วิธีการ คุณควรคุยกันนานแค่ไหนก่อนตกลงเป็นแฟน

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

กำลังสงสัยอยู่ใช่ไหมว่าต้องคุยกันนานแค่ไหนถึงจะตกลงเป็นแฟนกันได้ คุณอาจจะไปเดตกับใครสักคนมา 4-5 ครั้งและกำลังสงสัยว่ามันจะ “เร็วไปไหม” ถ้าจะตกลงเป็นแฟนกันเลย โชคดีที่การหาคำตอบว่าคุณพร้อมตกลงปลงใจหรือยังนั้นไม่ใช่เรื่องยาก และมีข้อมูลมากมายที่ช่วยให้คุณรู้ว่าโดยทั่วไปเขาใช้เวลากันนานแค่ไหนถึงจะเปลี่ยนสถานะจากคนคุยมาเป็นแฟน ในบทความนี้เราจะมาไขข้อข้องใจว่า ทำอย่างไรจึงจะเปลี่ยนจากการออกเดตไปเป็นความสัมพันธ์ที่จริงจังได้

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ควรคุยกันนานแค่ไหนถึงจะตกลงเป็นแฟนกัน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ขึ้นอยู่กับว่าคุณเจอกันบ่อยแค่ไหนและความสัมพันธ์แน่นแฟ้นแค่ไหน....
    ขึ้นอยู่กับว่าคุณเจอกันบ่อยแค่ไหนและความสัมพันธ์แน่นแฟ้นแค่ไหน. เรื่องนี้ไม่มีกฎ “ตายตัว” ถ้าคุณกับเขาไปเดตกันสัปดาห์ละครั้ง คุณก็จะได้รู้จักเขาอย่างใกล้ชิดเร็วกว่าการเดตกันแค่เดือนละครั้ง และถ้าคุณเจอเขาวันเว้นวันหรือประมาณนั้น สัปดาห์เดียวคุณก็อาจจะพร้อมเป็นแฟนกับเขาแล้วก็ได้! หรือถ้าคุณแค่ใช้เวลาร่วมกันบางครั้งบางคราว ก็อาจต้องใช้เวลาสัก 2-3 เดือน[1]
    • ไม่ต้องกังวลเรื่องกรอบเวลาว่าจะต้องคุยกันนานแค่ไหนถึงจะตกลงปลงใจเป็นแฟนกับคนคุยได้ ถ้าคุณชอบเขาและไม่รู้สึกอึดอัดที่จะมีแฟน ก็ลุยเลย!
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ระยะเวลา 1-3 เดือนนั้นถือว่า...
    ระยะเวลา 1-3 เดือนนั้นถือว่า “ปกติ” สำหรับคู่รักส่วนใหญ่. ถ้าคุณเดตกับเขาได้ประมาณ 1-2 สัปดาห์และสงสัยว่าคู่รักส่วนใหญ่เขาเริ่มคุยเรื่องตกลงเป็นแฟนกันตอนไหน ไม่ต้องกังวล เพราะคู่รักที่คบกันมานานส่วนใหญ่ตกลงเป็นแฟนกันหลังจากเดตกันประมาณ 2-3 เดือน[2]
    • แต่ถ้าคุณสองคนพร้อมแล้วก็ตกลงเป็นแฟนกันเร็วกว่านั้นได้ ถ้าคุณเป็นเพื่อนกันมาสักพักหรือมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งแต่ไม่ผูกมัดมาสักระยะ เท่ากับว่าคุณสองคนรู้จักกันดีพอที่จะตัดสินใจได้ในทันที ไม่ต้องฝืนตัวเองว่าต้องเดตกันไปเรื่อยๆ ก่อนถ้าคุณสองคนพร้อมจะคบกันแล้ว
    • แต่ถ้าผ่านมานานกว่า 4-6 เดือน นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือน ถ้าคุณอยากไปต่อ คุณต้องคุยกันแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น[3]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 คนส่วนใหญ่เดตกัน 5-6 ครั้งก่อนเป็นแฟน.
    แต่ละคู่ไม่เหมือนกัน ถ้าคุณไปเดตกับเขามาแล้ว 3-4 ครั้งและกังวลว่ายังไม่ได้เป็นแฟนกันสักที ไม่ต้องห่วง คู่รักส่วนใหญ่เดตกัน 5-6 ครั้งก่อนเริ่มคุยเรื่องคบกัน และบางคู่อาจใช้เวลานานกว่านั้น อย่าเพิ่งกระต่ายตื่นตูมถ้าคุณเพิ่งเดตกันไม่กี่ครั้ง[4]
    • ข้อนี้สอดคล้องกับกรอบเวลา 1-3 เดือนสำหรับคนส่วนใหญ่ ถ้าเดตสุดสัปดาห์ละครั้งก็เร็วหน่อย แต่ถ้า 2-3 สัปดาห์ไปเดตกันทีหรือราวๆ นั้นก็จะช้าหน่อย
    • หลังจากเดตกันแล้ว 6 ครั้ง คุณควรเริ่มคุยกับตัวเองแล้วว่าคุณกับเขาจะไปกันต่อได้หรือเปล่า ถ้าคุณยังตอบไม่ได้ ก็เดตกันไปก่อน แต่พยายามหาคำตอบให้ได้ว่าคุณอยากคบกับคนๆ นี้หรือเปล่า
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

สัญญาณที่บอกว่าคุณพร้อมเป็นแฟนกับเขาแล้ว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 คุณพูดคุยเรื่องอนาคตร่วมกันโดยไม่ตั้งใจ.
    ข้อนี้เป็นสัญญาณที่บอกว่าอย่างน้อยคุณทั้งคู่ก็เริ่มคิดว่าความสัมพันธ์นี้จะไปยังไงต่อ ซึ่งเป็นสัญญาณที่บอกว่าคุณพร้อมเป็นแฟนกันแล้วอย่างชัดเจน เพราะถ้าเป็นแค่คู่รักชั่วครั้งชั่วคราว คุณสองคนจะไม่มีทางพูดถึงแผนการในอนาคต ความหวัง หรือความฝันที่มีอีกคนอยู่ในนั้นด้วยแน่นอน[5]
    • แผนการในอนาคตที่ว่านี้อาจจะเป็นคำพูดทำนองว่า “หน้าร้อนปีหน้าเราไปเที่ยวทะเลกันมั้ย” หรือ “สองสามเดือนหน้าไปขับรถเที่ยวกันมั้ย”
  2. How.com.vn ไท: Step 2 คุณไปเจอเพื่อนของกันและกันแล้ว.
    ถ้าคุณเข้าไปอยู่ในวงสังคมของกันและกันแล้ว นั่นเป็นสัญญาณชัดเจนที่บ่งบอกว่าคุณสองคนพร้อมจะเป็นแฟนกัน เพราะคนที่เดตกันแบบไม่คิดอะไรจะไม่พาคู่นอนไปเจอเพื่อน และการที่คุณสบายใจที่จะพาเขาไปเจอเพื่อนนั้นก็เป็นสิ่งที่สำคัญ[6]
    • ถ้าเพื่อนๆ ปลื้มเขามาก นั่นก็เป็นสัญญาณที่ดี แต่ถ้าเพื่อนคิดว่าคุณพลาดแล้ว พวกเขาก็อาจจะบอกให้คุณรู้เช่นกัน
  3. How.com.vn ไท: Step 3 คุณใช้เวลาร่วมกันอย่างใกล้ชิดและมีความหมาย....
    คุณใช้เวลาร่วมกันอย่างใกล้ชิดและมีความหมาย. บทสนทนากับคู่นอนชั่วครั้งชั่วคราวมักจะเป็นเรื่องผิวเผิน แต่ถ้าคุณสองคนคุยกันถึงค่านิยมที่ลึกลงไป ความทรงจำที่เจ็บปวด หรือความเชื่อที่สำคัญ นั่นเป็นสัญญาณว่าคุณสองคนสร้างความผูกพันทางใจที่แน่นแฟ้นไว้ด้วยกันแล้ว ถ้าคุณต้องการความสัมพันธ์ที่เข้ามาเติมเต็ม นี่คือสัญญาณที่บอกว่าคุณมาถูกทางแล้ว[7]
    • คุณอาจจะเคยคุยกับเขาจนเลยเวลานอน หรือคุยกันเพลินจนลืมเวลา
  4. How.com.vn ไท: Step 4 คุณสองคนมีความพร้อมด้านจิตใจ.
    ถ้าไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ยังลืมคนเก่าไม่ได้ ไม่มีใครคบคนอื่นจริงจัง และไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่กำลังรับมือกับความบอบช้ำทางจิตใจ คุณทั้งคู่ก็พร้อมที่จะคบกันแล้ว แต่ถ้ามีปัญหาอะไรที่คุณสองคนต้องจัดการให้เรียบร้อยก่อน คุณก็ควรรอจนกว่าแผลนั้นจะหายแล้วค่อยเริ่มต้นความสัมพันธ์ใหม่[8]
    • การเริ่มต้นความสัมพันธ์ทั้งที่คุณ (หรืออีกฝ่าย) ยังจิตใจไม่แข็งแรงดีนั้นอาจสร้างปัญหาตั้งแต่เนิ่นๆ อย่ารีบร้อนถ้าคุณยังไม่พร้อม
  5. How.com.vn ไท: Step 5 คุณนึกภาพตัวเองอยู่กับคนอื่นไม่ออก.
    ปัจจัยที่สำคัญที่สุดในที่นี้คือความรู้สึกของคุณ ถ้าคุณมีความสุขที่ได้ใช้เวลาร่วมกับคนที่คุณคุยอยู่ คุณอยากเป็นแฟนกับเขา และคุณเห็นภาพอนาคตของคุณสองคนร่วมกัน คุณก็เป็นแฟนกันตอนนี้ได้เลย[9]
    • ถ้าคุณรู้สึกว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะตกลงปลงใจก็ไม่เป็นไร และไม่ต้องรู้สึกแย่ด้วย แม้ว่าอีกฝ่ายจะอยากเป็นแฟนกับคุณ แต่คุณก็ควรจะแน่ใจว่าตัวเองพร้อม 100% ก่อน
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

คุยกัน “เป็นเรื่องเป็นราว”

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 คุยกันต่อหน้าตอนที่คุณสองคนกำลังมีความสุขและมีสติ....
    คุยกันต่อหน้าตอนที่คุณสองคนกำลังมีความสุขและมีสติ. การคุยกันทางโทรศัพท์หรือผ่านข้อความอาจเป็นเรื่องยากเพราะคุณไม่สามารถตีความภาษาท่าทางของอีกฝ่ายได้ เพราะฉะนั้นให้เลือกคุยกันตอนที่คุณสองคนอยู่ในสถานที่ที่เป็นใจ[10]
    • คุณอาจจะคุยกันหลังจากไปเดตกันอย่างมีความสุข หรือตอนที่คุณสองคนนั่งเล่นและกอดกันบนโซฟา
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ถามเขาว่าคุณขอคุยเรื่องตกลงเป็นแฟนกันได้ไหม....
    ถามเขาว่าคุณขอคุยเรื่องตกลงเป็นแฟนกันได้ไหม. หายใจลึกๆ และถามเขาว่าขอคุยด้วยได้ไหม จากนั้นถามว่าขอคุยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคุณสองคนได้หรือเปล่า ไม่ต้องกังวล คุณรู้อยู่แล้วว่าเขาชอบคุณ เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรต้องกังวลเลย
    • คุณอาจจะบอกว่า “ฉันขอคุยเรื่องความสัมพันธ์ของเราหน่อยได้มั้ย ไม่ใช่ข่าวร้ายแน่นอนฉันสัญญา! ฉันแค่อยากรู้ว่าคุณมองว่าความสัมพันธ์ของเราจะไปทางไหน และคุณอยากคบกันจริงจังหรือเปล่า”
    • หรือคุณอาจจะพูดออกไปเลยตรงๆ ว่า “ขอโทษนะที่ต้องพูดตรงหน่อย แต่คุณอยากเป็นแฟนกับฉันมั้ย”
    • ถ้าคุณไม่อยากคุยกับเขาเรื่องนี้ นั่นอาจเป็นสัญญาณที่บอกว่าคุณยังไม่พร้อมจะพัฒนาความสัมพันธ์
  3. How.com.vn ไท: Step 3 นิยามความสัมพันธ์หากเขาตกลงเป็นแฟนกับคุณ.
    ถ้าเขาชอบคุณ คุณชอบเขา และเขาอยากคบกับคุณคนเดียว นิยามความสัมพันธ์เพื่อให้แน่ใจว่าคุณสองคนเข้าใจตรงกัน วิธีนี้จะทำให้คุณไม่สับสนว่าตกลงเราเป็นอะไรกัน หลายคนไม่ทำข้อนี้ แต่การคุยกันให้เข้าใจนั้นสำคัญมาก[11]
    • คุณอาจจะพูดว่า “ก็คือคุณตกลงเป็นแฟนกับผมแล้วใช่มั้ย” หรือ “ต่อไปนี้ผมคือแฟนของคุณใช่มั้ย เราตกลงกันแล้วใช่มั้ย”
    • คุณต้องอธิบายให้ชัดเจนว่า สำหรับคุณ “ความสัมพันธ์” ในที่นี้หมายถึงอะไร คุณอาจจะถามว่า “ผมไม่ได้อยากเดตกับคนอื่นแล้ว คุณรู้สึกเหมือนกันหรือเปล่า ผมแค่อยากแน่ใจว่าเราเข้าใจตรงกันว่าเราจะไม่ไปคุยกับคนอื่น”
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ถ้าเขาคัดค้าน คุณอาจจะตัดความสัมพันธ์หรือแค่เดตกันไปก่อน....
    ถ้าเขาคัดค้าน คุณอาจจะตัดความสัมพันธ์หรือแค่เดตกันไปก่อน. ถ้าคุยกัน “เป็นเรื่องเป็นราว” แล้วไม่ได้เป็นไปในแบบที่คุณอยากให้เป็น หายใจลึกๆ ถ้าคุณสบายใจที่จะเดตกันต่อและให้พื้นที่ความสัมพันธ์ได้พักหายใจ ก็บอกเขา แต่ถ้าคุณพร้อมที่จะผูกมัดและความสัมพันธ์ก็มาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว ก็ให้บอกเขาเช่นกัน ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจอย่างไร การตัดสินใจของคุณสมเหตุสมผลเสมอ[12]
    • ถ้าคุณไม่มีปัญหากับการเดตกันไปก่อน และไม่มีปัญหากับการรอให้เขาไปถึงจุดที่คุณอยู่ในตอนนี้ คุณก็อาจจะบอกเขาว่า “ไม่เป็นไร ผมเข้าใจ เราคุยๆ กันไปก่อนก็ได้ถ้าคุณไม่มีปัญหา”
    • แต่ถ้าคุณพร้อมจะคบกันจริงจังและพัฒนาความสัมพันธ์ คุณอาจจะบอกเขาว่า “ผมเข้าใจว่าคุณรู้สึกยังไง แต่ผมคิดว่าความต้องการของเราคงจะไม่เหมือนกัน”
    • หรือคุณจะพูดแค่ว่า “ผมขอคิดดูก่อน ผมไม่ได้โกรธหรืออะไรนะ แต่ขอเวลาผมทำความเข้าใจความรู้สึกของตัวเองก่อน” ก็ได้
    โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Candice Mostisser
ร่วมเขียน โดย:
โค้ชด้านการเดท
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Candice Mostisser. แคนดิซ มอสทิซเซอร์เป็นโค้ชด้านการเดทที่ NYC Wingwoman LLC ในนิวยอร์ก 'NYC Wingwoman' ให้บริการจับคู่ โค้ชตัวต่อตัวและออกแคมป์เดทวันหยุด เธอเชี่ยวชาญในการฝึกคนให้หาวิธีประสบความสำเร็จในเดทแรกและการเดทออนไลน์ บทความนี้ถูกเข้าชม 41,843 ครั้ง
หมวดหมู่: ความรัก
มีการเข้าถึงหน้านี้ 41,843 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา