วิธีการ ไม่รู้สึกแย่เพราะความผิดพลาด

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

“ไม่มีใครเพอร์เฟค” “ทุกคนล้วนเคยทำสิ่งผิดพลาด” นี่คือความจริงที่เราทุกคนต่างก็รู้กันดี แต่ความรู้สึกผิด ความเสียใจ และความอับอายเพราะความผิดพลาดนั้นก็อาจจะอยู่ติดทนนานและสร้างความเจ็บปวดให้เราได้อยู่ดี และการให้อภัยตัวเองก็มักจะเป็นการให้อภัยที่ทำได้ยากที่สุดเสียด้วย แต่ไม่ว่าความผิดพลาดของคุณจะเล็กหรือจะใหญ่ มันก็จำเป็นที่คุณจะต้องยอมรับและดำเนินชีวิตต่อไปแม้จะมีความผิดพลาดบางอย่างเกิดขึ้นในชีวิต เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของตัวคุณเอง (และของคนรอบข้างคุณด้วย) จำไว้เสมอว่า โอกาสที่คุณจะทำเรื่องผิดพลาดนั้นมีอยู่แล้ว ซึ่งสุดท้ายคุณก็จะสามารถผ่านพ้นมันไปได้ และอาจจะได้เรียนรู้อะไรบางอย่างจากความผิดพลาดเหล่านั้นด้วย

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

ยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 รับรู้ความผิดพลาดของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา.
    คุณจะไม่สามารถก้าวพ้นความผิดพลาดไปได้เลยหากคุณไม่สามารถทำให้ตัวเองเผชิญหน้ากับมันได้ก่อน ดังนั้น คุณจำเป็นต้องมองและพิจารณาความผิดพลาดที่เกิดขึ้นให้ชัดเจนก่อน ดูว่ามันเกิดจากสาเหตุอะไร รวมถึงดูด้วยว่าความผิดของคุณคืออะไร[1]
    • นี่ไม่ใช่เวลาที่จะหาข้อแก้ตัว เพราะจริงอยู่ที่บางทีชีวิตคุณอาจจะสับสนหรือรับภาระหนักเกินไป แต่ข้ออ้างพวกนั้นก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงความเป็นจริงของผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด ดังนั้น อย่าพยายามโทษว่าคนอื่นก็มีส่วนผิด ถึงแม้ว่าคุณจะทำแบบนั้นได้ก็ตาม เพราะคุณสามารถควบคุมได้แค่บทบาทของตัวเองที่มีต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเท่านั้น และคุณก็ต้องยอมรับว่ามันคือความผิดของคุณด้วยเช่นกัน[2]
    • บางครั้งเราอาจจะใช้ความรู้สึกผิดของตัวเองมาเป็นเกราะป้องกันตัวเราจากการยอมรับถึงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น เพราะบางทีเราคิดว่าถ้าเราลงโทษตัวเองด้วยความรู้สึกผิดของเราก่อนแล้ว บางทีคนอื่นๆ ก็อาจจะไม่เอาโทษเราก็ได้ แต่ถ้าหากคุณอยากจะดำเนินชีวิตต่อไปข้างหน้า คุณก็ต้องยอมรับถึงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นให้ได้ และจำไว้ว่าการลงโทษตัวเองนั้นไม่ได้ช่วยลบล้างผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด
  2. How.com.vn ไท: Step 2 บอกความรู้สึกและสิ่งที่คุณได้เรียนรู้ให้คนอื่นฟัง....
    บอกความรู้สึกและสิ่งที่คุณได้เรียนรู้ให้คนอื่นฟัง. คุณอาจจะคิดว่าการยอมรับว่าตัวเองผิดนั้นก็เป็นเรื่องที่น่าอายพออยู่แล้ว นับประสาอะไรกับการเอาไปบอกคนอื่นล่ะ แต่ถึงแม้ว่าในตอนแรกคุณอาจจะรู้สึกว่ามันทำได้ยาก แต่การที่คุณพูดถึงข้อผิดพลาดและความรู้สึกของตัวเองเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นให้คนอื่นได้รับรู้นั้น ก็มักจะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้คุณสามารถปล่อยวางและดำเนินชีวิตต่อไปข้างหน้าได้[3]
    • ช่วงเวลาที่คุณจะได้บอกความรู้สึกกับคนที่คุณได้เคยโยนความผิดให้ก็จะมาถึงเอง แต่ก่อนอื่น คุณอาจจะต้องบอกความรู้สึกกับเพื่อน นักบำบัด ผู้นำทางทางใจ หรือใครสักคนที่คุณสามารถไว้วางใจได้ไปก่อน
    • มันอาจจะดูไร้สาระ แต่การที่คุณบอกออกมาว่าคุณยอมรับข้อผิดพลาดของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่คุณพูดยอมรับกับคนอื่นๆ นั้น มักจะเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้คุณสามารถยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นได้
    • การบอกความผิดพลาดของตัวเองให้คนอื่นได้รับรู้ยังช่วยเตือนให้คุณรู้ว่าคนเราทุกคนล้วนทำเรื่องผิดพลาด และไม่มีใครเพอร์เฟคไปหมดซะทุกอย่าง ซึ่งนี่คือความจริงที่เราทุกคนต่างก็รู้ดี และนอกจากนี้ เรายังสามารถลืมความผิดพลาดพวกนั้นไปได้ง่ายๆ หากเรากำลังหาทางจัดการกับความผิดพลาดนั้นอยู่
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ชดเชยความผิด.
    เมื่อคุณยอมรับความผิดพลาดของตัวเองและบอกกับคนทุกคนที่อาจจะได้รับความเสียหายจากความผิดพลาดของคุณได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือ ให้คุณทำอย่างสุดความสามารถของตัวเองเพื่อแก้ไขสิ่งต่างๆ ให้ถูกต้อง และด้วยการทำสิ่งนี้ คุณอาจจะค้นพบว่าความผิดพลาดของคุณก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมากมายชนิดที่ว่าจะแก้ไขอะไรไม่ได้เลย และถ้าหากว่ามันเป็นเรื่องใหญ่จริงๆ การที่คุณทำการชดเชยความผิดพลาดก็จะช่วยทำให้คุณสามารถยุติเรื่องที่เกิดขึ้นและผ่านพ้นมันไปได้ในที่สุด
    • แค่พูดออกไปแบบปกติ เพราะยิ่งคุณชดเชยความผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้เร็วเท่าไร มันก็จะยิ่งดีขึ้นเท่านั้น ตัวอย่างเช่น หากคุณทำงานผิดพลาด และงานที่คุณทำผิดพลาดนั้นอาจจะสร้างความเสียหายให้แก่ลูกค้าของบริษัท และ/หรือทำให้บริษัทต้องชดใช้เงินจำนวนหนึ่ง ตัวเลือกที่ดีที่สุดคือ ให้คุณบอกกับหัวหน้าคุณให้เร็วที่สุด และก็อย่าลืมให้เวลาตัวเองได้หาวิธีชดเชยความผิดพลาดที่เกิดขึ้นด้วย อย่าปล่อยให้ความผิดพลาดดำเนินต่อไปโดยที่ไม่พยายามหาวิธีแก้ไขอะไรเลย เพราะมันมีแต่จะไปเพิ่มความรู้สึกผิดและความกลุ้มใจให้กับคุณ หรือไม่ก็ทำให้คนที่ได้รับความเสียหายจากคุณรู้สึกโกรธมากขึ้นเปล่าๆ [4]
    • มันจะต้องมีบางกรณีที่ความผิดพลาดของคุณไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับคนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะ หรือไม่ก็อาจจะสร้างความเสียหายให้กับคนๆ หนึ่งซึ่งไม่ได้อยู่ให้คุณกล่าวคำขอโทษและทำอะไรเพื่อชดเชยความผิดให้กับคนๆ นั้นแล้ว ตัวอย่างเช่น บางทีคุณเห็นว่าชีวิตคุณยุ่งเกินกว่าที่จะหาเวลาไปเยี่ยมยายของตัวเอง และตอนนี้ท่านก็ได้จากไปแล้ว ซึ่งในกรณีแบบนี้ ให้คุณลองพิจารณาเรื่อง “การส่งต่อสิ่งดีๆ ให้คนอื่น“ ด้วยการช่วยเหลือคนอื่นๆ ที่อยู่ในสถานการณ์ที่คล้ายๆ กันกับคุณ หรือว่าเลือกที่จะทำความดีแบบปกติก็ได้ เช่น คุณอาจจะเป็นอาสาสมัครให้กับศูนย์ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้สูงอายุ หรือไม่ก็ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะใช้เวลาอยู่กับญาติๆ สูงอายุที่เหลืออยู่ของคุณให้มากกว่านี้
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

เรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 วิเคราะห์ความผิดพลาดของตัวเองเพื่อที่คุณจะได้เรียนรู้จากมันได้....
    วิเคราะห์ความผิดพลาดของตัวเองเพื่อที่คุณจะได้เรียนรู้จากมันได้. อาจจะดูเหมือนเป็นการลงโทษตัวเองโดยไม่จำเป็นเมื่อเราขุดคุ้ยลงไปในรายละเอียดของความผิดพลาดของตัวเอง แต่การที่เราพิจารณาความผิดพลาดที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด มันก็คือวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยปรับเปลี่ยนความผิดพลาดให้กลายเป็นประสบการณ์ที่ให้บทเรียนกับตัวเราได้ ซึ่งความผิดพลาดส่วนใหญ่สามารถกลายเป็นสิ่งคุ้มค่าได้ หากเราเรียนรู้และรู้จักที่จะปรับปรุงแก้ไขเพราะความผิดพวกนั้น[5]
    • ให้คุณเจาะลึกลงไปที่ต้นเหตุของความผิดพลาด เช่น ความไม่พอใจ (เวลาที่คุณพูดอะไรหยาบคาย) หรือความใจร้อน (เวลาที่คุณต้องการจะได้ตั๋วเร็วๆ ) และให้แยกประเภทของความผิดพลาดเหล่านั้นออกมา เช่น ความไม่พอใจ หรือความใจร้อน เพื่อที่คุณจะได้สามารถพิจารณาหาวิธีแก้ไขได้ง่ายขึ้น[6]
    • จำไว้ว่าการเลือกที่จะเรียนรู้จากความผิดพลาดนั้นคือวิถีที่จะทำให้คุณเติบโต ส่วนการกล่าวโทษและดูถูกตัวเองนั้นจะนำไปสู่ความเหนื่อยหน่ายในชีวิต[7]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 วางแผนปฏิบัติ.
    การพิจารณาถึงสาเหตุของความผิดพลาดนั้นเป็นเพียงขั้นตอนแรกของการเรียนรู้จากความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ซึ่งการพูดแค่ว่า “ฉันจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว” นั้นยังไม่เพียงพอ หากคุณไม่มีความมุ่งมั่นที่จะลงมือเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไข ซึ่งความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขเป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณไม่ทำผิดพลาดซ้ำสองอีก
    • คุณไม่มีทางที่จะเรียนรู้จากความผิดพลาดได้ในทันทีที่คุณวิเคราะห์ถึงรายละเอียดของความผิดพลาดและยอมรับว่ามันคือความผิดของคุณ แม้ว่ามันจะเป็นขั้นตอนที่สำคัญก็ตาม ดังนั้น ให้คุณลองคิดถึงสิ่งที่คุณน่าจะทำในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้มีความแตกต่างไปจากเดิมได้ดู และเตรียมความพร้อมสำหรับสิ่งที่คุณจะทำให้แตกต่างในครั้งต่อไปเมื่อคุณต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่คล้ายๆ กัน[8]
    • ให้คุณใช้เวลาสักช่วงหนึ่งเพื่อเขียน “แผนปฏิบัติ” สำหรับคราวต่อไปเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบเดิมขึ้นมาอีก เพราะมันจะช่วยให้คุณสามารถนึกภาพขึ้นมาในใจและเตรียมตัวหลีกเลี่ยงความผิดพลาดแบบเดิมได้
    • ตัวอย่างเช่น คุณบอกว่าที่ตัวเองลืมไปรับเพื่อนมากจากสนามบิน ก็เพราะว่าคุณทำตัวเองให้ยุ่งวุ่นวายเพราะภาระหน้าที่ที่คุณต้องรับผิดชอบหลายๆ อย่าง จนคุณไม่สามารถบริหารจัดการกับมันได้ ดังนั้น เมื่อใดก็ตามที่คุณรู้แล้วว่าปัญหาจริงๆ มันคืออะไร (และขอโทษเพื่อนคนนั้นของคุณไปแล้ว) ให้คุณวางแผนปฏิบัติเพื่อบริหารจัดการเวลาและจัดลำดับความสำคัญภาระหน้าที่ต่างๆ ที่ตัวเองมี หากสิ่งต่างๆ ในชีวิตคุณเริ่มที่จะยุ่งวุ่นวาย นอกจากนี้ ให้คุณรู้จักที่จะพูดคำว่า “ไม่” บ้างเมื่อชีวิตคุณแทบจะไม่มีเวลาแล้ว
  3. How.com.vn ไท: Step 3 แก้ไขพฤติกรรมที่อาจจะทำให้เกิดการทำผิดซ้ำสอง....
    แก้ไขพฤติกรรมที่อาจจะทำให้เกิดการทำผิดซ้ำสอง. ความผิดพลาดแทบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่การกินและดื่มเกินลิมิตไปจนถึงการตะโกนต่อว่าคนรักทั้งๆ ที่ยังไม่มีเหตุผลดีพอที่จะไปต่อว่าเขา อาจจะเป็นสิ่งที่ส่งเสริมให้เกิดพฤติกรรมแย่ๆ ได้ และเพื่อที่จะป้องกันการทำผิดซ้ำสอง คุณจำเป็นต้องรับรู้และแก้ไขพฤติกรรมต่างๆ ที่เป็นสาเหตุของความผิดพลาดด้วย[9]
    • บางทีคุณอาจจะอยากรับรู้ถึงความผิดพลาดและพยายามแก้ไขพฤติกรรมแย่ๆ ของตัวเองให้ได้ภายในครั้งเดียวเพื่อที่จะสร้าง “คุณคนใหม่” แต่มันจะดีที่สุดถ้าคุณจะใจเย็นกว่านี้และโฟกัสไปที่พฤติกรรมอันใดอันหนึ่งก่อน สรุปก็คือ ให้ลองคิดดูว่า การเลิกสูบบุหรี่และใช้เวลาอยู่กับแม่ของตัวเองให้มากขึ้นได้พร้อมกันในครั้งเดียวนั้นมันมีข้อได้เปรียบอะไร? ดังนั้น ให้คุณพยายามโฟกัสไปที่การแก้ไขพฤติกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งก่อนจะดีกว่า จากนั้นก็ค่อยพิจารณาความพร้อมของคุณในการแก้ไขพฤติกรรมอันต่อๆ ไป
    • สร้างความเปลี่ยนแปลงให้ง่ายที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ยิ่งแผนการเลิกพฤติกรรมแย่ๆ ของคุณมีความซับซ้อนมากเท่าไร โอกาสที่มันจะล้มเหลวก็จะมีมากขึ้นเท่านั้น หากคุณต้องการตื่นให้เช้ากว่านี้เพราะคุณมักจะเป็นคนที่ไปทำงานสายและไปนัดสำคัญๆ ช้าอยู่เสมอ ให้คุณเข้านอนให้เร็วขึ้นและ/หรือตั้งนาฬิกาในห้องนอนให้เร็วขึ้น 10 นาที
    • หาวิธีทดแทนสิ่งแย่ๆ ที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมเก่าๆ ของคุณ โดยทำให้มันเป็นบางสิ่งบางอย่างที่เป็นด้านบวกอย่างเช่น ออกกำลังกาย ใช้เวลาอยู่กับลูกๆ ให้มากขึ้น หรือจะเป็นอาสาสมัครก็ได้
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

ปล่อยวางจากความผิดพลาดของตัวเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ผ่อนคลายความเข้มงวดของตัวเองลงบ้าง.
    คนหลายคนที่มีปัญหาในการก้าวข้ามความผิดพลาดมักจะทุกข์ทรมานจากความคาดหวังที่ไม่ค่อยสมเหตุสมผลที่พวกเขามีต่อตัวเอง จริงอยู่ที่การทำตัวเองให้มีมาตรฐานสูงนั้นเป็นสิ่งที่น่าชื่นชม แต่การเรียกร้องถึงความสมบูรณ์แบบในตัวเองมากจนเกินไปก็มีแต่จะสร้างความเจ็บปวดให้กับตัวคุณเอง รวมไปถึงคนใกล้ชิดคุณด้วย[10]
    • ให้ถามตัวเองว่า “ความผิดพลาดครั้งนี้มันแย่ถึงขนาดที่เราคิดไว้จริงๆ หรือเปล่า?” ซึ่งถ้าหากคุณพิจารณาอย่างตรงไปตรงมา โดยปกติคำตอบที่ได้ก็คงจะเป็นคำว่า “ไม่” แต่เมื่อคำตอบที่ได้คือ “ใช่” สิ่งเดียวที่คุณสามารถทำได้ก็คือการพูดยืนยันกับตัวเองว่าคุณได้เรียนรู้อะไรมากขึ้นจากความผิดพลาดของตัวเอง[11]
    • ให้คุณแสดงความเข้าอกเข้าใจในตัวเองให้เหมือนกับที่คุณอยากจะได้จากคนอื่น พิจารณาดูว่าคุณจะปฏิบัติกับเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณแบบใจร้ายหรือเปล่า หากเพื่อนของคุณทำผิดซ้ำสอง ซึ่งในแทบจะทุกกรณี ตัวคุณเองก็คงจะแสดงความเข้าอกเข้าใจและให้กำลังใจกับเพื่อนของคุณ ส่วนในกรณีของตัวเอง ให้จำไว้ว่าคุณควรจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง และปฏิบัติต่อตัวเองด้วยความเมตตา[12]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ให้อภัยตัวเอง.
    การให้อภัยคนอื่นสำหรับความผิดที่พวกเขาได้ทำไว้นั้นบางครั้งก็อาจจะเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก แต่มันก็มักจะง่ายกว่าการให้อภัยตัวเอง แม้ว่าความผิดพลาดที่เราได้ทำไว้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยก็ตาม มีคำพูดเก่าๆ ที่บอกเอาไว้ว่า “การให้อภัยเริ่มต้นจากที่บ้าน” นั่นแสดงว่าคุณจำเป็นต้องเริ่มจากตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก
    • คุณอาจจะมองว่านี่มันดูไร้สาระ แต่มันอาจจะเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้คุณสามารถพูดให้อภัยกับตัวเองได้ อย่างเช่นพูดว่า “ฉันยกโทษให้ตัวเอง ที่ฉันได้ใช้เงินค่าเช่าหมดไปกับตอนที่ฉันออกไปเที่ยวในตัวเมืองเมื่อคืนนั้น” หรือบางคนอาจจะเห็นว่าการเขียนถึงความผิดพลาดและการให้อภัยตัวเองลงบนกระดาษแผ่นหนึ่งแล้วจากนั้นก็ขยำทิ้งนั้น มันน่าจะให้ผลในระดับที่พอๆ กันได้[13]
    • การให้อภัยตัวเองนั้นทำหน้าที่เป็นเครื่องเตือนว่าคุณไม่ใช่ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น คุณไม่ใช่ความผิดพลาด หรือความไม่แน่นอน หรือความบกพร่องอะไรทั้งนั้น แต่คุณเป็นแค่มนุษย์คนหนึ่งที่ไม่ได้สมบูรณ์แบบ และเคยทำผิดพลาดเหมือนกับคนอื่นๆ และเรียนรู้และเติบโตจากความผิดพลาดเหล่านั้น[14]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ดูแลตัวเองและคนที่อยู่รอบๆ ตัวคุณ.
    หากคุณรู้สึกว่าการปล่อยวางความผิดพลาดนั้นทำได้ยาก มันจะช่วยได้มากถ้าคุณเตือนตัวเองว่าการยึดติดอาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณ และทำลายชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของคนที่อยู่รอบๆ ตัวคุณด้วย ดังนั้น คุณจำเป็นต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อตัวคุณเอง รวมถึงคนที่คุณรักด้วย เพื่อที่คุณจะได้สามารถก้าวข้ามความผิดพลาดของตัวเองไปได้
    • เมื่อคุณมีความรู้สึกผิด สารเคมีที่ถูกปล่อยในร่างกายของคุณอาจจะไปเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต และระดับคอเลสเตอรอล และทำลายระบบการย่อยสลายอาหารและการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ รวมถึงทำลายทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณของคุณด้วย ซึ่งนี่บ่งบอกว่า ความมีรู้สึกผิดที่มากจนเกินไปอาจจะทำลายสุขภาพร่างกายคุณก็ได้
    • คำพูดที่ว่า “ความทุกข์มักชอบมีเพื่อน” นั้นเป็นเรื่องจริง เพราะคนที่ไม่ยอมปล่อยวางจากความรู้สึกผิดมักจะดึงคนรอบๆ ตัวให้เป็นไปกับเขาด้วย คุณมีแนวโน้มที่จะเป็นคนเก็บตัวและมีนิสัยชอบติเตียนมากขึ้นเพราะความรู้สึกผิดที่เกิดจากความผิดพลาดที่คุณได้ทำไว้ และนั่นจะทำให้คนรัก ลูกๆ เพื่อนๆ และแม้กระทั่งสัตว์เลี้ยงของคุณทุกข์ใจตามคุณไปด้วย
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ดำเนินชีวิตต่อไปข้างหน้า.
    เมื่อคุณยอมรับความผิดพลาดของตัวเองได้แล้ว ให้คุณพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อสร้างสิ่งทดแทนและให้อภัยตัวเองสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น และคุณก็ต้องปล่อยวางและไม่ต้องไปกังวลกับเรื่องนั้นอีกแล้ว เพราะความผิดพลาดควรจะคงอยู่แค่เพื่อที่จะเอาไว้เป็นบทเรียนที่จะช่วยให้คุณเติบโตต่อไปข้างหน้าได้เท่านั้นพอ
    • เมื่อรู้สึกว่าตัวเองเริ่มวกกลับไปคิดเรื่องความผิดพลาดและความรู้สึกผิดที่คุณมีต่อสิ่งนั้น ให้คุณเตือนตัวเองว่าคุณได้รับการให้อภัยแล้ว หากจำเป็นจริงๆ ให้พูดมันออกมาดังๆ เพื่อเตือนให้ตัวเองรู้ว่าเรื่องมันจบไปแล้ว[15]
    • บางคนหาตัวช่วยด้วยการใช้เทคนิคการโฟกัสที่อารมณ์เชิงบวก (Positive Emotion Refocusing Technique หรือ PERT) และเพื่อที่จะทำแบบนั้นได้ คุณก็ต้องหลับตาและหายใจเข้าให้ลึกๆ ยาวๆ อย่างมุ่งมั่นสองครั้งก่อน และในครั้งที่สาม ให้คุณนึกภาพคนที่คุณรักมากๆ หรือไม่ก็นึกภาพความสวยงามและวิวทิวทัศน์ของธรรมชาติก็ได้ โดยในขณะที่คุณกำลังหายใจอยู่ ให้คุณค้นหา “สถานที่แห่งความสุข” ของตัวเอง จากนั้นก็นำความรู้สึกผิดมาแล้วหาวิธีปล่อยวางและค้นหาความสงบในสถานที่นี้ให้ได้ จากนั้นลืมตาขึ้นมาและปล่อยความรู้สึกผิดเอาไว้ข้างหลัง
    • การดำเนินชีวิตต่อไปข้างหน้าหลังจากที่เกิดความผิดพลาด จะช่วยให้คุณสามารถใช้ชีวิตได้โดยที่ไม่ต้องรู้สึกเสียใจ จำไว้ว่ามันดีกว่าถ้าเราจะเรียนรู้จากความผิดพลาดมากกว่าที่จะไปเสียใจเพราะว่าเราไม่ได้ลองลงมือทำ การที่เด็กเล็กพยายามหัดเดินหรือเด็กๆ พยายามหัดปั่นจักรยานนั้นก็เหมือนกับการที่ผู้ใหญ่กำลังรับมือกับความผิดพลาดนั่นล่ะ การล้มลงก็คือการฝึกฝน และการลุกขึ้นมาลองใหม่อีกครั้งก็คือพัฒนาการนั่นเอง[16]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • เมื่อใดก็ตามที่คุณทำผิดพลาด คุณก็จะได้บทเรียนจากความผิดพลาดเหล่านั้น
  • การยอมรับความผิดนั้นก็เหมือนกับการได้ปลดปล่อย จริงอยู่ ที่การยอมรับว่าตัวเองผิดนั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก แต่มันก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง ความกล้าหาญ และความมุ่งมั่นที่จะทำให้ตัวเองเป็นคนที่ดีขึ้น พูดได้อีกแบบก็คือ มันเป็นสิ่งที่น่านับถือ และการที่คุณทำแบบนั้น ก็แสดงให้เห็นว่าคุณเป็นคนที่แคร์ตัวเอง
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Catherine Boswell, PhD
ร่วมเขียน โดย:
นักจิตวิทยาที่มีใบอนุญาต
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Catherine Boswell, PhD. ดร. แคทเธอรีน บอสเวลล์ เป็นนักจิตวิทยาที่มีใบอนุญาตและเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Psynergy Psychological Associates ซึ่งเป็นสถานบำบัดเอกชนในเมืองฮุสตัน รัฐเท็กซัส ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ดร.บอสเวลล์เชี่ยวชาญในการรักษาบุคคล กลุ่ม คู่รัก และครอบครัวที่ต้องต่อสู้กับปัญหาด้านความบอบช้ำทางจิตใจ ความสัมพันธ์ ความเศร้าโศก และความเจ็บปวดเรื้อรัง เธอได้รับปริญญาเอกด้านจิตวิทยาการให้คำปรึกษาจากมหาวิทยาลัยฮุสตัน ดร.บอสเวลล์เคยสอนหลักสูตรให้กับนักศึกษาระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยฮุสตัน เธอยังเป็นนักเขียน นักพูด และโค้ชอีกด้วย บทความนี้ถูกเข้าชม 16,255 ครั้ง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 16,255 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา