วิธีการ ไม่ให้คนคิดลบทำให้รู้สึกแย่

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

คุณมีคนมองโลกในแง่ร้ายอยู่ในชีวิตหรือไม่ – คนมองโลกในแง่ร้ายก็คือคนที่คิดถึงด้านลบของสถานการณ์หนึ่งๆ มากกว่าด้านบวก หากคุณเป็นคนมองโลกในแง่ดีและร่าเริงแจ่มใส มันอาจยากที่จะเข้าใจและรับมือกับทัศนคติของคนมองโลกในแง่ร้าย กลวิธีที่จะไม่ปล่อยให้คนเหล่านี้ทำให้คุณรู้สึกแย่ไปด้วย คือ คุณต้องลดผลกระทบที่ความคิดในทางลบมีต่อคุณ สื่อสารกับคนทัศนคติไม่ค่อยจะสู้ดีให้มีประสิทธิภาพ และหาความรู้เกี่ยวกับความมองโลกในแง่ร้ายด้วยตัวเอง

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

ลดผลกระทบของความคิดในทางลบที่มีต่อคุณ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 สนใจตัวคุณเอง.
    บางครั้งเวลามากมายอาจหมดไปกับการมัวแต่กังวลเรื่องของคนอื่น และความรู้สึกของคนอื่นมากเกินไปจนเราไม่ได้สนใจตัวเราเอง จงรับผิดชอบความรู้สึกและปฏิกิริยาโต้ตอบของคุณต่อความคิดลบ[1] คุณสามารถนำเอาพลังออกจากด้านลบโดยการให้ความใส่ใจความสุขของตนเองให้มากกว่าของผู้อื่น
    • เตือนตัวเองว่าคุณควบคุมสถานการณ์ได้ คุณบังคับได้ว่าจะให้ความรู้สึกและความคิดของอีกคนมีผลกระทบต่อคุณมากน้อยแค่ไหน[2]
    • ตัวอย่างเช่น แม้ความคิดด้านลบเป็นอะไรที่ไม่น่าฟัง ให้เข้าใจว่าความแบบนี้ของคนๆ หนึ่งเป็นกระจกสะท้อนตัวเขา ส่วนคุณก็ควบคุมได้แต่ความรู้สึกของตัวเองเท่านั้น คุณมีพลังที่จะสั่งการได้ว่าอะไรมีผลต่อความรู้สึกของคุณ
  2. How.com.vn ไท: Step 2 เปลี่ยนวิธีคิด.
    การใช้ตรรกะเป็นที่พึ่งในการแก้ปัญหามีความสัมพันธ์จิตใจที่เข้มแข็งขึ้น[3] จงคิดบวกเข้าไว้ งานวิจัยชี้แนะว่า ความคิดบวกอาจช่วยให้จิตใจเข้มแข็งขึ้นได้[4] นี่หมายความว่า ทัศนคติในทางบวกของคุณสามารถช่วยให้คุณต่อสู้กับความมองโลกในแง่ร้ายและผลที่ตามมาจากความคิดลบ
    • มองหาสิ่งดีในสิ่งต่างๆ และเตือนตัวเองว่า เมื่อลองตั้งใจมองให้ดี อะไรๆ ก็มีข้อเสียให้เห็นทั้งนั้น สิ่งที่ยากกว่ามาก คือ การหาทางแก้ไข และการทำสิ่งดีๆ แทนที่จะพูดโน้มน้าวคนคิดลบหรือให้ความเห็นดีๆ คุณก็แค่ใช้ชีวิตแบบคนคิดบวกของคุณไป และให้พฤติกรรมและการกระทำของคุณพูดแทน
    • หากพบว่าตัวเองรู้สึกแย่เวลาอยู่กับคนมองโลกในแง่ร้าย ให้ทำลิสต์สิ่งดีๆ ห้าสิ่งในชีวิตของคุณในใจ (หรือจะเขียนออกมาก็ได้) ให้นึกถึงห้าสิ่งนี้ในหัว ใช้มันเป็นดั่ง “เกราะ” ป้องกันความคิดลบหากคุณพบว่าคุณกำลังเผชิญหน้ากับมัน
    • หมั่นเสริมสร้างมิตรภาพที่ดีกับคนคิดบวก ใช้เวลากับคนคิดบวกให้มากขึ้นจะช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นและให้คุณมั่นใจว่าสภาวะจิตใจของคุณมั่นคงดีแล้ว
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ให้ความสนใจกับข้อดีของผู้อื่น.
    ทัศนคติที่แต่ละบุคคลมีต่อสิ่งต่างๆ ไม่ใช่องค์ประกอบเดียวของคนๆ นั้น คนๆ หนึ่งมีคุณสมบัติที่มีความซับซ้อนอีกหลายข้อในตัว ดังนั้น แทนที่จะยึดติดอยู่กับด้านไม่ดีๆ ให้คุณมองหาสิ่งดีๆ แทน ถามตัวคุณเองว่า เขาเป็นคนฉลาดมั้ยนะ เขาสนับสนุนคุณมั้ย เขามีความไม่เหมือนใครมากพอที่จะไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดยังไงกับเขาหรือเปล่า ทำงานกับเขาจะดีมั้ยนะ ให้คุณใส่ใจด้านดีๆ และหาทางทำให้ด้านลบกับด้านบวกสมดุลกัน[5]
    • เช่นเดียวกับลิสต์ห้าสิ่งดีๆ คุณอาจทำลิสต์อย่างน้อยข้อดีของคนมองโลกในแง่ร้ายที่คุณรู้จัก และให้คอยคิดถึงสิ่งเหล่านี้ยามที่อะไรๆ เริ่มจะยากขึ้นเมื่อคุณต้องรับมือกับเขา คุณยังสามารถใช้ข้อดีเหล่านี้เป็นเครื่องเตือนให้เขารู้ว่าคนมีดีอะไรบ้างหากเขาเกิดลืมไป
    • เห็นอกเห็นใจคนคิดลบด้วยการระลึกว่า ความมองโลกในแง่ร้ายของเขาอาจมีเหตุมาจากชีวิตที่ไร้ความสุขหรือการมีความเคารพตัวเองต่ำ ยามที่คุณได้ยินความคิดแง่ลบ เตือนตัวเองว่าเขาอาจกำลังต้องเผชิญเรื่องลำบากแสนสาหัส ที่อาจส่งผลให้เขามีความคิดแบบนี้ก็ได้
  4. How.com.vn ไท: Step 4 เลิกควบคุมสิ่งต่างๆ.
    ให้เข้าใจว่าคุณไม่สามารถควบคุมความคิดหรือพฤติกรรมผู้อื่นได้ ให้คนมองโลกในแง่ร้ายรับผิดชอบต่อความคิดของตัวเอง เขาอาจมองเห็นด้านลบของสิ่งต่างๆ ทำให้ตีความเหตุการณ์ต่างๆ และเรื่องทั่วๆ ไปในชีวิตไปในทางนั้น ยอมรับว่า คนคนนี้มีสิทธิ์เลือกจะคิดในทางที่เขาเลือกเอง[6]
    • บอกให้คนที่มองโลกในแง่ร้ายเลือกสิ่งที่เจ้าตัวรู้สึกสบายใจที่สุด เลี่ยงการให้คำแนะนำหรือกดดันให้เขาเข้าใจหรือทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ตามวิธีของคุณ
  5. How.com.vn ไท: Step 5 อย่าพยายามทำตัวเป็นฮีโร่.
    ปรามความต้องการทำให้คนคิดลบร่าเริงของคุณเสีย สิ่งที่คุณควรเลี่ยง คือ การไปส่งเสริมความคิดทางลบด้วยการมอบสิ่งดีๆ (การให้ความสนใจ ความคิดในทางบวก ฯลฯ) ให้แก่เขา [7]
    • อย่าหาทางโน้มน้าวคนมองโลกในแง่ร้ายโดยพูดว่า แล้วทุกอย่างจะดีเอง จำไว้ว่าคุณไม่สามารถควบคุมได้ว่าเขามองสถานการณ์นี้ยังไง
  6. How.com.vn ไท: Step 6 หัดยอมรับความจริง.
    อย่าตัดสัมพันธ์กับผู้อื่นเร็วนักเพราะความมองโลกในแง่ร้ายของอีกฝ่าย เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับผู้ที่ไม่เหมือนเราเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาตนเอง และการเข้าสังคม[8]
    • การมองโลกในแง่ร้ายใช่ว่าจะเลวร้ายไปเสียหมด นักปรัชญา และนักวิจัยบางคนกล่าวว่า ที่จริงความคิดแบบนี้อาจทำให้คนเรามีความสุขมากขึ้น และเข้าใกล้ความเป็นจริงมากขึ้น นั่นเป็นเพราะพวกเขามีความพร้อมมากกว่า และจะผิดหวังน้อยกว่าถ้าคิดไว้แล้วว่าสิ่งเลวร้ายที่สุดอาจเกิดขึ้นได้[9] [10] ดังนั้น เมื่อเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นจริง พวกเขาอาจจะรับมือเรื่องร้ายๆ ได้ดีกว่าก็ได้
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

สื่อสารให้ดีในเรื่องที่เกี่ยวกับความคิดทางลบ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 กล้าพูด.
    ให้ความเห็นและช่วยเพื่อนที่มีความคิดลบเข้าใจผลกระทบที่ตัวเขามีต่อผู้อื่น และต้องพูดคุยกันอย่างมีวุฒิภาวะ[11][12]
    • พูดความจริงด้วยความเคารพอีกฝ่าย. หากคนมองโลกในแง่ร้ายรบกวนคุณในทางใดทางหนึ่ง หรือมามีผลในทางไม่ดีกับคุณ จงทำให้เขารู้ตัว บอกไปว่าคุณเสียใจที่คุณและเขาเห็นสิ่งต่างๆ ไม่ตรงกัน
    • ใช้ประโยคที่ขึ้นด้วย “ฉัน” ฉันรู้สึก____ เวลาที่คุณ____ ให้ใส่ใจกับความรู้สึกตัวเองมากกว่าการกระทำของผู้อื่น
    • อย่าตีตราใคร มีความเป็นไปได้มากว่า การบอกให้คนที่มีความคิดในทางลบรู้ว่าเขาเป็นคนมองโลกในแง่ร้ายจะไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น และอาจนำไปสู่ความขัดแย้งได้
  2. How.com.vn ไท: Step 2 มองความคิดลบเสียใหม่.
    สิ่งหนึ่งที่คุณทำได้ คือ พยายามหาวิธีต่างๆ ในการมองปัญหานั้น[13][14] ยังไงก็ให้จำไว้ว่า คุณไม่ได้พยายามช่วยให้เขาพ้นจากความคิดลบ หรือทำให้เขารู้สึกดีขึ้น คุณแค่ออกความเห็นของคุณ และคุณไม่เห็นด้วยกับความเห็นของเขาต่อสถานการณ์นั้นๆ
  3. How.com.vn ไท: Step 3 กำหนดเส้นแบ่ง.
    คุณอาจต้องการอยู่ห่างหรือตีตัวออกห่างจากคนๆ นี้[15] กำหนดเส้นแบ่งให้กับเรื่องที่คุณและเขาพูดคุยกัน และกำหนดว่าคุณจะทนคนๆ นี้ไปนานแค่ไหน เป็นวิธีที่มีประโยชน์ในการเอาชนะความไม่ชอบใจที่ต้องเผชิญหน้าคนๆ นั้น[16]
    • อย่าใช้วิธีไม่สนใจอีกฝ่าย เพราะนั่นอาจถูกมองได้ว่าเป็นการทำร้ายกันโดยการไม่เผชิญหน้า
    • จำกัดการมีปฏิสัมพันธ์หากจำเป็นต้องทำ อย่างไรก็ตาม หากเขาเป็นเพื่อน เพื่อนร่วมงาน หรือสมาชิกในครอบครัว คุณอาจจะไม่สามารถ หรือไม่อยากหลีกเลี่ยงคนๆ นั้นก็ได้ ในกรณีนี้ การลดเวลาที่คุณและเขาใช้ร่วมกันถือว่าเป็นประโยชน์กับสุขภาวะของคุณเอง
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ถนอมน้ำใจ.
    ฝึกเข้าอกเข้าใจผู้อื่นเวลาต้องรับมือกับคนที่เห็นต่างจากคุณ[17]
    • หากคนที่มองโลกในแง่ร้ายไม่อยากจะทำสิ่งที่คุณทำ ให้เข้าใจข้อกังวลหรือสถานการณ์ไม่สู้ดีของเขา นี่เป็นวิธีที่ละมุนละม่อมแต่ไม่โจ่งแจ้ง ในการที่จะพูดถึงสิ่งที่อีกฝ่ายรู้สึกไม่ดี ด้วยการให้ความมุ่งความใส่ใจไปกับสิ่งนั้นตรงๆ และแสดงความเห็นใจกับความกังวลและความทุกข์ของอีกฝ่าย
    • เข้าอกเข้าใจและสนับสนุนโดยไม่เอ่ยถึงความคิดทางลบของเขา[18]
    • ตัวอย่างเช่น บอกคนที่คิดลบที่ไม่อยากจะร่วมกิจกรรมว่า เขาจะกลับบ้าน/ ไม่ต้องมาร่วมกิจกรรมกับคุณก็ได้ ส่วนคุณก็ทำสิ่งที่ตั้งใจจะทำอยู่แล้วต่อไป คุณอาจพูดว่า “ฉันขอโทษด้วยที่สิ่งนี้อาจสร้างความยากลำบากให้เธอ เธอไปทำสิ่งที่จะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นเถอะ (กลับบ้าน/ ไม่มาแล้ว/ อยู่ที่นี่/ ทำกิจกรรมที่ง่ายกว่า ฯลฯ)
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

ระบุปัญหาและเข้าใจความคิดทางลบ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 จับสัญญาณของความคิดทางลบให้ได้.
    ในตอนต้น อาจเป็นเพราะความเป็นคนทัศนคติดีของคุณ ทำให้คุณอาจไม่รับรู้ถึงความคิดในทางลบของใครอีกคน และเพื่อช่วยให้คุณสามารถจับสัญญาณดังกล่าวได้ด้วยตัวเอง ความเข้าใจรูปแบบต่างๆ ต่อไปนี้ ถือว่ามีประโยชน์ สิ่งที่เป็นสัญญาณของความคิดในทางลบ ได้แก่:
    • ความคิดที่ว่าอะไรๆ จะไม่ลงเอยด้วยดี[19] หรือที่เรียกกันว่า อาการตื่นตูม หรือการชอบคิดว่าสิ่งเลวร้ายที่สุดจะเกิดขึ้น
    • การเชื่อว่าผลลัพธ์เลวร้ายเป็นสิ่งถาวรและหลีกเลี่ยงไม่ได้[20]
    • อาจมีการกล่าวโทษตนเองหรือผู้อื่นเมื่อผลออกมาไม่ดี[21]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 เข้าใจประเด็นปัญหาอื่นๆ ที่แอบแฝงอยู่.
    สาเหตุหนึ่งที่เป็นไปได้ของการมีความคิดในทางลบ คือ ความหดหู่[22] หากเป็นเช่นนั้นจริง คนคิดลบอาจจำเป็นต้องรับการรักษาทางจิตวิทยา หรือการรักษาทางการแพทย์
    • ลองอ่านบทความที่เกี่ยวกับวิธีรับมือความหดหู่เพื่อทราบอาการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
    • หากคุณกังวลว่า เพื่อนหรือสมาชิกครอบครัวมีปัญหาทางจิต คุณสามารถแสดงความเป็นห่วงเป็นใย และให้ทางเลือกในการรักษา แค่พูดว่า “ฉันสังเกตว่าเธอดูเศร้าๆ (หรือหงุดหงิด หรือมีความคิดลบ) นะช่วงนี้ เคยคิดอยากปรึกษาผู้เชี่ยวชาญมั้ย ฉันว่ามันอาจช่วยได้นะ” ระวังอย่าเจ้ากี้เจ้าการมากไป มิฉะนั้นคุณอาจทำให้อีกฝ่ายถอยหนี
  3. How.com.vn ไท: Step 3 หมั่นหาความรู้เกี่ยวกับความคิดทางลบด้วยตัวเอง....
    หมั่นหาความรู้เกี่ยวกับความคิดทางลบด้วยตัวเอง. ยิ่งคุณรู้มากเท่าไหร่ การเก็บมาเป็นเรื่องส่วนตัวก็จะลดลงตาม ในยามที่ต้องเจอกับความคิดแบบนี้อยู่รอบตัว ความรู้ในเรื่องดังกล่าวจะสร้างความเข้าใจ และความสามารถในการรับมือสิ่งเหล่านี้ก็จะมากขึ้นตาม
    • ทางเลือกหนึ่ง คือ อ่านหนังสือ “ความคิดบวกจากการเรียนรู้” (Learned Optimism) โดยดร.มาร์ติน เซลิกแมน (Martin Seligman. Dr.) ดร.เซลิกแมนเป็นนักจิตวิทยา และผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาทางบวก[23] ซึ่งเขาได้ให้วิธีในการที่จะบอกว่าคุณเป็นคนมองโลกในแง่ดีหรือแง่ร้ายมากกว่ากัน รวมถึงวิธีรับมือกับมันด้วย หนังสือเล่มนี้อาจเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ทั้งกับคนคิดลบและคนคิดบวก และยังสอนให้ผู้อ่านมีตัวช่วยในการเรียนรู้วิธีที่จะมองโลกในแง่ดีมากขึ้น
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • เมื่อต้องติดต่อกับคนที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นคนมองโลกในแง่ร้ายให้เลือกเวลาที่อีกฝ่ายรู้สึกดี สิ่งนี้จะช่วยเพิ่มความเป็นไปได้ว่าอีกฝ่ายจะรับฟังสิ่งที่คุณต้องการสื่อมากขึ้น
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Sandra Possing
ร่วมเขียน โดย:
ไลฟ์โค้ช
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Sandra Possing. ซานดร้า พอซซิ่ง เป็นไลฟ์โค้ช นักพูด และผู้ประกอบการในซานฟรานซิสโก เธอเชี่ยวชาญด้านการโค้ชแบบตัวต่อตัวโดยมุ่งเน้นที่กรอบความคิดและการเปลี่ยนแปลงด้านความเป็นผู้นำ ซานดร้าได้รับการฝึกสอนจากสถาบันฝึกอบรมโค้ช และมีประสบการณ์ด้านการไลฟ์โค้ช 7 ปี เธอสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีศิลปศาสตรบัณฑิตสาขามานุษยวิทยาจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแองเจลิส บทความนี้ถูกเข้าชม 4,289 ครั้ง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 4,289 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา