับศพของแมวประหนึ่งว่าการตัดสินใจการุณยฆาตยังลำบากใจไม่พอ คุณมีทางเลือกระหว่างการฝังแมวที่สุสานสัตว์เลี้ยงหรือเผาศพมัน[27] อย่ารู้สึกกดดันที่ต้องเลือก ตัดสินใจว่าคุณรู้สึกสบายใจกับทางเลือกใด- สัตวแพทย์สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับบริการเผาและฝังศพสัตว์เลี้ยง
โฆษณา
เคล็ดลับ
- แม้ว่ามันอาจจะเป็นเรื่องยากที่ต้องคิดเกี่ยวกับแมวที่กำลังจะตาย แต่คุณควรจดจ่อไปที่โอกาสที่จะทำให้แมวของคุณมีความสุขและสบายที่สุด การจดจ่อไปที่ข้อดีจะช่วยให้คุณปลอบใจแมวอย่างที่แมวต้องการและปรารถนา
- การทำให้แมวรู้สึกสบายในช่วงสุดท้ายของชีวิตเรียกว่าความสุขระยะสุดท้ายของสัตว์เลี้ยง คุณจะเห็นความตายของแมวเป็นเรื่องธรรมชาติของชีวิตและอยากให้ความตายของมันสง่างามด้วยความสุขและสุดท้ายของสัตว์เลี้ยง [28]
- แมวที่กำลังจะตายจะต้องการการปลอบใจจากการมีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ ใช้เวลากับมันต่อไปแม้ว่ามันจะไม่สามารถเล่นได้เหมือนเคยก็ตาม ค่อยๆ อุ้มมันเพื่อลดความเจ็บปวดและความรู้สึกไม่สบาย[29]
- คุณสามารถช่วยแมวด้วยการทำความสะอาดรอบดวงตา หู ปาก อวัยวะเพศ และทวารหนักของมันเพราะแมวที่กำลังจะตายอาจจะไม่สามารถทำความสะอาดตัวเองได้เป็นอย่างดี[30] ทำให้ผ้านุ่มๆ เปียกหมาดด้วยน้ำอุ่นเพื่อทำความสะอาดมัน คุณยังสามารถใช้แปรงที่มีขนแปรงนุ่มเพื่อแปรงขนมัน [31]
- หลังจากที่แมวตายแล้วก็ปล่อยให้ตัวเองโศกเศร้า อย่ากลัวที่จะเข้าหาครอบครัวและเพื่อนที่สามารถปลอบใจคุณเมื่อคุณเสียใจกับการจากไปของแมว[32]
- สัตวแพทย์สามารถแนะนำบริการให้คำปรึกษาและสายด่วนการสูญเสียสัตว์เลี้ยงที่สามารถช่วยให้คุณจัดการกับความเศร้าได้[33]
- จำไว้ว่าการการุณยฆาตเป็นทางเลือก แม้คุณจะไม่อยากให้แมวตาย แต่ถ้ามันเจ็บปวดทุกข์ทรมานมากจนคุณไม่สามารถช่วยบรรเทาและมีชีวิตแบบร่อแร่ การการุณยฆาตมันก็อาจจะมีเมตตามากกว่า
โฆษณา
คำเตือน
- แมวของคุณอาจจะหยุดกินข้าวและดื่มน้ำโดยสิ้นเชิงไม่ว่าคุณจะพยายามให้อาหารและให้น้ำมันแค่ไหนโดยขึ้นอยู่กับอาการป่วยของมัน กลิ่นของอาหารอาจจะทำให้มันอยากอาเจียน
- แมวสามารถซ่อนความเจ็บปวดได้ดีมาก[34] แมวที่กำลังจะตายอาจจะพยายามปกปิดความจริงว่ามันเจ็บปวดได้อย่างดี
- อาการของแมวอาจจะทรุดลงได้เร็วกว่าที่คุณคาดไว้ หาข้อมูลติดต่อของสัตวแพทย์และโรงพยาบาลสัตว์ฉุกเฉินที่อยู่ใกล้บ้านเผื่อว่าอาการของแมวแย่ลงอย่างเฉียบพลัน
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://www.aspca.org/pet-care/general-pet-care/end-life-care
- ↑ http://www.care2.com/greenliving/6-ways-to-comfort-a-dying-cat.html
- ↑ http://www.cat-world.com.au/General-Cat-Articles/dying-cat-signs-and-care.html
- ↑ https://www.aspca.org/pet-care/general-pet-care/end-life-care
- ↑ http://www.cat-world.com.au/General-Cat-Articles/dying-cat-signs-and-care.html
- ↑ http://www.cat-world.com.au/General-Cat-Articles/dying-cat-signs-and-care.html
- ↑ http://www.cat-world.com.au/General-Cat-Articles/dying-cat-signs-and-care.html
- ↑ https://www.aspca.org/pet-care/general-pet-care/end-life-care
- ↑ http://consciouscat.net/2010/07/19/hospice-care-for-cats/
- ↑ http://consciouscat.net/2010/07/19/hospice-care-for-cats/
- ↑ http://consciouscat.net/2010/07/19/hospice-care-for-cats/
- ↑ http://www.cat-world.com.au/General-Cat-Articles/dying-cat-signs-and-care.html
- ↑ http://www.cat-world.com.au/General-Cat-Articles/dying-cat-signs-and-care.html
- ↑ http://www.cat-world.com.au/General-Cat-Articles/dying-cat-signs-and-care.html
- ↑ http://www.care2.com/greenliving/6-ways-to-comfort-a-dying-cat.html
- ↑ https://www.aspca.org/pet-care/general-pet-care/end-life-care
- ↑ http://www.allfelinehospital.com/pilling-your-cat.pml
- ↑ https://www.aspca.org/pet-care/general-pet-care/end-life-care
- ↑ http://consciouscat.net/2010/07/19/hospice-care-for-cats/
- ↑ http://messybeast.com/euth.htm
- ↑ http://messybeast.com/euth.htm
- ↑ http://www.cat-world.com.au/General-Cat-Articles/dying-cat-signs-and-care.html
- ↑ http://zimmer-foundation.org/art/16.html
- ↑ https://www.aspca.org/pet-care/general-pet-care/end-life-care
- ↑ http://zimmer-foundation.org/art/16.html
- ↑ http://www.cat-world.com.au/General-Cat-Articles/dying-cat-signs-and-care.html
- ↑ http://zimmer-foundation.org/art/16.html
- ↑ https://www.aspca.org/pet-care/general-pet-care/end-life-care
- ↑ http://consciouscat.net/2010/07/19/hospice-care-for-cats/
- ↑ http://consciouscat.net/2010/07/19/hospice-care-for-cats/
- ↑ http://consciouscat.net/2010/07/19/hospice-care-for-cats/
- ↑ http://zimmer-foundation.org/art/16.html
- ↑ http://zimmer-foundation.org/art/16.html
- ↑ http://consciouscat.net/2010/07/19/hospice-care-for-cats/
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
เจ้าหน้าที่เทคนิคการสัตวแพทย์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน ผู้ให้คำปรึกษาด้านพฤติกรรมแมวและสุนัข
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Tabitha Kucera. ทาบิตา คูเซราเป็นเจ้าหน้าที่เทคนิคการสัตวแพทย์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน ผู้ให้คำปรึกษาด้านพฤติกรรมแมวและสุนัข และเจ้าของ Chirrups and Chatter Cat and Dog Behavior Consulting and Training ซึ่งอยู่ที่คลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ ทาบิตามีประสบการณ์มากกว่าสิบปีในการทำงานที่โรงพยาบาลสัตว์ องค์กรช่วยเหลือชีวิตสัตว์ในฟาร์ม ศูนย์ช่วยเหลือแมวและสุนัข ทาบิตาได้ช่วยพัฒนาโปรแกรมการฝึกและปรับพฤติกรรมให้แก่โรงพยาบาลสัตว์และศูนย์พักพิงสัตว์ต่างๆ เธอทำงานเป็นผู้ให้คำปรึกษาแก่ศูนย์พักพิงสัตว์หลายแห่งและดำเนินกิจการส่วนตัวด้านสัตว์แพทย์ ประสบการณ์การสอนของเธอประกอบด้วยการบรรยายระดับภูมิภาคและระดับชาติ รวมทั้งการบรรยายในหลักสูตรด้านเทคนิคการสัตวแพทย์ต่างๆ เธอเป็นนักพูดที่มีใบรับรองด้านการลดความกลัว ผู้ให้คำปรึกษาที่มีใบรับรองด้านการปฏิบัติตามหลักลดความกลัว ผู้ให้คำปรึกษาด้านพฤติกรรมของ Cat Pawsitive Pro และผู้จัดรายการพอดแคสต์ชื่อ Tails from a Vet Tech ปัจจุบันเธอเป็นสมาชิกของคณะกรรมการ Pet Professional Guild’s Cat Committee และเป็นประธานสมาคม Veterinary Behavior Technicians เธอเป็นเจ้าหน้าที่เทคนิคการสัตวแพทย์ที่มีใบรับรองด้านการลดความกลัวระดับชั้นยอดและการควบคุมดูแลให้มีความเครียดต่ำ ผู้ให้คำปรึกษาด้านพฤติกรรมแมวที่มีใบรับรอง หุ้นส่วนการฝึกอบรมที่มีใบรับรองจาก Karen Pryor Academy บทความนี้ถูกเข้าชม 24,938 ครั้ง
หมวดหมู่: แมว
มีการเข้าถึงหน้านี้ 24,938 ครั้ง
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.
โฆษณา
