ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความX
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย John Keegan. จอห์น คีแกนเป็นโค้ชด้านดารเดทและเป็นนักพูดสร้างแรงบันดาลใจในนิวยอร์ก เขาเปิด The Awakened Lifestyle ซึ่งเขาใช้ความเชี่ยวชาญด้านการเดท การทำตัวให้มีเสน่ห์ และแรงขับเคลื่อนทางโซเชียลมาช่วยผู้คนได้พบรัก เขาสอนและเปิดเวิร์คช็อปด้านการเดทไปทั่วโลก ตั้งแต่ลอสแองเจลิสไปลอนดอน และจากริโอเดอจาเนโรไปถึงปราก งานของเขาถูกเอ่ยถึงใน New York Times, Humans of New York, และ Men's Health
บทความนี้ถูกเข้าชม 186,553 ครั้ง
เบื่อมั้ยกับการส่งข้อความน่ากระอักกระอ่วนหาสาวคนพิเศษของคุณ ให้คุณทำตามขึ้นตอนต่อไปนี้เพื่อจะได้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการส่งข้อความจีบสาว และสร้างความประทับใจจนได้ออกเดท!
ขั้นตอน
อย่าทำตัวน่าเบื่อและคาดเดาง่าย. สิ่งที่แย่ที่สุดในการแชทจีบสาว คือ ข้อความที่น่าเบื่อและคาดเดาง่าย ข้อความที่ส่งออกไปควรสนุกและน่าสนใจ หากนึกอะไรสนุกๆ หรือน่าสนใจไม่ออกก็อย่าส่งข้อความหาเธอเลยจะดีกว่า- เช่น คุณไม่ควรเริ่มคุยด้วยข้อความน่าเบื่อๆ อย่าง “เฮ้ :)” หรือ “เป็นไงบ้างวันนี้” มันเป็นอะไรที่สุดแสนจะน่าเบื่อ เธออาจได้ข้อความประเภทนี้จากหนุ่มทุกคนที่คุยด้วย คุณจึงต้องทำตัวให้แตกต่างจากคนอื่น
- ลองอะไรที่ไม่เหมือนใครดู หาคำพูดที่ทำให้เธออยากจะตอบกลับ เช่น “เมื่อคืนคุณขี้โกงนะ ผมต้องการจะเล่นใหม่”
สร้างอารมณ์ความรู้สึก. บางครั้ง การส่งข้อความก็อาจไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึกไปสักหน่อย คุณจึงควรพยายามให้มากที่จะทำให้มันแสดงความรู้สึกให้มากเท่าที่จะมากได้และทำเมื่อมีโอกาส สิ่งนี้จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น- เรียกชื่อเธอในการคุย -- ผู้หญิงจะตื่นเต้นมากเวลาที่เห็นชื่อตัวเองในข้อความ มันมีอะไรบางอย่างที่ลึกซึ้งเป็นพิเศษเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้
- หรืออีกทางเลือกหนึ่งก็คือ คุณอาจคิดชื่อเรียกพิเศษๆ ไว้ใช้กับเธอขึ้นมา ให้ดูเหมือนว่าคุณทั้งสองแชร์เรื่องตลกที่รู้กันอยู่แค่สองคน
- ใช้คำว่า "เรา" ในข้อความที่คุยกัน -- วิธีนี้จะช่วยสร้างบรรยากาศของ "ฉันและเธอ ที่เหลือก็แค่คนอื่น" ซึ่งเป็นอะไรที่ผู้หญิงชอบ
ชมเธอบ้าง. ลองพูดว่า “ว้าว ชอบผมของคุณวันนี้มากเลย คุณสวยมาก” ซึ่งไม่ได้ยากเลย -- ผู้หญิงชอบคำชม มันทำให้พวกเธอรู้สึกพิเศษและรู้สึกว่ามีคนเห็นคุณค่า ดังนั้น หากคุณสามารถหาคำชมใส่ลงไปในข้อความที่ส่งหาเธอได้สักหน่อยก็อย่ารอช้า- ลองคำชมคลาสสิค (แต่ได้ผลดี) อย่าง "ผมหยุดคิดถึงคุณในชุดเดรสดำน้ำเงินนั้นไม่ได้เลย” หรืออาจลองคำชมที่แหวกแนวสักหน่อย อย่าง "อารมณ์ขันของคุณนี่สุดจะประหลาดเลย แต่ผมก็ชอบนะ"
- ให้แน่ใจว่าคำชมนั้นมาจากใจ -- อย่าพูดสิ่งที่คุณไม่ได้รู้สึก เพียงแค่ต้องการให้อีกฝ่ายถูกใจคุณ ผู้หญิงรับรู้ได้ถึงความเสแสร้งได้แต่ไกล
ทำตัวลึกลับ. การทำตัวลึกลับสักหน่อยเวลาส่งข้อความไม่ได้มีอะไรเสียหาย คุณต้องการให้เธอรู้สึกเหมือนเธอกำลังไล่จับคุณ ไม่ให้คุณไล่จับเธอ ดังนั้น ให้คุณลองทำตัวคลุมเครือหรือห่างเหินบ้างบางครั้ง แต่อย่าให้มากจนเธอเกิดเคลือบแคลงพฤติกรรมของคุณ- เช่น หากเธอถามว่าคุณเป็นยังไงบ้างวันนี้ คุณไม่ควรส่งข้อความยืดยาวพรรรณาทุกรายละเอียดอันน่าเบื่อ (กลับไปดูขั้นตอนที่ 1) ให้ลองพูดประมาณว่า “วันนี้เป็นวันค่อนข้างประหลาดทีเดียว มีแต่คนคอยสร้างความประหลาดใจให้ไม่หยุด” หวังว่าด้วยคำพูดดังกล่าว เธอจะเกิดความสนใจและรบเร้าคุณให้เล่ารายละเอียดต่อ
- หรือถ้าเธอถามว่าคุณมีแผนอะไรสำหรับสุดสัปดาห์นี้ คุณก็อย่าตื่นเต้นรีบเล่าจนเกินไป (เว้นแต่คุณมีแผนที่น่าตื่นเต้นจริงๆ). การบอกเธอว่าคุณอาจจะต้องจัดการงานที่ต้องส่งในวันหยุดสุดสัปดาห์ไม่ได้ฟังดูน่าสนใจสำหรับเธอเลย ให้บอกว่าคุณจะออกไปสังหารมังกรหรืออะไรที่เว่อร์พอๆ กันแทน -- คุณไม่จำเป็นต้องพูดเรื่องจริงตราบใดที่สิ่งที่พูดฟังดูน่าสนใจ
หยอกเธอสักหน่อย. การหยอกเย้าเป็นวิธีจีบสาวที่ดีมาก -- มันช่วยสร้างความแน่นแฟ้นให้เกิดขึ้น โดยที่ไม่ต้องจริงจังจนเกินไป- อย่างที่กล่าวมาข้างต้น การมีชื่อเล่นน่ารักๆ ไว้เรียกเธอ (ซึ่งเป็นชื่อที่คุณใช้เรียกเพียงคนเดียว)เป็นวิธีที่ดีในการหยอกสาว ที่จะไม่สร้างความรู้สึกไม่ดีให้อีกฝ่าย เช่น คุณอาจเรียกเธอว่า "ยัยกระ" หรือ "สุดสวย"
- หยอกเธอด้วยสิ่งที่เธอพูดหรือทำเมื่อครั้งออกไปเที่ยวด้วยกัน เช่น หากเธอบอกให้คุณหยิบน้ำโค้กให้ คุณอาจพูดว่า “อย่าให้โค้กพุ่งออกจมูกเหมือนคราวก่อนล่ะ" นี่เป็นตัวอย่างของการขุดเรื่องเก่ามาแซว ซึ่งอาจช่วยดึงความสนใจของอีกฝ่ายให้นึกถึงช่วงเวลาดีๆ ที่คุณทั้งสองมีร่วมกัน ทำให้เธอรู้สึกดีกับความสัมพันธ์นี้
- แค่ให้แน่ใจว่าคุณไม่ล้ำเส้นจนพูดอะไรที่ฟังดูใจร้ายหรือทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่ดี มิฉะนั้น ความสัมพันธ์ที่คุณสร้างมาผ่านการแชทนั้นจะจบลงอย่างรวดเร็ว
อ่อย. แน่นอนว่าการจีบสาวด้วยข้อความจะไม่สมบูรณ์หากปราศจากการอ่อยอีกฝ่ายเพื่อทำให้อะไรๆ ไม่จืดชืด- อาจใช้วิธีคลาสสิคอย่างการถามอีกฝ่ายถึงเสื้อผ้าที่ใส่อยู่ หรือบอกเธอว่า "ผมชอบเวลาคุณใส่ชุดนั้นสุดๆ เลย แต่คิดว่าน่าจะชอบสิ่งที่อยู่ใต้เสื้อผ้ายิ่งกว่า"
- อีกเทคนิคที่ดี คือ จงใจใช้คำพูดที่ไร้ความหมายแฝงของเธอ มาตีความใหม่ให้มีความสองแง่สองง่าม เช่น หากเธอพูดว่า “ไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะยาวขนาดนี้!" (พูดถึงหนังหรือสิ่งอื่นที่ไม่ได้มีความหมายแบบนั้น) คุณอาจพูดลอยๆ ขึ้นมาว่า "คุณพูดเองนะ"
- หากคุณมีความกังวลนิดๆ ที่จะพูดจาสองแง่สองง่าม ก็อาจลองพูดขึ้นมาว่า คุณเองเพิ่งอาบน้ำเสร็จเพื่อเป็นการหยั่งเชิงอีกฝ่าย หากเธอตอบอะไรทะลึ่งๆ กลับมา (อย่าง “โอ๊ย อยากจะเห็นจังเลย) คุณก็รู้แล้วล่ะว่าเธอรับเรื่องสองแง่สองง่ามได้
โฆษณา
ส่งข้อความที่สั้นๆ หวานๆ. ข้อความยาวๆ มันดูน่าเบื่อ และจะทำให้คุณดูกระตือรือร้นมากไป- ดังนั้น คุณควรพยายามส่งข้อความสั้นๆ หวานๆ เข้าไว้ -- อย่าให้เกินสองหรือสามประโยค
- พยายามทำให้ทุกข้อความที่ส่งไปสนุก ฉลาด หรือหวานก็ได้ -- ไม่ควรต้องมาชวนคุยเรื่องสัพเพเหระอย่างดินฟ้าอากาศในการจีบสาว
จำนวนข้อความควรเท่าๆ กัน. ปริมาณข้อความที่ส่งควรจะเท่าๆ กัน -- ฝ่ายหนึ่งไม่ควรจะส่งข้อความเยอะแยะมากมายกว่าฝ่ายอย่างเห็นได้ชัด- การส่งข้อความไปเยอะๆ จะทำให้คุณดูกระตือรือร้นเกินไป และดูเป็นของตายมากไปหน่อย เธอจะรู้สึกว่าคุณเยอะใส่เธอ -- ซึ่งอาจทำให้เธอกลัวหรือทำให้เธอหมดความสนใจ
- แต่อีกแง่หนึ่ง การไม่ส่งข้อความให้มีความพอดีก็อาจทำให้คุณดูเหมือนไม่สนใจอีกฝ่าย ทำให้เธอเชื่อไปเองว่าคุณคุยกับสาวหลายคน หากเป็นเช่นนั้น เธออาจขอเลิกเพราะคิดว่าคุณไม่เอาไหน
- ดังนั้น คุณต้องหาสมดุลด้วยการส่งข้อความจำนวนเท่าๆ กับอีกฝ่าย โดยให้จำนวนใกล้เคียงกับอีกฝ่ายหากเป็นไปได้
- ให้สังเกตด้วยว่าใครเป็นฝ่ายเริ่มและจบการสนทนา -- คุณต้องหาทางสลับบทบาทบ้างถ้าทำได้
ระวังการสะกดคำและไวยากรณ์. คุณต้องทำตัวน่าประทับใจด้วยความฉลาดและมีไหวพริบที่ปรากฏผ่านข้อความ ซึ่งมันยากหากคุณ “พิมข้อคามแบบเน้“ วัยรุ่นอาจรอดตัวไปหากพิมพ์แบบนี้ แต่สำหรับคนที่อายุมากกว่า 18 ปี ควรให้ความสำคัญกับการสะกดคำและไวยากรณ์- คุณไม่ต้องเปิดพจนนานุกรมหาคำใหญ่ๆ ยากๆ เพียงเพื่อจะให้ตัวเองดูฉลาดหรอก แค่กวาดตาดูข้อความของคุณเร็วๆ ก่อนส่งข้อความ เพื่อเช็กให้แน่ใจว่าไม่มีการพิมพ์ผิดอย่างชัดเจน หรือสะกดคำผิดไป
- เครื่องหมายวรรคตอนมีผลอย่างมากต่อการตีความข้อความของคุณ เช่น หากสาวของคุณส่งรูปตัวเองในเสื้อผ้าใหม่มาให้ "ว้าว!" ฟังดูตื่นเต้นกว่า "ว้าว" เฉยๆ ขณะที่ "ชอบจัง..." ฟังดูเหมือนกำลังจีบและดูเป็นการอ่อยมากกว่า “ผมชอบมัน”
- ขอแค่อย่าใช้เครื่องหมายอัศเจรีย์ เครื่องหมายคำถาม ใส่หน้ายิ้ม ขยิบตา หรืออิโมติคอนอื่นๆ มากเกินไป -- อะไรแบบนี้อาจใช้ได้ผลดีในบริบทที่เหมาะสม แต่มันอาจฟังดูเป็นเด็กไม่โตหากใช้เยอะเกินไป
อย่าให้บทสนทนายืดเยื้อ. หนึ่งในทักษะการคุยผ่านข้อความที่ต้องฝึก คือ การรู้จักจบบทสนทนาที่เริ่มกร่อย- หากคุณปล่อยให้บทสนทนายืดเยื้อนานเกินไป คุณจะหมดเรื่องสนุกที่จะพูดต่อ และความกระอักกระอ่วยและความน่าเบื่อจะเข้ามาแทนที่อย่างรวดเร็ว
- เคล็ดลับ คือ ใหจบบทสนทนา “ก่อน” จะไปถึงจุดนั้น คุณจะได้ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกอยากคุยต่ออีก
- ลองจบการสนทนาด้วยข้อความน่ารักๆ หยอกอีกฝ่าย เช่น "ต้องไปแล้วล่ะ ที่รัก คุยกันใหม่พรุ่งนี้นะ อย่าทำตัวมีปัญหาตอนผมไม่อยู่ล่ะ!" หรือ "ได้เวลานอนแล้ว เดี๋ยวไม่หล่อ เจอกันในฝันของคุณนะ!"
อย่าพึ่งแต่ข้อความเพื่อจีบสาวแทนการออกไปจีบสาวจริงๆ. การส่งข้อความควรเป็นเพียงเครื่องมือจีบชั่วคราวเพื่อขั้นระหว่างการจีบกันในชีวิตจริงเท่านั้น- แม้การส่งข้อความจะเป็นอะไรที่ดีมาก (และคุณสามารถพูดสิ่งอาจทำให้คุณอายถ้าต้องจะพูดต่อหน้า) ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าความเร่าร้อนที่เกิดในการจีบเมื่ออยู่ต่อหน้ากัน
- ใช้การส่งข้อความเพื่อนัดเดทหรือนัดออกไปเที่ยวกัน สิ่งนี้จะทำคุณมีจุดมุ่งหมายในการส่งข้อความหากัน และเป็นสิ่งที่คุณทั้งคู่ต่างตั้งตาคอย
- จำไว้ว่าการจ้องตาอีกฝ่ายให้นานสักหน่อย การฉีกยิ้มกว้าง และการที่แขนสัมผัสกันในเวลาที่เหมาะสมนั้นดีกว่าคำพรรณนาบนจอโทรศัพท์เสมอ
โฆษณา
เคล็ดลับ
- เล่นมุขกับเธอ สาวๆ ชอบอารมณ์ขัน
- อย่ากลัวที่จะส่งข้อความกลับไป! หากคุณไม่ส่งข้อความกลับไป เธออาจคิดว่าคุณไม่ชอบเธอ และไปหาเป้าหมายอื่น
- หากเธอไม่ตอบคุณหรือไม่หยอกคุณกลับ อาจไม่ใช่ความคิดที่ดีนักที่จะเกี้ยวเธอต่อ เช่น หากเธอเริ่มส่งข้อความสั้นๆ แค่หนึ่งหรือสองคำ การจบบทสนทนาเสียเลยอาจเป็นความคิดที่ดีกว่า
- ไวยากรณ์แย่ๆ อาจทำให้บางคนหงุดหงิดมากๆ ได้ การอ่านข้อความก่อนกดส่งจึงเป็นสิ่งที่ควรทำเสมอ
- อย่าพิมพ์แต่เรื่องตัวเอง ถามไถ่เรื่องราวของอีกฝ่ายด้วย และเชื่อมโยงมันกับสิ่งที่เคยเกิด จะเกิด หรือกำลังเกิดขึ้นกับคุณ
- ทำให้เธอเป็นฝ่ายไล่ตามคุณด้วยการที่คุณเป็นฝ่ายจบบทสนทนาเสียเอง และทิ้งให้เธออยากคุยต่อ คุณยังสามารถใช้วิธีนี้อีกเวลาคุยกันครั้งหน้า
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
โค้ชด้านการเดท
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย John Keegan. จอห์น คีแกนเป็นโค้ชด้านดารเดทและเป็นนักพูดสร้างแรงบันดาลใจในนิวยอร์ก เขาเปิด The Awakened Lifestyle ซึ่งเขาใช้ความเชี่ยวชาญด้านการเดท การทำตัวให้มีเสน่ห์ และแรงขับเคลื่อนทางโซเชียลมาช่วยผู้คนได้พบรัก เขาสอนและเปิดเวิร์คช็อปด้านการเดทไปทั่วโลก ตั้งแต่ลอสแองเจลิสไปลอนดอน และจากริโอเดอจาเนโรไปถึงปราก งานของเขาถูกเอ่ยถึงใน New York Times, Humans of New York, และ Men's Health บทความนี้ถูกเข้าชม 186,553 ครั้ง
หมวดหมู่: ความรัก
มีการเข้าถึงหน้านี้ 186,553 ครั้ง
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.
โฆษณา
