ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความX
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้
มีการอ้างอิง 7 ข้อที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ
บทความนี้ถูกเข้าชม 2,844 ครั้ง
คุณอาจจะไม่สามารถทำให้ใครมารักคุณได้เสมอไป แต่ก็มีกลยุทธ์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริงอยู่หลายวิธีที่จะทำให้คนชอบคุณมากขึ้น และคุณสามารถชักจูงให้คนอื่นมองคุณในทางที่ดีได้ด้วยการนำกลยุทธ์เหล่านี้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน เริ่มจากการสื่อสารในแบบที่ทำให้พวกเขารู้สึกดีก่อน จากนั้นใช้กลยุทธ์ที่แสดงให้เห็นถึงคุณลักษณะที่น่าคบหาของคุณ และนอกจากนี้ก็ยังมีเทคนิคที่ล้ำลึกกว่านั้น เช่น การยิ้มให้หรือการแตะเนื้อต้องตัวแบบไม่ตั้งใจเพื่อให้คนอื่นรักคุณ หากคุณพยายามและปล่อยเวลาไปสักพัก คนอื่นๆ ก็จะอยากใช้เวลาร่วมกับคุณมากขึ้นเอง
ขั้นตอน
- 1เรียกชื่อที่เขาอยากให้เรียก. คนเราชอบเสียงที่เปล่งออกมาเป็นชื่อตัวเอง เพราะฉะนั้นให้เรียกชื่อเขาทุกครั้งที่ทำได้ เวลาพบใครครั้งแรกให้ย้ำชื่อเขากลับไป พอได้เจอกันอีกครั้งก็ให้เรียกชื่อเขา และเรียกชื่อเขาเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณมีคำถามหรือมีเรื่องอยากขอให้ช่วย[1]
- ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าเขาอยากให้คุณเรียกเขาว่าอะไร ก็ถามเขาได้เลย อาจจะลองพูดประมาณว่า “ฉันเรียกคุณว่าเมย์ได้ไหมคะ หรือว่าอยากให้เรียกว่าอย่างอื่น”
เคล็ดลับ: ถ้าคนนั้นมีตำแหน่งสูงกว่าคุณ เช่น ตำแหน่งที่ทำงานหรือที่โรงเรียน คุณต้องรู้ว่าเขาอยากให้คุณเรียกตำแหน่งเขาว่าอะไร เพราะเขาอาจจะชอบให้เรียกเขาด้วยชื่อตำแหน่ง เช่น ดร. เจริญ อาจารย์ชัญญาพร หรือคุณวิมลมากกว่า
ถามคำถามเพื่อให้ได้รู้จักเขามากขึ้น. คนเราชอบพูดเรื่องตัวเอง เพราะฉะนั้นการถามคำถามจึงเป็นกลยุทธ์ที่ดีที่จะทำให้คนอื่นๆ รักคุณ[2] คำถามสำหรับคนเพิ่งรู้จักกันทั่วๆ ไปเป็นวิธีชวนคุยที่มีประสิทธิภาพมาก และคุณต้องตั้งใจฟังคำตอบของเขาด้วย ขณะที่การสนทนาดำเนินไปเรื่อยๆ ก็ให้ถามคำถามที่ลึกขึ้น ซึ่งคำถามที่คุณอาจจะถามเขาได้แก่:[3]- คุณโตที่ไหน
- การโตมากับพี่น้อง 5 คนเป็นยังไง
- ทำไมคุณถึงตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่ตราด
- อะไรทำให้คุณสนใจด้านการขาย
- งานอดิเรกชอบทำอะไร
- คุณชอบอะไรในการถักนิตติ้งมากที่สุด
กล่าวชมผู้อื่นอย่างจริงใจ. ไม่ว่าใครก็ชอบคำชม แต่เวลาที่คุณชมใครสักคน คุณต้องชมอย่างจริงใจและหมายความอย่างที่พูดจริงๆ คำชมปลอมๆ จะไม่นำไปสู่ผลลัพธ์แบบเดียวกัน หาอะไรสักอย่างในตัวคนนั้นที่คุณชอบจริงๆ เช่น เสื้อหรือรองเท้า แล้วชมสิ่งนั้น หรือคุณอาจจะชมเขาในสิ่งที่เขาได้ทำหรือคุณสมบัติที่น่าชื่นชมอื่นๆ ก็ได้[4]- เช่น คุณอาจจะพูดว่า “ไงข้าวฟ่าง! ฉันชอบรองเท้าเธอจัง น่ารักดี ดูท่าทางจะใส่สบายด้วยนะ”
- หรือคุณอาจจะพูดว่า “โอ้โห จ๊อบ เมื่อเช้าคุณพรีเซนต์งานได้สุดยอดไปเลย! ฉันได้รู้อะไรเพิ่มขึ้นตั้งเยอะ”
- หรืออีกตัวเลือกหนึ่งก็คือ “เจน เธอเก่งจัง! ถ้าบ้านไฟดับแล้วฉันต้องอยู่บ้านคนเดียวตอนกลางดึก ฉันคงกลัวหัวหดไปแล้ว”
- 4เน้นย้ำค่านิยมที่คุณมีร่วมกับเขา. การแสดงออกถึงค่านิยมที่คุณมีร่วมกันอาจทำให้อีกฝ่ายชอบคุณมากขึ้น แต่คุณต้องดึงความสนใจมาที่ค่านิยมที่คุณมีร่วมกันให้ได้ มองหาโอกาสในบทสนทนาที่คุณจะได้เน้นย้ำว่าคุณสองคนมีค่านิยมในเรื่องใดที่ตรงกัน[5]
- เช่น ถ้าคุณกำลังคุยกับใครแล้วเขาพูดเรื่องมุมมองทางการเมืองที่คุณเองก็เห็นด้วย คุณก็อาจจะพูดแค่ว่า “ฉันเห็นด้วยกับคุณในเรื่องนี้มากๆ เลยค่ะ”
- ค่านิยมที่ว่านี้อาจจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ได้ เช่น ถ้าเขาพูดขึ้นมาว่าเขาไม่ชอบคนที่บีบแตรบนท้องถนน คุณก็อาจจะแค่ตอบรับไปว่า “ฉันก็เหมือนกันค่ะ!”
- 5ส่งเสริมมุมมองที่เขามีต่อตนเอง. คนเราชอบเวลาที่คนอื่นยอมรับและส่งเสริมความคิดที่เรามีต่อตนเอง และคุณใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ได้ด้วยการสังเกตว่า เขาอยากให้คนอื่นมองเขาอย่างไร และหาวิธีส่งเสริมมุมมองนั้นอย่างแยบยล[6]
- เช่น ถ้าคุณรู้ว่าเขาชอบคุยเรื่องที่ว่าเขาไปดูวงดนตรีเล่นคอนเสิร์ต คุณก็อาจจะพูดว่า “เห้ย เจฟ! รู้ป่ะว่ากำลังจะมีคอนเสิร์ตอะไร คือจะหาใน Google เอาก็ได้แหละ แต่คิดว่าน่าจะถามนายก่อน เพราะนายรู้เรื่องดนตรีเยอะ”
- หรือถ้าคุณมีเพื่อนร่วมงานที่มักจะเอาขนมอบมาที่ทำงานบ่อยๆ คุณก็อาจจะถามว่า “โมเม ฉันจะลดปริมาณไขมันในสูตรคุกกี้ได้ยังไงเหรอ เสาร์อาทิตย์นี้ฉันว่าจะทำคุกกี้ชอกโกแล็ตชิป แต่ฉันก็กำลังลดน้ำหนักอยู่ด้วย”
โฆษณา
- 1แสดงความสามารถโดยที่ยังเข้าถึงได้. การเป็นคนมีความสามารถหรือการเป็นคนฉลาดและเก่งกาจนั้นเป็นคุณลักษณะที่น่าคบหา แต่คนเราก็มักจะชอบคนๆ นั้นมากกว่าหากว่าเขาทั้งเก่งและอบอุ่น เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าคุณจะเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้าในสาขา คุณก็ต้องติดดินและอัธยาศัยดีเวลาพูดคุยกับคนอื่น[7]
- เช่น หลังจากพรีเซนต์งานที่โรงเรียนได้อยู่หมัด คุณก็อาจจะยิ้มและขอบคุณเพื่อนร่วมห้องที่รับฟัง
- หรือหลังจากที่คุณได้ให้คำปรึกษากับเพื่อนร่วมงานเรื่องโปรเจ็กต์ที่คุณรับผิดชอบอยู่ คุณอาจจะพูดว่า “มีอะไรให้ผมช่วยอีกไหมครับ”
- 2ให้คนอื่นได้เห็นข้อบกพร่องของคุณบ้าง. คนมักจะชอบคุณมากกว่าถ้าคุณไม่สมบูรณ์แบบ เพราะฉะนั้นจงเป็นตัวของตัวเอง! ทุกคนล้วนมีข้อบกพร่อง และการแสดงออกถึงข้อบกพร่องบางครั้งบางคราวก็เป็นเรื่องที่ยอมรับได้ ถ้าคุณทำพลาด ลื่นหกล้ม หรือพูดตะกุกตะกัก ก็อย่าไปถือสา เพราะคนเรามักจะมองว่าข้อบกพร่อมเล็กๆ น้อยๆ ชั่วครั้งชั่วคราวแบบนี้เป็นสิ่งที่น่ารัก[8]
- คุณอาจจะพูดถึงข้อบกพร่องของตัวเองในบทสนทนาทั่วไปถ้ามันบังเอิญมีหัวข้อนี้ขึ้นมา เช่น ถ้าเขาเล่าว่าเขาสร้างคอมพิวเตอร์เองได้อย่างไร คุณก็อาจจะพูดว่า “เจ๋งอ่ะ! ฉันเองจะซื้อคอมพิวเตอร์ยังต้องถามผู้เชี่ยวชาญเลยว่าซื้อรุ่นไหนดี ฉันเองก็เลยไม่ค่อยรู้เรื่องเทคโนโลยีเท่าไหร่”
- 3เก็บความลับเพื่อแสดงว่าคุณเป็นคนไว้ใจได้. คนจะชอบคุณมากขึ้นถ้าคุณแสดงให้เห็นว่าคุณเป็นคนเก็บข้อมูลที่เป็นความลับได้ ถ้าเขาบอกความลับกับคุณ ก็อย่าไปเล่าให้ใครฟัง[9]
- เช่น ถ้าเพื่อนร่วมชั้นเรียนมาบอกความลับกับคุณว่าเขาแอบชอบเพื่อนสนิท ก็อย่าแพร่งพรายเรื่องนี้ให้ใครรู้
- 4เมื่อมีโอกาสให้แสดงอารมณ์ขัน. การทำให้คนอื่นหัวเราะได้จะทำให้เขาอยากให้เวลากับคุณมากขึ้น เพราะฉะนั้นหาจังหวะที่คุณจะได้แสดงอารมณ์ขัน ซึ่งคุณสามารถทำได้ด้วยการเล่นมุก พูดเสียดสี หรือแค่ทำหน้าตลกๆ ให้ถูกจังหวะก็ได้[10]
- เช่น ถ้าเพื่อนร่วมงานเล่าให้ฟังว่า เธอคิดว่าอพาร์ตเมนต์ของเธอน่าจะมีผี คุณก็อาจจะพูดว่า “เออ ไม่แน่นะว่าบางทีผีอาจจะตามเธอมาที่ออฟฟิศด้วย ที่นี่จะได้ตื่นเต้นขึ้นยังไงล่ะ”
เคล็ดลับ: อย่าพยายามเป็นคนตลกมากเกินไป แค่พูดอะไรตลกๆ เป็นครั้งคราวก็พอแล้ว ถ้าคุณทำไม่ได้จริงๆ จะแค่หัวเราะไปกับมุกของคนอื่นแทนก็ได้เพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณก็มีอารมณ์ขันเหมือนกัน
- 5ใช้เวลากับคนที่คุณอยากทำให้เขารักให้มากขึ้น. ยิ่งคนอยู่ใกล้คุณมากเท่าไหร่ เขาก็จะยิ่งมีแนวโน้มที่จะชอบคุณมากขึ้น เพราะฉะนั้นให้พยายามอยู่กับเขาให้ได้มากที่สุด ไปทำงาน โรงเรียน หรืองานต่างๆ เป็นประจำเพื่อให้คนที่คุณอยากให้เขารักได้ใกล้ชิดกับคุณให้ได้มากที่สุด [11]
- เช่น ถ้าคุณเรียนอยู่ อย่าขาดเรียนยกเว้นว่าจำเป็นจริงๆ
- ถ้าคุณทำงาน อย่าลาป่วยยกเว้นว่าป่วยจริงๆ
โฆษณา
ยิ้มและทำตัวมีความสุขเวลาอยู่กับคนอื่น. การยิ้มและการทำตัวมีความสุขแม้ว่าคุณเพิ่งจะเจอวันแย่ๆ มาจะทำให้คนอื่นมองว่าคุณเป็นคนน่าคบมากกว่าเดิม เพราะว่าอารมณ์ติดต่อกันได้ ถ้าคุณยิ้มและแสดงออกว่ามีความสุข คนรอบข้างก็จะยิ้มได้และมีความสุขมากขึ้น[12]- เช่น เมื่อไหร่ก็ตามที่ทักทายคนอื่น ให้ยิ้มและพูดว่า “หวัดดีจ้ะ เป็นไงบ้างวันนี้” ด้วยท่าทีร่าเริง
เคล็ดลับ: คุณต้องยิ้มและดูมีความสุขเวลาเจอใครเป็นครั้งแรก เพราะมันจะทำให้เขาเกิดความประทับใจเมื่อเจอกันครั้งแรก และมีแนวโน้มที่จะจำคุณได้เมื่อพวกเขาเจอคุณครั้งถัดไป
- 2เลียนแบบท่าทางของอีกฝ่าย. คนเรามักจะชอบคนที่เลียนแบบหรือสะท้อนท่าทางและพฤติกรรมของเรา เพราะฉะนั้นให้สังเกตว่าเขานั่งหรือยืนอย่างไร และพยายามเลียนแบบท่าทางของเขา ถ้าเขาทำอะไรสักอย่างกับมือหรือขาของเขา คุณก็อาจจะเลียนแบบท่าทางเหล่านั้นก็ได้[13]
- เช่น ถ้าเขานั่งเอาศอกวางไว้บนโต๊ะข้างหน้า ก็ให้ทำเหมือนเขา
- หรือถ้าเขายืนโดยเอามือขวาเท้าสะเอว ก็ให้ยืนเอามือซ้ายเท้าเอวเหมือนกัน
- ถ้าเขาเคาะเท้าเบาๆ ก็ให้เคาะเท้าเบาๆ เหมือนกัน
- 3แตะเนื้อต้องตัวเล็กน้อยถ้าคุณสบายใจ. การแตะเบาๆ ที่แขนหรือหลังสัก 1-2 วินาทีเป็นอะไรที่อีกฝ่ายแทบจะไม่ทันสังเกตด้วยซ้ำ แต่เทคนิคง่ายๆ แบบนี้อาจทำให้เขาชอบคุณมากขึ้นได้ ลองแตะเขาแบบนี้เบาๆ เวลาพูดคุยกันหรือเวลาที่คุณเรียกเขา[14]
- เช่น คุณอาจจะแตะไหล่เพื่อนร่วมงานเบาๆ เวลาที่คุณเข้าหาเขาจากข้างหลัง หรือคุณอาจจะแตะแขนคนที่นั่งข้างๆ เวลาที่คุณมีอะไรจะถามเขา
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://www.inc.com/larry-kim/how-to-get-people-to-like-you-heck-even-love-you.html
- ↑ https://www.pnas.org/content/109/21/8038.full
- ↑ https://www.inc.com/larry-kim/how-to-get-people-to-like-you-heck-even-love-you.html
- ↑ https://www.businessinsider.com/how-to-make-people-like-you-2017-3
- ↑ https://www.businessinsider.com/how-to-make-people-like-you-2017-3
- ↑ https://www.jstor.org/stable/2786683?seq=1#page_scan_tab_contents
- ↑ https://www.businessinsider.com/how-to-make-people-like-you-2017-3
- ↑ https://www.businessinsider.com/how-to-make-people-like-you-2017-3
- ↑ https://ink.library.smu.edu.sg/cgi/viewcontent.cgi?referer=&httpsredir=1&article=1723&context=soss_research
- ↑ https://journals.sagepub.com/doi/abs/10.1177/0265407502019004048
- ↑ https://www.businessinsider.com/how-to-make-people-like-you-2017-3
- ↑ https://www.businessinsider.com/how-to-make-people-like-you-2017-3
- ↑ https://www.businessinsider.com/how-to-make-people-like-you-2017-3
- ↑ http://www.communicationcache.com/uploads/1/0/8/8/10887248/courtship_compliance-_the_effect_of_touch_on_womens_behavior.pdf
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
นักเขียนในทีมวิกิฮาว
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 2,844 ครั้ง
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 2,844 ครั้ง
หมวดหมู่: ความรัก
มีการเข้าถึงหน้านี้ 2,844 ครั้ง
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.
โฆษณา
