วิธีการ สังเกตอาการป่วยของแมว

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

หนึ่งในเหตุผลที่คนชอบเลี้ยงแมวก็คือท่าทางผ่อนคลายสบายใจซะเหลือเกินนี่แหละ แมวนั้นเกิดมาเพื่อทำอะไรตามใจ ชีวิตชิลล์ซะจนคนยังอิจฉา วันๆ เอาแต่กิน นอน แล้วก็เล่น แต่รู้ไหมนิสัยที่ว่าอาจเป็นดาบสองคมเอาตอนแมวป่วยนี่แหละ เพราะแมวจะหนีหายหลบหน้าไปเลยตามสัญชาตญาณ ไม่ก็ทำกิจวัตรประจำวันที่ว่า (อย่างการนอน) เยอะเกินจนน่าเป็นห่วง จะรู้ได้ว่าแมวคุณป่วยขึ้นมาจริงๆ หรือเปล่า คุณต้องหัดสังเกตอาการและพฤติกรรมต่างๆ ที่เปลี่ยนไป

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

สังเกตลักษณะท่าทางและพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 แมวนอนมากแค่ไหน.
    ถ้าแมวป่วยจะนอนเยอะเป็นพิเศษ ถ้าแมวไม่มีอาการผิดปกติอื่นๆ อย่างอ้วก ท้องเสีย ไม่กินอาหาร หรือตัวบวม ให้คุณคอยสังเกตการณ์ต่อไป ถ้ามีอาการที่ว่าเมื่อไหร่ ให้พาไปหาหมอทันที
    • ถ้าแมวไม่มีอาการอื่นร่วมด้วย ให้จับตาดู 24 ชั่วโมง (หรือจะพาไปหาหมอก่อนก็ได้ถ้าคุณเป็นห่วงมาก) ถ้าวันที่ 2 แล้วแมวยังนอนเยอะดูเพลีย ให้รีบพาไปหาหมอเลย[1]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 วัดไข้หน่อย.
    ให้ใช้เทอร์โมมิเตอร์แบบวัดไข้ในรูก้น แต่ถ้าแมวไม่ยอมหรือกลัวทำแมวเครียดกว่าเดิมก็ค่อยให้คุณหมอวัดไข้ก็ได้ อุณหภูมิ 37 - 39 องศาถือว่าปกติดี แต่ถ้าเกิน 39 ขึ้นไปแสดงว่าเริ่มตัวร้อนแล้ว ยิ่งเกิน 39 นิดๆ ขึ้นไปนี่ก็ไข้แล้วล่ะ รีบพาไปหาหมอเลย[2]
    • แมวเป็นไข้มักนอนเยอะผิดปกติ ไม่ยอมกินอาหาร และขนด้านชี้โด่ชี้เด่ จมูกกับหูก็อาจแห้งและอุ่นได้เวลาเอานิ้วแตะตอนอุณหภูมิตัวปกติ ถึงปกติการจับหูแมวเพื่อวัดไข้นั้นเป็นวิธีที่ไม่ค่อยได้ผล แต่ถ้าจับแล้วหูแมวเย็นก็แสดงว่าไม่น่าเป็นไข้หรอก
  3. How.com.vn ไท: Step 3 พฤติกรรมการขับถ่ายของแมวเปลี่ยนไปหรือเปล่า....
    พฤติกรรมการขับถ่ายของแมวเปลี่ยนไปหรือเปล่า. ลองสังเกตดูว่าแมวอึฉี่บ่อยแค่ไหน อึฉี่ลำบากไหม มีเลือดหรือมูกอะไรปนมาในฉี่หรือเปล่า และอึเป็นก้อนแข็งผิดปกติไหม[3]ถ้าตอนแรกแมวท้องเสียแล้วต่อมากลับไม่ยอมอึหรือท้องผูก (อึเป็นก้อนแข็ง) ให้รีบพาไปหาหมอด่วน รวมถึงถ้าแมวไม่อึไม่ฉี่หรืออึฉี่แต่มีเลือดปนด้วย[4]
    • แมวตัวผู้มักมีปัญหาเรื่องทางเดินปัสสาวะบ่อยกว่า โดยเฉพาะเรื่องฉี่ไม่ออก สัญญาณบอกเหตุคือแมวจะแวะเวียนไปที่กระบะทรายบ่อยขึ้น หรือกระทั่งมานั่งยองๆ นอกกระบะ แมวอาจนั่งเบ่งอยู่อย่างนั้นนานเป็นหลายนาทีหรือลุกเดินไปนั่งยองๆ ที่จุดอื่นเรื่อยๆ ถ้าแมวมีอาการแบบนี้ให้สังเกตว่าแมวฉี่ออกหรือเปล่า (พื้นแห้งหรือเปียก?) ถ้าแมวฉี่ ก็ดูด้วยว่ามีเลือดปนไหม[5]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 สังเกตเรื่องอาหารการกิน.
    ถ้าคุณสังเกตเห็นว่าแมวไม่ค่อยกินหรือกลับกันคือกินเยอะกว่าปกติ ก็คือผิดปกติทั้งคู่ ถ้าแมวไม่กินอาหารทั้งวัน เป็นไปได้หลายอย่าง เช่น แอบไปกินอาหารบ้านข้างๆ มา รู้สึกคลื่นไส้ หรืออาจมีปัญหาเรื่องไต แต่ถ้าอยู่ๆ แมวเกิดตะกละกินเยอะเป็นพิเศษ อาจแปลว่ามีปัญหาสุขภาพบางอย่าง
    • ถ้าแมวไม่ยอมกินอาหารนานเกิน 24 ชั่วโมง ให้พาไปตรวจร่างกายกับคุณหมอ จะได้รักษาให้ตรงจุดก่อนเกิดภาวะหรือโรคแทรกซ้อน[6][7]
  5. How.com.vn ไท: Step 5 แมวขาดน้ำหรือเปล่า.
    เรื่องกินน้ำก็สำคัญ ปกติแมวจะกินน้ำมากแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับว่ากินอาหารเปียก (ทำให้ไม่ค่อยกินน้ำ) หรืออาหารเม็ด (จะกินน้ำบ่อยกว่า) ส่วนปัจจัยอื่นที่ทำให้แมวกินน้ำเยอะขึ้นก็เช่น การติดเชื้อบางอย่าง โรคไต ไฮเปอร์ไทรอยด์ แล้วก็เบาหวาน ถ้าแมวกินน้ำเยอะเป็นพิเศษก็รีบพาไปหาหมอเถอะ[8]
    • หรือคุณจะลองจับตามตัวดูก็ได้ ค่อยๆ คีบหนังตรงกลางระหว่างสะบักสองข้าง แล้วดึงออกจากตัว (เบาๆ เช่นกัน) จากนั้นปล่อย ถ้าหนังไม่ดีดกลับเข้าตัวทันที แสดงว่าแมวขาดน้ำ ให้พาไปหาหมอ
  6. How.com.vn ไท: Step 6 สังเกตน้ำหนักและรูปร่างของแมว.
    น้ำหนักเปลี่ยนกะทันหันไม่ว่าเพิ่มหรือลดควรพาไปหาหมอ โดยเฉพาะน้ำหนักลดไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว เป็นสัญญาณบอกว่าแมวป่วย สังเกตได้ด้วยชั่งน้ำหนักแมวอาทิตย์ละครั้ง ถ้าแมวน้ำหนักลดลงไปเรื่อยๆ ให้รีบพาไปหาหมอทันที[9]
    • ระยะเริ่มต้นของบางโรคอย่างเบาหวานหรือไฮเปอร์ไทรอยด์ แมวอาจดูปกติดีแค่น้ำหนักลดลง ถึงได้ย้ำว่าควรพาไปหาหมอถ้าแมวยังน้ำหนักลดลงเรื่อยๆ
    • ถ้าบางโรคอย่างมะเร็งในกระเพาะหรือโรคหัวใจ แมวจะน้ำหนักเท่าเดิม แต่ผอมลง หรือก็คือพอเอามือลูบแล้วเจอซี่โครงกับสันหลังได้ง่ายขึ้น เพราะไขมันที่ปกคลุมนั้นน้อยลง แต่หน้าท้องจะกลมเต่งแทน ถ้าคุณไม่แน่ใจก็เอาไปหาหมอจะดีที่สุด[10]
  7. How.com.vn ไท: Step 7 ตรวจสภาพขน.
    แมวป่วยไม่ค่อยมีแรงเลยเลิกดูแลขน ทำให้ขนที่เคยเงางามกลับด้าน พันกันยุ่งเหยิง จริงอยู่ว่าเวลาแมวเครียดก็ทำเอาขนร่วงหรือแมวไม่ค่อยดูแลขนได้ แต่บางทีก็เป็นสัญญาณบอกว่าแมวป่วย ปรึกษาคุณหมอจะดีที่สุด[11][12]
    • ที่แมวเลิกดูแลขนอาจเพราะป่วยเป็นโรคข้ออักเสบ (arthritis) พอกระดูกกระเดี้ยวมันยึดแข็งปวดตัวไปหมด ก็ทำให้เลียขนลำบากจนเลิกดูแลไปเลย เพราะฉะนั้นถ้าแมวขนด้านเมื่อไหร่ลองพาไปตรวจร่างกายเผื่อไว้ก่อนดีกว่า
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

สังเกตอาการผิดปกติ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 แมวอ้วกไหม.
    ถ้าแมวอ้วกหรืออ้วกเยอะวันละหลายครั้ง แถมดูเหนื่อยๆ ป่วยๆ แปลว่าน่าจะมีอะไรผิดปกติ ถ้าแมวไม่ยอมกินน้ำหรืออ้วกหลังกินน้ำ ควรพาไปหาหมอแล้วล่ะ[13]
    • แต่ปกติแมวก็ชอบอ้วกอยู่แล้วโดยที่ไม่ได้ป่วยอะไร (อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง) ประมาณว่าดีทอกซ์ตัวเอง ถ้าเป็นกรณีนี้แล้วแมวดูแข็งแรงดี มีรีแอคชั่น กินอิ่มนอนหลับตามปกติ ก็สบายใจได้เลย[14]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 แมวท้องเสียไหม.
    ปกติอึแมวควรหน้าตาเหมือนไส้กรอก ไม่นิ่มเละแต่ก็ไม่แข็งโป้ก ถ้าท้องเสียอึจะเหลวไม่เป็นก้อน แสดงว่าผิดปกติ ถ้าแมวท้องเสียแต่อย่างอื่นดูปกติดี ให้รอดูอาการใน 24 ชั่วโมง บางทีแมวอาจกินอะไรผิดสำแดงเลยท้องเสีย แต่ถ้ากินอะไรเข้าไปแล้วอ้วกออก ดูเซื่องซึมไม่ร่าเริง หรืออึแล้วมีมูก (เหนียวๆ) หรือมีเลือดปน ก็รีบพาไปหาหมอเถอะ[15]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 แมวร่าเริงดีไหม.
    ถ้าดูเซื่องซึม ไม่ค่อยมีแรง แสดงว่าอาจมีไข้ หายใจลำบาก หรือเจ็บปวดตรงไหน จะต่างกับอีกอาการที่แมวนอนเยอะเกิน ตรงที่แบบนี้แมวตื่นแต่ไม่ค่อยมีแรงหรือดูไม่อยากทำอะไรที่เคยทำในแต่ละวัน ถ้าแมวดูซึมแถมหายใจหอบถี่ ก็พาไปหาหมอดีกว่า[16]
    • นิสัยแมวเปลี่ยนไปไหม ถ้าแมวดูอ่อนแรงเป็นพิเศษ ไม่วิ่งเล่นไปมา หรือทำอะไรอย่างที่เคย แปลว่าแมวน่าจะป่วยหรือขาดสารอาหาร
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ฟังเสียงหายใจ.
    ถ้าแมวหายใจสั้นๆ ถี่ๆ หรืออ้าปากหอบหายใจแบบหยุดไม่ได้ แสดงว่าต้องพาไปหาหมอแล้ว ให้คุณลองสังเกตดูว่าแมวหายใจลำบากมากไหม ถ้าถึงขั้นเกร็งท้องเค้นหายใจ รีบไปหาหมอด่วนเลย[17]
    • บางทีแมวหายใจลำบากก็คล้ายกับเสียงครางเวลามีความสุข (เพราะหายใจเร็วเหมือนกัน) เพราะงั้นต้องลองนับจำนวนครั้งการหายใจดู ตอนที่แมวไม่ได้ครางหรือหลับอยู่ ปกติแมวจะหายใจประมาณ 20 - 30 ครั้งต่อนาที ถ้าผ่อนคลายก็ยิ่งต้องน้อยกว่านั้น
  5. How.com.vn ไท: Step 5 แมวคอเอียง ดูงงๆ มึนๆ หรือวิงเวียนไหม.
    เหล่านี้เป็นอาการของโรคเกี่ยวกับระบบประสาท ไม่ก็อาการติดเชื้อในหู ถ้าแมวแสดงอาการพวกนี้ให้รีบพาไปหาหมอ ปกติแมวมักปราดเปรียว ลุกยืนคล่องแคล่วว่องไว ถ้าอยู่ๆ แมวเกิดซุ่มซ่ามหรือคอเอียงแปลกๆ แสดงว่ามีอะไรผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณบอกโรคหลอดเลือดในสมอง ความดันสูง หรือกระทั่งเนื้องอกในสมอง ทางที่ดีให้เอาไปตรวจร่างกายกันไว้ก่อน[18]
  6. How.com.vn ไท: Step 6 หมั่นดูแลขนน้องเหมียว จะได้ถือโอกาสลูบตามตัวหาก้อนแปลกปลอม....
    หมั่นดูแลขนน้องเหมียว จะได้ถือโอกาสลูบตามตัวหาก้อนแปลกปลอม. ส่วนใหญ่พวกตุ่ม ก้อน ฝี หรืออะไรมักไม่อันตราย แต่ถ้ามีหนองไหลหรือมีอาการแข็งกดเจ็บ ควรจะรีบพาไปตรวจ นอกจากนี้ให้คุณคอยสังเกตว่ามีรอยเกาตรงไหนติดเชื้อจนมีกลิ่นตุๆ หรือเปล่า ถ้ามีก็ต้องพาไปหาหมอเช่นกัน เพราะถ้าปล่อยไว้ อาการติดเชื้อจะลามจนเลือดเป็นพิษได้[19]
  7. How.com.vn ไท: Step 7 ดวงตาก็สำคัญ.
    สำรวจตาแมว (จมูกด้วย) ว่ามีขี้ตาเยิ้มผิดปกติหรือเปล่า ถ้าน้ำตาแมวไหลอยู่ตลอด แปลว่าอาจแพ้อะไรบางอย่าง หรือมีปัญหาเรื่องไซนัส ถ้าขี้ตาเยิ้มแถมแมวกินน้ำเยอะและฉี่บ่อยกว่าปกติ เซื่องซึม และขนด้าน ต้องพาไปหาหมอเพราะแมวอาจไตวายได้
    • สังเกตการหดขยายของรูม่านตาด้วย บางโรคทำให้ตาแมวขยายดำปี๋แล้วค้างอยู่แบบนั้น เพราะงั้นถ้าเห็นแมวตาโตดำแบบนั้นอยู่ตลอด ให้พาไปเช็คกับคุณหมอดูสักหน่อย
  8. How.com.vn ไท: Step 8 สำรวจในปากแมว.
    โดยเฉพาะสีเหงือกที่เปลี่ยนไป ถ้าแมวคุณเหงือกสีเข้มไปจนถึงดำแล้วอยู่ๆ เหงือกก็ซีดขาวซะเฉยๆ แสดงว่าป่วยเข้าแล้ว กลิ่นปากก็สำคัญ ถ้าแมวปากเหม็นโดยที่ไม่ได้เป็นเพราะอาหาร ก็แปลว่ามีอะไรผิดปกติเหมือนกัน[20]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

สังเกตอาการเฉพาะโรค

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 แมวมีหมัดหรือเปล่า.
    ถ้าเกาซะอุ้งเท้าเป็นระวิง แปลว่าน่าจะมี ถ้าคุณเห็นแมวเกาแกรกๆ ประจำ ก็ให้อุ้มมาสำรวจขนกันแบบละเอียดหน่อย หาหวีเสนียดหรือหวีซี่ถี่มา แล้วใช้สางขนแมวหาหมัด ถ้ามีจะหน้าตาเหมือนจุดสีน้ำตาลเล็กๆ วิ่งเร็วๆ โดยเฉพาะแถวคอกับหาง[21]
    • ยิ่งถ้าคุณหวีหรือแปรงขนโดยให้แมวยืนบนกระดาษสีขาวโล่งๆ ละก็ จะเห็นหมัดติดอยู่ตามซี่หวีหรือขี้หมัดที่ตกลงมาบนกระดาษชัดเลย ขี้หมัด (Flea dirt) จะสีดำ หน้าตาเหมือน comma หรือลูกน้ำ ถ้าตกลงไปบนสำลีเปียกๆ ละก็ จะละลายออกมาเป็นเลือดเส้นๆ เลย
    • มีผลิตภัณฑ์กำจัดหมัดขายหลายยี่ห้อเลย แต่ละยี่ห้อก็ทำเอาหมัดหายไปจากทั้งแมวและบ้านของคุณได้ทั้งนั้น แต่ถ้าอยากให้แน่ใจเรื่องความปลอดภัยก็ปรึกษาคุณหมอก่อนก็ได้
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ถ้าแมวไอแห้งและอ้วก อาจเป็นเพราะก้อนขนอุดตัน....
    ถ้าแมวไอแห้งและอ้วก อาจเป็นเพราะก้อนขนอุดตัน. Hairballs หรือก้อนขน (สะสมจากที่แมวเลียตัว) ทำให้แมวปากเหม็นหรือไม่กินอาหารได้ ยิ่งถ้าก้อนขนในกระเพาะเยอะๆ เข้าอาจกลายเป็น Trichobezoars (ก้อนขนจับตัวแข็งกับอาหารที่ไม่ย่อยส่งกลิ่นเหม็น) ซึ่งถือว่าร้ายแรงมากจนต้องผ่าตัดลูกเดียว เพราะงั้นคุณต้องหมั่นดูแลขนน้องแมวบ่อยๆ จะได้ลดก้อนขน[22]
    • อีกวิธีที่ทำได้เองง่ายๆ ก็คือให้แมวกินอาหารเสริม อย่าง Slippery Elm Bark (เปลือกต้น Slippery Elm) จะได้หล่อลื่นให้ก้อนขนไม่อุดตัน หรือให้แมวกินเนื้อฟักทอง (กระป๋อง) จะได้เพิ่มไฟเบอร์ให้อึเป็นก้อนสวย แถมขับก้อนขนด้วย และนานๆ ทีให้แมวกินปลาหรือไก่/ตับสุกบ้าง ช่วยได้เหมือนกัน
    • แต่ทางที่ดีก็ไปตรวจกับหมอเถอะ จะได้รู้ว่าแมวเป็นโรคอื่นที่ร้ายแรงกว่าหรือเปล่า
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ระวังไฮเปอร์ไทรอยด์หรือการที่ไทรอยด์ทำงานมากไป....
    ระวังไฮเปอร์ไทรอยด์หรือการที่ไทรอยด์ทำงานมากไป. อาการคือแมวอาจกินอาหารเยอะขึ้นหรือกินน้ำบ่อย แต่น้ำหนักลดแบบหาสาเหตุไม่เจอ (โดยเฉพาะเสียมวลกล้ามเนื้อ) เครียดหรือขี้ตื่น อ้วกบ่อย เซื่องซึม แล้วก็อ่อนแรง รวมถึงท้องเสียหรือขนยุ่งเหยิง ถ้าแมวมี 2 อาการขึ้นไป ให้รีบพาไปหาหมอเลย[23] Hyperthyroidism หรือโรคไฮเปอร์ไทรอยด์นั้นมักเกิดในแมวชราหรือวัยหนุ่ม ไม่ค่อยพบในแมวอายุน้อย
    • แมวกินเยอะเกินก็น่าเป็นห่วง น่าจะพาไปหาหมอเหมือนกัน ฮอร์โมนไทรอยด์ที่ไปกระตุ้นให้แมวกินเยอะจะไปเร่งอัตราการเผาผลาญด้วย ทำให้อวัยวะต่างๆ ทำงานหนัก[24]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 สังเกตอาการเบาหวานในแมว.
    สัญญาณบอกโรคเบาหวานก็เช่น อ้วก ขาดน้ำ อ่อนแรง และไม่กินอาหาร แต่จะกินน้ำและฉี่บ่อย น้ำหนักลด หายใจผิดปกติ และไม่ดูแลขนตัวเอง เบาหวานในแมวเป็นได้ทุกช่วงอายุ แต่พบมากในแมวแก่ และแมวอ้วนทั้งตัวผู้ตัวเมีย ถ้าแมวมีอาการแบบที่ว่ามาหรือเป็นทีเดียวหลายอาการ ให้พาไปหาหมอเพื่อตรวจเลือดกับวัดระดับน้ำตาลในฉี่[25]
  5. How.com.vn ไท: Step 5 สังเกตอาการโรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่างในแมว (feline lower...
    สังเกตอาการโรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่างในแมว (feline lower urinary tract disease หรือ FLUTD). สัญญาณบอกโรค FLUTD ก็เช่น ฉี่ยาก ฉี่น้อย หรือฉี่บ่อย ไม่กินอาหาร เฉื่อยชา ฉี่มีเลือดปน หรือก้มเลียตรงนั้นของตัวเองบ่อยๆ โรคนี้เป็นอาการทางเดินปัสสาวะส่วนล่างอักเสบที่ทำให้เจ็บปวดรุนแรง และลุกลามได้ง่าย
    • FLUTD เป็นได้เพราะหลายสาเหตุด้วยกัน ตั้งแต่การกินน้ำน้อย ไม่ค่อยฉี่ ไปจนถึงไวรัส แบคทีเรีย หรืออาหาร อาหารเม็ดบางชนิดทำให้มีผลึกสะสมในฉี่ ทำให้ไปครูดผนังกระเพาะปัสสาวะเกิดการระคายเคืองได้ ถ้าปล่อยไว้ไม่รักษาจะกลายเป็นนิ่วอุดตันจนเจ็บปวด
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้าบุคลิกลักษณะของแมวเปลี่ยนไป เช่น ขี้หงุดหงิด ปลีกตัว ดูเบื่อๆ แสดงว่าแมวอาจป่วย
  • บางทีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปก็เป็นเรื่องธรรมดา โดยเฉพาะถ้าคุณเพิ่งเปลี่ยนยี่ห้ออาหารหรือทรายแมวน่ะ
  • ระวังสังเกตอาการผิดปกติทางร่างกาย (เช่น อ้วกหรือท้องเสีย) แล้วจดไว้ด้วยว่าเป็นบ่อยแค่ไหน ถ้าถ่ายรูปอ้วกหรืออึแบบท้องเสียของน้องแมวไว้ด้วยก็จะยิ่งเป็นประโยชน์กับการตรวจรักษา อาจจะฟังดูพิลึก แต่รับรองว่าจะเป็นหลักฐานชั้นดีให้คุณหมอแน่นอน
  • สงสัยอะไรให้ถามคุณหมอทันที เพราะบางโรคก็รอไม่ได้ เดี๋ยวลุกลามจะสายเกินแก้
  • ถ้าปกติแมวชอบนอนแผ่กลางบ้านแล้วอยู่ๆ หลบหน้าไปซ่อนตัว แสดงว่าน่าจะเจ็บป่วยตรงไหน
โฆษณา

คำเตือน

  • ถ้าแมวไม่กินอาหารและน้ำนานถึง 2 วัน ให้พาไปหาหมอทันทีเพื่อตรวจร่างกาย
  • ถ้าแมวขาดน้ำและอ้วก ก็ต้องรีบพาไปหาหมอเช่นกัน เพราะเสี่ยงไตวายได้ ซึ่งเป็นอะไรที่ร้ายแรงถึงชีวิต
  • ลูกแมวเสี่ยงโลหิตจางถ้ามีหมัดเยอะๆ
  • ถ้าแมวนอนนิ่งหรือควบคุมอวัยวะต่างๆ ไม่ได้ ต้องพาไปหาหมอให้เร็วที่สุด ไม่งั้นอาจไตวาย ทำให้แมวถึงตายได้
  • คนเองก็ถูกหมัดกัดจนเจ็บๆ คันๆ ได้ โดยเฉพาะแถวๆ ข้อเท้า
  • หมัดที่พบบ่อยสุดคือ หมัดแมว (cat flea หรือ Ctenocephalides Felis) ที่อาจเป็นพาหะของตัวอ่อนพยาธิตืดสุนัข (Dipylidium Caninum tapeworm) ถ้าแมวเลียขนตัวเองแล้วเผลอกินหมัดเข้าไป ก็จะพลอยติดพยาธิตัวนี้ไปด้วย นอกจากนี้หมัดก็ยังเป็นพาหะของโรคอื่นๆ ด้วย
โฆษณา

ข้อมูลอ้างอิง

  1. BSAVA Manual of Textbook of Veterinary Nursing. Cooper & Moulineaux. BSAVA publications.
  2. BSAVA Manual of Textbook of Veterinary Nursing. Cooper & Moulineaux. BSAVA publications.
  3. http://www.petfinder.com/cats/cat-health/subtle-signs-of-a-sick-cat/
  4. Small Animal Internal Medicine. Nelson & Couto. Publisher: Mosby. 5th edition
  5. Small Animal Internal Medicine. Nelson & Couto. Publisher: Mosby. 5th edition
  6. http://www.petfinder.com/cats/cat-health/subtle-signs-of-a-sick-cat/
  7. Consultations in Feline Internal Medicine. August. Publisher. Saunders.
  8. Small Animal Internal Medicine. Nelson & Couto. Publisher: Mosby. 5th edition
  9. Small Animal Internal Medicine. Nelson & Couto. Publisher: Mosby. 5th edition
  1. Small Animal Internal Medicine. Nelson & Couto. Publisher: Mosby. 5th edition
  2. http://www.readersdigest.ca/pets/care/6-ways-tell-if-your-cat-is-sick
  3. BSAVA Manual of Textbook of Veterinary Nursing. Cooper & Moulineaux. BSAVA publications.
  4. Small Animal Internal Medicine. Nelson & Couto. Publisher: Mosby. 5th edition
  5. Small Animal Internal Medicine. Nelson & Couto. Publisher: Mosby. 5th edition
  6. Small Animal Internal Medicine. Nelson & Couto. Publisher: Mosby. 5th edition
  7. Small Animal Internal Medicine. Nelson & Couto. Publisher: Mosby. 5th edition
  8. Small Animal Internal Medicine. Nelson & Couto. Publisher: Mosby. 5th edition
  9. Consultations in Feline Internal Medicine. August. Publisher. Saunders.
  10. BSAVA Manual of Textbook of Veterinary Nursing. Cooper & Moulineaux. BSAVA publications.
  11. http://www.readersdigest.ca/pets/care/6-ways-tell-if-your-cat-is-sick
  12. http://www.aspca.org/pet-care/cat-care/fleas
  13. http://pets.webmd.com/cats/guide/what-to-do-about-hairballs-in-cats
  14. http://www.aspca.org/pet-care/cat-care/hyperthyroidism
  15. Consultations in Feline Internal Medicine. August. Publisher. Saunders.
  16. http://www.vcahospitals.com/main/canine-feline-diabetes-awareness/feline-diabetes-awareness

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Natalie Punt, DVM
ร่วมเขียน โดย:
สัตวแพทย์
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Natalie Punt, DVM. ดร. นาตาลี พันท์ เป็นสัตวแพทย์ และผู้ก่อตั้งและ CEO ของ mPet เธอเชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ฉุกเฉินและเวชศาสตร์ทั่วไปสำหรับสัตว์ขนาดเล็กและเศรษฐศาสตร์การปฏิบัติทางสัตวแพทย์ ดร. พันท์ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีวิทยาศาสตรบัณฑิตสาขาชีวเคมีและอณูชีววิทยา จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เดวิส ปริญญาโทวิทยาศาสตรมหาบัณฑิตสาขาชีวเคมี จากมหาวิทยาลัยบัฟฟาโล และสัตวแพทยศาสตรบัณฑิต จาก Western University of Health Sciences บทความนี้ถูกเข้าชม 368,402 ครั้ง
หมวดหมู่: แมว
มีการเข้าถึงหน้านี้ 368,402 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา