ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

คำขอโทษคือการแสดงความรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่คุณได้ทำผิดไปและเป็นวิธีสมานความสัมพันธ์หลังความผิดพลาด การให้อภัยเกิดขึ้นเมื่อบุคคลที่ถูกทำให้เจ็บช้ำน้ำใจยินยอมที่จะสมานความสัมพันธ์กับผู้ที่กระทำตน[1] คำขอโทษที่ดีจะสื่อสารสามสิ่ง ได้แก่ การรู้สึกผิด ความรับผิดชอบและการแก้ไข[2] การขอโทษกับความผิดพลาดอาจจะดูยากแต่มันจะช่วยให้คุณสมานและปรับปรุงความสัมพันธ์กับผู้อื่น

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

การเตรียมคำขอโทษ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ล้มเลิกความคิดที่ว่าคุณเป็นฝ่ายถูก.
    การถกเถียงเรื่องรายละเอียดของประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลมากกว่าหนึ่งคนมักจะน่าโมโหเพราะประสบการณ์นั้นเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล วิธีที่เราประสบและตีความสถานการณ์นั้นไม่เหมือนใครและคนสองคนมักจะมีความเห็นที่ไม่ตรงกัน คำขอโทษจะต้องรับรู้ถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายหนึ่งจริงๆ ไม่ว่าคุณจะคิดว่าเขาถูกหรือไม่ก็ตาม[3]
    • เช่น ลองนึกว่าคุณไปดูหนังคนเดียวและไม่ได้ไปกับแฟน แฟนของคุณรู้สึกโดนทิ้งและเสียใจ คุณควรรับรู้ว่าอีกฝ่ายรู้สึกเสียใจในคำขอโทษ แทนที่จะเถียงว่าแฟนของคุณผิดหรือถูกที่รู้สึกแบบนี้หรือคุณเป็นฝ่ายผิดหรือถูกที่ออกไปดูหนัง
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ใช้ประโยคที่เกี่ยวกับ “ฉัน”.
    การผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุดเกี่ยวกับคำขอโทษคือการใช้ประโยคที่เกี่ยวกับ “เธอ” แทน “ฉัน” เมื่อคุณขอโทษคุณต้องรับผิดชอบในสิ่งที่คุณทำ อย่าโยนความผิดไปให้อีกฝ่ายหนึ่ง มุ่งความสนใจไปที่สิ่งที่คุณทำและหลีกเลี่ยงการโทษคนอื่น[4]
    • เช่น คำขอโทษที่พบบ่อยแต่ไม่มีประสิทธิภาพคือ “ฉันขอโทษที่ความรู้สึกของเธอเจ็บปวด” หรือ “ฉันขอโทษที่เธอเสียใจ” คำขอโทษไม่จำเป็นต้องข้องเกี่ยวกับความรู้สึกของอีกฝ่ายแต่เป็นความรับผิดชอบของคุณเอง คำขอโทษเหล่านี้ไม่ได้แสดงถึงความรับผิดชอบของคุณแต่มันโยนความรับผิดชอบกลับมาที่บุคคลที่ถูกทำให้เสียใจ[5][6]
    • มุ่งความสนใจมาที่ตัวคุณ ประโยคที่ว่า “ฉันขอโทษที่ทำให้เธอรู้สึกเสียใจ” หรือ “ฉันขอโทษที่ทำไม่ดีกับเธอ” แสดงความรับผิดชอบต่อความเจ็บปวดที่คุณก่อขึ้นและไม่โยนความผิดให้คนอื่น
  3. How.com.vn ไท: Step 3 หลีกเลี่ยงการอธิบายการกระทำ.
    มันเป็นเรื่องธรรมดาที่คุณอยากจะอธิบายการกระทำให้อีกฝ่ายหนึ่งได้ฟัง อย่างไรก็ตามการพยายามอธิบายการกระทำของตัวเองจะตีความหมายของคำขอโทษไปในทางลบเพราะอีกฝ่ายอาจจะมองคำขอโทษว่าไม่จริงใจ[7]
    • คำอธิบายอาจจะรวมถึงคำอ้างว่าคนที่คุณทำให้เสียใจนั้นเข้าใจคุณผิด เช่น “เธอเข้าใจฉันผิด” อีกทั้งมันอาจจะรวมถึงคำปฏิเสธ เช่น “มันไม่ได้แย่ขนาดนั้น” หรือ “ฉันก็โดนทำร้ายเลยช่วยไม่ได้จริงๆ”
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ใช้ข้ออ้างอย่างระมัดระวัง.
    คำขอโทษอาจจะแสดงว่าคุณไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายบุคคลนั้นซึ่งอาจจะมีประโยชน์ในการทำให้คนๆ นั้นมั่นใจว่าคุณใส่ใจและไม่ได้ตั้งใจทำร้ายเขา อย่างไรก็ตามคุณต้องระวังว่าเหตุผลของการกระทำไม่เข้าข่ายการแก้ตัวกับสิ่งไม่ดีที่คุณได้ทำ[8]
    • เช่น ข้ออ้างที่ปฏิเสธความตั้งใจ ได้แก่ “ฉันไม่ได้ตั้งใจทำร้ายเธอ” หรือ “มันเป็นอุบัติเหตุ” ข้ออ้างที่ปฏิเสธเจตนา ได้แก่ “ฉันเมาและไม่รู้ตัวว่าพูดอะไร” ใช้ประโยคเหล่านี้อย่างระมัดระวังและรู้ซึ้งถึงความเจ็บปวดที่คุณได้ก่อแล้วจึงตามด้วยเหตุผลของการกระทำต่างๆ [9]
    • คนที่ถูกทำให้เจ็บปวดมักจะให้อภัยคุณหากคุณเสนอข้อแก้ตัวมากกว่าคำอธิบาย ข้อแก้ตัวที่ผสมระหว่างการรับผิดชอบ การรู้ซึ้งถึงความเจ็บปวดที่คุณได้ก่อ การรับรู้พฤติกรรมที่เหมาะสมและการทำให้มั่นใจถึงพฤติกรรมที่เหมาะสมในอนาคต [10]
  5. How.com.vn ไท: Step 5 หลีกเลี่ยงคำว่า “แต่”.
    คำขอโทษที่มีคำว่า “แต่” จะไม่มีวันถูกมองว่าเป็นคำขอโทษ [11] สิ่งนี้เป็นเพราะคำว่า “แต่” เป็นที่รู้จักว่าเป็น “ยางลบคำพูด” มันเบี่ยงเบนความสนใจจากสิ่งที่ควรจะเป็นจุดประสงค์ของคำขอโทษ (การรู้ซึ้งถึงความรับผิดชอบและการแสดงออกถึงความรู้สึกผิด) ไปสู่การอธิบายตัวเอง เมื่อคนเราได้ยินคำว่า “แต่” พวกเขามักจะหยุดฟัง สิ่งที่พวกเขาจะได้ยินต่อจากนั้นก็คือ “แต่มันคือความผิดของเธอ”[12]
    • เช่น อย่าพูดคำว่า “ขอโทษแต่ฉันแค่เหนื่อยมาก” สิ่งนี้จะเน้นย้ำข้ออ้างของการทำผิดมากกว่าการมุ่งความสนใจไปที่ความรู้สึกผิดกับการทำร้ายคนอื่น
    • ให้พูดคำว่า “ฉันขอโทษที่ฉันเหวี่ยงใส่เธอ ฉันรู้ว่าฉันทำร้ายความรู้สึกของเธอ ฉันแค่เหนื่อยมากและฉันรู้สึกผิดที่พูดสิ่งนั้น”
  6. How.com.vn ไท: Step 6 พิจารณาความต้องการและนิสัยของคนอื่น.
    งานวิจัยชี้ให้เห็นว่า “การวิเคราะห์ตนเอง” มีผลต่อการที่ผู้อื่นยอมรับคำขอโทษของคุณ หมายความว่าวิธีที่ผู้นั้นมองเห็นตัวเองว่าเป็นเช่นไรต่อตัวเองและผู้อื่นมีผลว่าคำขอโทษแบบใดจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด[13]
    • เช่น คนบางคนเป็นตัวของตัวเองสูงและให้คุณค่ากับการมีสิทธิ์ต่างๆ คนเหล่านี้มักจะตอบรับกับคำขอโทษที่เสนอการแก้ไขแบบเฉพาะเจาะจงต่อความเจ็บปวด
    • สำหรับคนที่ให้คุณค่ากับความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับผู้อื่นเป็นอย่างสูง พวกเขามักจะตอบรับกับคำขอโทษที่แสดงออกถึงความเห็นใจและความรู้สึกผิด
    • คนบางคนให้คุณค่ากับกฎเกณฑ์ทางสังคมและขนบธรรมเนียมและมองตัวเองว่าเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มทางสังคมที่ใหญ่กว่า คนเหล่านี้มักจะตอบรับกับคำขอโทษที่รู้ซึ้งว่าคุณค่าหรือกฎเกณฑ์ได้ถูกฝ่าฝืน
    • หากคุณรู้จักคนๆ นั้นไม่ดีพอก็ลองผสมคำขอโทษจากหลายๆ แบบ คำขอโทษเหล่านี้มักจะหยั่งรู้ได้ว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดของบุคคลที่คุณกำลังจะขอโทษ
  7. How.com.vn ไท: Step 7 เขียนคำโทษลงในกระดาษหากคุณต้องการ.
    หากคุณรวบรวมคำพูดสำหรับคำขอโทษได้อย่างลำบากก็ลองเขียนความรู้สึกลงไป วิธีนี้จะช่วยให้คุณแสดงคำพูดและความรู้สึกได้อย่างถูกต้อง ไม่ต้องรีบร้อนและคิดให้ออกว่าทำไมคุณถึงต้องขอโทษและคุณจะทำอะไรเพื่อให้อีกฝ่ายมั่นใจว่าคุณจะไม่ทำผิดอีก
    • หากคุณกังวลว่าคุณจะมีอารมณ์อ่อนไหวคุณก็สามารถติดโน้ตไปด้วยได้ อีกฝ่ายอาจจะชื่นชมในความตั้งใจของคุณในการเตรียมคำขอโทษอีกด้วย
    • หากคุณกังวลว่าคุณจะทำคำขอโทษพังก็ลองฝึกกับเพื่อนสนิทก่อน คุณคงไม่อยากฝึกมากเกินไปจนคำขอโทษฟังดูฝืนๆ หรือเตรียมการเอาไว้มากเกินไป อย่างไรก็ตามมันอาจจะเป็นประโยชน์หากคุณฝึกพูดคำขอโทษกับคนที่สามารถให้ความเห็นกับคุณได้[14]
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

การขอโทษในเวลาและสถานการณ์ที่ถูกต้อง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 หาเวลาที่ถูกต้อง.
    ถึงแม้คุณจะรู้สึกผิดขึ้นมาทันทีแต่คำขอโทษก็อาจจะไม่มีผลหากมันออกมาท่ามกลางสถานการณ์ที่อ่อนไหว เช่น หากคุณกำลังทะเลาะกันอยู่คำขอโทษก็อาจจะไม่มีผล ที่เป็นเช่นนี้เพราะมันยากที่คำขอโทษจะฟังดูมีความหมายต่อผู้อื่นท่ามกลางอารมณ์ที่เป็นลบ[15] รอจนกว่าคุณทั้งคู่ใจเย็นลงก่อนที่จะเอ่ยคำขอโทษ
    • นอกจากนั้น หากคุณขอโทษในขณะที่อารมณ์ยังพลุ่งพล่านคุณก็อาจจะสื่อความจริงใจได้ไม่เต็มที่ การรอจนกว่าคุณจะรวบรวมสติกลับมาจะช่วยให้คุณพูดในสิ่งที่คุณตั้งใจจะพูดและทำให้คำขอโทษนั้นมีความหมายและสมบูรณ์ เพียงแต่อย่ารอนานเกินไปเพราะการรอหลายๆ วันหรือหลายๆ สัปดาห์อาจจะส่งผลเสียได้เช่นกัน [16]
    • ในที่ทำงาน คุณควรขอโทษทันทีที่ทำผิดพลาดเพื่อจะช่วยหลีกเลี่ยงไม่ให้งานสะดุด
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ขอโทษต่อหน้าบุคคล.
    การขอโทษต่อหน้าบุคคลทำให้การสื่อความจริงใจนั้นง่ายขึ้นเพราะการสื่อสารส่วนใหญ่ของเราเป็นแบบอวัจนภาษาผ่านทางภาษากาย สีหน้าและแววตา.[17] คุณควรขอโทษต่อหน้าบุคคลเมื่อเป็นไปได้
    • หากคุณไม่สามารถขอโทษต่อหน้าบุคคลได้ก็ควรทำทางโทรศัพท์ น้ำเสียงของคุณจะช่วยสื่อสารว่าคุณจริงใจ
  3. How.com.vn ไท: Step 3 เลือกสถานที่เงียบๆ และเป็นส่วนตัวเพื่อทำการขอโทษ....
    เลือกสถานที่เงียบๆ และเป็นส่วนตัวเพื่อทำการขอโทษ. การขอโทษเป็นการกระทำที่ส่วนตัว การหาสถานที่เงียบๆ และเป็นส่วนตัวเพื่อทำการขอโทษจะช่วยให้คุณมุ่งความสนใจไปที่อีกฝ่ายและหลีกเลี่ยงสิ่งรบกวน
    • เลือกสถานที่ๆ รู้สึกผ่อนคลายและเผื่อเวลาเอาไว้เพื่อจะได้ไม่ต้องรีบ
  4. How.com.vn ไท: Step 4 เผื่อเวลาเอาไว้สำหรับบทสนทนาที่สมบูรณ์.
    คำขอโทษที่รีบเร่งนั้นไม่มีประสิทธิภาพ[18] สิ่งนี้เป็นเพราะคำขอโทษต้องทำหลายๆ สิ่ง คุณต้องรับรู้ถึงสิ่งที่คุณทำผิด อธิบายว่าเกิดอะไรขึ้น แสดงความรู้สึกผิดและแสดงว่าคุณจะทำสิ่งที่ต่างออกไปในอนาคต[19]
    • อีกทั้งคุณยังควรเลือกเวลาที่ไม่เร่งรีบหรือกดดัน หากคุณยังคงนึกถึงสิ่งอื่นๆ ที่ต้องทำ คุณก็จะไม่จดจ่ออยู่กับคำขอโทษและอีกฝ่ายจะสัมผัสได้
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

การขอโทษ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เปิดเผยและไม่ข่มขู่.
    การสื่อสารแบบนี้เรียกว่า “การสื่อสารแบบบูรณาการ” และใช้การถกเถียงประเด็นอย่างเปิดเผยในแบบที่ไม่ข่มขู่เพื่อบรรลุถึงความเข้าใจร่วมกันทั้งสองฝ่ายหรือ “การบูรณาการ”[20] เทคนิคแบบบูรณาการนั้นจัดได้ว่ามีผลเชิงบวกระยะยาวต่อความสัมพันธ์[21]
    • เช่น หากคนที่ถูกคุณทำร้ายจิตใจพยายามพูดถึงรูปแบบของพฤติกรรมในอดีตที่เขาเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับความผิดพลาดของคุณก็ปล่อยให้เขาพูดให้จบ หยุดสักพักก่อนที่คุณจะตอบ พิจารณาถึงสิ่งที่เขาพูดและพยายามมองสถานการณ์จากมุมของอีกฝ่ายแม้คุณจะไม่เห็นด้วยก็ตาม อย่าเหวี่ยง ตะโกนหรือด่าทออีกฝ่าย
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ใช้ภาษากายที่เปิดเผยและถ่อมตน.
    การสื่อสารแบบอวัจนภาษาที่คุณใช้ในการขอโทษนั้นสำคัญพอๆ กับสิ่งที่คุณพูด หลีกเลี่ยงการโก่งหรืองอตัวเพราะมันสามารถบ่งชี้ว่ได้ว่าคุณปิดกั้นบทสนทนา[22]
    • สบตาในขณะที่พูดหรือฟัง สบตาอย่างน้อย 50% ของเวลาที่คุณพูดและอย่างน้อย 70% ของเวลาที่คุณฟัง
    • หลีกเลี่ยงการกอดอกเพราะมันคือสัญญาณว่าคุณป้องกันและปิดตัวเองจากผู้อื่น
    • พยายามผ่อนคลายใบหน้า คุณไม่ต้องฝืนยิ้มแต่หากคุณรู้สึกว่าหน้าบูดบึ้งก็ลองใช้เวลาผ่อนคลายกล้ามเนื้อเหล่านั้น
    • แบมือแทนการการกำมือหากคุณต้องออกท่าทาง
    • หากอีกฝ่ายอยู่ใกล้และมันเป็นการเหมาะสมก็ให้ใช้การสัมผัสเพื่อสื่อสารอารมณ์ของคุณ การกอดหรือการสัมผัสเบาๆ บนแขนหรือมือสามารถสื่อสารได้ว่าอีกฝ่ายมีความหมายกับคุณแค่ไหน[23]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 แสดงความรู้สึกผิด.
    แสดงความเห็นใจต่ออีกฝ่ายและรู้ซึ้งถึงความเจ็บปวดที่คุณได้ก่อ รับรู้ถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายว่าเป็นสิ่งที่แท้จริงและมีค่า[24]
    • งานวิจัยชี้ว่าคำขอโทษที่ถูกกลั่นออกมาจากความรู้สึกผิดหรืออับอายจะเป็นที่ยอมรับมากขึ้นโดยผู้ที่ถูกทำร้าย ในทางตรงกันข้าม คำขอโทษที่ถูกกลั่นออกมาจากความรู้สึกสงสารจะไม่ค่อยเป็นที่ยอมรับเพราะมันดูไม่ค่อยจริงใจ[25]
    • เช่น คุณสามารถเริ่มคำขอโทษโดยพูดว่า “ฉันรู้สึกผิดเป็นอย่างมากที่ทำร้ายความรู้สึกของเธอเมื่อวานนี้ ฉันรู้สึกแย่ที่ทำให้เธอเจ็บปวด”
  4. How.com.vn ไท: Step 4 รับผิดชอบ.
    ระบุเจาะจงให้มากที่สุดเมื่อต้องรับผิดชอบ คำขอโทษที่เฉพาะเจาะจงมักจะมีความหมายกับอีกฝ่ายเพราะมันแสดงว่าคุณได้ใส่ใจกับสถานการณ์ที่ทำร้ายอีกฝ่าย[26][27]
    • พยายามหลีกเลี่ยงการพูดเกินจริง เช่น การพูดว่า “ฉันเป็นคนไม่ดี” นั้นไม่เป็นความจริงและมันไม่เหมาะกับพฤติกรรมเฉพาะหรือสถานการณ์ที่ทำให้อีกฝ่ายเจ็บปวด การพูดเกินจริงทำให้การระบุถึงปัญหาเป็นเรื่องยาก คุณไม่สามารถแก้ไขการเป็น “คนไม่ดี” ได้ง่ายเท่ากับแก้ไข “การไม่เอาใจใส่ความต้องการของคนอื่น”
    • เช่น กล่าวคำขอโทษต่อไปโดยระบุว่าแท้จริงแล้วอะไรที่ก่อให้เกิดความเจ็บปวด “ฉันรู้สึกผิดเป็นอย่างมากที่ทำร้ายความรู้สึกของเธอเมื่อวานนี้ ฉันรู้สึกแย่ที่ทำให้เธอเจ็บปวด ฉันไม่น่าเหวี่ยงเธอเพราะเธอมารับฉันสายเลย”
  5. How.com.vn ไท: Step 5 อธิบายว่าคุณจะแก้ไขสถานการณ์อย่างไร.
    คำขอโทษมักจะประสบความสำเร็จหากคุณเสนอว่าคุณจะทำอะไรต่างออกไปในอนาคตหรือสมานความเจ็บปวดในทางใดทางหนึ่ง[28]
    • หาปัญหาที่ซ่อนอยู่ อธิบายมันให้อีกฝ่ายโดยไม่โทษใครและบอกเขาว่าคุณตั้งใจจะทำอะไรเพื่อแก้ไขปัญหาเพื่อที่คุณจะได้หลีกเลี่ยงความผิดพลาดในอนาคต[29]
    • เช่น “ฉันรู้สึกผิดเป็นอย่างมากที่ทำร้ายความรู้สึกของเธอเมื่อวานนี้ ฉันรู้สึกแย่ที่ทำให้เธอเจ็บปวด ฉันไม่น่าเหวี่ยงเธอเพราะเธอมารับฉันสายเลย คราวหน้าฉันจะหยุดคิดก่อนที่จะพูดอะไรออกไป”
  6. How.com.vn ไท: Step 6 ฟังอีกฝ่ายหนึ่ง.
    อีกฝ่ายอาจจะอยากอธิบายความรู้สึกให้คุณได้ฟัง เขาอาจจะยังโกรธหรืออาจจะยังมีคำถามสำหรับคุณ พยายามทำตัวสงบและเปิดใจ[30]
    • หากอีกฝ่ายยังโกรธคุณอยู่ เขาอาจจะทำตัวไม่น่ารัก เขาอาจจะขึ้นเสียงหรือด่าทอคุณ ความรู้สึกเชิงลบเหล่านี้อาจจะขัดขวางการให้อภัยได้[31]ลองขอเวลาหรือเปลี่ยนทิศทางของบทสนทนาไปเป็นหัวข้อที่ได้ผลมากกว่า
    • เพื่อขอเวลา คุณต้องแสดงถึงความเห็นอกเห็นใจที่มีต่ออีกฝ่ายและเสนอทางเลือกให้กับเขา พยายามหลีกเลี่ยงการทำเหมือนว่าคุณกำลังโทษอีกฝ่าย เช่น “แน่นอนว่าฉันทำให้เธอเจ็บปวดและดูเหมือนว่าเธอกำลังโกรธอยู่ จะดีกว่าไหมถ้าเรารออีกสักพักดีไหม? ฉันอยากเข้าใจว่าเธอโกรธอะไรแต่ฉันอยากให้เธอรู้สึกสบายๆ”
    • เพื่อเปลี่ยนทิศทางของบทสนทนาจากเชิงลบ คุณต้องพยายามเรียนรู้พฤติกรรมเฉพาะเจาะจงที่อีกฝ่ายหวังว่าคุณน่าจะได้ทำแทนที่จะทำสิ่งที่เกิดขึ้น เช่น หากอีกฝ่ายพูดว่า “เธอไม่เคยเคารพฉันเลย!” คุณสามารถถามกลับว่า “เธออยากให้ฉันทำอะไรในอนาคตเพื่อเธอจะได้รู้สึกว่าฉันเคารพเธอ?” หรือ “เธออยากให้ฉันทำอะไรต่างออกไปในอนาคต?”
  7. How.com.vn ไท: Step 7 ลงท้ายด้วยความซาบซึ้งใจ.
    แสดงความชื่นชมในบทบาทที่พวกเขามีในชีวิตของคุณโดยเน้นย้ำว่าคุณไม่อยากเสียหรือทำลายความสัมพันธ์นี้ นี่คือเวลาที่จะมองย้อนกลับไปว่าอะไรที่ได้สร้างและรักษาความสัมพันธ์ของคุณทั้งสองไว้ในช่วงเวลาที่ผ่านมาและบอกคุณที่คุณรักว่าคุณรักพวกเขาจริงๆ อธิบายว่าชีวิตจะขาดอะไรไปหากไม่มีความไว้ใจและความเป็นเพื่อนของพวกเขา[32]
  8. How.com.vn ไท: Step 8 ใจเย็นๆ...
    ใจเย็นๆ. หากเขาไม่รับคำขอโทษก็จงขอบคุณเขาที่ยอมฟังคุณและให้โอกาสหากเขาต้องการคุยเรื่องนี้ในภายหลัง เช่น “ฉันเข้าใจว่าเธอยังโกรธอยู่แต่ขอบคุณที่ให้โอกาสฉันได้ขอโทษ หากเธอเปลี่ยนใจก็โทรหาฉันได้” บางครั้งคนเราอยากให้อภัยคุณแต่เขายังต้องการเวลาในการทำใจสักพัก[33]
    • จำไว้ว่าเพียงเพราะบางคนยอมรับคำขอโทษของคุณแต่ก็ไม่ได้แปลว่าเขาให้อภัยคุณหมดใจ มันต้องใช้เวลาที่อาจจะนานมากก่อนที่อีกฝ่ายจะหายโกรธและกลับมาไว้ใจคุณได้เต็มที่อีกครั้ง คุณทำอะไรไม่ได้มากในการเร่งกระบวนการนี้แต่มีวิธีทำให้มันยืดออกไปได้หลายวิธี หากคนๆ นี้สำคัญกบคุณจริงๆ มันก็คุ้มค่าที่จะให้เวลาและพื้นที่ให้เขาได้รักษาแผล อย่าคาดหวังว่าพวกเขาจะสามารถกลับไปเป็นปกติได้ทันที
  9. How.com.vn ไท: Step 9 รักษาคำพูด.
    คำขอโทษที่แท้จริงนั้นรวมไปถึงทางแก้ไขหรือคำอธิบายว่าคุณพร้อมที่จะแก้ไขปัญหา คุณสัญญาที่จะพยายามแก้ไขปัญหาและคุณทำตามสัญญาเพื่อให้คำขอโทษนั้นจริงใจและสมบูรณ์ ไม่เช่นนั้นคำขอโทษของคุณจะไม่มีความหมายและความเชื่อใจจะหายไปแบบไม่มีวันกลับ
    • ไถ่ถามอีกฝ่ายบ้างเป็นครั้งคราว เช่น หลังจากสองสามสัปดาห์คุณสามารถถามว่า “ฉันได้ยินมาว่าพฤติกรรมของฉันเมื่อสองสามสัปดาห์ก่อนได้ทำร้ายเธอและฉันกำลังพยายามปรับปรุง เธอว่าฉันเป็นอย่างไรบ้าง?”[34]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • บางครั้งคำขอโทษที่พูดไปก็กลับกลายเป็นอีกรูปแบบของการถกเถียงที่คุณต้องการแก้ไข ระวังอย่าเถียงกันเรื่องเดิมหรือขุดแผลเก่า จำไว้ว่าการขอโทษไม่ได้แปลว่าสิ่งที่คุณพูดนั้นไม่ถูกต้องหรือผิดแต่มันแปลว่าคุณเสียใจกับคำพูดของคุณทำให้บางคนรู้สึกและคุณอยากสมานความสัมพันธ์กับคนๆ นั้น
  • ถึงแม้คุณจะรู้สึกว่าการขัดแย้งเป็นส่วนหนึ่งของการสื่อสารที่ผิดพลาดของอีกฝ่ายก็พยายามอย่าโทษคนอื่นในระหว่างการขอโทษ หากคุณเชื่อว่าการสื่อสารที่ดีขึ้นจะช่วยปรับปรุงสิ่งต่างๆ ระหว่างคุณทั้งสองคุณก็สามารถยกสิ่งนั้นขึ้นมาเป็นส่วนหนึ่งของวิธีที่คุณจะทำเพื่อไม่ให้การขัดแย้งนั้นเกิดขึ้นอีก
  • หากทำได้ก็ลองดึงตัวคนๆ นั้นออกมาเพื่อที่คุณจะได้อยู่ลำพังกับเขาเวลาที่ขอโทษ วิธีนี้ไม่เพียงแต่จะลดโอกาสที่คนอื่นจะเข้ามามีส่วนในการตัดสินใจของอีกฝ่ายแล้วแต่ยังจะช่วยให้คุณประหม่าน้อยลง อย่างไรก็ตาม หากคุณได้ด่าทออีกฝ่ายในที่สาธารณะและทำให้เขาเสียหน้าคุณก็ควรขอโทษเขาในที่สาธารณะเพื่อให้คำขอโทษได้ผลมากขึ้น
  • หลังจากที่ขอโทษแล้วก็ลองให้เวลากับตัวเองและคิดถึงวิธีที่ดีกว่าในการรับมือกับสถานการณ์ จำไว้ว่าส่วนหนึ่งของคำขอโทษคือการมีพันธะสัญญาว่าคุณจะทำตัวดีขึ้น เมื่อทำเช่นนั้น ครั้งต่อมาที่มีสถานการณ์แบบนี้อีกคุณก็จะพร้อมรับมือกับมันในแบบที่ไม่ทำร้ายความรู้สึกของใคร
  • หากอีกฝ่ายต้องการจะคุยกับคุณเรื่องกลับมาคืนดีกันก็ให้มองว่ามันเป็นโอกาส หากคุณลืมวันเกิดของแฟนหรือวันครบรอบแต่งงานก็ควรเลี้ยงฉลองในอีกคืนหนึ่งและทำให้มันวิเศษและโรแมนติกสุดๆ มันไม่ได้หมายความว่าคุณสามารถลืมได้อีกรอบแต่มันแสดงว่าคุณยินดีที่จะทุ่มเทเพื่อให้สิ่งต่างๆ ดีขึ้น
  • คำขอโทษหนึ่งคำจะนำไปสู้อีกคำ ไม่ว่าจะเป็นจากคุณสำหรับสิ่งอื่นๆ ที่คุณนึกได้ว่าเคยทำให้อีกฝ่ายเสียใจหรือจากอีกฝ่ายหนึ่งเพราะเขานึกได้ว่าการขัดแย้งมาจากทั้งสองฝ่าย เตรียมพร้อมสำหรับการให้อภัย
  • ปล่อยให้อีกฝ่ายใจเย็นลงก่อน เมื่อคนชาในถ้วยแล้วก็ต้องทิ้งให้มันเย็นลงสักพัก อีกทั้งเขาอาจจะยังคงโกรธและไม่พร้อมที่จะให้อภัย
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

How.com.vn ไท: ทำให้แฟนเก่ากลับมารักคุณอีกครั้งทำให้แฟนเก่ากลับมารักคุณอีกครั้ง
How.com.vn ไท: เริ่มความสัมพันธ์แบบ Friends with Benefitsเริ่มความสัมพันธ์แบบ Friends with Benefits
How.com.vn ไท: รู้ว่าเมื่อไหร่ที่อีกฝ่ายไม่อยากคุยกับคุณแล้วรู้ว่าเมื่อไหร่ที่อีกฝ่ายไม่อยากคุยกับคุณแล้ว
How.com.vn ไท: จบความสัมพันธ์จบความสัมพันธ์
How.com.vn ไท: รู้ว่าแฟนสาวของคุณแอบไปนอนกับคนอื่นหรือเปล่ารู้ว่าแฟนสาวของคุณแอบไปนอนกับคนอื่นหรือเปล่า
How.com.vn ไท: ฟื้นฟูความสัมพันธ์ให้กลับมาดีเหมือนเดิมฟื้นฟูความสัมพันธ์ให้กลับมาดีเหมือนเดิม
How.com.vn ไท: เรียกความเชื่อใจจากเขาหรือเธอกลับมาเรียกความเชื่อใจจากเขาหรือเธอกลับมา
How.com.vn ไท: ปลอบโยนแฟนสาวของคุณเมื่อเธอรู้สึกแย่ปลอบโยนแฟนสาวของคุณเมื่อเธอรู้สึกแย่
How.com.vn ไท: พิชิตหัวใจแฟนเก่ากลับมา หลังจากการเลิกราพิชิตหัวใจแฟนเก่ากลับมา หลังจากการเลิกรา
How.com.vn ไท: ลืมคนที่ชอบลืมคนที่ชอบ
How.com.vn ไท: ทำให้แฟนเก่าคิดถึงคุณทำให้แฟนเก่าคิดถึงคุณ
How.com.vn ไท: ทำให้ใครบางคนรู้สึกผิดทำให้ใครบางคนรู้สึกผิด
How.com.vn ไท: ดูว่าเพื่อนอิจฉาคุณหรือไม่ดูว่าเพื่อนอิจฉาคุณหรือไม่
How.com.vn ไท: แก้ปัญหาเรื่องความเชื่อใจในความสัมพันธ์แก้ปัญหาเรื่องความเชื่อใจในความสัมพันธ์
โฆษณา

ข้อมูลอ้างอิง

  1. Bachman, G. F., & Guerrero, L. K. (2006). Forgiveness, apology, and communicative responses to hurtful events. Communication Reports, 19(1), 45-56.
  2. http://www.umass.edu/fambiz/articles/resolving_conflict/meaningful_apology.html
  3. http://www.wsj.com/articles/the-best-way-to-make-up-after-any-argument-1405379667
  4. http://www.umass.edu/fambiz/articles/resolving_conflict/meaningful_apology.html
  5. http://www.wsj.com/articles/the-best-way-to-make-up-after-any-argument-1405379667
  6. http://psychcentral.com/blog/archives/2011/12/12/how-to-make-an-adept-sincere-apology/
  7. Greene, J. O., & Burleson, B. R. (Eds.). (2003). Handbook of communication and social interaction skills. Psychology Press.
  8. http://greatergood.berkeley.edu/article/item/what_an_apology_must_do
  9. Greene, J. O., & Burleson, B. R. (Eds.). (2003). Handbook of communication and social interaction skills. Psychology Press.
  1. Greene, J. O., & Burleson, B. R. (Eds.). (2003). Handbook of communication and social interaction skills. Psychology Press.
  2. http://www.wsj.com/articles/the-best-way-to-make-up-after-any-argument-1405379667
  3. http://strategicdiscipline.positioningsystems.com/blog-0/bid/82716/Verbal-Eraser-Destroys-Positive-Reinforcement
  4. http://greatergood.berkeley.edu/article/item/how_to_make_an_apology_work
  5. http://www.mindtools.com/pages/article/how-to-apologize.htm
  6. Bachman, G. F., & Guerrero, L. K. (2006). Forgiveness, apology, and communicative responses to hurtful events. Communication Reports, 19(1), 45-56.
  7. http://www.wsj.com/articles/the-best-way-to-make-up-after-any-argument-1405379667
  8. http://www.helpguide.org/articles/relationships/nonverbal-communication.htm
  9. http://www.wsj.com/articles/the-best-way-to-make-up-after-any-argument-1405379667
  10. http://greatergood.berkeley.edu/article/item/what_an_apology_must_do
  11. Bachman, G. F., & Guerrero, L. K. (2006). Forgiveness, apology, and communicative responses to hurtful events. Communication Reports, 19(1), 45-56.
  12. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/21942502
  13. http://accuratebodylanguage.com/tag/apology/
  14. http://www.wsj.com/articles/the-best-way-to-make-up-after-any-argument-1405379667
  15. http://www.umass.edu/fambiz/articles/resolving_conflict/meaningful_apology.html
  16. Hareli, S., & Eisikovits, Z. (2006). The role of communicating social emotions accompanying apologies in forgiveness. Motivation and Emotion, 30(3), 189-197.
  17. http://psychcentral.com/blog/archives/2011/12/12/how-to-make-an-adept-sincere-apology/
  18. http://www.umass.edu/fambiz/articles/resolving_conflict/meaningful_apology.html
  19. http://www.wsj.com/articles/the-best-way-to-make-up-after-any-argument-1405379667
  20. http://www.forbes.com/sites/sungardas/2014/03/13/how-to-apologize-the-right-way-an-apology-actually-has-three-parts/
  21. http://www.wsj.com/articles/the-best-way-to-make-up-after-any-argument-1405379667
  22. Bachman, G. F., & Guerrero, L. K. (2006). Forgiveness, apology, and communicative responses to hurtful events. Communication Reports, 19(1), 45-56.
  23. http://www.umass.edu/fambiz/articles/resolving_conflict/meaningful_apology.html
  24. http://psychcentral.com/blog/archives/2011/12/12/how-to-make-an-adept-sincere-apology/
  25. http://www.wsj.com/articles/the-best-way-to-make-up-after-any-argument-1405379667

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Trudi Griffin, LPC, MS
ร่วมเขียน โดย:
ผู้ให้คำปรึกษามืออาชีพที่มีใบอนุญาต
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Trudi Griffin, LPC, MS. ทรูดี้ กริฟฟินเป็นผู้ให้คำปรึกษามืออาชีพที่มีใบอนุญาตในวิสคอนซิน เธอได้รับปริญญาโทด้านการให้คำปรึกษาเรื่องสุขภาพจิตจากมหาวิทยาลัยมาร์เกว็ตต์ในปี 2011 บทความนี้ถูกเข้าชม 17,405 ครั้ง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 17,405 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา