วิธีการ วินิจฉัยหาสาเหตุของภาวะท้องป่องในแมว

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

ช่องท้องที่บวมโตในแมวอาจเป็นสัญญาณเตือนของอาการป่วยต่างๆ ซึ่งภาวะดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้อย่างฉับพลันหรือค่อยๆ แสดงอาการทีละน้อยก็ได้ แต่ไม่ว่าจะเกิดขึ้นมานานมากน้อยเพียงใดก็ตาม ภาวะท้องป่องควรได้รับการปฏิบัติเสมือนเป็นอาการที่รุนแรงและแมวของคุณควรได้รับการวินิจฉัยโรคโดยเร็วที่สุด หลังจากที่คอยเฝ้าสังเกตอาการของแมว พูดคุยปรึกษากับสัตวแพทย์ และพิจารณาถึงอาการป่วยที่มีโอกาสเป็นไปได้ แมวของคุณก็จะได้รับการวินิจฉัยโรคอย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 2:

พิจารณาถึงอาการป่วยที่มีโอกาสเป็นไปได้

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 สังเกตสัญญาณของภาวะขาดสารอาหาร.
    แมวที่ขาดสารอาหารมักมีอาการท้องอืดจนอาจส่งผลให้ช่องท้องดูป่องหรือยื่นออกมามากกว่าปกติและมีไขมันหรือกล้ามเนื้อปกคลุมอยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น สาเหตุส่วนใหญ่ที่ส่งผลให้แมวมีภาวะขาดสารอาหารได้แก่:
    • ทานอาหารที่ทำเองที่บ้าน
    • ทานอาหารมังสวิรัติ
    • ร่างกายได้รับวิตามินซี ทองแดง ธาตุเหล็ก และโพแทสเซียมไม่เพียงพอ
    • ทานอาหารที่ส่วนประกอบของน้ำมันพืชในปนิมาณมาก
  2. How.com.vn ไท: Step 2 สังเกตว่าแมวเพียงมีน้ำหนักตัวเกินเท่านั้นหรือไม่....
    สังเกตว่าแมวเพียงมีน้ำหนักตัวเกินเท่านั้นหรือไม่. โดยทั่วไปแล้วแมวต้องการพลังงานประมาณ 15 กิโลแคลอรี่ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ดังนั้นหากแมวของคุณทานอาหารมากเกินไปจนได้รับพลังงานเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ พวกมันอาจเริ่มมีน้ำหนักตัวเกินจนมีรูปร่างที่อ้วนได้
    • ปรึกษาสัตวแพทย์และ/หรืออ่านข้อมูลโภชนาการที่ระบุไว้ด้านหลังของกล่องบรรจุภัณฑ์อาหารแมวให้ละเอียด[1]
    • คุณสามารถใช้ตารางคะแนนสำหรับประเมินภาวะสุขภาพสำหรับแมวเพื่อประเมินว่าแมวของคุณมีน้ำหนักตัวเกินหรือไม่ ลองดูตัวอย่างได้จากลิงค์นี้: https://www.wsava.org/sites/default/files/Body%20condition%20score%20chart%20cats.pdf.
  3. How.com.vn ไท: Step 3 สังเกตสัญญาณของโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว....
    สังเกตสัญญาณของโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว. โรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว (Feline Infectious Peritonitis หรือ FIP) เป็นโรคร้ายแรงที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสและสามารถพบได้ทั่วไปในพื้นที่หรือบ้านที่มีแมวอาศัยอยู่ร่วมกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งนอกเหนือจากอาการท้องอืดแล้ว อาการท้องเสียเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่พบได้โดยทั่วไปเมื่อเกิดโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว
    • โรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมวสามารถยืนยันได้จากผลตรวจเลือดที่ทดสอบค่าเอ็นไซม์ในตับ ค่าบิลิรูบิน และค่ากลอบูลิน[2]
    • แพทย์ยังสามารถตรวจวินิจฉัยโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมวแบบเปียก (Wet FIP) ได้จากการเก็บตัวอย่างของเหลวในช่องท้องอีกด้วย
  4. How.com.vn ไท: Step 4 สังเกตสัญญาณของการติดเชื้อโรค ไวรัส หรือปรสิต....
    สังเกตสัญญาณของการติดเชื้อโรค ไวรัส หรือปรสิต. ภาวะท้องป่องในแมวอาจมีสาเหตุเกิดจากโรคติดต่อต่างๆ ซึ่งแม้ว่าโดยส่วนใหญ่จะมีอาการไม่รุนแรงมากนัก แต่ในบางครั้งโรคติดต่อที่เกิดขึ้นอาจนำไปสู่การเกิดปัญหาสุขภาพที่รุนแรงต่อแมวได้ ลองสังเกตอาการผิดปกติต่างๆ ต่อไปนี้:
    • ภาวะมดลูกอักเสบเป็นหนอง (Pyometra) ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดจากการติดเชื้อทางระบบสืบพันธุ์ในแมวเพศเมีย อาจแสดงอาการต่างๆ อย่างเช่น ดูเซื่องซึม เบื่ออาหาร หรือปัสสาวะบ่อย
    • การติดเชื้อปรสิต ซึ่งอาการที่พบได้ทั่วไปได้แก่ พบวัตถุลักษณะคล้ายเมล็ดข้าวในอุจจาระหรือบริเวณรอบๆ ทวารหนักของแมว[3]
  5. How.com.vn ไท: Step 5 สังเกตสัญญาณของโรคมะเร็งหรือเนื้องอก.
    โรคมะเร็งหรือเนื้องอกเป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดภาวะท้องป่องในแมวที่น่าเป็นกังวลและแมวของคุณควรเข้ารับการรักษาโดยเร็วที่สุดหากคุณสงสัยว่าพวกมันอาจเป็นโรคมะเร็งหรือมีเนื้องอก อาการที่พบได้บ่อยๆ เมื่อเกิดโรคมะเร็งหรือเนื้องอกได้แก่ ผิวหนังเจริญเติบโตผิดปกติและ/หรือรู้สึกเบื่ออาหาร[4]
  6. How.com.vn ไท: Step 6 สังเกตสัญญาณของความผิดปกติของเมตาบอลิซึมหรือระบบทางเดินอาหาร....
    สังเกตสัญญาณของความผิดปกติของเมตาบอลิซึมหรือระบบทางเดินอาหาร. ความผิดปกติของเมตาบอลิซึมหรือระบบทางเดินอาหาร (เช่น โรคเบาหวานหรือโรคลำไส้อักเสบ) เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ส่งผลให้เกิดภาวะท้องป่องในแมว โดยคุณอาจสังเกตเห็นสัญญาณต่างๆ อย่างเช่น เบื่ออาหาร น้ำหนักตัวลดลง และ/หรือระดับพลังงานต่ำลง
    • หากคุณสงสัยว่าแมวของคุณมีความผิดปกติของเมตาบอลิซึมหรือระบบทางเดินอาหาร สัตวแพทย์อาจจำเป็นต้องทำการตรวจเลือดเพื่อยืนยันหรือตัดความเป็นไปได้ของความผิดปกติดังกล่าว[5]
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 2:

ปรึกษาสัตวแพทย์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 แจ้งลำดับเวลาของการเกิดภาวะท้องป่องของแมวของคุณ....
    แจ้งลำดับเวลาของการเกิดภาวะท้องป่องของแมวของคุณ. ให้รายละเอียดกับสัตวแพทย์ว่าแมวของคุณเริ่มมีช่องท้องที่บวมโตเมื่อไรและ/หรืออาการแย่ลงช้าเร็วเพียงใดเพื่อช่วยให้สัตวแพทย์สามารถวินิจฉัยโรคที่เกิดขึ้นได้ ข้อมูลต่างๆ ที่สัตวแพทย์ควรทราบมีดังนี้:
    • ท้องของแมวบวมโตขึ้นเพียงชั่วข้ามคืนหรือค่อยๆ แสดงอาการทีละน้อย
    • ท้องของแมวบวมโตติดต่อกันนานกว่าหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน
  2. How.com.vn ไท: Step 2 อธิบายพฤติกรรมการทานอาหารของแมว.
    โดยส่วนใหญ่แล้วภาวะท้องป่องมักส่งผลต่อพฤติกรรมการทานอาหารของแมว ทั้งนี้เนื่องจากการติดเชื้อในช่องท้องหรือปัญหาอื่นๆ ของระบบย่อยอาหารมีผลต่อความต้องการหรือความอยากอาหารของแมว แจ้งให้สัตวแพทย์ทราบหากแมวของคุณมีอาการต่อไปนี้:
    • ทานอาหารน้อยลง
    • ทานอาหารมากขึ้น
    • ไม่รู้สึกอยากอาหาร
    • อาเจียนหลังทานอาหารเสร็จ
    • เพิ่งเริ่มทานอาหารชนิดใหม่เมื่อไม่นานมานี้[6]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ให้สัตวแพทย์ทำการตรวจเลือด.
    การตรวจเลือดเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้สัตวแพทย์สามารถวินิจฉัยหาสาเหตุที่ทำให้แมวของคุณมีช่องท้องที่บวมโตได้ ซึ่งสัตวแพทย์ต้องการผลตรวจเลือดเพื่อให้ทราบข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับสภาวะระบบภูมิคุ้มกันและข้อมูลสภาพร่างกายอื่นๆ ของแมว ความสำคัญของการตรวจเลือดได้แก่:
    • ช่วยให้สัตวแพทย์ทราบข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับสภาวะระบบภูมิคุ้มกันของแมวของคุณ เช่น หากแมวของคุณมีการติดเชื้อต่างๆ เช่น ภาวะมดลูกอักเสบเป็นหนอง จำนวนเม็ดเลือดขาวในร่างกายก็จะเพิ่มสูงขึ้น[7]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ให้สัตวแพทย์ทำการวินิจฉัยโรค.
    พาแมวของคุณไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านอายุรกรรมเพื่อเข้ารับการส่องกล้องหรือตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ โดยสัตวแพทย์อาจจำเป็นต้องทำการทดสอบวินิจฉัยด้วยวิธีการที่หลากหลายเพื่อให้สามารถวินิจฉัยโรคได้แม่นยำมากขึ้น จำไว้ว่าการทดสอบวินิจฉัยบางวิธีการอาจมีการฉายแสงไปที่ช่องท้องที่บวมโตของแมว ยกตัวอย่างเช่น:
    • เอกซเรย์ การเอกซเรย์จะช่วยให้สัตวแพทย์สามารถระบุตำแหน่งของเนื้องอกที่เป็นเนื้อร้ายหรืออวัยวะที่ติดเชื้อ
    • อัลตร้าซาวด์ การอัลตร้าซาวด์จะช่วยให้สัตวแพทย์ได้ข้อมูลและรายละเอียดมากขึ้น ทั้งยังอาจมีส่วนช่วยทำให้สัตวแพทย์สามารถยืนยันหรือตัดความเป็นไปได้ของการเกิดโรคมะเร็ง นอกจากนี้การอัลตร้าซาวด์ยังช่วยให้สัตวแพทย์ทราบได้ว่ามีของเหลวสะสมอยู่ในหรือรอบๆ ช่องท้องของแมวหรือไม่ได้อีกด้วย
    • หากสัตวแพทย์สามารถระบุตำแหน่งของเนื้องอกหรือบริเวณที่ติดเชื้อภายในช่องท้องของแมวได้ สัตวแพทย์อาจจำเป็นต้องทำการตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ[8]
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Deanne Pawlisch, CVT, MA
ร่วมเขียน โดย:
เจ้าหน้าที่เทคนิคการสัตวแพทย์ที่มีใบรับรอง
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Deanne Pawlisch, CVT, MA. ดีแอนน์ พาวลิชเป็นเจ้าหน้าที่เทคนิคการสัตวแพทย์ที่มีใบรับรอง ผู้ทำการฝึกสอนเทคนิคให้เหล่าสัตวแพทย์ในอิลลินอยส์ เธอเป็นกรรมการของสมาคมการรักษาสัตว์ขั้นฉุกเฉินและวิกฤติตั้งแต่ปี 2011 บทความนี้ถูกเข้าชม 51,269 ครั้ง
หมวดหมู่: แมว
มีการเข้าถึงหน้านี้ 51,269 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา