ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความX
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้
บทความนี้ถูกเข้าชม 32,396 ครั้ง
เมนูที่ปรุงจากเนื้อปลาแซลมอนนั้นมีหลากหลายและอร่อย แต่เนื้อปลาแซลมอนนั้นสุกง่ายและต้องใช้เทคนิคเล็กน้อยในการปรุง โดยทั่วไปนิยมปรุงเนื้อปลาแซลมอนด้วยวิธีการอบ ย่าง ปิ้ง จี่บนกระทะ หรือต้ม และเพิ่มรสชาติของเนื้อปลาด้วยการหมักกับเครื่องปรุงรส ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่เรื่องการเข้าครัวหรือพอจะมีประสบการณ์ในการทำอาหารอยู่บ้าง เมนูแซลมอนเป็นอะไรที่ไม่น่ากลัวเลย เริ่มต้นที่ขั้นตอนแรกด้วยการหมักเนื้อปลาแซลมอนกันก่อน จากนั้น เลือกวิธีการปรุงในแบบที่คุณชอบ
สำหรับเสิร์ฟ 4 ที่
ส่วนประกอบ
- เนื้อปลาแซลมอน 4 ชิ้น น้ำหนักชิ้นละประมาณ 170 กรัม
- การ์ลิคซอลต์ ½ ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำ 1-2 ถ้วย (สำหรับวิธีการต้มเท่านั้น)
ขั้นตอน
เตรียมผงการ์ลิคซอลต์ น้ำมะนาว และน้ำมันมะกอก. (การ์ลิคซอลต์คือผงเกลือผสมกระเทียม มีขายตามซูเปอร์มาร์เก็ตแผนกเครื่องเทศ) เทเครื่องปรุงทั้งสามลงในชามใบเล็กและคนให้เข้ากัน จากนั้นเทใส่ในถุงพลาสติกซิปล็อกที่เตรียมไว้- สามารถใช้ชามแก้วปิดปากชามด้วยฟอยล์แทนถุงพลาสติกได้
- หมักเนื้อปลา. ใส่เนื้อปลาแซลมอนลงในถุงเครื่องปรุงรส ปิดปากถุงให้สนิทแล้วพลิกถุงไปมาเพื่อให้น้ำปรุงรสเคลือบทั่วชิ้นปลา
- หากใช้ชามแก้ว ให้พลิกชิ้นปลาไปมาในน้ำปรุงรสเพื่อให้เครื่องปรุงรสเคลือบติดเนื้อปลาให้ทั่ว จากนั้นปิดปากชามด้วยฝาหรือแผ่นฟอยล์
แช่เย็นนาน 30 นาที. นำถุงหรือชามเนื้อปลาที่หมักไว้ไปแช่ในตู้เย็นนาน 30 นาที- เนื้อปลาแซลมอนก็เหมือนกับเนื้อปลาทั่วไปที่เนื้อไม่ได้มีความหนาแน่นเหมือนกับเนื้อแดงอื่นๆ หรือเนื้อไก่ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องหมักไว้นานเพื่อให้เข้ารส
- นำเนื้อปลาแซลมอนออกจากตู้เย็นแล้วตั้งทิ้งไว้อย่างน้อย 10 นาทีก่อนนำไปปรุงสุกเพื่อให้เนื้อปลาคลายความเย็นลง ซึ่งจะทำให้ปลาสุกทั่วชิ้นเมื่อนำไปปรุงสุก
โฆษณา
อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 200℃ เตรียมถาดอบแบบขอบตื้น ปูแผ่นฟอยล์ลงบนถาดอบเพื่อกันติด.- หากไม่มีแผ่นฟอยล์ ให้ใช้คุ้กกิ้งสเปรย์แทนได้ โดยฉีดลงบนถาดอบให้ทั่ว
นำชิ้นปลาที่หมักไว้มาวางลงตรงกลางแผ่นฟอยล์. หากเป็นชิ้นปลาที่มีหนังติดอยู่ ให้วางด้านที่เป็นหนังคว่ำลงบนถาด- จัดปลาลงบนถาดให้แผ่ออกสม่ำเสมอ ห้ามวางซ้อนชิ้นกัน
อบปลาเป็นเวลา 15 นาที. [1] ใส่ถาดอบเข้าเตาอบ จัดให้อยู่ตรงกลาง แล้วอบไปจนปลาสุก- เนื้อปลาที่สุกดีต้องสามารถใช้ส้อมแยกเนื้อปลาออกจากกันได้โดยง่าย และตรงกลางชิ้นก็ต้องไม่เห็นเป็นเนื้อปลาดิบ
เสิร์ฟปลาที่อุณหภูมิที่ต้องการ. แต่เมนูปลาแซลมอนควรจะเสิร์ฟเมื่อยังร้อนตอนที่เอาออกจากเตาอบ หรือเสิร์ฟเมื่อเย็นลงที่อุณหภูมิห้องโฆษณา
อุ่นตะแกรงปิ้งให้ร้อน. เปิดไฟให้ตะแกรงปิ้งร้อนเป็นเวลา 5-10 นาที- เตาปิ้งส่วนใหญ่จะมีแต่ปุ่มเปิดปิดไฟเท่านั้น แต่หากเตาปิ้งของคุณมีระดับความร้อนให้เลือกระหว่าง "high" และ "low" ให้เลือกไปที่ high
นำปลาที่หมักไว้มาวางบนตะแกรงปิ้ง. ปิ้งปลาบนตะแกรงโดยเอาทางด้านที่มีหนังคว่ำลง- จัดวางปลาให้แผ่ออกไม่พับ ห้ามวางปลาซ้อนชิ้น
- หากต้องการ สามารถเคลือบตะแกรงด้วยคุ้กกิ้งสเปรย์ก่อนที่จะนำปลาไปปิ้ง โดยทั่วไปจะไม่แนะนำให้ใช้คุ้กกิ้งสเปรย์กับเนื้อที่มีไขมันมาก แต่หากใช้กับเนื้อที่มีไขมันไม่มาก จะทำให้เนื้อปลาสูญเสียน้ำเมื่อสุกแล้วจะแห้ง และเนื้อจะติดที่ตะแกรงปิ้ง ทำให้เสียเนื้อปลา
ปิ้งเป็นเวลา 10-12 นาที.[2] วางตะแกรงให้อยู่ห่างจากไฟประมาณ 14 ซม. แล้วปิ้งจนสุก- เนื้อปลาที่สุกดีต้องสามารถใช้ส้อมแยกเนื้อปลาออกจากกันได้โดยง่าย และตรงกลางชิ้นก็ต้องไม่เห็นเป็นเนื้อปลาดิบ
- ในการปิ้งอาจพลิกปลาครั้งหนึ่งเพื่อให้ปลาสุกทั่วชิ้น แต่ความจริงไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น ยิ่งไปกว่านั้น การพลิกปลาแซลมอนปิ้งอาจทำให้เนื้อปลาแยกออกจากกันแล้วตกลงไปในเตาได้
พร้อมเสิร์ฟ. การเสิร์ฟปลาแซลมอนปิ้ง อาจเสิร์ฟทันทีหลังจากที่เอาออกจากเตา หรือเสิร์ฟเมื่อเย็นลงที่อุณหภูมิห้องโฆษณา
อุ่นเตาย่าง. สามารถใช้ได้ทั้งเตาย่างแก๊สและเตาย่างถ่าน- ถ้าใช้เตาย่างแก๊ส ให้อุ่นเตาไปที่ 230 องศาเซลเซียส
- ถ้าใช้เตาถ่าน ให้ก่อไฟโดยเกลี่ยถ่านให้ทั่วเตา จุดไฟแล้วปล่อยถ่านให้ติดไฟแดงทั่วจนหมดควัน ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง
- ห่อชิ้นปลาแซลมอนที่หมักไว้ด้วยแผ่นฟอยล์. วางชิ้นปลาลงตรงกลางแผ่นฟอยล์ พับด้านข้างขึ้นมาทบกัน พับด้านหัวและท้ายให้ปิดสนิท กดให้แผ่นฟอยล์แบนเรียบไม่มีส่วนที่เปิดออก
- หากใช้แผ่นฟอยล์แบบนอนสติ้ก ให้วางชิ้นปลาบนด้านที่ไม่ติด
- นำปลาไปย่างจนสุก. ใช้เวลาประมาณ 14-16 นาที [3] ใช้คีมหรือตะหลิวกันความร้อนพลิกปลาเพียงครั้งเดียวเมื่อย่างด้านหนึ่งไปประมาณ 7-8 นาที
- การเช็คว่าปลาสุกทั่วหรือยังอาจทำได้ยากเพราะห่อฟอยล์จะร้อนมาก เมื่อนำปลาออกจากเตาแล้วให้รอสักครู่จึงค่อยเปิดฟอยล์ดู หากไม่สามารถใช้ส้อมแยกเนื้อปลาออกจากกันได้โดยง่าย และเนื้อปลาตรงกลางยังไม่สุกดี ให้ห่อฟอยล์กลับแล้วนำไปย่างอีกครั้ง
พักปลาไว้ก่อนนำไปเสิร์ฟ. นำปลาที่ย่างสุกได้ที่แล้วออกจากเตาแล้วตั้งพักไว้ที่อุณหภูมิห้องเป็นเวลา 5 นาทีโดยยังไม่ต้องแกะห่อฟอยล์ออก จากนั้นจึงนำไปเสิร์ฟได้โฆษณา
- อุ่นกระทะด้วยไฟแรง. กระทะต้องร้อนแต่ไม่ควรร้อนจัดขนาดมีควันขึ้น
- หากต้องการ อาจฉีดคุ้กกิ้งสเปรย์หรือใช้น้ำมันมะกอกเคลือบกระทะสักประมาณ 1 ช้อนโต๊ะก่อนที่จะอุ่นกระทะให้ร้อน อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนนี้ไม่จำเป็นหากตอนหมักได้ใส่น้ำมันมะกอกลงไปด้วยแล้ว หรืออาจจะทาน้ำมันมะกอกที่ชิ้นปลาก็ได้
- วางปลาลงบนกระทะที่ร้อนแล้ว. เมื่อจี่ไปประมาณ 3 นาที ให้พลิกด้าน แล้วย่างต่อไปอีกประมาณ 3-4 นาที
- ใช้ตะหลิวพลิกปลา ไม่ควรใช้ที่คีบเพราะเนื้อปลาแซลมอนจะแตกออกจากกันได้
- เนื้อปลาแซลมอนสุกจะสามารถใช้ส้อมจิ้มให้แยกจากกันได้โดยง่าย และเนื้อปลาตรงกลางไม่เห็นเป็นเนื้อปลาดิบ
ปล่อยปลาพักไว้ให้เย็นลงเล็กน้อยก่อนจัดเสิร์ฟ. หลังจากเอาปลาออกจากกระทะแล้ว ให้พักไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 5 นาทีก่อนนำไปเสิร์ฟโฆษณา
- ต้มหรือตุ๋นปลาแซลมอน. ใส่น้ำลงในกระทะขอบสูง ใช้ไฟกลางต้มน้ำจนกระทั่งน้ำเดือดเล็กน้อย
- หากต้องการ ระหว่างต้มน้ำอาจเติมเกลือเล็กน้อย อาจเติมหัวหอมหรือพืชที่ให้กลิ่นหอม เช่น ผักชีลาว โรสแมรี่ หรือพืชสมุนไพรอื่นๆ ซึ่งจะช่วยในการเพิ่มรสชาติให้กับแซลมอนต้มซึ่งเป็นวิธีการที่นิยมมากกว่าการหมักปลาด้วยเครื่องปรุงรสแล้วนำไปต้ม
- ใส่ปลาลงในกระทะ. หากชิ้นปลามีหนังติดอยู่ ให้คว่ำด้านที่เป็นหนังลง ปิดฝาแล้วต้มเป็นเวลา 5-10 นาที [4]
- ลองใช้ส้อมจิ้มชิ้นปลา หากสามารถแยกเนื้อออกจากกันได้โดยง่ายและตรงกลางไม่เห็นเป็นเนื้อปลาดิบ แสดงว่าปลาสุกดีแล้ว
เสิร์ฟขณะยังอุ่นๆ. นำกระทะออกจากเตา แล้วปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 3-5 นาที ก่อนนำไปเสิร์ฟโฆษณา
เคล็ดลับ
- ทดลองกับส่วนผสมเครื่องปรุงรสอื่นๆ ตามชอบ ลองใช้น้ำมัน น้ำส้ม และเครื่องปรุงรสชนิดอื่นๆ ดูได้ โดยมากน้ำส้มที่ใช้อาจเป็นน้ำส้มสายชูหรือน้ำมะนาว ส่วนเครื่องปรุงรสอาจเป็นแบบผงหรือเป็นน้ำก็ได้ เช่น อาจทำซอสหมักโดยใช้ซอสถั่วเหลือง น้ำสมสายชูหมักจากข้าว น้ำมันมะกอก และน้ำตาลทรายแดง เป็นต้น นอกจากนี้ ยังสามารถหมักปลาด้วยซอสวินนะเกรท (vinaigrette dressing) ซึ่งมีส่วนผสมของน้ำส้มสายชู น้ำมัน และเครื่องปรุงรสพร้อมอยู่แล้ว
- หากต้องการ อาจเตรียมซอสหมักเพิ่มสำหรับทาเนื้อปลาในขณะย่าง หรือใช้เป็นซอสสำหรับจิ้ม สำหรับการทาขณะย่าง เมื่อย่างปลาสุกได้สักครึ่งทางแล้ว ให้ใช้แปรงจุ่มซอสแล้วทาลงบนชิ้นปลาขณะที่กำลังย่างต่อให้สุก หากนำไปทำเป็นซอสสำหรับจิ้ม ให้นำซอสหมักไปเคี่ยวไฟกลางจนซอสมีความข้นและเหนียว
- ในการอบหรือจี่บนกระทะ อาจจะไม่ต้องหมักเนื้อปลา แต่ใช้พืชสมุนไพรสด เช่น พาสลีย์ ใบโหระพา หรือผักชีลาว วางคลุมบนเนื้อปลาแล้วนำไปอบหรือจี่บนกระทะก็ได้เช่นกัน
โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
- ถุงซิปล็อกขนาดจุ 4 ลิตร หรือชามแก้ว
- ฟอยล์แบบนอนสติ้ก
- คุ้กกิ้งสเปรย์
- ถาดอบ
- กระทะย่าง
- ตะแกรงย่าง
- ตะหลิวแบน
- กระทะ
- ส้อม
ข้อมูลอ้างอิง
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
นักเขียนในทีมวิกิฮาว
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 32,396 ครั้ง
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 32,396 ครั้ง
หมวดหมู่: ปลาและอาหารทะเล | สูตรอาหาร
มีการเข้าถึงหน้านี้ 32,396 ครั้ง
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.
โฆษณา
