ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความX
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Tracy Carver, PhD. ดร. เทรซี่ คาร์เวอร์ เป็นนักจิตวิทยาในเมืองออสติน รัฐเท็กซัสที่มีใบอนุญาตซึ่งเคยได้รับรางวัล ดร. คาร์เวอร์เชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาด้านปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการเห็นคุณค่าในตนเอง ความวิตกกังวล โรคซึมเศร้า และ psychedelic integration เธอสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีวิทยาศาสตรบัณฑิตสาขาจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียคอมมอนเวลธ์ ปริญญาโทศิลปศาสตรมหาบัณฑิตสาขาจิตวิทยาการศึกษา และปริญญาเอกสาขาจิตวิทยาการให้คำปรึกษาจากมหาวิทยาลัยเท็กซัสที่ออสติน ดร. คาร์เวอร์ยังได้สำเร็จฐานภาพแพทย์ฝึกหัดด้านจิตวิทยาคลินิกจากโรงเรียนแพทย์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดอีกด้วย เธอได้รับการโหวตให้เป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตที่ดีที่สุดในออสตินเป็นเวลา 4 ปีติดต่อกัน จากนิตยสาร Austin Fit ดร. คาร์เวอร์ได้รับการพูดถึงใน Austin Monthly, Austin Woman Magazine, Life in Travis Heights และ KVUE (บริษัทในเครือออสตินสำหรับ ABC News)
มีการอ้างอิง 8 ข้อที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ
บทความนี้ถูกเข้าชม 8,746 ครั้ง
เมื่อคุณห่วงใยใครสักคน คุณก็คงไม่อยากเห็นเขาข้องเกี่ยวกับพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อตัวเขาเองและคนอื่น โชคร้ายที่การสูบบุหรี่เป็นอันตรายต่อทั้งตัวเขาเองและคนรอบข้าง คุณสามารถทำให้เขามีแนวโน้มที่จะเลิกบุหรี่ตลอดชีวิตได้ แต่ทั้งนี้คุณไม่สามารถบังคับให้ใครเลิกบุหรี่ได้ สุดท้ายแล้วการตัดสินใจต้องขึ้นอยู่กับแฟนหนุ่มของคุณ
ขั้นตอน
อย่าอ้างสถิติ. แฟนหนุ่มของคุณรู้อยู่แล้วว่าการสูบบุหรี่ไม่ดีต่อตัวเขาเอง และเขาอาจจะอยากเลิกอยู่แล้วก็ได้ ดังนั้นการสาธยายข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโรคต่างๆ ช่วงอายุของชีวิต และอื่นๆ นั้นไม่ได้มีประโยชน์เลย ที่จริงแล้วการบอกใครสักคนให้เลิกสูบบุหรี่นั้นจะยิ่งทำให้เขาสูบมากขึ้นไปอีก[1]- แทนที่จะทำอย่างนั้น คุณอาจจะอยากเน้นไปที่แนวโน้มพฤติกรรมของคนเราและบทบาทของการติดบุหรี่มากกว่า
- บอกเขาว่าอัตราการสูบบุหรี่ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมานั้นลดลงอย่างสม่ำเสมอ และหลายคนก็สามารถเลิกบุหรี่ได้สำเร็จ
- เนื่องจากหลายคนเริ่มสูบบุหรี่เพราะอยากเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม ฉะนั้นการได้รู้ว่าพฤติกรรมของพวกเขาไม่เป็นที่นิยมมากขึ้นทุกทีอาจทำให้พวกเขาอยากเลิกบุหรี่ก็ได้
- การชี้ให้เห็นว่าการสูบบุหรี่นั้นคืออาการเสพติดประเภทหนึ่งอาจช่วยให้แฟนหนุ่มของคุณนึกขึ้นมาได้ว่า เขาไม่มีอำนาจควบคุมชีวิตตัวเองเลย ซึ่งเขาก็อาจจะไม่ชอบความคิดนี้สักเท่าไหร่ ดังนั้นเขาอาจจะพยายามเลิกเพื่อให้เป็นตัวของตัวเองมากขึ้นก็ได้
รู้ว่าแต่ละคนไม่เหมือนกัน. หมายความว่าวิธีการเดียวกันอาจไม่ได้ผลกับทุกคน และแต่ละคนก็ต้องการระดับและประเภทการสนับสนุนที่แตกต่างกันออกไป พูดคุยกับแฟนหนุ่มเพื่อหาว่าการช่วยเหลือแบบไหนที่เขาต้องการ- แฟนหนุ่มของคุณเขาอาจจะเปรยๆ กับคุณอ้อมๆ ว่าเขาอยากเลิกบุหรี่แล้วก็ได้ ลองสังเกตหัวข้อที่เขาพูดขึ้นมาเพื่อเปิดประเด็น ไม่ว่าจะเป็นคำแนะนำจากแพทย์ สมาชิกในครอบครัวที่กำลังตั้งครรภ์ คนอื่นที่เลิกบุหรี่[2]
ถ้าไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้เลย ให้หาทางเปิดประเด็นกับเขาอย่างนุ่มนวล. ถ้ามีข่าวว่าจะประเทศไทยเก็บภาษีบุหรี่เพิ่มขึ้น ให้ถามแฟนหนุ่มว่าเขารู้สึกอย่างไรและใช้สิ่งนี้โยงไปถามถึงนิสัยของเขา[3]- คุณ: ฉันเพิ่งอ่านบทความนี้ เขาบอกว่าต่อไปอาจมีการออกกฎห้ามสูบบุหรี่ในร้านอาหารแล้วนะ
- เขา: ก็ดีนะ ผมก็ไม่ชอบเวลาที่อาหารมีกลิ่นบุหรี่เหมือนกัน
- คุณ: แปลกจังที่คุณว่าอย่างนี้ แล้วคุณจะอดบุหรี่ได้นานขนาดนั้นเลยเหรอ
- เขา: อดได้ จริงๆ ผมก็กำลังพยายามลดๆ อยู่
- คุณ: จริงเหรอ ให้ฉันช่วยคุณไหม
ลองวิธีสะกิดเตือน. การหาสมดุลที่ดีระหว่างการสนับสนุนให้แฟนหนุ่มเลิกบุหรี่ กับการกระทำที่เขาอาจจะมองว่าคุณกำลังพรากความสามารถในการตัดสินใจของเขาไปนั้นเป็นเรื่องยาก นักกฎหมายและนักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า วิธีสะกิดเตือนสามารถเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแต่ในขณะเดียวกันก็ยังปล่อยให้อีกฝ่ายได้ตัดสินใจเองด้วย[4]- วิธีสะกิดเตือนเป็นแบบนี้: บอกแฟนคุณให้เปิดบัญชีเงินฝากไว้สำหรับฝากเงินที่เขาจะเอาไปซื้อบุหรี่ (หรือจะใช้โหลบนเคาน์เตอร์ครัวก็ได้เหมือนกัน)
- พอหมดระยะเวลาที่กำหนด ให้ถามว่าเขาสูบบุหรี่บ้างหรือเปล่า ถ้าเขาไม่ได้สูบ เขาก็จะได้เงินไป แต่ถ้าเขาสูบ ก็เอาเงินไปบริจาคการกุศล
- หรือจะทำให้ท้าทายขึ้นด้วยการบอกว่า การกุศลที่จะได้เงินไปนั้นต้องเป็นองค์กรที่แฟนคุณไม่สนับสนุน!
- ถ้าเขามีเพื่อนที่กำลังพยายามเลิกบุหรี่เหมือนกัน (หรืออาจจะเป็นคุณเอง) ก็อาจจะให้เขาแข่งกัน ใครที่อดบุหรี่ได้นานกว่าได้เงินไป และใครที่ยอมแพ้ก่อนก็ต้องบริจาคเงินให้องค์กรการกุศลที่ผู้ชนะเป็นคนเลือก
ระดมเครือข่ายสนับสนุน. ถ้าแฟนหนุ่มของคุณไม่ว่าอะไร ให้คุยกับเพื่อนๆ และครอบครัวของคุณถึงแผนการเลิกบุหรี่ของเขา และขอให้พวกเขาสนับสนุนแฟนหนุ่มของคุณด้วย เตือนแฟนหนุ่มของคุณว่าแพทย์ก็เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายสนับสนุนนี้เช่นเดียวกัน และลองถามว่าเขาอยากจะนัดพบแพทย์เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการเลิกบุหรี่หรือไม่[5]
คิดก่อนถาม. คนที่สูบบุหรี่บางคนอาจจะอยากให้คุณถามถึงความก้าวหน้าในการเลิกบุหรี่ทุกวันเพื่อให้ตัวเขาเกิดความรับผิดชอบ ในขณะที่บางคนอาจจะมองว่าเป็นการกระทำที่ก้าวก่ายและยิ่งทำให้เลิกยากมากขึ้นไปอีก ถามแฟนหนุ่มก่อนว่าการถามถึงความก้าวหน้าเป็นประจำเป็นผลดีหรือผลเสียกับเขากันแน่[6]
ถามคำถามปลายเปิด. ให้แฟนหนุ่มเล่าถึงประสบการณ์ของเขาว่าทำไมเขาถึงเริ่มสูบบุหรี่ มันทำให้เขารู้สึกอย่างไร ทำไมเขาถึงอยากเลิก อะไรทำให้เลิกยาก เป็นต้น คำตอบของคำถามเหล่านี้จะทำให้คุณสัมผัสได้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับบุหรี่มากยิ่งขึ้น และอาจช่วยให้เขาได้สร้างความเชื่อมโยงที่เขาไม่เคยมีมาก่อนเลยก็ได้[7]- คุณ: ทำไมคุณถึงเริ่มสูบบุหรี่
- เขา: ก็เด็กโตที่โรงเรียนเขาสูบกัน
- คุณ: แล้วตอนนี้ล่ะ ตอนนี้ไม่มีเด็กโตแล้วนี่
- เขา: มันคงกลายเป็นนิสัยไปแล้วมั้ง
- คุณ: คุณว่าคุณจะสูบบุหรี่ไปตลอดชีวิตไหม
- เขา: ไม่หรอก แต่เลิกบุหรี่นี่เป็นเรื่องยากตลอดเลย
- คุณ: คุณเลิกได้แน่นอน! คุณอยากให้ฉันช่วยคุณคิดแผนไหมล่ะ
ชี้ให้เห็นชัยชนะเล็กๆ น้อยๆ. สำหรับคนสูบบุหรี่แล้ว การไม่สูบบุหรี่ได้หนึ่งวันถือเป็นความสำเร็จ มองว่าสิ่งนี้คือความสำเร็จของเขา และใช้สิ่งนี้เป็นหลักฐานว่าแฟนหนุ่มของคุณสามารถเลิกบุหรี่ได้อย่างแน่นอน ชัยชนะเล็กๆ น้อยๆ นี้สามารถเพิ่มความมั่นใจให้เขาได้
มองที่ภาพรวมของเขา. อย่าให้การเลิกบุหรี่กลายเป็นทุกสิ่งในความสัมพันธ์ของคุณ แม้ว่าเขาจะอยากให้คุณคอยเช็กความก้าวหน้าของเขาตลอดเวลา แต่ก็ให้ถามเขาว่าวันนี้เป็นอย่างไรบ้างและถามถึงเขาในเรื่องทั่วๆ ไปด้วย คุณไม่ควรจะถามเขาแค่ว่าวันนี้เขาสูบบุหรี่หรือเปล่าโฆษณา
วางแผนแต่ก็พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลง. การกำหนดวันเลิกบุหรี่อาจสร้างแรงบันดาลใจและทำให้แฟนหนุ่มของคุณมีบางสิ่งให้จดจ่อ แต่วันที่ว่านี้ก็ไม่ควรกำหนดไว้แบบตายตัว ถ้าเขาอยากจะกำหนดวัน คุณต้องบอกให้เขารู้ว่าเขาไม่ได้ล้มเหลวถ้าเขาไม่สามารถเลิกได้อย่างเด็ดขาดภายในวันนี้[8]
ย้ำเรื่องธรรมชาติชั่วคราวของอาการถอน. หลายคนต้องเผชิญกับอาการถอน เช่น นอนไม่หลับ ไม่มีสมาธิ วิตกกังวล กระสับกระส่าย หงุดหงิดง่าย และหดหู่ อาการเหล่านี้มักหายไปภายใน 1 หรือ 2 สัปดาห์ การเตือนแฟนหนุ่มว่าอาการเหล่านี้เป็นอาการชั่วคราวเป็นการช่วยให้เขาเชื่อว่าเขาจะผ่านมันไปได้[9]
รู้ว่าการเลิกเป็นเส้นการเรียนรู้. หลายคนพยายามเลิกบุหรี่หลายครั้ง ถ้าแฟนหนุ่มของคุณกลับไปสูบบุหรี่เหมือนเดิม สนับสนุนให้เขาเรียนรู้จากประสบการณ์เพื่อที่ครั้งต่อไปเขาจะได้เลี่ยงสิ่งที่กระตุ้นให้เขาสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่เป็นนิสัยที่เกิดจากการเรียนรู้ การเลิกก็เช่นเดียวกัน[10]
พูดว่าเมื่อไหร่ ไม่ใช่ถ้า. การกลับไปสูบบุหรี่เหมือนเดิมเป็นเรื่องน่าหงุดหงิด เพราะฉะนั้นทำให้แฟนหนุ่มของคุณรู้ว่ามันเป็นเรื่องของเวลาก่อนที่เขาจะพยายามอีกครั้ง และก่อนที่เขาจะเลิกบุหรี่ได้เด็ดขาดด้วย ที่จริงแล้วคนส่วนใหญ่ที่เลิกบุหรี่แล้วกลับไปสูบอีกครั้งสักพักก็พยายามเลิกใหม่[11]โฆษณา
เตรียมเสบียง. คนเราสูบบุหรี่ด้วยหลายสาเหตุ หนึ่งในนั้นก็คือเพื่อบรรเทาความเบื่อหน่าย แฟนหนุ่มของคุณจะต้องมีอะไรมาทดแทนพฤติกรรมนี้ ลองหาสิ่งต่อไปนี้ไว้ใกล้ตัว:[12]- ลูกกวาดสำหรับดูด
- หลอดเอาไว้เคี้ยว
- ผักและผลไม้หั่นเป็นชิ้น
ใช้เวลาด้วยกัน. ใช้การเลิกบุหรี่เป็นข้ออ้างในการทำกิจกรรมร่วมกันให้มากขึ้น ทำอาหารเย็นด้วยกัน ไปดูหนัง หรือไปพิพิธภัณฑ์ อะไรก็ได้ที่ช่วยให้ใจของแฟนหนุ่มไม่อยู่กับการเลิกบุหรี่[13]
ออกกำลังกาย. หนึ่งในกิจกรรมที่คุณทำร่วมกันควรจะต้องเป็นกิจกรรมทางกาย การออกกำลังกายสามารถบรรเทาอาการหลายๆ อย่างในกระบวนการเลิกบุหรี่ ได้แก่อาการต่อไปนี้:[14]- ความวิตกกังวล
- ความหดหู่
- ความหงุดหงิด
- น้ำหนักขึ้น
โฆษณา
อย่าเอามาเป็นปัญหาส่วนตัว. คนที่พยายามเลิกบุหรี่มักจะขี้หงุดหงิดอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นคุณต้องรู้ว่าพฤติกรรมของแฟนหนุ่มนั้นไม่เกี่ยวกับคุณ อย่างไรก็ตามคุณมีสิทธิ์ที่จะเรียกเขามาคุยถึงพฤติกรรมที่หยาบคายหรือใจร้าย และสามารถเดินออกมาจากชีวิตเขาได้เลยถ้าความหงุดหงิดของเขากลายเป็นการใช้ความรุนแรงเต็มขั้น
ทำให้บ้านและรถของคุณเป็นพื้นที่ปลอดบุหรี่. วิธีนี้สำคัญมากเป็นพิเศษถ้าคุณอยู่ด้วยกัน ถ้าพฤติกรรมของแฟนหนุ่มทำให้คุณต้องกลายเป็นคนสูบบุหรี่ขั้นที่ 2 คุณทั้งคู่ก็เสี่ยงกับปัญหาด้านสุขภาพร้ายแรง และคนที่ไม่ได้สูบบุหรี่ที่บ้านก็มีแนวโน้มที่จะเลิกบุหรี่ด้วย[15]- อย่านำไฟแช็กหรือที่เขี่ยบุหรี่ไว้ในบ้านด้วยเช่นกัน เพราะมันเป็นการย้ำเตือนถึงสิ่งที่แฟนหนุ่มของคุณกำลังพยายามเลี่ยงอยู่[16]
หลีกเลี่ยงสถานที่ที่จะมีการสูบบุหรี่. วิธีนี้ไม่เพียงแต่ปกป้องสุขภาพของคุณเองเท่านั้น แต่การกำจัดบรรยากาศที่อาจกระตุ้นให้อยากสูบบุหรี่ช่วยให้แฟนหนุ่มของคุณหลีกเลี่ยงพฤติกรรมนี้ได้
รู้ขีดจำกัดของตัวเอง. การที่แฟนหนุ่มของคุณเลิกบุหรี่ได้นั้นสำคัญกับคุณมากน้อยแค่ไหน แม้ว่าจะมีขั้นตอนที่คุณสามารถช่วยให้แฟนหนุ่มเลิกบุหรี่ได้ แต่คุณก็ต้องคิดด้วยว่าคุณจะทำอย่างไรต่อไปถ้าเขาไม่ได้สนใจอยากจะเลิก- คิดดูว่าการสูบบุหรี่ของเขามีน้ำหนักมากกว่าคุณสมบัติที่ดีอื่นๆ หรือเปล่า คนส่วนมากล้วนมีข้อบกพร่องใหญ่ๆ และผู้เชี่ยวชาญบางคนก็แนะนำด้วยว่า การตั้งกฎเกณฑ์ที่ไม่ประนีประนอมนั้นไม่ได้นำไปสู่ความสุขได้เลยจริงๆ[17]
- ข้อยกเว้นในที่นี้คือข้อเสียที่เกี่ยวกับศีลธรรมหรือจริยธรรมขั้นร้ายแรง การสูบบุหรี่ไม่ได้จัดเป็นข้อบกพร่องประเภทนี้ แต่ก็อาจทำให้คุณไม่มีชีวิตที่ยืนยาวและแข็งแรง ถ้าการเสียแฟนหนุ่มไปเพราะปัญหาสุขภาพในวันข้างหน้าฟังดูน่าเจ็บปวดเกินไป การสูบบุหรี่ก็อาจเป็นอุปสรรคที่หนักเกินกว่าความสัมพันธ์จะรับไหว
- ถ้าการสูบบุหรี่ของเขาเป็นสิ่งที่ประนีประนอมไม่ได้ คุณก็ต้องบอกให้เขารู้ตัว เพราะการยื่นคำขาดโดยที่เขาไม่รู้เรื่องเลยนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ยุติธรรม บอกเขาว่าคุณไม่สามารถอยู่กับคนสูบบุหรี่ได้ แต่คุณมั่นใจว่าเขาจะเลิกได้และคุณเองก็อยากช่วยให้เขาเลิกได้จริงๆ
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.huffingtonpost.co.uk/andrew-cunningham/stop-smoking-well-i-will-quit-only-if-i-dont-have-to_b_5893254.html
- ↑ http://smokefree.gov/social-support
- ↑ http://smokefree.gov/social-support
- ↑ http://www.huffingtonpost.ca/bill-bogart/nudge-quit-smoking_b_5699260.html
- ↑ http://www.nhlbi.nih.gov/health/health-topics/topics/smo/strategies
- ↑ http://www.cancer.org/healthy/stayawayfromtobacco/helping-a-smoker-quit
- ↑ http://smokefree.gov/social-support
- ↑ http://www.nhlbi.nih.gov/health/health-topics/topics/smo/strategies
- ↑ http://brown.edu/Student_Services/Health_Services/Health_Education/alcohol,_tobacco,_&_other_drugs/tobacco/how_to_help_a_friend_quit.php
- ↑ http://www.cancer.org/healthy/stayawayfromtobacco/helping-a-smoker-quit
- ↑ http://www.cancer.org/healthy/stayawayfromtobacco/helping-a-smoker-quit
- ↑ http://www.cancer.org/healthy/stayawayfromtobacco/helping-a-smoker-quit
- ↑ http://www.cancer.org/healthy/stayawayfromtobacco/helping-a-smoker-quit
- ↑ http://brown.edu/Student_Services/Health_Services/Health_Education/alcohol,_tobacco,_&_other_drugs/tobacco/how_to_help_a_friend_quit.php
- ↑ http://www.health.harvard.edu/healthbeat/helping-a-loved-one-quit-smoking
- ↑ http://www.cancer.org/healthy/stayawayfromtobacco/helping-a-smoker-quit
- ↑ https://www.psychologytoday.com/blog/maybe-its-just-me/201405/the-pros-and-cons-dating-deal-breakers
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
นักจิตวิทยาที่มีใบอนุญาต
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Tracy Carver, PhD. ดร. เทรซี่ คาร์เวอร์ เป็นนักจิตวิทยาในเมืองออสติน รัฐเท็กซัสที่มีใบอนุญาตซึ่งเคยได้รับรางวัล ดร. คาร์เวอร์เชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาด้านปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการเห็นคุณค่าในตนเอง ความวิตกกังวล โรคซึมเศร้า และ psychedelic integration เธอสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีวิทยาศาสตรบัณฑิตสาขาจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียคอมมอนเวลธ์ ปริญญาโทศิลปศาสตรมหาบัณฑิตสาขาจิตวิทยาการศึกษา และปริญญาเอกสาขาจิตวิทยาการให้คำปรึกษาจากมหาวิทยาลัยเท็กซัสที่ออสติน ดร. คาร์เวอร์ยังได้สำเร็จฐานภาพแพทย์ฝึกหัดด้านจิตวิทยาคลินิกจากโรงเรียนแพทย์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดอีกด้วย เธอได้รับการโหวตให้เป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตที่ดีที่สุดในออสตินเป็นเวลา 4 ปีติดต่อกัน จากนิตยสาร Austin Fit ดร. คาร์เวอร์ได้รับการพูดถึงใน Austin Monthly, Austin Woman Magazine, Life in Travis Heights และ KVUE (บริษัทในเครือออสตินสำหรับ ABC News) บทความนี้ถูกเข้าชม 8,746 ครั้ง
หมวดหมู่: การพัฒนาบุคลิก
มีการเข้าถึงหน้านี้ 8,746 ครั้ง
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.
โฆษณา
