วิธีการ เป็นคนมีไหวพริบ

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

ไอแซก นิวตันเคยกล่าวไว้ว่า “การมีไหวพริบคือการมีศิลปะในการแสดงจุดยืนของตัวเองโดยไม่สร้างศัตรู” การมีไหวพริบก็คือการมีความสามารถในการสื่อสารสิ่งที่คุณคิดในขณะที่คิดถึงใจคนรอบข้างและไม่เผลอทำให้ใครรู้สึกขุ่นเคืองโดยไม่ได้ตั้งใจ การมีไหวพริบไม่ได้แปลว่าคุณต้องปิดบังความรู้สึกของตัวเอง แต่คือการแสดงความคิดเห็นอย่างดึงดูดใจโดยไม่ทำให้ใครขุ่นเคือง หากคุณอยากรู้ว่าต้องแสดงออกอย่างไรถึงจะดูมีไหวพริบ เริ่มอ่านขั้นตอนแรกซะเดี๋ยวนี้เลยสิ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

มีไหวพริบในการสนทนา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 คิดก่อนพูด.
    ให้เวลาตัวเองได้หยุดคิดว่าคำพูดทั้งหลายอาจตีความได้อย่างไรบ้างเพื่อป้องกันไม่ให้เผลอแสดงความเห็นอย่างหุนหันพลันแล่น คุณอาจจะคันปากอยากตอบโต้ทันทีเมื่อเจ้านายหรือเพื่อนพูดอะไรออกมา แต่ใช้เวลารวบรวมความคิดซักหน่อยก่อนที่คุณจะโพล่งสิ่งที่ตัวเองคิดออกไป ถามตัวเองดูก่อนว่านี่ใช่เวลาที่เหมาะสมแก่การแสดงความคิดของตัวเองไหมและคนอื่นๆ จะรับสิ่งที่คุณพูดออกไปได้หรือเปล่า[1]
    • ถึงการพูดสิ่งที่ตัวเองคิดออกไปอาจนำไปสู่ความคิดที่น่าสนใจได้มากมาย แต่การหยุดคิดซักสองสามนาทีก็ช่วยคุณเรียบเรียงความคิดได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเกิดไม่เห็นด้วยทันทีที่ได้ยินสิ่งที่เจ้านายพูด น่าจะดีกว่าหากคุณใช้เวลาคิดหาเหตุผลที่เป็นรูปธรรมมาสนับสนุนว่าทำไมคุณถึงไม่เห็นด้วยแทนที่จะรีบโพล่งออกไปว่าคุณคิดว่าความคิดนั้นไม่เห็นจะเข้าท่าเลย
    • สังเกตคนรอบข้าง คุณอาจจะคันปากอยากเล่าว่าคุณตื่นเต้นขนาดไหนกับงานแต่งงานของตัวเองในขณะที่หนึ่งในผู้ฟังเพิ่งผ่านการหย่าร้างอันขื่นขมมากหมาดๆ ถึงคุณจะไม่จำเป็นต้องซ่อนความตื่นเต้นไว้ในใจไปตลอด คุณก็น่าจะหาเวลาที่เหมาะสมกว่านี้ในการพูดถึงเรื่องนี้นะ
  2. How.com.vn ไท: Step 2 เบี่ยงเบนความสนใจจากความเห็นแย่ๆ.
    ถ้าคนอื่นๆ รอบตัวคุณเอาแต่แสดงความเห็นด้านลบออกมา คุณควรหลีกเลี่ยงไม่พัวพันกับเรื่องพวกนี้หากอยากเป็นคนมีไหวพริบ โดยเฉพาะถ้าคุณทำงานแล้วและไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งของการเมืองในที่ทำงาน มีหลายวิธีที่คุณสามารถเบี่ยงเบนความสนใจไปจากความเห็นแย่ ๆ และรอดพ้นสถานการณ์อันคุกรุ่นได้อย่างสวยงาม ลองทำตามวิธีการต่างๆ ด้านล่างดูสิ
    • แก้ไขคำนินทาอย่างนุ่มนวล. ตัวอย่างเช่น : “โทษทีนะแต่เรื่องที่เธอได้ยินมาเกี่ยวกับเจน โดน่ะน่าจะไม่ใช่ละมั้งจ๊ะ ฉันเพิ่งคุยกับเจนมา แล้วเจนก็บอกว่าเรื่องที่เธอโดนไล่ออกน่ะเป็นแค่ข่าวลือเท่านั้นแหละ”
    • พูดอะไรที่ไม่ผูกมัดตัวเอง. ตัวอย่างเช่น: “ผมไม่เคยเจอจอห์น โดมาก่อนก็เลยไม่รู้เลยว่านิสัยการดื่มของเขาเป็นยังไงบ้าง”
    • พูดอะไรในแง่บวกเข้าไว้. “แมรี่ ซูอาจจะมาสายบ่อย แต่เธอทำงานดีมากเลยนะ” หรือ “โดยส่วนตัวแล้ว บิล โจนส์สุภาพกับฉันเสมอ”
    • เปลี่ยนหัวข้อที่คุยกัน. “พอได้ยินเธอพูดถึงเจ้านายแล้วนึกอะไรขึ้นมาได้ เร็วๆ นี้จะมีงานเลี้ยงที่ออฟฟิศใช่ไหม? เธอจะชวนใครมาด้วยหรือเปล่า?”
    • ถอนตัวออกจากสถานการณ์. ถ้าคนอื่นๆ มัวแต่คิดในแง่ลบและสถานการณ์ไม่ดีขึ้นซักที คุณอาจจะเอ่ยขอตัวจากมาและบอกว่าคุณต้องกลับไปเข้าเรียนหรือกลับไปทำงาน โดยคุณต้องทำเหมือนกับว่าไม่ได้เอ่ยขอตัวเพราะบทสนทนาที่ว่านี้
    • ขอร้องให้คนที่กำลังนินทาหยุดคุยเรื่องนี้ดีๆ พูดไปว่า “ฉันไม่ค่อยอยากจะนินทาเพื่อนบ้านเลย” หรือ “ฉันไม่ค่อยอยากคุยเรื่องนี้ในที่ทำงานเท่าไหร่เลย”
  3. How.com.vn ไท: Step 3 แสดงความเห็นเชิงบวกก่อนที่จะให้ความเห็นเชิงลบ....
    แสดงความเห็นเชิงบวกก่อนที่จะให้ความเห็นเชิงลบ. ถ้าคุณจำเป็นต้องแสดงความเห็นเชิงลบต่อใครซักคน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงานหรือเพื่อนสนิท คุณควรหาทางตะล่อมให้คนๆ นั้นรับฟังคุณอย่างเปิดใจที่สุด ไม่ใช่ว่าคุณต้องโกหกคนๆ นั้นหากสถานการณ์ไม่ดี แต่คุณควรเริ่มพูดถึงสิ่งดีๆ ก่อนเพื่อที่คนๆ นั้นจะได้เห็นว่าคุณใส่ใจเขาหรือเธอ[2] โดยคุณอาจทำได้ดังนี้:
    • ถ้าคุณต้องการแสดงความเห็นเชิงลบต่อเพื่อน คุณอาจพูดอะไรประมาณว่า “ฉันซึ้งใจมากที่เธอพยายามจับคู่ฉันกับหนุ่มโสดทุกคนที่เธอรู้จัก แต่พอเธอทำอย่างนั้นทุกครั้งที่เราออกไปข้างนอกด้วยกัน ฉันรู้สึกว่าตัวเองน่าสงสารยังไงก็ไม่รู้สิ”
    • ถ้าคุณต้องการแสดงความเห็นเชิงลบต่อเพื่อนร่วมงาน คุณอาจพูดอะไรประมาณว่า “ฉันรับรู้ว่าคุณทำงานหนักแค่ไหนเพื่อโครงการนี้ แต่ฉันคิดว่าโครงการนี้จะยิ่งดีกว่าเดิมหากคุณให้แมรี่ช่วยคุณซักนิด”
  4. How.com.vn ไท: Step 4 เลือกใช้คำอย่างระมัดระวัง.
    เมื่อพูดกันถึงไหวพริบ หนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดที่คุณควรจำให้ขึ้นใจก็คือคุณต้องระมัดระวังคำพูดที่ใช้เพื่อแสดงความคิดต่างๆ คุณอาจจะยังสามารถพูดในสิ่งที่อยากพูดได้โดยไม่ทำให้ใครขุ่นเคืองหรือทำตัวอวดรู้ เมื่อคุณเตรียมจะแสดงความเห็น ถามตัวเองดูก่อนว่าคำพูดที่คุณจะใช้ฟังดูลำเอียง ทำร้ายจิตใจคนอื่น วางอำนาจ หรือผิดกาลเทศะไหม จากนั้น เลือกถ้อยคำที่สามารถถ่ายทอดความคิดของคุณได้โดยไม่ทำให้ใครเคืองใจ[3]
    • ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณอยากจะบอกเพื่อนร่วมงานว่าเธอควรทำงานให้เสร็จเร็วกว่านี้ อย่าบอกไปว่าเธอทำงาน “ช้า” แต่ลองถามเธอดูว่าเธอพอจะหาทางทำงานให้ “มีประสิทธิภาพ” กว่านี้ได้ไหม
    • ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณจะบอกเจ้านายว่าขอลาออก คุณไม่จำเป็นต้องพูดไปว่า “ฉันฉลาดเกินจะทำงานกับคนพวกนี้” แต่คุณอาจพูดว่า “บริษัทนี้ไม่เหมาะกับฉัน”
  5. How.com.vn ไท: Step 5 เลือกเวลาอย่างระมัดระวัง.
    เมื่อพูดกันเรื่องไหวพริบ เลือกเวลาดีมีชัยไปกว่าครึ่ง คุณอาจจะอยากพูดอะไรดี ๆ แต่สิ่งที่คุณพูดอาจจะทำให้วงแตกได้ถ้าคุณพูดผิดเวลาและอาจจะทำร้ายความรู้สึกคนอื่นโดยที่คุณไม่ได้ตั้งใจ ก่อนที่คุณจะแสดงความเห็นอะไร ถามตัวเองดูว่าควรพูดออกไปเวลานี้ไหมและถ้าพูดไปคนฟังจะรับได้ไหม คิดดูว่าจะดีกว่าไหมหากคุณรออีกซักหน่อยเพื่อที่ผลตอบรับจะได้ออกมาดี ถึงคุณจะคันปากอยากพูดแทบตายก็เถอะ[4]
    • ตัวอย่างเช่น ถ้าลินดา เพื่อนสาวของคุณตื่นเต้นสุดๆ ที่จะเล่าเรื่องงานหมั้นที่เพิ่งผ่านไปให้เพื่อนทุกคนฟัง คุณอาจเก็บเรื่องที่คุณตั้งครรภ์ไว้เล่าให้เพื่อนๆ ฟังอาทิตย์หน้าเพื่อที่คนอื่นๆ จะได้สนใจลินดานานอีกซักหน่อยเพราะคุณไม่อยากให้เพื่อนรู้สึกว่าโดนคุณเกทับในวันสำคัญ
    • ตัวอย่างเช่น ถ้าเจ้านายของคุณกำลังพูดสรุปการนำเสนองานอันแสนยาวนานตอนเวลาใกล้เลิกงาน คงไม่เหมาะหากคุณถามคำถามนอกเรื่องเกี่ยวกับรายงานการประชุม การถามคำถามตอนนี้มีแต่จะทำให้เกิดความสับสนและเจ้านายของคุณก็คงจะมัวแต่สนใจเรื่องการนำเสนองานจนไม่มีกะจิตกะใจมาตอบสิ่งที่คุณอยากรู้ หากคุณรอถามคำถามในวันถัดมา เจ้านายของคุณอาจจะยินดีพูดคุยเรื่องที่ว่ากับคุณมากกว่านะ
  6. How.com.vn ไท: Step 6 ปฏิเสธคำขออย่างสุภาพ.
    หากมีคนขอให้คุณทำอะไร คุณควรหาทางปฏิเสธคำขอนั้นอย่างสุภาพถึงคุณจะกรีดร้องในใจว่า “ฝันไปเถอะ!” ก็ตามที ไม่ว่าจะมีคนชวนคุณไปร่วมงานเลี้ยงต้อนรับทารกแรกเกิดของคนที่คุณแทบไม่รู้จักหรือมีคนขอให้คุณอยู่ดึกเพื่อทำงานให้เสร็จในคืนวันศุกร์ คุณควรตอบอีกฝ่ายอย่างใจเย็นว่าคุณอยากจะทำตามที่ขอเสียเหลือเกินแล้วค่อยให้เหตุผลสั้นๆ และเอ่ยขอโทษว่าทำไมคุณถึงทำไม่ได้แทนที่จะตอบปฏิเสธทันทีและชักสีหน้าโกรธเคืองหรือไม่พอใจ สิ่งที่คุณจะสื่อจะยังคงเดิมแต่คุณจะไม่ทำให้ใครขุ่นเคืองใจเมื่อพูดไป
    • ตัวอย่างเช่น ถ้าเจ้านายขอให้คุณทำงานเพิ่มอีกหนึ่งโครงการและคุณไม่มีเวลามากพอ คุณอาจพูดอะไรประมาณว่า “ขอบคุณมากเลยนะครับที่อยากให้โอกาสผมได้ทำงานนี้ น่าเสียดายที่ผมยังยุ่งอยู่กับการปิดโครงการสองโครงการที่ท่านได้มอบหมายให้ผมดูแล ผมคงไม่มีเวลารับงานเพิ่ม แต่ผมก็ยินดีที่จะช่วยเหลือหากมีโครงการลักษณะนี้อีกในอนาคตนะครับ”
    • ตัวอย่างเช่น ถ้าเพื่อนของคุณชวนคุณไปปีนเขาด้วยกันแต่คุณไม่ค่อยสนใจกีฬาประเภทนี้ คุณอาจพูดอะไรประมาณว่า “ทริปไปเที่ยวป่าเรทวู้ดช่วงสุดสัปดาห์ของนายฟังดูเข้าท่านะ แต่ฉันอยากจะพักผ่อนซักหน่อยช่วงสุดสัปดาห์นี้ ฉันมีสัปดาห์อันแสนทรหดมากที่ที่ทำงานและอยากจะผ่อนคลายความเครียดซักหน่อย ไว้เราค่อยไปดื่มด้วยกันวันศุกร์หน้าดีไหม?”
  7. How.com.vn ไท: Step 7 อย่าเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวให้คนที่คุณไม่ค่อยสนิทรู้....
    อย่าเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวให้คนที่คุณไม่ค่อยสนิทรู้. อีกอย่างที่พวกไม่มีไหวพริบชอบทำก็คือป่าวประกาศเรื่องของตัวเองให้ชาวบ้านชาวช่องรับรู้กันทั่ว ถ้าคุณอยากเป็นคนมีไหวพริบ คุณต้องไม่เที่ยวป่าวประกาศบอกทุกคนในรัศมีการได้ยินว่าคุณเพิ่งเลิกกับแฟนมา มีผื่นขึ้นตามแขนขา หรือเล่าปัญหาส่วนตัวต่างๆ ให้คนอื่นฟัง การบอกเรื่องส่วนตัวให้คนที่ไม่ค่อยสนิทฟังมีแต่จะทำให้คนพวกนั้นรู้สึกอึดอัดและจะไม่ทำให้คุณได้เพื่อนใหม่เพิ่มหรอกนะ รู้จักใช้ไหวพริบซะบ้างและสังเกตดูว่าคนอยากฟังเรื่องที่คุณเล่าต่อหรือควรจะหยุดเล่าได้แล้ว
    • การเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของคนอื่นก็ไม่สมควรเช่นกัน ถ้าคุณอยู่กับเพื่อนสนิทและเพื่อนที่ยังไม่ค่อยสนิทอีกสองสามคน คุณไม่ควรพูดถึงเรื่องส่วนตัวของเพื่อนสนิทต่อหน้าคนอื่น เพื่อนของคุณอาจจะพร้อมที่จะเล่าปัญหาความสัมพันธ์อันซับซ้อนระหว่างเขาและแม่ให้คุณรู้ แต่เขาอาจจะไม่ได้อยากให้ทั้งโลกรู้เรื่องปัญหานี้ก็ได้นะ
  8. How.com.vn ไท: Step 8 แสดงภาษากายให้สอดคล้องกับคำพูด.
    มันก็ดีอยู่หรอกที่คำพูดของคุณฟังดูเป็นมิตรและสุภาพ แต่ถ้าร่างกายของคุณสื่ออะไรที่ตรงข้ามกันล่ะก็ ข้อความที่คุณอยากจะสื่อก็จะผิดเพี้ยนไปหมดเชียวล่ะ ถ้าคุณกำลังจะบอกเรื่องสำคัญกับใครอย่างนุ่มนวล คุณควรจะสบตาและมองหน้าคนๆ นั้น ไม่ใช่ก้มหน้าก้มตาหรือมัวแต่มองพื้น แสดงให้คนๆ นั้นเห็นว่าคุณสนใจและใส่ใจเขาจริงๆ คนๆ นั้นอาจจะเชื่อคุณยากอยู่เสียหน่อยหากคุณบอกว่าเขาหรือเธอทำงานดีมากแต่เอาแต่มองไปทางอื่นตลอดเวลา[5]
    • การกระทำสำคัญกว่าคำพูดจริงๆ นะ ดังนั้นคุณต้องระวังไม่แสดงภาษากายที่ขัดแย้งกับสิ่งที่คุณพูด
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

เอาใจเขามาใส่ใจเรา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ลองมองจากมุมของคนอื่นและพยายามเข้าใจคนๆ นั้น....
    ลองมองจากมุมของคนอื่นและพยายามเข้าใจคนๆ นั้น. อีกคุณสมบัติของผู้มีไหวพริบคือสามารถเข้าใจภูมิหลังของคนอื่นได้ การฟังความคิดของตัวเองเป็นเรื่องสำคัญก็จริงแต่การเข้าใจคนอื่นที่มีความเห็นแตกต่างไปจากคุณก็สำคัญเช่นกันนะ ถ้าคุณแสดงออกให้คนๆ นั้นเห็นว่าคุณเข้าใจว่าเขาหรือเธอมีภูมิหลังเช่นไร คนๆ นั้นก็อาจจะรับฟังคุณมากขึ้นและยอมรับความคิดของคุณมากกว่าเดิม
    • ตัวอย่างเช่น คุณอาจพูดอะไรประมาณว่า “แมรี่ ฉันเข้าใจนะว่าคุณงานยุ่งมากช่วงนี้...” อาจจะทำให้คุณขอให้แมรี่ช่วยคุณทำงานอีกอย่างได้ง่ายขึ้นกว่าการแค่พูดว่า “นี่ เธออยู่ดึกช่วยฉันทำรายงานฉบับใหม่หน่อยได้ไหม?” เพราะถ้าคุณพูดอย่างนี้ แมรี่อาจจะคิดว่าคุณช่างไม่มีหัวจิตหัวใจเอาเสียเลยได้
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ยอมรับความแตกต่างทางวัฒนธรรมและแสดงออกถึงความเอาใจใส่โดยไม่ต้องให้ใครร้องขอ....
    ยอมรับความแตกต่างทางวัฒนธรรมและแสดงออกถึงความเอาใจใส่โดยไม่ต้องให้ใครร้องขอ. ในโลกใบนี้มีความแตกต่างทางวัฒนธรรมมากมายที่ควรได้รับความสนใจ โดยความแตกต่างทางวัฒนธรรมเหล่านี้ขึ้นอยู่กับว่าคนๆ นั้นมาจากที่ไหน เติบโตมาอย่างไร เชื้อชาติใด มีภูมิหลังเช่นไรหรือมาจากยุคสมัยใด สิ่งที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในวัฒนธรรมหนึ่งอาจเป็นสิ่งที่หยาบคายในอีกวัฒนธรรมได้ ดังนั้น ถามตัวเองดูก่อนว่าคุณได้ใส่ใจเรื่องความแตกต่างทางวัฒนธรรมไหมก่อนที่คุณจะแสดงความเห็นอะไรออกมา
  3. How.com.vn ไท: Step 3 เป็นคนสุขุมรอบคอบ.
    คุณอาจจะอยากแก้สิ่งที่เพื่อนร่วมงานพูดผิดขณะนำเสนองานหรืออยากบอกเพื่อนว่ามีเศษผักขมชิ้นโตติดฟันอยู่ แต่แทนที่จะโพล่งบอกออกไปต่อหน้าทุกคน คุณควรดึงเพื่อนออกมาจากผู้คนแล้วค่อยบอก ความสุขุมรอบคอบนั้นเป็นคุณสมบัติข้อสำคัญของการเป็นคนมีไหวพริบเพราะจะช่วยให้คุณรู้ว่าควรพูดอะไรในสถานการณ์ไหน คุณสมบัติข้อนี้เป็นสิ่งที่คุณควรมีเมื่อก้าวเข้าสู่โลกของการทำงานและแวดวงสังคม
    • ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณกับเพื่อนอีกคนที่ทำงานด้วยกันได้ขึ้นเงินเดือนแต่ไม่มีใครในบริษัทได้เหมือนกัน น่าจะดีกว่าหากคุณไม่โม้เรื่องนี้ต่อหน้าทุกคน คุณสามารถฉลองกันเป็นการส่วนตัวทีหลังได้
  4. How.com.vn ไท: Step 4 รักษาท่าทีแม้ว่าจะไม่พอใจ.
    สงบจิตสงบใจ พูดจาชวนฟังอย่างจริงใจ มองโลกในแง่ดีเข้าไว้ ถึงคุณจะคันปากอยากบอกเพื่อนแทบตายว่า “ความจริงแล้ว” คุณคิดเช่นไรต่อการกระทำของเธอหรือคุณอยากจะตะโกนด่าเพื่อนร่วมงานที่ทำให้โครงการที่คุณทำอยู่เละไม่เป็นท่า คุณควรสงบปากไว้และทำตัวดีให้นานที่สุดจนกระทั่งคุณหาเวลาที่เหมาะสมแก่การพูดความรู้สึกที่แท้จริงได้ ไม่มีประโยชน์หรอกที่จะพูดสิ่งที่คุณจะต้องมาเสียใจภายหลังว่าไม่น่าพูดไปเพราะหงุดหงิดเลย
    • ตัวอย่างเช่น ถ้ามีคนให้เสื้อกันหนาวหน้าตาน่าเกลียดกับคุณ พูดไปว่า “ขอบคุณสำหรับของขวัญ ฉันซึ้งใจมากเลยที่คุณคิดถึงกัน”
  5. How.com.vn ไท: Step 5 เห็นอกเห็นใจคนอื่น.
    สังเกตคนรอบข้างก่อนที่คุณจะแสดงความเห็นอะไรและคิดดูว่าคนอื่นๆ จะรับได้ไหม การรู้ว่าแต่ละคนมีภูมิหลังอย่างไรก่อนที่คุณจะแสดงความเห็นทางการเมือง ศาสนา หรือเรื่องส่วนตัวอื่นๆ เป็นเรื่องสำคัญนะ ถึงคุณจะไม่สามารถรู้ภูมิหลังของทุกคนได้ทันทีที่คุณพูด การตระหนักถึงความเชื่อและประสบการณ์ที่ผ่านมาของคนรอบข้างก็ยังเป็นเรื่องสำคัญอยู่ดีในการหลีกเลี่ยงไม่ทำให้ใครขุ่นเคืองใจ
    • ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเพิ่งได้ขึ้นเงินเดือนแต่บ๊อบเพิ่งโดนไล่ออก นี่ก็ไม่ใช่เวลาจะมาโม้เรื่องเงินเดือนขึ้นเสียแล้วล่ะ
    • ถ้าหนึ่งในคนใกล้ตัวของคุณเป็นชาวคริสต์ผู้เคร่งศาสนา นี่ก็ไม่ใช่เวลาที่คุณควรจะแสดงความเห็นว่าศาสนานั้นช่างไร้ความหมาย
    • ถ้าคนใกล้ตัวของคุณเหน็ดเหนื่อยจากวันอันแสนยาวนาน อย่าคาดหวังให้เขามาช่วยคุณแก้ปัญหาหนักอกหนักใจให้คุณอีก มีความอดทนซะบ้างเถอะ
  6. How.com.vn ไท: Step 6 เป็นผู้ฟังที่ดี.
    การเป็นผู้ฟังที่ดีเป็นหนึ่งในคุณสมบัติสำคัญของผู้มีไหวพริบ สิ่งที่คนพูดกับคิดนั้นแตกต่างกันได้ ดังนั้น คุณต้องใช้หูฟังและรู้จักสังเกตเพื่อที่จะได้เข้าใจว่าคนๆ นั้นต้องการจะสื่ออะไรกันแน่ ถ้าเพื่อนของคุณบอกว่าหายช้ำใจจากการเลิกรากับคนรักแล้วและพร้อมไปปาร์ตี้กับคุณสุดๆ แต่แววตาและท่าทางของเพื่อนกลับไม่ได้บอกเช่นนั้น หาทางบอกเพื่อนดีๆ ว่าหากเธอยังไม่พร้อมออกไปเที่ยวด้วยกันก็ไม่เป็นไร
    • การใส่ใจความรู้สึกที่แท้จริงของคนอื่นขณะที่พวกเขาพูดอาจช่วยให้คุณตอบสนองต่อพวกเขาได้อย่างมีไหวพริบได้ ตัวอย่างเช่น ถ้าเพื่อนร่วมงานของคุณหัวปั่นกับโครงการที่รับผิดชอบแต่ไม่กล้าขอความช่วยเหลือจากใคร ลองใส่ใจสังเกตอาการของอีกฝ่าย เช่น คนๆ นั้นมีท่าทีเครียดขึง พูดตะกุกตะกัก หรือพูดอะไรซ้ำไปซ้ำมาหรือเปล่า ถ้าใช่ เขาหรือเธออาจจะพยายามขอให้คุณช่วยอยู่ก็ได้นะ
    • การตั้งใจฟังยังช่วยให้คุณสังเกตได้ว่าคนที่ฟังอยู่หมดความสนใจและไม่อยากได้ยินเรื่องที่คุณกำลังพูดอีกแล้วหรือไม่ ถ้าคุณกำลังแสดงความเห็นต่อเพื่อนร่วมงานในขณะที่เขาหรือเธอกำลังหงุดหงิด คุณจะสามารถสังเกตได้จากคำพูดของเขาหรือเธอว่าเพื่อนร่วมงานของคุณอาจไม่พร้อมรับฟังความเห็นเพิ่มเติมในตอนนี้ ถ้าเป็นเช่นนั้น คุณควรหยุดพูดถึงเรื่องนี้อย่างนุ่มนวลแล้วเก็บไว้พูดโอกาสหน้า
  7. How.com.vn ไท: Step 7 เคารพผู้อื่น...
    เคารพผู้อื่น. การเคารพผู้อื่นกับการเป็นคนมีไหวพริบนั้นสอดคล้องกัน ถ้าคุณอยากจะเป็นคนมีไหวพริบที่แท้จริงแล้วล่ะก็ คุณต้องรู้ว่าควรปฏิบัติตนต่อผู้อื่นด้วยความเคารพ ซึ่งก็แปลว่าคุณต้องปล่อยให้คนอื่นพูดให้จบก่อนไม่ใช่พูดแทรก สนใจคนอื่นอย่างเต็มที่เมื่อเขาหรือเธอกำลังบอกอะไรกับคุณ และถามคนอื่นว่าสบายดีไหมก่อนที่จะแจ้งข่าวร้ายให้พวกเขาทราบ การปฏิบัติตนต่อทุกคนอย่างดีด้วยความใส่ใจและเข้าใจว่าการทำให้คนอื่นรู้สึกว่าได้รับการปฏิบัติอย่างชอบธรรมนั้นเป็นเรื่องสำคัญ แม้ว่าคนเหล่านั้นอาจจะไม่ใช่คนที่คุณชื่นชอบนักก็ตามที
    • การเคารพผู้อื่นเป็นมารยาทขั้นพื้นฐาน อย่าพูดคำหยาบต่อหน้าผู้ใหญ่ อย่าพูดจาสองแง่สามง่ามต่อหน้าคนที่คุณยังไม่รู้จักดี ไม่ใช่นั้นคุณจะดูเป็นคนไม่รู้กาลเทศะและไร้ไหวพริบได้
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Jessica George, MA, CHt
ร่วมเขียน โดย:
โค้ชชีวิตผู้เชี่ยวชาญระดับมืออาชีพที่มีใบรับรอง
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Jessica George, MA, CHt. เจสสิกา จอร์จเป็นโค้ชชีวิตผู้เชี่ยวชาญระดับมืออาชีพที่มีใบรับรองและผู้ร่วมก่อตั้ง Evolve Therapy Coaching ซึ่งอยู่ที่เกลนเดล รัฐแคลิฟอร์เนีย เธอเชี่ยวชาญการบำบัดแบบผสมผสาน การให้บริการด้านการโค้ช การให้คำปรึกษาแก่คู่สมรส และการสะกดจิตบำบัดทางคลินิก โดยมีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี เจสสิกาได้รับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตแซนตาบาร์บารา และได้รับปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาจิตวิทยาการปรึกษาและการบำบัดด้วยการพูดคุย จากวิทยาลัยเรียวคาน เธอยังได้รับใบรับรองการเป็นโค้ชชีวิตมืออาชีพจาก Fowler Academy และได้รับใบรับรอง Infinite Possibilities Relationship อีกด้วย เจสสิกาเป็นสมาชิกของคณะกรรมการโค้ชและผู้ฝึกหัดนานาชาติ (IBCP) บทความนี้ถูกเข้าชม 153,026 ครั้ง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 153,026 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา