วิกิฮาวเป็น "wiki" ซึ่งหมายความว่าบทความหลายๆ บทความของเรานั้นเป็นการร่วมมือกันเขียนของผู้เขียนหลายคน ในการเขียนบทความชิ้นนี้ ผู้คน 21 คน ซึ่งบางคนไม่ขอเปิดเผยตัว ได้ร่วมกันเขียนและปรับปรุงเนื้อหาของบทความอย่างต่อเนื่อง
บทความนี้ถูกเข้าชม 37,350 ครั้ง
ลูกๆ ของคนทำสีผสมอาหารเปื้อนตัวเองหรือเปล่า? หรือคุณดันทำหกใส่มือตอนกำลังจะทำขนมอยู่เอง? บางครั้งมันก็อาจเกิดขึ้นได้ในวันพุธธรรมดาๆ หรือช่วงเทศกาลระบายสีไข่อีสเตอร์ และนี่คือวิธีที่จะทำให้สีสันเหล่านี้หายไปได้
ขั้นตอน
- ล้างคราบสีออกด้วยน้ำอุ่นและสบู่. ถูบริเวณที่เปื้อนให้เกิดฟอง บางทีถูสบู่แค่นี้สีก็ออกหมดแล้ว[1] ทิ้งให้ผิวเปียกไว้ก่อน อย่าเพิ่งเช็ดให้แห้ง
- ใช้ยาสีฟันสูตรที่ไม่ใช่เจล. ถ้าเป็นไปก็ให้หาแบบที่ผสมเบกกิ้งโซดาด้วย เพราะมันจะได้ผลดีกว่า[2]
- ล้างคราบสีออกด้วยยาสีฟัน. ทายาสีฟันบางๆ ลงบนคราบสี ค่อยๆ ถูเป็นวงกลม ถ้าหากว่าสีติดอยู่ที่มือ ก็ให้ถูมือไปด้วยเหมือนตอนถูสบู่นั่นแหละ แล้วยาสีฟันจะช่วยขัดคราบออกไปให้เอง
- หรือจะบีบยาสีฟันใส่ผ้าเช็ดหน้าแทนก็ได้
- ถูยาสีฟันบนผิวประมาณสองนาที[3] ถ้ายาสีฟันเริ่มแห้ง ให้หยดน้ำใส่นิดนึงแล้วถูต่อ หลังจากผ่านไปสักพัก สีผสมอาหารจะเริ่มจางลง
- ล้างยาสีฟันออกด้วยน้ำอุ่น. ถ้ารู้สึกว่าผิวเหนียวจากยาสีฟันก็ให้ล้างออกด้วยสบู่และน้ำ ตอนนี้สีผสมอาหารจะจางหายเกือบหมดแล้ว
- ทำซ้ำถ้าจำเป็น. ถ้ายังมีคราบเหลืออยู่ ให้ล้างอีกครั้งพร้อมปริมาณยาสีฟันและน้ำที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย คราบที่ฝังลึกอาจต้องล้างซ้ำๆ สักหน่อย ถ้ารู้สึกแสบผิวเมื่อไรก็ให้หยุดพักสักสองสามชั่วโมงแล้วค่อยมาทำต่อก็ได้โฆษณา
- หาแอลกอฮอล์เช็ดแผล. ถ้าไม่มี จะใช้อะซิโตนหรือน้ำยาล้างเล็บแทนก็ได้ โดยจำไว้ว่าอะซิโตนและน้ำยาล้างเล็บนั้นค่อนข้างรุนแรงและทำให้ผิวแห้งได้ ซึ่งไม่เหมาะกับเด็กเล็กหรือผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ถ้าคุณต้องการล้างสีผสมอาหารให้เล็ก ให้ใช้แอลกอฮอล์ล้างแผล น้ำยาล้างเล็บสูตรไม่ผสมอะซิโตน หรือเจลล้างมือแทน
- ถ้าสีผสมอาหารเปื้อนบนใบหน้า ให้ใช้วิธียาสีฟันแทนนะ
- ชุบแอลกอฮอล์ด้วยก้อนสำลี. ถ้ารอยเปื้อนใหญ่ ก็ให้ใช้ทิชชู่แผ่นหนาหรือผ้าเช็ดหน้าแทน ถ้าจะใช้เจลล้างมือ ก็ข้ามขั้นตอนนี้และทาลงบนรอยเปื้อนได้เลย
- ถูคราบเปื้อนด้วยก้อนสำลี. แอลกอฮอล์ล้างแผลจะช่วยละลายเม็ดสีในรอยเปื้อน เช็ดไม่กี่ครั้งสีก็จะหลุดออกแล้วล่ะ
- ทำซ้ำด้วยสำลีชุบแอลกอฮอล์ก้อนใหม่จนกว่าสีจะหลุดหมด. ห้ามใช้ก้อนสำลีซ้ำเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นสีจะกลับไปติดบนผิวหนังอีก ทิ้งก้อนสำลีเก่าแล้วใช้ก้อนใหม่ชุบแอลกอฮอล์เพิ่มซะ ทำไปเรื่อยๆ จนกว่ารอยเปื้อนจะหายไปหมด
- ล้างคราบสีออกด้วยสบู่และน้ำ และซับให้แห้งด้วยผ้าขนหนู. ถ้ายังเห็นว่ามีรอยคราบหลงเหลืออยู่ ก็ลองถูออกด้วยแอลกอฮอล์อีกสักครั้ง หลังจากนั้นก็ล้างและเช็ดให้ผิวแห้งด้วยนะ
- ทาโลชั่นทามือถ้าหากว่าคุณมีผิวที่บอบบาง. เพราะแอลกอฮอล์ล้างแผลอาจทำให้ผิวแห้งได้ แนะนำให้ทาโลชั่นทามือเมื่อกำจัดคราบเสร็จสิ้น ยิ่งถ้าใช้อะซิโตนหรือน้ำยาล้างเล็บก็ยิ่งแนะนำให้ทาเลยนะโฆษณา
- ล้างคราบออกด้วยสบู่และน้ำอุ่น. จะใช้ผ้าเช็ดหน้าชุบน้ำเช็ดคราบสีบนผิวของคุณก็ได้
- จุ่มผ้าสะอาดในน้ำส้มสายชูใส. ดูให้แน่ใจว่ามีน้ำส้มสายชูสำรองเอาไว้อีก เพราะคุณต้องใช้ชุบผ้าซ้ำอีกครั้ง
- ถูคราบเปื้อนด้วยผ้า. ถ้าหากว่าน้ำส้มสายชูกัดผิวคุณ ให้ผสมน้ำส้มสายชูหนึ่งส่วนกับน้ำหนึ่งส่วน มันจะช่วยเจือจางน้ำส้มสายชูและทำให้แสบน้อยลง
- ถ้ามีรอยเปื้อนสีบนหน้า ให้เจือจางน้ำส้มสายชูก่อนเลย หรือจะใช้วิธียาสีฟันก็ได้
- ซักผ้าด้วยน้ำเย็นแล้วชุบน้ำส้มสายชูอีกครั้ง. ตอนที่กำลังเช็ดอยู่ ผ้าก็จะดูดซับสีขึ้นมา คุณจึงต้องซักผ้าด้วยน้ำสะอาดเมื่อผ้าติดสี ถ้าไม่ยอมล้าง สีก็จะกลับมาติดผิวคุณได้ หลังจากที่ซักผ้าแล้วก็ชุบน้ำส้มสายชูอีกครั้ง เช็ดต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าคราบจะจางหายไป
- ใช้ส่วนผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำเปล่าสำหรับคราบฝังแน่น. ผสมส่วนผสมในจานใบเล็ก โดยประกอบไปด้วยเบกกิ้งโซดาสองส่วนต่อน้ำหนึ่งส่วน ทาส่วนผสมให้ทั่วคราบเปื้อน ใช้นิ้วถูเบาๆ วนเป็นวงกลม[4]
- พยายามอย่าออกแรงถูมากเกินไป เพราะเบกกิ้งโซดาอาจขูดผิวให้คุณเจ็บได้
- ล้างส่วนผสมออกด้วยสบู่และน้ำเปล่า. เบกกิ้งโซดานั้นไม่ได้ล้างออกได้ง่ายๆ ฉะนั้นก็ต้องใช้เวลาหน่อย โดยล้างด้วยสบู่และน้ำเปล่าจนกว่าผิวของคุณจะไม่รู้สึกเหมือนมีเม็ดเล็กๆ ติดอยู่อีกต่อไป
- ใช้น้ำส้มสายชูและเบกกิ้งโซดาซ้ำหากจำเป็น. คราบสีผสมอาหารส่วนใหญ่ควรจะหมดไปได้แล้ว แต่ถ้าคราบยังฝังลึกแน่นอยู่จริงๆ ก็ให้ทำซ้ำใหม่ตั้งแต่ต้นได้เลยโฆษณา
- อาบน้ำฝักบัว. บางครั้งน้ำอุ่นและสบู่ก็พอที่จะล้างคราบออกได้แล้ว หลังจากที่อาบน้ำในอ่างหรือฝักบัวเสร็จ คราบก็จะออกไปเกือบหมดแล้วล่ะ
- ล้างคราบเปื้อนออกด้วยน้ำเปล่าและผลิตภัณฑ์กำจัดคราบบนผ้า. เติมน้ำอุ่นลงในอ่างและหยดน้ำยากำจัดคราบลงไป ใช้มือลงไปคนสักพักหนึ่ง ถ้าคุณมีคราบเปื้อนติดบนส่วนอื่นของร่างกาย ก็ให้วักน้ำลูบตรงนั้น
- ห้ามใช้วิธีนี้บนใบหน้าเด็ดขาด ให้ใช้วิธียาสีฟันแทน
- ทำส่วนผสมจากเกลือและน้ำส้มสายชู. ตักเกลือสองถึงสามช้อนโต๊ะใส่ชาม หยดน้ำส้มสายชูตามลงไปเล็กน้อย พอให้สามารถผสมเป็นเนื้อครีมได้ โปะเอาไว้บนรอยคราบพร้อมกับน้ำ จากนั้นก็ถูส่วนผสมน้ำส้มสายชูและเกลือบริเวณนั้น และล้างออกด้วยสบู่กับน้ำเปล่า[5]
- เช็ดคราบออกจากหน้าด้วยทิชชู่เปียก. น้ำมันจะช่วยละลายสีผสมอาหารให้แตกออกจากกันและทำให้รอยจางลงไปเอง
- ลองใช้เบบี้ออยล์หรือน้ำมันสำหรับทำอาหารอื่นๆ. ชุบน้ำมันด้วยก้อนสำลีและเช็ดบริเวณคราบเปื้อน เมื่อก้อนสำลีสกปรกแล้วก็ให้เปลี่ยนใหม่ จากนั้นก็ล้างออกด้วยสบู่และน้ำอุ่น
- ใช้ครีมโกนหนวดกำจัดคราบออก. ครีมโกนหนวดนั้นมีส่วนผสมของเปอร์ออกไซด์ ซึ่งสามารถกำจัดคราบสีได้ โดยให้ถูครีมโกนหนวดบนคราบเปื้อนพร้อมกับสบู่ จากนั้นก็ล้างออกด้วยสบู่และน้ำอุ่น
- ทำสครับจากน้ำยาล้างจาน น้ำเลมอนสักหน่อย และน้ำตาลอีกนิด. ถูสครับบนผิวที่เปื้อนคราบให้จางหายไป จากนั้นก็ล้างออกด้วยสบู่และน้ำอุ่น
- ให้เวลาสักหน่อย. สีผสมอาหารส่วนใหญ่ก็จะจางลงไปเองตอนที่คุณใช้ชีวิตประจำวันปกติ หยิบจับสิ่งของ ล้างมือ และอาบน้ำ อาจใช้เวลาประมาณ 24 ถึง 36 ชั่วโมงจนกว่าจะจางหายออกไปทั้งหมด[6]โฆษณา
เคล็ดลับ
- ใช้แปรงสีฟันหรือแปรงทาเล็บกับจุดที่เข้าถึงยาก อย่างเช่นรอบๆ ขอบเล็บนิ้วมือ
- ถูโลชั่นทามือบนคราบเปื้อนก่อนจะล้างออก น้ำมันในโลชั่นจะทำให้สีแตกตัวออกจากกันและทำให้ล้างออกง่ายขึ้น[7]
- ทำให้ไว กำจัดคราบออกให้เร็ว ยิ่งทิ้งไว้นานเท่าไรก็จะยิ่งทำความสะอาดยากเท่านั้น[8]
- ครีมโกนหนวดถือเป็นวิธีที่ใช้ได้ดีเลยล่ะ โดยต้องทำให้ส่วนที่เปื้อนคราบเปียกน้ำก่อนที่จะใช้ครีมโกนหนวดนะ
- น้ำยาล้างเล็บสามารถใช้ทำความสะอาดสีที่ติดซอกใต้เล็บได้
- ตรวจสอบส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ให้แน่ใจว่ามีอาการแพ้ใดๆ หรือไม่
คำเตือน
- อะซิโตนและน้ำยาล้างเล็บเป็นอะไรที่รุนแรงและทำให้ผิวแห้ง ห้ามใช้ในเด็กและผู้ที่มีผิวบอบบาง
- เบกกิ้งโซดาและน้ำส้มสายชูอาจทำให้แสบผิวได้ ไม่แนะนำสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบาง
สิ่งของที่ใช้
- ยาสีฟัน แอลกอฮอล์ล้างแผล หรือน้ำส้มสายชู/เบกกิ้งโซดา
- น้ำ
- ก้อนสำลี (ไม่จำเป็น)
- ผ้าเช็ดตัวและหน้า (ไม่จำเป็น)
- โลชั่นทามือ (แนะนำ)
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ Food Coloring, FAQ
- ↑ A Sweet Spot Home, An Easy Way to Remove Food Coloring from Skin
- ↑ A Sweet Spot Home, An Easy Way to Remove Food Coloring from Skin
- ↑ How to Clean Stuff, Hoe to Remove Food Coloring from Skin
- ↑ Modern Mom, How to Take Food Coloring off Your Hands
- ↑ Food Coloring, Remove Food Coloring From Skin
- ↑ Modern Mom, How to Take Food Coloring off Your Hands
- ↑ Kid Spot, How to Remove Food Dye Stains
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.