วิธีการ ฝึกให้แมวเลิกขู่

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

ประเมินสถานการณ์

ฝึกแมวให้เลิกขู่สัตว์เลี้ยงตัวอื่น

ฝึกแมวให้เลิกขู่คน

ผ่อนคลายความกังวลให้แมว

แสดงเพิ่มอีก 1...

แสดงน้อยลง...

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

เป็นความเชื่อที่ผิด ถ้าคุณคิดว่าแมวขู่ฟ่อเป็นแมวดุหรือนิสัยเสีย ไม่เสมอไป แมวขู่เพราะมันรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติต่างหาก แต่บางตัวความดุส่วนตัวก็มีส่วนเหมือนกัน ถ้าคุณอยากให้แมวเลิกขู่เป็นงู สิ่งแรกที่ต้องทำคือหาสาเหตุให้เจอก่อน ว่าอะไรทำให้แมวอึดอัดรำคาญใจ จากนั้นก็ค่อยแก้ไปทีละเปลาะ

ขั้นตอน

ส่วน 1

ส่วน 1 ของ 4:

ประเมินสถานการณ์

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   หาให้เจอ ทำไมแมวถึงขู่ฟ่อ. ปกติ แมวไม่ใช่สัตว์ประเภทชอบขู่เพื่อแสดงอาณาเขตหรือคุกคามสัตว์ตัวอื่น แมวจะขู่ก็ต่อเมื่อมันรู้สึกไม่ปลอดภัย ตกใจกลัว ไม่ก็บาดเจ็บเท่านั้น อย่างไรก็ดี มีบ้าง ที่แมวขู่เพราะก้าวร้าว แต่ไม่ว่าแมวจะขู่เพราะอะไร การที่คุณคิดลงโทษแค่เพราะน้องเหมียวของคุณขู่ จะทำให้แมวยิ่งไม่พอใจ ระวังจะขู่กลายเป็นงูยิ่งกว่าเดิม

   • เวลาแมวก้าวร้าว มักจะร้องเสียงออกไปทางครวญครางหรือคำรามมากกว่า ระหว่างที่คุณกำลังคิดไม่ตกว่าแมวขู่ทำไม ก็อย่าเพิ่งเข้าไปยุ่งจะดีกว่า
2. 
   2
   สังเกตว่าแมวมีท่าทีก้าวร้าวหรือเปล่า. ถึงแมวแต่ละตัวก็มีบุคลิกแตกต่างกันออกไป แต่ถ้าแมวขู่เพราะก้าวร้าวจริงละก็ มักจะมีลักษณะท่าทางบางอย่างที่คล้ายๆ กันไปหมด

   • ใช้อุ้งเท้าหน้าตบหรือข่วน
   • ตรงเข้ากัดคนหรือสัตว์ตัวอื่นๆ
   • คำราม กรีดร้องเสียงแหลม หรือร้องแบบครวญคราง
   • เผยอปากโชว์เขี้ยวและ/หรือกางเล็บ
3. 
   3
   เพิ่งมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปหรือเปล่า. แมวคุณเพิ่งย้ายบ้านหรือคอนโดหรือเปล่า? คุณเพิ่งเอาสัตว์ตัวใหม่เข้ามาในบ้านใช่ไหม? หรือจะเป็นเพื่อนร่วมห้องคนใหม่ของคุณ? คุณเพิ่งจัดบ้านใหม่ ย้ายเฟอร์นิเจอร์อะไรหรือเปล่า? ไม่ว่าข้อไหนก็ทำให้แมวรู้สึก "ผิดที่ผิดทาง" ได้ทั้งนั้น จนทำให้เหมียวน้อยของคุณแสดงความกลัวหรือสับสนออกมาทางเสียงขู่ไงล่ะ
4. 
   4
   ลองพาไปหาหมอดูก็ดี. ถ้าอยู่ๆ แมวก็ขู่ทั้งๆ ที่เมื่อกี๊ยังดีอยู่หลัดๆ หรือที่ทางก็ไม่ได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด เป็นไปได้ว่าแมวอาจจะขู่เพราะบาดเจ็บอยู่นี่เอง ลองพาน้องเหมียวของคุณไปหาหมอดู จะได้รู้สาเหตุที่แท้จริง
   โฆษณา

ส่วน 2

ส่วน 2 ของ 4:

ฝึกแมวให้เลิกขู่สัตว์เลี้ยงตัวอื่น

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ให้เวลาแมวได้ปรับตัวหน่อย. ไม่ว่าคุณจะเพิ่งหาสัตว์เลี้ยงตัวใหม่มาเพิ่ม หรือว่าเพิ่งจะย้ายที่อยู่ ก็ต้องให้เวลาน้องเหมียวของคุณได้ปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ทั้งนั้น
2. 
   2
   แนะนำสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ในพื้นที่ที่จำกัดก่อน. ถ้าลองให้แมวของคุณกับสัตว์เลี้ยงเจอกันในที่ที่ไม่ใช่บ้านก่อนจะดีกว่า จะได้ทำความรู้จักกันแบบไม่รุกรานอาณาเขตซึ่งกันและกัน

   • ถ้าได้เวลาพาสัตว์เลี้ยงตัวใหม่เข้าบ้าน ให้แยกเจ้าตัวใหม่จากแมวเจ้าถิ่นของคุณก่อน คือแยกทั้งน้ำ อาหาร และที่ขับถ่าย ค่อยๆ ปล่อยให้สัตว์เลี้ยงใหม่กับน้องแมวทำความรู้จักกันไปเรื่อยๆ อาจจะหลายวันหรือหลายอาทิตย์หน่อยก็ไม่เป็นไร
   • แนะนำให้รู้จักกันผ่านกลิ่น โดยเอาแมวแต่ละตัวมานอนบนผ้าหรือเสื้อผ้าที่คุณไม่ใช้แล้วแต่ยังมีกลิ่นคุณติดอยู่เพื่อเป็นสื่อกลาง พอคืนถัดมาให้สลับผ้ากันระหว่างแมวแต่ละตัว ให้น้องเหมียวพอได้กลิ่นจางๆ ของแมวอีกตัว วิธี "เชคแฮนด์กันด้วยกลิ่น" แบบนี้ถือเป็นการแนะนำให้แมวตัวใหม่กับแมวตัวเก่ารู้จักกันแบบค่อยเป็นค่อยไปยังไงล่ะ
   • ให้เอาแมวตัวที่ดุกว่าใส่ไว้ในตะกร้าตอนที่แนะนำให้แมวรู้จักกัน ถ้าเจ้าเหมียวตัวนั้นขู่ฟ่อ แสดงอาการก้าวร้าวใส่แมวตัวอื่น
   • ปกติคนไม่รู้หรอกเวลาแมวสร้างอาณาเขตด้วยกลิ่นไว้ แต่ถ้าลองเอาไฟ blacklight แบบพกพา (หาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป) มาส่องดู ก็จะเห็นคราบฉี่น้องเหมียวเปรอะเปื้อนตามผนังหรือเฟอร์นิเจอร์ของคุณ
3. 
   3
   ตรวจร่างกายแมวหาอาการบาดเจ็บ. เวลาแมวกัดกัน ก็มักจะได้แผลที่เจ้าของอย่างเราไม่ค่อยจะสังเกตเห็น ลองตรวจร่างกายแมวโดยละเอียดดู ให้เดินเข้าไปหาแมวช้าๆ อย่ามีพิรุธ แล้วค่อยๆ เอามือลูบไปตามตัวหาจุดบาดเจ็บ ถ้ามือคุณไปโดนแผลเข้า แมวจะแสดงอาการให้รู้เอง ไม่ต้องไปจิ้มหรือกดแรงๆ เลย ถ้าคุณพบว่าแมวบาดเจ็บจริงๆ ให้รีบพาไปคลินิกหรือโรงพยาบาลสัตว์ทันที

   • จุดที่แมวมักบาดเจ็บเวลากัดกัน ก็คือตรงหัว อก แล้วก็ขา
   • ตอนตรวจร่างกายแมวต้องระวังให้มากๆ เพราะแมวที่บาดเจ็บอยู่อาจจะแว้งกัดคุณเพราะป้องกันตัวได้ บอกเลยว่าถ้าถูกกัดละเจ็บน่าดู
4. 
   4
   เอาแมวไปทำหมันก็ดี. ถ้าแมวตัวผู้ของคุณเริ่มแสดงอาการก้าวร้าวผิดปกติ รวมถึงการขู่ เป็นไปได้ว่าน้องเหมียวเกิดอาการ hyper-territorial หรือหวงถิ่นเป็นพิเศษ ถ้าคุณเอาแมวตัวผู้จอมก้าวร้าวของคุณไปทำหมัน ก็น่าจะช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมนี้ ลดอาการก้าวร้าวอันไม่พึงประสงค์ได้
   โฆษณา

ส่วน 3

ส่วน 3 ของ 4:

ฝึกแมวให้เลิกขู่คน

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   เห็นใจน้องเหมียวหน่อย. ถ้าแมวของคุณไม่ชอบให้ลูบ อุ้ม หรือยกขึ้นมาจากพื้น การขู่ฟ่อก็เหมือนการบ่นให้คุณรู้นั่นแหละ สัตว์ก็มีหัวใจ ให้ความเป็นส่วนตัวแมวคุณหน่อย อะไรที่แมวไม่ชอบก็อย่าไปทำเลย

   • อย่าไปขวาง เปิดทางให้แมวเดินหนีได้เวลารำคาญหรือกลัวคุณ แมวบางตัวจะขู่น่าดูเวลาจนมุม เหมือนบอกให้รู้ว่าไม่ชอบที่คุณเข้ามาใกล้ ประมาณว่า "ช่วยถอยไปไกลๆ ได้ไหม?" ถ้าเห็นแบบนี้ก็อ่านสถานการณ์หน่อย เปิดทางให้แมวได้เดินหนีไปถ้าอยาก แมวจะได้ลดทอนความเครียดลง
2. 
   2
   กันไว้ก่อนเวลาแมวก้าวร้าวแบบกระทบชิ่ง. เป็นไปได้เหมือนกัน ที่แมวขู่ใส่คุณเพราะรู้สึกว่าถูกแมวหรือหมาข้างบ้านท้าทายผ่านหน้าต่างหรือประตูมุ้งลวด ถ้าคุณคิดว่าใช่แน่ ให้กันไว้ก่อนโดยปิดม่านหรือปิดประตูให้มิดชิดหน่อย
3. 
   3
   หรือว่าจริงๆ แล้วน้องเหมียวจะกลัวคน. แมวของคุณอาจจะเคยถูกเจ้าของเก่าทำร้ายหรือทิ้งขว้าง แต่ที่แย่ไปกว่าคืออาจจะเป็นคนในบ้านหรือคนที่ใกล้ชิดแมวคุณอยู่ตอนนี้ก็ได้

   • ลองแอบสังเกตดู ว่าคนอื่นๆ ปฏิบัติต่อน้องเหมียวยังไง เป็นไปได้ไหมว่าแมวคุณถูกอะไรหรือใครทำร้ายลับหลังคุณ? ลองเลียบๆ เคียงๆ ถามคนใกล้ตัว แล้วจับตาดูไปด้วย บางทีอาจเป็นเด็กๆ หรือลูกๆ ของคุณเองนั่นแหละ ที่ไม่รู้ว่าควรจะเล่นกับน้องเหมียวยังไง
   • ถ้าคุณสงสัยว่าตอนที่คุณไม่อยู่ ต้องมีคนแอบทำร้ายแมวของคุณแน่เลย ให้ลองติดกล้องวงจรปิด หรือ nanny cam ที่เอาไว้ดูแลความปลอดภัยของเด็ก ไม่ก็เอาแล็ปท็อปหรือมือถือมาตั้งแอบถ่ายไว้แถวๆ บริเวณที่แมวอยู่เพื่อสังเกตการณ์สักประมาณ 2 - 3 วัน
   โฆษณา

ส่วน 4

ส่วน 4 ของ 4:

ผ่อนคลายความกังวลให้แมว

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   อย่าไปยุ่ง ให้เวลาแมวสงบจิตใจหน่อย. เวลาแมวขู่ ให้คุณถอยออกมาก่อน จุดสำคัญเลยคืออย่าทำให้แมวรู้สึกติดกับหรือถูกคุกคาม เพราะฉะนั้นห้ามต้อนแมวให้จนมุมในห้องแคบๆ เด็ดขาด แง้มประตูไว้หน่อยก็ดี แมวจะได้สบายใจว่ามีลู่ทางให้หนีได้ถ้าต้องการ แล้วใจเย็นคลายความก้าวร้าวลง

   • เวลาคุณเข้าไปใกล้แมวที่กำลังตื่นกลัว ให้ขยับตัวช้าๆ ทิ้งช่วงให้แมวทำความคุ้นเคยกับคุณและกลิ่นของคุณหน่อย
   • ถ้าแมววิ่งหนีออกไปจากห้องจริงๆ ห้ามวิ่งตามเด็ดขาด เดี๋ยวแมวจะยิ่งเครียดกว่าเดิม
   • เตือนลูกๆ กับแขกที่มาบ้านด้วย ว่าอย่าไปรุกรานพื้นที่และอย่าไปเซ้าซี้ถ้าแมวไม่อยากเล่นด้วย
2. 
   2
   พวกสิ่งเร้าน่ะเอาออกไปซะ. เอาน้ำยาสูตรเฉพาะมาล้างทำความสะอาดบ้านตามจุดที่แมวพ่นอาณาเขตให้สะอาด ถ้าแมวข้างบ้านชอบมาด้อมๆ มองๆ อยู่นอกหน้าต่างหรือประตูบานเลื่อนกระจก ให้หาสติ๊กเกอร์ฝ้ามาติดกระจก หรือจะเอากระดาษลังมาบังหน้าต่างไว้ก็ได้ แมวจะได้ไม่เห็นภาพบาดตา

   • ถ้าคุณเลี้ยงน้องเหมียวแบบปิด ให้เอาผงพริกป่นมาโรยหรือสเปรย์ไล่แมวมาฉีดพ่นรอบๆ ขอบสนาม แมวจรจัดหรือแมวบ้านอื่นจะได้ไม่แวะเวียนเข้ามา
3. 
   3
   เตรียมให้พร้อม อะไรที่จำเป็นสำหรับน้องเหมียว โดยเฉพาะมุมสงบ. ถ้าแมวของคุณเครียดจัดเพราะคุณมีลูกคนใหม่หรือเอาสัตว์เลี้ยงตัวใหม่เข้ามา อะไรก็ไม่ดีไปกว่าให้เวลาน้องเหมียวได้ปรับตัวหน่อย แถมคุณยังช่วยได้ด้วยการจัดที่จัดทาง หามุมสงบให้น้องเหมียวได้ปลีกวิเวก

   • อย่างน้อยต้องมีคอนหรืออะไรสูงๆ ให้น้องเหมียวได้ขึ้นไปนั่งชูคอแบบไร้คนรบกวนหน่อย ประมาณว่าบ้านแมวแบบหอคอยหรือเสาลับเล็บสูงๆ
   • ถ้าคุณมีแมวมากกว่า 1 ตัว ก็ต้องเตรียมกระบะทราย ชามอาหาร และชามน้ำให้ครบตัว แมวไม่ชอบใจเท่าไหร่หรอก ที่ต้องแชร์อะไรกับแมวตัวอื่นน่ะ
4. 
   4
   หาของเล่นใหม่ๆ มาให้น้องเหมียวคลายเครียดบ้าง. เล่นกับแมวให้มากขึ้น พยายามสรรหาทริคใหม่ๆ มาล่อให้แมวตื่นตาตื่นใจ ลองเอาขนมไปซ่อนตามมุมต่างๆ ของบ้านให้แมวหา แล้วอย่าลืมอาวุธลับทรงพลังที่ทำให้แมวเคลิบเคลิ้มอย่างแคทนิป (catnip) หรือ "กัญชาแมว" ล่ะ
5. 
   5
   ลองใช้สเปรย์ฟีโรโมนดู. ในท้องตลาดมีขายอยู่หลายยี่ห้อเหมือนกัน เป็นสเปรย์ที่ช่วยคลายเครียดให้แมวด้วยวิธีปล่อยฟีโรโมนชวนเคลิ้มให้กระจายไปในอากาศ ลองสอบถามคุณหมอก่อนก็ได้ว่ายี่ห้อไหนดี หรือจะแวะไปตามร้านขายของเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงแถวบ้าน ไม่ก็หาซื้อในเน็ตก็ได้ ของพวกนี้ราคาแพงหน่อย แต่รับรองว่าคุ้มค่าคุ้มราคา
6. 
   6
   ปรึกษาคุณหมอประจำตัวน้องแมว. ถ้าสุดท้ายคุณก็คิดไม่ตกว่าอะไรหรือใครกวนใจแมวจนขู่ฟ่อ หรือรู้แต่แก้ไขไม่ได้ผล ก็รีบพาน้องเหมียวไปหาหมอจะดีกว่า เพราะอาจมีความผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกายของแมว อะไรที่ดูด้วยตาเปล่าไม่เห็น คุณหมอจะได้แนะนำถูกว่าควรให้กินยาหรือต้องรักษายังไง แมวถึงจะกลับมาน่ารักเหมือนเคย
   โฆษณา