วิธีการ เช็คว่าเนื้อบดเสียหรือเปล่า

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

เนื้อบดเป็นวัตถุดิบที่นำไปประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นเบอร์เกอร์ กระเพราเนื้อสับ ซอสสปาเกตตี และอื่นๆ อีกมากมาย ถ้าคุณมีเนื้อบดอยู่ในตู้เย็นและไม่แน่ใจว่ามันยังใช้ได้อยู่หรือเปล่า ก็มีวิธีง่ายๆ ที่ทำให้คุณรู้ว่าเนื้อบดเสียแล้วหรือยัง และอย่าลืมว่าต้องไม่นำเนื้อบดที่เสียแล้วไปทำอาหารเด็ดขาด!

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

ตรวจสอบเนื้อบด

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ดูว่าเนื้อบดกลายเป็นสีน้ำตาลหม่นหรือสีเทาแล้วหรือยัง....
    ดูว่าเนื้อบดกลายเป็นสีน้ำตาลหม่นหรือสีเทาแล้วหรือยัง. เนื้อบดที่ยังสดอยู่จะเป็นสีแดงสด แต่ก็อาจจะมีจุดที่เป็นสีน้ำตาลอยู่ตรงกลางเล็กน้อยเนื่องจากว่าเนื้อบดนั้นมาจากเนื้อวัวหลายๆ ส่วน ยิ่งเก็บไว้นานเนื้อบดก็จะกลายเป็นสีเทา ถ้าเนื้อบดกลายเป็นสีเทาทั้งหมดแทนที่จะเป็นสีแดงหรือสีน้ำตาล ก็ทิ้งไปเลยดีกว่า[1]
    • เนื้อบดสำเร็จรูปจะเป็นสีน้ำตาลอยู่ด้านในเนื่องจากออกซิเจนไม่สามารถเข้าไปถึงตรงกลางได้
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ดมเพื่อสังเกตว่ามีกลิ่นเปรี้ยวหรือเปล่า.
    เนื้อบดที่สดจะมีกลิ่นเล็กน้อย แต่ถ้าเนื้อบดที่เริ่มเสียจะมีกลิ่นเน่าหรือกลิ่นเปรี้ยว ซึ่งกลิ่นที่ว่านี้เกิดจากแก๊สที่มาจากแบคทีเรียในเนื้อ ถ้าเนื้อมีกลิ่นแรง อย่ารับประทาน[2]
    • แบคทีเรียหลายชนิดที่นำไปสู่อาการเจ็บป่วยที่เกิดจากอาหาร เช่น เชื้อซัลโมเนลลา ไม่สามารถสังเกตได้จากกลิ่นและพบได้ในเนื้อบดที่ยังสด ปรุงเนื้อให้สุกทั่วเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย แต่ถ้าคุณไม่สบายใจที่จะรับประทานเนื้อที่เก็บไว้ ก็ทิ้งไป
  3. How.com.vn ไท: Step 3 เอามือแตะเนื้อเพื่อดูว่ามันเป็นเมือกไหม.
    บีบเนื้อที่ดูในมือเพื่อตรวจสอบความเหนียวข้น เนื้อบดที่ยังสดอยู่จะแตกออกอย่างง่ายดายและแยกออกจากกันเป็นก้อนเล็กๆ แต่ถ้าเนื้อสัมผัสของเนื้อมันเหนียวหรือเป็นเมือกลื่น เป็นไปได้มากๆ ว่ามันจะเสียแล้ว[3]
    • ล้างมือทั้งก่อนและหลังสัมผัสเนื้อดิบเสมอเพื่อไม่ให้แบคทีเรียกระจายหรือปนเปื้อนพื้นผิวต่างๆ
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ตรวจสอบวันที่ควรบริโภคก่อนบนบรรจุภัณฑ์.
    เนื้อบดดิบต้องใช้ภายในวันที่ควรบริโภคเพื่อความปลอดภัย ตรวจสอบให้ดีว่าเลยกำหนดวันที่ควรบริโภคมาแล้วหรือยัง ถ้าเลยมาแล้วก็ควรทิ้งไป[4]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

เก็บเนื้อบดอย่างปลอดภัย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เก็บเนื้อบดที่ยังไม่ได้นำไปปรุงอาหารไว้ในตู้เย็นที่อุณหภูมิไม่เกิน 4 องศาเซลเซียส....
    เก็บเนื้อบดที่ยังไม่ได้นำไปปรุงอาหารไว้ในตู้เย็นที่อุณหภูมิไม่เกิน 4 องศาเซลเซียส. ถ้าคุณตั้งใจจะนำเนื้อไปทำอาหารเร็วๆ นี้ ให้เก็บไว้ในตู้เย็น เนื้อวัวที่วางไว้ที่อุณหภูมิห้องจะกลายเป็นที่หลบภัยของอาณาจักรแบคทีเรียที่เป็นอันตรายได้ภายใน 2 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นอย่าวางเนื้อทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องนานกว่า 2 ชั่วโมง หรือเกิน 1 ชั่วโมงหากอุณหภูมิห้องสูงกว่า 32 องศาเซลเซียส
    • ถ้าคุณไม่ได้จะนำเนื้อบดไปทำอาหารทันที ให้แช่ช่องฟรีซไว้
  2. How.com.vn ไท: Step 2 นำเนื้อบดไปทำอาหารภายในวันที่ควรบริโภค.
    คุณควรนำเนื้อบดไปทำอาหารภายในวันที่ควรบริโภคแม้ว่าจะคุณจะเก็บไว้ในตู้เย็นตลอดเวลาก็ตาม คุณควรนำเนื้อบดไปทำอาหารทันทีหลังจากที่ซื้อมา จะได้ไม่เสียของเปล่าๆ[5]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 เก็บเนื้อดิบไว้ในช่องฟรีซได้นานสูงสุด 4 เดือน....
    เก็บเนื้อดิบไว้ในช่องฟรีซได้นานสูงสุด 4 เดือน. เก็บเนื้อบดไว้ในถุงพลาสติกที่ใช้กับช่องฟรีซได้และเขียนวันที่ควรบริโภคที่ระบุบนบรรจุภัณฑ์เอาไว้ รีดอากาศออกจากถุงก่อนซีลเพื่อประหยัดพื้นที่ในช่องฟรีซ[6]
    • หลังจากเก็บไว้นาน 2-3 เดือนคุณอาจจะเริ่มสังเกตเห็นจุดน้ำแข็งขาวๆ บนเนื้อบด ซึ่งถ้ามีไม่เยอะก็สามารถตัดออกได้ แต่ถ้ามีเยอะก็ให้ทิ้งไป
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ละลายเนื้อบดในตู้เย็นหรือในอ่างล้างน้ำที่เติมน้ำเย็นลงไป....
    ละลายเนื้อบดในตู้เย็นหรือในอ่างล้างน้ำที่เติมน้ำเย็นลงไป. ย้ายเนื้อบดแช่แข็งไปไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดา 1-2 วันก่อนนำไปทำอาหารเพื่อให้เนื้อบดมีเวลาละลายทั้งหมด ถ้าคุณอยากละลายเนื้อบดในอ่างล้างจาน ให้เติมน้ำเย็นลงในอ่างล้างจานและแช่เนื้อบดลงไป เปลี่ยนน้ำทุก 30 นาทีจนกว่าเนื้อบดจะละลายทั้งหมด[7]
    • เนื้อบดที่ละลายด้วยน้ำจะต้องนำไปทำอาหารทันที
    • อย่านำเนื้อมาละลายที่อุณหภูมิห้องเด็ดขาด
    • คุณสามารถนำเนื้อบดไปละลายในไมโครเวฟได้ แต่ต้องนำไปทำอาหารทันทีหลังจากละลายเสร็จเพื่อไม่ให้เกิดการปนเปื้อน
  5. How.com.vn ไท: Step 5 นำเนื้อบดไปปรุงสุกจนได้อุณหภูมิ 71 องศาเซลเซียสก่อนนำไปเก็บหรือรับประทาน....
    นำเนื้อบดไปปรุงสุกจนได้อุณหภูมิ 71 องศาเซลเซียสก่อนนำไปเก็บหรือรับประทาน. วิธีเดียวที่จะฆ่าเชื้อแบคทีเรียธรรมชาติที่มากับเนื้อบดได้ก็คือการปรุงสุกให้ทั่ว ใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิเนื้อเพื่อตรวจสอบอุณหภูมิภายในของเนื้อระหว่างประกอบอาหาร[8]
  6. How.com.vn ไท: Step 6 เก็บเนื้อบดที่ปรุงสุกแล้วในตู้เย็นหรือช่องฟรีซ....
    เก็บเนื้อบดที่ปรุงสุกแล้วในตู้เย็นหรือช่องฟรีซ. เนื้อบดที่ปรุงสุกแล้วสามารถนำไปเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานถึง 7 วันก่อนที่มันจะเริ่มเสีย และยังสามารถเก็บไว้ในช่องฟรีซได้นานสูงสุด 8 เดือน แต่อย่าลืมเก็บไว้ในภาชนะสุญญากาศนะ!
    โฆษณา

คำเตือน

  • เก็บอาหารเย็นไว้ที่อุณหภูมิต่ำว่า 4 องศาเซลเซียส และอาหารร้อนไว้ที่อุณหภูมิสูงกว่า 60 องศาเซลเซียส ช่วงอุณหภูมินอกเหนือจากนี้ถือเป็น “เขตอันตราย” และจะเริ่มเกิดแบคทีเรีย
  • ล้างมือหลังจากสัมผัสเนื้อดิบเพื่อป้องกันการปนเปื้อนไปยังพื้นผิวอื่นๆ
  • เนื้อบดต้องปรุงสุกจนอุณหภูมิภายในถึง 71 องศาเซลเซียสเสมอ
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: ทีมงานวิกิฮาว
ร่วมเขียน โดย:
นักเขียนในทีมวิกิฮาว
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา

ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 26,483 ครั้ง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 26,483 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา