วิธีการ เขียนจดหมายหาครูของลูก

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

พ่อแม่ส่วนใหญ่ต้องติดต่อกับครูของลูกไม่ช่วงใดก็ช่วงหนึ่งในระหว่างปีการศึกษา มีเหตุผลร้อยแปดที่ทำให้คุณจำเป็นต้องเขียนจดหมายหาครู ตั้งแต่การแนะนำลูกให้ครูรู้จักไปจนถึงลาป่วยหรือลากิจ และแม้กระทั่งพูดถึงประเด็นปัญหาต่างๆ[1] ครูส่วนใหญ่ใช้อีเมล ซึ่งทำให้การโต้ตอบง่ายขึ้นและเร็วขึ้น แต่คุณก็สามารถเขียนโน้ตหรือจดหมายแบบสมัยก่อนได้เช่นกัน การเขียนอีเมลหรือจดหมายที่ผ่านการคิดอย่างถี่ถ้วนจะทำให้เส้นทางของการสื่อสารกับครูของลูกเปิดกว้างและชัดเจน

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

ส่งอีเมลหาครูของลูก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 รู้ว่าจะต้องเขียนเมื่อไหร่.
    มีเหตุผลต่างๆ มากมายที่คุณอยากจะติดต่อกับครูของลูก อาจจะเป็นเรื่องธรรมดาๆ อย่างการแนะนำตัวไปจนถึงการพูดถึงประเด็นที่สำคัญกว่านั้น หัวข้อต่อไปนี้เป็นหัวข้อที่คุณอาจจะต้องได้เขียนถึงครู :
    • แนะนำตัวเองหลังจากที่คุณย้ายมาหรือลูกของคุณเพิ่งเข้าโรงเรียนใหม่
    • ถกปัญหา
    • ถามคำถามเกี่ยวกับการบ้านของลูกหรือความสามารถด้านการเรียนของลูก
    • ขอนัดหมายพบปะ
    • แจ้งให้ครูทราบเกี่ยวกับเงื่อนไขพิเศษ เช่น ความพิการหรือปัญหาครอบครัว
    • ขอลาป่วยหรือลากิจให้ลูก[2]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 รวบรวมข้อมูลสำคัญ.
    รวบรวมข้อมูลที่คุณจำเป็นต้องใช้ในการเขียนอีเมลที่ละเอียดและเป็นการเป็นงานถึงครู[3] การเขียนข้อมูลที่สำคัญลงไปในอีเมลช่วยป้องกันการโต้ตอบอย่างยืดยาวและยังแสดงให้เห็นว่าคุณให้เกียรติครูและตระหนักถึงประเด็นที่กล่าวถึงอย่างจริงจัง[4]
    • ถามลูกว่าครูชื่ออะไรหรือหาชื่อครูจากเว็บไซต์ของโรงเรียน
    • เตรียมสำเนาเอกสารเพิ่มเติมให้พร้อม เช่น ถ้าลูกของคุณมีความพิการ คุณก็อาจจะต้องเตรียมสำเนาการวินิจฉัยของแพทย์และเอกสารการจัดกลุ่มตามระดับความสามารถทางการศึกษาไว้ด้วย[5]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ร่างอีเมลฉบับแรก.
    ใช้ข้อมูลที่คุณรวบรวมมาเขียนร่างอีเมลหาครูของลูก การเขียนร่างอีเมลจะทำให้คุณมีเวลาเขียนเกี่ยวกับทุกปัญหาอย่างครบถ้วน นึกถึงสิ่งที่คุณเขียนลงไป และแก้ไข[6]
    • อย่าเพิ่งเขียนที่อยู่อีเมลในช่อง “ถึง” เพื่อที่คุณจะได้ไม่บังเอิญส่งร่างฉบับแรก
    • เขียนร่างอีเมลให้กระชับและสั้นที่สุดเท่าที่ทำได้[7]
    • รักษาน้ำเสียงของการเขียนให้เป็นกันเอง สุภาพ และเป็นการเป็นงาน[8]
    • แนะนำตัวเองสั้นๆ ด้วยชื่อของคุณและชื่อลูก และระบุเหตุผลที่คุณเขียนหาครู เช่น เขียนว่า “เรียน ครูเมษา ดิฉันชื่อธีระนันท์ ใจดี เป็นแม่ของศศินา ใจดีนะคะ ดิฉันเขียนหาครูเนื่องจากลูกของดิฉันมีปัญหาในการเรียนวิชาคณิตค่ะ”
    • พยายามเขียนเนื้อความในอีเมลให้อยู่ระหว่าง 1 – 3 ย่อหน้า กล่าวถึงประเด็นหรือปัญหาที่คุณต้องการ คุณอาจจะถามครูด้วยว่าคุณจะสามารถแบ่งเบาภาระของครูและช่วยลูกได้อย่างไรในลักษณะของการถามเพื่อขอคำแนะนำ
    • ลงท้ายอีเมลด้วยการขอบคุณครูสำหรับความเข้าใจและแจ้งข้อมูลการติดต่อของคุณเผื่อไว้สำหรับการคุยกันในครั้งหน้า เช่น “ขอบคุณครูมากนะคะที่เข้าใจปัญหาของศศินา ครูสามารถติดต่อดิฉันได้ที่อีเมลหรือเบอร์ 095-555-5555 ได้ตลอดเวลาเลยนะคะ ดิฉันยินดีที่จะร่วมมือกับครูในการแก้ปัญหาของศศินานะคะ”
  4. How.com.vn ไท: Step 4 รักษาน้ำเสียงให้ดูดี.
    เวลาที่คุณเขียนร่างอีเมล ให้พยายามรักษาภาษาให้ฟังดูดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะคุณอาจจะไม่พอใจได้ง่ายเมื่อเป็นเรื่องของลูกคุณ การตั้งใจรักษาน้ำเสียงในอีเมลให้ดูดีจะเป็นสร้างบทสนทนากับครูที่เปิดกว้างและมีประโยชน์อย่างแท้จริง
    • อย่าใช้ภาษากล่าวโทษกับครู
    • ใช้คำกริยา เช่น เข้าใจ ร่วมมือ และพูดคุย
    • ใช้คำวิเศษณ์ เช่น เชิงบวกและเชิงรุก
    • นำคำเหล่านี้มารวมเป็นวลี เช่น “ดิฉันเข้าใจจากศศินาว่าเธอมีปัญหาเวลาเรียนวิชาคณิต เธอกับดิฉันจึงอยากแก้ไขปัญหาในเชิงรุก และพวกเราก็อยากทราบว่าพวกเราจะสามารถร่วมมือกับครูในการช่วยให้ศศินาเรียนวิชานี้ดีขึ้นได้อย่างไรค่ะ”
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ซื่อสัตย์.
    เด็กๆ มักจะพูดไม่คิด เพราะฉะนั้นการโกหกในจดหมายจึงอาจถูกเปิดโปงได้ง่ายจากการเผลอหลุดปากของเด็ก ซื่อสัตย์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในจดหมายโดยที่ยังคงรักษาน้ำเสียงที่เป็นการเป็นงานเอาไว้ด้วย
    • พูดตรงไปตรงมา เช่น “ดิฉันต้องไปดูงานที่พิพิธภัณฑ์ จึงอยากจะพาลูกไปด้วยเพื่อเสริมประสบการณ์การเรียนรู้นอกหลักสูตร ไม่ทราบว่าครูจะแจ้งเขาและดิฉันให้ทราบได้ไหมคะว่า ก่อนกลับไปเรียนในวันศุกร์เขาจะต้องทำการบ้านอะไรให้เสร็จบ้าง”
  6. How.com.vn ไท: Step 6 คิดทบทวนและแก้ไขอีเมล.
    หลังจากที่คุณได้ร่างอีเมลฉบับแรกสุดแล้ว ให้เวลาตัวเองค่อยๆ คิดทบทวนเนื้อหาและน้ำเสียงอีกครั้ง จากนั้นแก้ไขตามที่จำเป็น วิธีนี้ไม่เพียงแต่ให้โอกาสคุณได้เพิ่มหรือลบข้อความเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณเห็นความผิดพลาดเรื่องการสะกด วรรคตอน และหลักภาษาอีกด้วย[9]
    • ตรวจทานเพื่อให้แน่ใจว่าอีเมลฉบับที่แก้ไขแล้วนั้นมีส่วนนำ เนื้อหา และการลงท้ายอีเมลที่ซื่อสัตย์ เป็นเชิงบวกและเป็นเชิงรุกมากที่สุดเท่าที่ทำได้
    • อ่านออกเสียงอีเมลให้ตัวเองฟัง ซึ่งจะช่วยให้คุณเห็นข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้หรือวลีที่อาจฟังดูเป็นการกล่าวโทษหรือเป็นเชิงลบ[10]
    • ลองขอให้เพื่อน สามี/ภรรยา หรือผู้ที่ทำงานด้านการศึกษาอ่านอีเมลนี้ คนๆ นี้สามารถให้คำแนะนำที่ทำให้อีเมลฉบับนี้ชัดเจนหรือฟังดูดีมากขึ้นได้[11]
  7. How.com.vn ไท: Step 7 เขียนคำขึ้นต้นและคำลงท้ายที่สุภาพ.
    หลังจากที่คุณแก้ไขร่างอีเมลแล้ว ให้เขียนคำขึ้นต้นและคำลงท้ายที่สุภาพและเป็นทางการ ซึ่งจะช่วยให้ครูเต็มใจที่จะรับฟังสิ่งที่อยู่ในอีเมลมากขึ้นและตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เต็มใจให้ความช่วยเหลือ
    • เขียนคำขึ้นต้นตามที่ลูกเรียกครู เช่น “เรียน ครูเมษา”
    • อย่าใช้ชื่อเล่นของครูยกเว้นว่าคุณจะคุ้นเคยกับครูคนนี้เป็นอย่างดี และเธอก็เสนอให้คุณเรียกเธอด้วยชื่อเล่น
    • ลงท้ายด้วย “จึงเรียนมาเพื่อทราบ” นอกจากนี้คุณอาจจะเขียนด้วยว่า “ดิฉันจะรอครูติดต่อกลับมาค่ะ” ตามด้วยจึงเรียนมาเพื่อทราบและโปรดพิจารณา เพื่อให้ครูรู้ว่าคุณอยากให้เธอตอบกลับ
    • เขียนชื่อและข้อมูลติดต่อของคุณให้ครูทราบด้วย
  8. How.com.vn ไท: Step 8 แนบเอกสารที่เกี่ยวข้อง.
    แนบเอกสารที่อธิบายถึงปัญหาตามสิ่งที่อยู่ในอีเมล วิธีนี้จะทำให้ครูมีเอกสารอ้างอิงถึงกรณีของลูกและเข้าใจปัญหามากขึ้น
    • คุณต้องแน่ใจว่าไฟล์เอกสารอยู่ในรูปแบบที่เปิดได้ง่าย
  9. How.com.vn ไท: Step 9 ใส่ที่อยู่อีเมล.
    คุณต้องใส่ที่อยู่อีเมลของครูก่อนจึงจะส่งอีเมลได้ เข้าไปที่เว็บไซต์ของโรงเรียนเพื่อให้แน่ใจว่าคุณสะกดที่อยู่อีเมลของครูถูกต้องตามรูปแบบ
    • ส่งสำเนาถึงฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น สามี/ภรรยา หรือครูอีกท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้
    • ส่งสำเนาลับถึงตัวเองเพื่อให้มีอีเมลติดไว้อีกฉบับหนึ่ง และดูให้ดีว่าส่งอีเมลเรียบร้อยทุกขั้นตอน
  10. How.com.vn ไท: Step 10 อ่านทวนร่างสุดท้าย.
    อ่านอีเมลร่างสุดท้ายอีกครั้งก่อนส่ง วิธีนี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการที่คุณจะลืมเขียนข้อมูลบางอย่างลงไปหรือให้ข้อมูลผิดพลาด
  11. How.com.vn ไท: Step 11 ให้เวลาครูตอบ.
    ครูอาจจะยุ่งและมักจะไม่มีเวลาตอบคำถามในทันทีหรืออาจจะพิจารณาจดหมายของคุณก่อน ให้เวลาครูในการตอบจดหมายสักพักก่อนจะท้วงไป[12]
    • ระบุเวลาหากคุณต้องการคำตอบภายในเวลาที่จำกัด[13]
    • ท้วงไปทางอีเมลหรือจดหมายหากคุณไม่ได้รับคำตอบจากครูภายใน 1 สัปดาห์
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

ส่งจดหมายเขียนด้วยลายมือหาครู

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 พิจารณาว่าควรเขียนจดหมายหาครูเมื่อไหร่.
    จดหมายที่เขียนด้วยลายมือจะเป็นรูปแบบการโต้ตอบที่เป็นกันเองกว่าอีเมล ในบางสถานการณ์คุณอาจจะอยากส่งจดหมายที่เขียนด้วยลายมือหาครูมากกว่า ซึ่งได้แก่กรณีของ :
    • จดหมายขอบคุณ
    • การแนะนำตัวสั้นๆ
    • จดหมายลากิจหรือลาป่วย[14]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 เขียนให้เป็นระเบียบมากที่สุด.
    จดหมายที่คุณเขียนถึงครูจะต้องอ่านง่าย เพราะฉะนั้นลายมือของคุณจะต้องเป็นระเบียบเวลาที่คุณเขียนจดหมาย
    • ถ้าคุณลายมือไม่สวยให้เขียนช้าๆ วิธีนี้อาจจะทำให้คุณเขียนจดหมายด้วยลายมือที่อ่านง่ายและชัดเจนมากยิ่งขึ้น
    • อย่าใช้ดินสอหรือปากกาที่เลอะง่าย ปากกาลูกลื่นน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
    • คุณอาจจะพิมพ์ฉบับร่างขึ้นมาก่อนแล้วค่อยลอกร่างนั้นลงจดหมายด้วยลายมือ วิธีนี้อาจช่วยให้คุณคิดได้อย่างละเอียดมากขึ้นว่าคุณอยากจะเขียนอะไรลงไป
    • หรือคุณจะพิมพ์จดหมายออกมาจากคอมพิวเตอร์และเซ็นลายมือชื่อลงไปก็ได้
  3. How.com.vn ไท: Step 3 เขียนจดหมาย.
    ถ้าคุณอยากเขียนจดหมายหาครูด้วยลายมือมากกว่า คุณสามารถทำตามขั้นตอนการเขียนอีเมลได้เลย แต่ถ้าสถานการณ์นั้นจริงจังน้อยกว่า เช่น เป็นจดหมายขอบคุณ คุณก็อาจจะไม่ต้องเขียนจดหมายหลายๆ ร่างก็ได้
    • ใช้เครื่องเขียนส่วนตัวถ้ามี ถ้าไม่มีให้ใช้กระดาษธรรมดาสะอาดๆ และไม่ยับในการเขียน
    • ลงวันที่ด้านบนของกระดาษ
    • เขียนคำขึ้นต้นใต้วันที่ เช่น “เรียน ครูเมษา”
    • เขียนองค์ประกอบส่วนต่างๆ เหมือนที่เขียนอีเมล จำไว้ว่าคุณต้องเขียนจดหมายให้สั้นและกระชับมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เช่น “เรียน ครูเมษา ดิฉันธีระนันท์ ใจดี แม่ของศศินานะคะ ดิฉันอยากจะขอบคุณครูที่ช่วยเธอในวิชาคณิต ศศินามีปัญหาเวลาเรียนวิชาคณิต และดิฉันก็ขอบคุณมากที่ครูใช้เวลาหลังเลิกเรียนไปพบเธอและอธิบายปัญหาให้เธอฟังอย่างละเอียด ถ้าดิฉันสามารถช่วยครูได้ไม่ว่าเรื่องอะไร แจ้งดิฉันได้เลยนะคะ จึงเรียนมาเพื่อทราบ ธีระนันท์ ใจดี”
    • เซ็นชื่อลงท้ายจดหมาย และหากจำเป็นก็ให้พิมพ์ชื่อของคุณไว้ข้างใต้
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ตรวจทานจดหมาย.
    ก่อนที่จะส่งจดหมาย ให้ตรวจความเรียบร้อยก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีข้อผิดพลาด ไม่ได้ลืมเขียนอะไรไป ไม่มีคราบเลอะหรือส่วนที่อ่านไม่ออก
    • เขียนจดหมายใหม่ถ้าหากมีข้อผิดพลาดใหญ่ๆ
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ส่งจดหมาย.
    คุณสามารถส่งจดหมายที่เขียนจากลายมือให้ครูของลูกได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับความเป็นทางการของจดหมาย หรือถ้าหากคุณอยากให้จดหมายถึงทันวันที่ที่กำหนด คุณสามารถส่งจดหมายได้ตามวิธีต่อไปนี้ :
    • ส่งไปรษณีย์ คุณต้องเขียนชื่อครูแล้วใส่ข้อมูลของโรงเรียนไว้ใต้ชื่อ
    • ส่งกับมือ ฝากจดหมายไว้ที่ออฟฟิศของโรงเรียนเพื่อให้เจ้าหน้าที่นำจดหมายไปให้ครู
    • ฝากลูกไว้ คุณจะฝากส่งจดหมายไปกับลูกก็ได้ แต่ต้องนึกด้วยว่าเธออาจจะลืม ไม่อย่างนั้นคุณก็อาจจะหมุดจดหมายไว้ที่กระเป๋าในจุดที่ครูจะเห็น
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • เก็บสำเนาจดหมายไว้หากจดหมายเป็นเรื่องเกี่ยวกับประเด็นร้ายแรง เช่น ความพิการหรือปัญหาด้านพฤติกรรม
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: ทีมงานวิกิฮาว
ร่วมเขียน โดย:
นักเขียนในทีมวิกิฮาว
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา

ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 7,575 ครั้ง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 7,575 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา