บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้
มีการอ้างอิง 12 ข้อที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ
บทความนี้ถูกเข้าชม 42,792 ครั้ง
ผิวหน้าของคนเราไม่ได้มีแค่ "ผิวแห้ง" กับ "ผิวมัน" บางทีคุณอาจมี "ผิวผสม" ไม่รู้ตัว ประเภทของผิวหน้านั้น หลักๆ แบ่งออกเป็นผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม ผิวปกติ ผิวเป็นสิวง่าย และผิวบอบบาง (ขี้แพ้) แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าตัวเองมีสภาพผิวแบบไหน? ก่อนจะเลือกวิธีดูแลผิวและผลิตภัณฑ์ที่ใช้ ให้ผิวดีสมบูรณ์แบบ ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ก่อน เพื่อตรวจเช็คสภาพผิวหน้าของคุณ
ขั้นตอน
- ลบเครื่องสำอางออกให้หมด. ด้วย makeup remover จนไม่เหลือคราบใดๆ บนใบหน้า นอกจากเครื่องสำอางแล้วเรายังหมายถึงสิ่งสกปรกและน้ำมันบนใบหน้าด้วย [1]
- ล้างหน้าให้สะอาด. ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นก่อน แล้วตามด้วยสบู่หรือโฟมล้างหน้าไม่ต้องมาก เทียบกับฝ่ามือแล้วประมาณเหรียญ 50 สตางค์ เวลาล้างหน้าให้ใช้ปลายนิ้วนวดวนเบาๆ ให้ทั่วๆ เสร็จแล้วล้างหน้าให้สะอาดหมดจดด้วยน้ำเย็นหรือน้ำอุ่นก็ได้ จากนั้นซับหน้าให้แห้งด้วยผ้าเช็ดตัวหรือผ้าขนหนู[2]
- อย่าล้างหน้าเยอะหรือนานไป เดี๋ยวหน้าจะแห้งเปล่าๆ ทำให้คันระคายเคือง หรือกลายเป็นทำให้เพิ่มการผลิตไขมันขึ้นไปอีกได้[3]
- รอหนึ่งชั่วโมง. ระหว่างนี้อย่าเพิ่งทาครีม โลชั่น หรือยาแต้มสิว รวมถึงอย่าไปแตะต้องใบหน้าด้วย[4]โฆษณา
- ซับหน้าด้วยทิชชู่. หลังหน้าแล้วรอประมาณ 2-3 ชั่วโมง จากนั้นลองเอาทิชชู่มาซับบริเวณ T-zone หรือก็คือหน้าผากกับจมูกดู ถ้ามีน้ำมันติดมา แสดงว่าคุณผิวมันหรือผิวผสม[5]
- บริเวณ T-Zone จะรวมหน้าผากกับจมูก มันเรียกว่า T-zone เพราะตรงสันจมูกจะเป็นฐานของตัว “T” ส่วนหน้าผากเหนือคิ้วนั้นเป็นด้านบนของ “T”
- ผิวหน้าคุณรู้สึกยังไง. ถ้าคุณเป็นคนหน้าแห้ง จะรู้สึกตึงๆ ที่หน้าหลังล้างหน้าเสร็จ แต่ถ้าหน้ามัน จะรู้สึกล้างหน้าแล้วสบาย สะอาด ส่วนคนผิวผสม จะรู้สึกว่า T-zone (หน้าผากและจมูก) สะอาดสดชื่น แต่ผิวตรงแก้มกลับแห้งๆ ตึงๆ ถ้าเป็นคนผิวแพ้ง่าย พอล้างหน้าด้วยบางผลิตภัณฑ์อาจทำให้คันหน้าหรือแพ้เห่อขึ้นมาได้[6]
- ถ้าคุณเป็นคนผิวแพ้ง่าย หน้าจะคัน แดงเป็นปื้น หรือมีผื่นหลังใช้บางผลิตภัณฑ์
- ระหว่างวัน คนผิวมันจะหน้ามันขึ้นเรื่อยๆ
- แต่ถ้าคุณไม่รู้สึกตรงตามที่ว่ามาสักข้อ แสดงว่าผิวหน้าคุณปกติดี โชคดีชะมัด! เพราะแทบไม่ต้องดูแลอะไรไปมากกว่านี้เลย!
- จริงๆ แล้วคนเราเป็นสิวได้เรื่อยๆ โดยไม่เกี่ยงว่าเด็กหรือแก่ ยิ่งถ้าคนหน้ามันจะเป็นสิวได้ง่ายกว่าผิวแบบอื่นๆ
- มองหน้าตัวเองในกระจก. ถ้าผิวแห้งลอก แดงเป็นปื้นไปทั่วหน้า แสดงว่าคุณผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่าย แต่ถ้าหน้ามันย่อง ก็แสดงว่าผิวมันแน่นอน แต่ถ้าบางส่วนของหน้ามัน แต่อีกส่วนแห้ง แสดงว่าคุณมีผิวผสม[7]
- ลองจิ้มหรือหยิกแก้มเบาๆ. ถ้าเกิดริ้วรอยง่าย ไม่ค่อยคืนตัว แสดงว่าผิวแห้ง ถ้าคนผิวมันจะนุ่มเด้งกว่า
- ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง. ถ้าคุณยังบอกไม่ถูกว่าตัวเองมีผิวหน้าประเภทไหนกันแน่ ก็ไปตรวจสภาพผิวกับหมอสิวหรือคุณหมอโรคผิวหนังโดยตรงเลยจะดีที่สุด หรือสอบถามเภสัชกรเรื่องผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณโฆษณา
- คนผิวแห้งต้องหมั่นทาครีม. ให้ทาครีมแบบไม่ผสมน้ำหอมตรงบริเวณที่แห้ง และอย่าล้างหน้าเยอะเกินไป โดยล้างด้วยน้ำอุ่น อย่าใช้น้ำร้อน[10]
- คนผิวแห้งจะเป็นโรคผิวหนังง่าย ถ้ามีผื่นแพ้ให้ลองทาด้วยขี้ผึ้งยา hydrocortisone ดู
- ล้างหน้าเช้าเย็นถ้าคุณผิวมัน. ล้างหน้าด้วยสบู่หรือโฟมสูตรอ่อนโยนกับน้ำอุ่นประมาณ 30 วินาทีถึง 1 นาที ส่วนตรงที่มีริ้วรอยหรือสิว ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ benzoyl peroxide, glycolic acid หรือ salicylic acid โดยซื้อยาหลอดเล็กๆ หรือแผ่นแปะสิวมาทดลองใช้ดูก่อนว่าแพ้ไหม อันไหนดีที่สุด[11]
- อย่าลืมใช้กระดาษซับมันเป็นระยะ ให้กดแนบบริเวณที่มันประมาณ 15 วินาที เพื่อดูดซับน้ำมันส่วนเกิน หน้าจะได้กระจ่างใสขึ้น
- แต่หน้ามันก็ใช่ว่าจะไม่บำรุงผิวหน้าเลย ทาครีมบ้าง แต่เลือกครีมบำรุงแบบ oil-free แทน
- คนผิวผสมต้องหาผลิตภัณฑ์ที่สมดุล. คือล้างหน้าด้วยสบู่หรือโฟมสูตรอ่อนโยน และหลีกเลี่ยงสารเคมีแรงๆ เลือกกินอาหารที่มีกรดไขมันอย่างปลาแซลมอน เมล็ด flaxseed แล้วก็ลูกวอลนัท หรือน้ำมันปลา (fish oil) เป็นต้น แบบนี้ก็บำรุงผิวได้โดยไม่ต้องกลัวหน้ามัน[12]
- ถ้าผิวแพ้ง่ายหรือเป็นสิวง่าย ให้ใช้โฟมล้างหน้าแบบไม่มีฟอง. เลือกผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยนแบบไม่ใส่น้ำหอมหรือสารเคมีแรงๆ ผิวจะได้ไม่ระคายเคือง แล้วอย่าลืมบำรุงผิวเพื่อป้องกันไม่ให้สิวเห่อตรงบริเวณที่แห้ง ที่สำคัญคือต้องทดสอบผลิตภัณฑ์ใหม่ก่อนใช้จริงเสมอ โดยแต้มที่หลังหูหรือที่ขมับ แล้วทิ้งไว้ข้ามคืน[13]
- ดื่มน้ำเยอะๆ. ถ้าอยากผิวดีก็ต้องหมั่นดื่มน้ำ ถ้าหน้าแห้ง ผิวจะยิ่งขับ sebum (น้ำมัน) ออกมา แต่ถ้าคุณดื่มน้ำเรื่อยๆ ผิวก็สวยได้ไม่ต้องขับน้ำมันส่วนเกินโฆษณา
เคล็ดลับ
- หมั่นขัดผิว 1 - 2 ครั้งต่ออาทิตย์ เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว รูขุมขนจะได้ไม่อุดตัน แถมรูขุมขนยังดูเล็กลงด้วย
- สภาพแวดล้อมก็มีผลต่อผิวหน้า รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้ ระดับความเครียด อาหารการกิน และอื่นๆ ด้วย บางทีปัจจัยเหล่านี้ก็ทำร้ายผิวคุณ เพราะงั้นก็หมั่นดูแลตัวเองหน่อย
- เด็กที่เพิ่งเข้าสู่วัยรุ่นกับผู้หญิงวัยทอง ต่างก็มีระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงกะทันหัน อาจส่งผลต่อสภาพผิวได้เหมือนกัน
- วิธีดูแลผิวหน้าได้ดีที่สุด ก็คือกินอาหารดีๆ มีประโยชน์และรักษาสุขภาพร่างกายนั่นเอง
คำเตือน
- ห้ามล้างหน้าเยอะหรือนานเกินไปเด็ดขาด เพราะเท่ากับเป็นการกำจัดน้ำมันตามธรรมชาติ ทีนี้ผิวหน้าก็แห้งลอก ล้างหน้าแค่ 1 - 2 ครั้งต่อวันก็พอ (อย่าให้มากเกิน 3) และหมั่นทาครีมบำรุงผิวตรงบริเวณที่แห้งเป็นพิเศษ
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://sciencenetlinks.com/student-teacher-sheets/determine-your-skin-type/
- ↑ http://www.today.com/health/youre-doing-it-wrong-heres-right-way-wash-your-face-8C11462859
- ↑ https://www.aad.org/media/news-releases/saving-face-101-how-to-customize-your-skin-care-routine-with-your-skin-type
- ↑ http://www.instyle.com/how-tos/how-to-determine-skin-type
- ↑ https://www.annmariegianni.com/how-to-determine-your-skin-type/
- ↑ https://skinvision.com/en/articles/how-to-determine-your-skin-type-in-four-easy-steps
- ↑ https://skinvision.com/en/articles/how-to-determine-your-skin-type-in-four-easy-steps
- ↑ http://www.lemongrassspa.com/blog/how-to-determine-your-skin-type-and-choose-the-right-products-for-your-skin
- ↑ http://www.byrdie.com/what-is-my-skin-type/slide2
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/dry-skin/diagnosis-treatment/treatment/txc-20248908
- ↑ http://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/acne/features/oily-skin#1
- ↑ https://www.annmariegianni.com/combination-skin-what-it-is-how-to-cope-and-the-best-products-for-you/
- ↑ http://www.webmd.com/beauty/sensitive-skin-20-questions#2
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.