วิธีการ สอนผู้อื่นให้รักตัวเอง

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

บางครั้งการรักตัวเองก็ไม่ถือว่าเป็นความเห็นแก่ตัวหรือความหยิ่ง เพราะบางครั้งการรักตัวเองก็ช่วยเราให้มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นได้ ถ้าต้องการสอนให้ใครสักคนรักตัวเอง เราต้องช่วยให้คนคนนั้นมีความภาคภูมิใจในตนเอง และหากลวิธีที่จะช่วยเขาควบคุมความคิดในแง่ลบให้ได้ นอกจากนี้เรายังสามารถแนะนำวิธีการฝึกรักตัวเอง เสนอวิธีการดูแลรักษาสุขภาพกายและสุขภาพจิตแก่ผู้อื่นได้ด้วย

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ปลูกฝังให้มีความภาคภูมิใจในตนเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ย้ำว่าการรักตัวเองไม่ใช่เรื่องที่ผิด.
    บางคนคิดว่าการรักตัวเองนั้นเป็นความเห็นแก่ตัวและการมองว่าตนเองเก่งและดีเป็นการหลงตัวเอง ถ้าคนที่เราอยากช่วยเหลือเห็นว่าการรักตัวเองเป็นเรื่องผิด ก็เน้นย้ำให้เขาเห็นว่าการรักตัวเองนั้นไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด[1]
    • จงอธิบายให้เขารู้ว่าการรักตัวเองนั้นคือการรู้จุดแข็ง ยอมรับจุดอ่อน และภาคภูมิใจในความสำเร็จของตนเอง
    • การรักตัวเองไม่ใช่การโอ้อวดความสำเร็จของตนเองเพื่อทำให้ผู้อื่นรู้สึกว่าตัวของเขานั้นด้อยกว่า การโอ้อวดตัวเองนั้นแสดงให้เห็นถึงการไม่ค่อยมีความภาคภูมิใจในตนเองมากกว่า
    • บอกผู้อื่นว่าการดูแลตนเองเป็นส่วนหนึ่งของการรักตัวเอง ตัวอย่างเช่น การหยุดพักจากการทำงานเสียบ้างเพื่อป้องกันไม่ให้ตนเองเหนื่อยล้าจนหมดแรงไม่ใช่ความเห็นแก่ตัว แต่เป็นการรักษาสุขภาพกายและสุขภาพจิตของตนเองให้ดี
    • ย้ำให้ผู้อื่นฟังอีกครั้งว่าการรักตัวเองไม่ใช่ความเห็นแก่ตัว อธิบายไปว่านี้เป็น "การให้ความสำคัญกับตนเอง" เป็นการรักและดูแลตนเอง สุดท้ายแล้วเราจะสามารถรักและดูแลผู้อื่นได้ด้วย[2]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ลองให้ผู้อื่นเขียนคุณสมบัติของตัวเขาเองว่ามีอะไรบ้าง....
    ลองให้ผู้อื่นเขียนคุณสมบัติของตัวเขาเองว่ามีอะไรบ้าง. ให้ผู้อื่นเขียนว่าตัวเขาเองนั้นมีพรสวรรค์ ลักษณะบุคลิกภาพที่ดี และงานอดิเรกที่ชอบอะไรบ้าง ตัวอย่างคุณสมบัติ เช่น เก่งกีฬา เป็นคนมีอารมณ์ขัน และชอบจัดสวน[3]
    • ถ้าเกิดเพื่อนของเราคิดไม่ออกว่าตัวเขาเองนั้นมีข้อดีอะไรบ้าง เราต้องเป็นฝ่ายบอกให้เขารู้ เช่น "นายมีอะไรดีๆ มากมายในตัวตั้งเยอะ! ทั้งขยัน เล่นเทนนิสเก่ง และคอยช่วยเหลือครอบครัวและเพื่อนอยู่เสมอ"
    • กระตุ้นให้ผู้อื่นมุ่งมองแต่คุณสมบัติที่ดีของตัวเขาเอง แต่พยายามอย่าไปเจ้ากี้เจ้าการหรือให้คำแนะนำโดยที่ผู้อื่นไม่ได้ขอ
  3. How.com.vn ไท: Step 3 แสดงให้เห็นว่าความภาคภูมิใจในตนเองไม่ได้เกิดจากความคิดเห็นของผู้อื่น....
    แสดงให้เห็นว่าความภาคภูมิใจในตนเองไม่ได้เกิดจากความคิดเห็นของผู้อื่น. บอกเพื่อนว่าความภาคภูมิใจในตนเองเกิดจากภายนอกและภายใน ความภาคภูมิใจที่เกิดจากภายนอกคือความภาคภูมิใจที่เกิดจากความคิดเห็นของคนอื่น แต่ความภาคภูมิใจจากภายนอกไม่มีผลต่อเราเท่าความภาคภูมิใจจากภายใน [4]
    • บอกผู้อื่นว่า "เราควรเห็นคุณค่าของตัวเอง ไม่ใช่ให้คนอื่นมาเห็นคุณค่าของเรา เราต้องตั้งใจเรียนเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่ตนเองตั้งไว้หรือตั้งใจเรียนเพราะอยากได้ความรู้ ไม่ใช่เพราะอยากได้เกรดดีๆ เพื่อแสดงให้ผู้อื่นเห็นว่าเรานั้นเป็นคนฉลาด"
    • บอกผู้อื่นว่า "การมีใครสักคนมาชื่นชมเรานั้นเป็นเรื่องน่าภาคภูมิใจ แต่อย่าให้ความคิดเห็นของผู้อื่นมากกำหนดตัวตนของเรา สมมติมีใครสักคนเห็นว่าการลงเรียนเปียโนของเราเป็นเรื่องไร้สาระ แต่ถ้าเราชอบเล่นเปียโนจริงๆ และอยากเล่นให้เป็นอย่างจริงจัง ต่อให้คนอื่นมองอย่างไร ก็ไม่มีผลต่อความตั้งใจของเรา"
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ให้เหตุผลว่าทำไมถึงไม่ควรนำตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น....
    ให้เหตุผลว่าทำไมถึงไม่ควรนำตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น. ทุกคนมีความสามารถ คุณสมบัติ และความใฝ่ฝันต่างกัน ฉะนั้นบอกให้คนที่เรารักยอมรับจุดแข็งและจุดอ่อนของตนเอง บอกเขาว่าอย่าไปรู้สึกแย่เพราะเห็นว่าผู้อื่นมีพรสวรรค์มากกว่าหรือมีคุณสมบัติที่เหมาะสมกว่า[5]
    • บอกเพื่อนว่า "การอิจฉาผู้อื่นหรือโกรธตนเองไม่ทำให้อะไรดีขึ้น จงยินดีกับผู้ที่มีพรสวรรค์ อย่าดูถูกตนเอง ถ้าหากเราไม่มีความสามารถแบบนั้น เพราะเราเองก็มีจุดแข็งของตนเองเช่นกัน"
    • กระตุ้นผู้อื่นให้ทำในสิ่งที่ตัวเขาเองสามารถทำได้อย่างเช่น มีหุ่นที่ดีขึ้นหรือพัฒนาทักษะในการบริหารเวลา อย่างไรก็ตามสมมติว่าหากเขาอยากเป็นนักยิมนาสติกชั้นนำ แต่ตีลังกาท่าล้อเกวียนไม่ได้ ก็ต้องบอกให้เขายอมรับแต่โดยดีว่าคนคนหนึ่งไม่สามารถเก่งไปหมดทุกอย่างได้
    • การใช้เวลาอยู่กับสื่อสังคมมากเกินไปอาจทำให้เอาชีวิตของตนเองไปเปรียบเทียบกับผู้อื่นได้ แนะนำให้เพื่อนลดเวลาในการอยู่กับสื่อสังคมให้น้อยลง[6]
  5. How.com.vn ไท: Step 5 แนะนำให้ช่วยเหลือผู้อื่นและเป็นอาสาสมัครเพื่อให้เห็นว่าตัวเขาเองนั้นมีค่า....
    แนะนำให้ช่วยเหลือผู้อื่นและเป็นอาสาสมัครเพื่อให้เห็นว่าตัวเขาเองนั้นมีค่า. นอกจากสอนคนที่เรารักให้คิดบวกแล้ว ยังต้องแนะนำให้เขาช่วยคนอื่นเมื่อไหร่ก็ตามที่มีโอกาส การได้ช่วยเหลือผู้อื่นและทำงานการกุศลจะทำให้เขาค่อยๆ รู้สึกภาคภูมิใจในตนเองมากขึ้น[7]
    • เพื่อนของเราสามารถช่วยติวหนังสือให้เพื่อนตัวเองหรือญาติ หรือช่วยคนในครอบครัวปรับปรุงบ้านให้น่าอยู่และจัดสิ่งของต่างๆ ให้เป็นระเบียบ อาจแนะนำให้เพื่อนไปเป็นอาสาสมัครทำในสิ่งที่ชอบก็ได้อย่างเช่น ดูแลสัตว์ในศูนย์พักพิง ทำอาหาร หรือเป็นที่ปรึกษาให้กับเยาวชน
    • บอกเพื่อนว่า "การได้ช่วยเหลือผู้อื่นจะทำให้เราคิดอะไรในแง่ลบยากขึ้น เราจะคิดว่าตนเองไม่ดีได้อย่างไร ในเมื่อเราทำให้ชีวิตคนอื่นดีขึ้น"
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ท้าทายความคิดลบ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 บอกให้ผู้อื่นรู้ตัวว่ากำลังพูดไม่ดีกับตัวเขาเองอยู่และเปลี่ยนคำพูดเสียใหม่....
    บอกให้ผู้อื่นรู้ตัวว่ากำลังพูดไม่ดีกับตัวเขาเองอยู่และเปลี่ยนคำพูดเสียใหม่. ถ้าเพื่อนคิดว่า "ฉันไม่ดีพอ" หรือ "ฉันไม่มีทางทำได้หรอก" บอกให้เขารู้ตัวว่ากำลังพูดไม่ดีกับตัวเขาเองอยู่ แนะนำให้เพื่อนห้ามตัวเขาเองให้เลิกคิดลบ เช่น "หยุดคิดลบเสียที! การคิดแบบนี้ไม่ช่วยอะไรเลย ฉันต้องเปลี่ยนความคิดตนเองเสียใหม่"[8]
    • ถามเขาว่า "เธอจะด่าเพื่อนสนิทว่า "เธอน่ะเป็นคนไม่ดี" หรือต่อว่าเพื่อนด้วยถ้อยคำที่รุนแรงไหม เธอคงอยากให้เพื่อนรู้ว่าตัวเขาเองต้องแก้ปัญหาด้วยวิธีการที่ดีกว่านี้ ปฏิบัติต่อตนเองเหมือนกับที่ปฏิบัติต่อเพื่อนของตนเอง อย่าพูดอะไรไม่ดีใส่ตนเอง"[9]
    • แนะนำให้ผู้อื่นนำความคิดที่เป็นกลางหรือเป็นจริงมาแทนที่ความคิดที่เป็นลบ ตัวอย่างเช่น แทนที่จะคิดว่า "ฉันมันโง่เหลือเกิน ฉันไม่มีทางเก่งเลขหรอก" แนะผู้อื่นให้เปลี่ยนความคิดเสียใหม่ว่า "ฉันอ่อนเลขก็จริง แต่ฉันจะทำแบบฝึกหัดบ่อยๆ เพื่อจะได้แก้โจทย์เลขได้คล่องขึ้น" การนำความคิดที่เป็นกลางหรือเป็นจริงมาแทนที่ความคิดที่เป็นลบสามารถช่วยให้เราคิดบวกได้มากขึ้น
    • เพื่อนของเราต้องสนใจที่อยากจะรู้วิธีควบคุมความคิดลบ ถ้าเพื่อนของเรายังไม่อยากฟัง อาจต้องให้เวลาเขาซะหน่อย อย่าไปฝืนเขาให้พยายามฟังสิ่งที่เราพูด ถ้าเขายังไม่อยากฟังอะไรในตอนนั้น
  2. How.com.vn ไท: Step 2 บอกผู้อื่นว่าสถานการณ์อันเลวร้ายต่างๆ นั้นไม่คงอยู่นาน....
    บอกผู้อื่นว่าสถานการณ์อันเลวร้ายต่างๆ นั้นไม่คงอยู่นาน. บอกคนที่เรารักว่าอุปสรรคต่างๆ ในชีวิตนั้นอาจดูเหมือนเกิดอยู่ตลอด อาจดูเหมือนเราไม่สามารถผ่านพ้นอุปสรรคเหล่านั้นไปได้ และสถานการณ์อันเลวร้ายอาจดูเหมือนไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุด แนะนำให้ผู้อื่นมองทุกอย่างตามความเป็นจริงดีกว่ามานั่งคิดมาก[10]
    • บอกผู้อื่นว่า "การคิดแต่เรื่องในแง่ลบไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น แทนที่จะพูดว่า "ฉันไม่มีทางทำได้" ให้บอกกับตนเองว่า "ถ้าฉันฝึก ฉันก็จะทำได้ดีขึ้น" หรือ "คนเราต่างก็มีบางสิ่งที่ไม่ถนัดกันทั้งนั้น ฉันเองก็เหมือนกัน""
    • บอกผู้อื่นไปว่า "เมื่อพบกับสิ่งเลวร้าย อาจดูเหมือนสิ่งเลวร้ายนั้นจะอยู่กับเราตลอดไป แต่ไม่มีอะไรคงทนถาวร ลองนึกดูดีๆ สิ เราเองก็ผ่านพ้นความยากลำบากมามากมายหลายครั้งแล้ว สิ่งต่างๆ จะดีขึ้นเอง แค่บอกกับตนเองว่า "เดี๋ยวมันก็ผ่านไป"
    • พยายามให้กำลังใจผู้อื่นด้วยการพูดอย่างเช่นว่า "พยายามฝ่าฟันปัญหาไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็พบทางออกเองล่ะน่า ตัวเธอเองก็ฝ่าฟันอุปสรรคมาตั้งมากมาย นี้เป็นเครื่องยืนยันแล้วว่าเธอนั้นเก่งและแกร่งขนาดไหน"
  3. How.com.vn ไท: Step 3 บอกให้ผู้อื่นรู้ว่าใครๆ ก็ทำผิดพลาดกันได้.
    บอกให้เขาให้อภัยตัวเขาเองในเรื่องที่ทำผิดพลาดไปไม่ว่าจะเป็นการพูดอะไรโดยไม่คิดไปจนถึงการทำอะไรผิดพลาดไปโดยไม่ตั้งใจ แทนที่จะเอาแต่จมปลักอยู่กับอดีต แนะนำให้ผู้อื่นใช้ความผิดพลาดเป็นโอกาสในการเรียนรู้เพื่อจะได้เติบโตยิ่งขึ้น[11]
    • คนจำนวนมากเอาแต่คิดถึงความผิดพลาดหรือเรื่องน่าอายของตนเองมากเกินไป ถ้าคนที่เรารักเอาแต่จมปลักกับความผิดพลาด บอกเขาว่า "ใครๆ ต่างก็เคยทำเรื่องขายหน้าด้วยกันทั้งนั้น เราเปลี่ยนอดีตไม่ได้ ฉะนั้นพยายามมองเรื่องที่น่าขายหน้านั้นเป็นเรื่องตลกขบขันดีกว่า"[12]
    • บอกผู้อื่นว่า "ถ้าเราทำทุกอย่างพังหรือตัดสินใจผิดพลาด อย่าจมปลักกับสิ่งที่ทำลงไปแล้ว แต่จงเรียนรู้จากความผิดพลาด เดินหน้าต่อไป และอย่าทำผิดพลาดซ้ำอีกในภายหน้า"
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ขอให้ผู้อื่นยอมรับว่ามีบางสิ่งที่ไม่อาจควบคุมได้....
    ขอให้ผู้อื่นยอมรับว่ามีบางสิ่งที่ไม่อาจควบคุมได้. การยอมรับตนเองนั้นอาจยากลำบาก แต่ก็เป็นส่วนสำคัญในการรักตนเอง ขอให้คนที่เรารักภาคภูมิใจในความสำเร็จของตนเอง มุ่งปรับปรุงตนให้ดีขึ้นเท่าที่จะทำได้ และยอมรับว่ามีบางอย่างที่ตนเองนั้นไม่อาจควบคุมได้[13]
    • ตัวอย่างเช่น ถ้าผู้อื่นต่อว่าตัวเขาเองที่ไม่สามารถทำบางสิ่งบางอย่างได้สำเร็จ เราอาจให้คำแนะนำในการพัฒนาตัวเองอย่างเช่นว่า ถ้าผลการเรียนออกมาไม่ดี เขาสามารถทำให้ผลการเรียนดีขึ้นได้ด้วยการใช้เวลาทบทวนบทเรียนให้มากขึ้น จ้างติวเตอร์ ถ้าเขาทำงานออกมาได้ไม่ดี เขาสามารถปรับปรุงการทำงานด้วยการหาโอกาสพัฒนาทักษะที่จำเป็นต่อการทำงานอยู่เสมอ หรือขอกลวิธีการทำงานที่มีประสิทธิภาพจากหัวหน้างานก็ได้
    • อย่างไรก็ตามทุกๆ คนต้องรู้ว่ามีข้อจำกัดบางอย่างที่อยู่เหนือการควบคุมของตนเอง สมมติว่าเพื่อนของเราไม่ได้รับบทนำของละครเวทีเรื่องหนึ่ง เพราะบทนี้ไม่เหมาะสมกับเขา เราอาจบอกเพื่อนไปว่า "นายคงรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้บทนำในละครเวทีเรื่องนี้ แต่บทนี้ตัวละครต้องเป็นคนตัวเตี้ย แต่นายเป็นคนตัวสูง ต้องมีบทที่เหมาะสมกับนายแน่ในคราวหน้า"
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ฝึกดูแลตนเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ทำให้ผู้อื่นเห็นถึงความสำคัญของการมีใครหลายคนอยู่เคียงข้าง....
    ทำให้ผู้อื่นเห็นถึงความสำคัญของการมีใครหลายคนอยู่เคียงข้าง. เมื่อผู้อื่นรู้สึกท้อแท้ คนที่รักเขาจะสามารถช่วยเขาให้รู้สึกมีความหวังมากขึ้นได้ บอกผู้อื่นว่าเพื่อนและครอบครัวจะทำให้เรารู้ว่าตนเองนั้นยังมีคนรักและเป็นห่วงเสมอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นอกจากนั้นอย่าลืมกล่าวว่าการมีคนที่คิดบวกและคอยช่วยเหลืออยู่เคียงข้างนั้นสำคัญ[14]
    • แนะนำเพื่อนให้หลีกเลี่ยงผู้คนที่ชอบดูถูกหรือต่อว่าเขาอยู่เสมอ และพยายามสร้างสัมพันธ์กับคนที่เห็นคุณค่าและคอยให้กำลังใจเขา
  2. How.com.vn ไท: Step 2 แนะกลวิธีในการรักษาสุขภาพ.
    เมื่อใครสักคนรักตัวเอง เขาก็จะพยายามดูแลสุขภาพของตนเอง ผลคือการมีสุขภาพดีช่วยเสริมภาพลักษณ์ซึ่งยิ่งทำให้ตัวเขาเองนั้นหันมาใส่ใจดูแลตัวเองมากยิ่งขึ้น[15]
    • แนะนำให้ผู้อื่นกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพซึ่งได้แก่ ผัก ผลไม้ ลีนโปรตีน และธัญพืชเต็มเมล็ด
    • แนะนำให้ผู้อื่นออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที เสนอให้ผู้อื่นออกกำลังกายอย่างเช่น เดินเร็ว จ็อกกิ้ง ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ และเล่นโยคะ
    • อย่าลืมเตือนให้ผู้อื่นนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ โดยนอนอย่างน้อยวันละ 7-9 ชั่วโมง
  3. How.com.vn ไท: Step 3 แนะนำผู้อื่นให้ทำกิจกรรมสนุกๆ ที่ตัวเขาเองชื่นชอบ....
    แนะนำผู้อื่นให้ทำกิจกรรมสนุกๆ ที่ตัวเขาเองชื่นชอบ. บอกให้คนที่เรารักหาเวลาทำงานอดิเรกและทำอะไรสนุกๆ บ้าง ไม่ว่ากิจกรรมที่ชื่นชอบจะเป็นการอ่านหนังสือดีๆ สักเล่ม หรือการปีนหน้าผา การทำกิจกรรมที่ชื่นชอบจะทำให้คนคนนั้นมีความสุขและมีแรงบันดาลใจ[16]
    • ถ้าคนคนนั้นบอกว่าไม่มีงานอดิเรกหรือไม่สนใจอะไรเป็นพิเศษ เราอาจแนะนำหรือหากิจกรรมให้เขาทำก็ได้ ตัวอย่างเช่น เราอาจแนะนำไปว่า "ฉันรู้ว่าเธอเลี้ยงสุนัข พามันไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะใหม่ด้วยกันไหม หรือพามันไปเดินชมธรรมชาติด้วยกันก็ได้ เธออาจพาสุนัขไปเข้าฝึกความว่องไว หรือฝึกทำตามคำสั่งก็ได้"
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • เราไม่ควรให้คำแนะนำโดยที่ผู้อื่นไม่ร้องขอ พยายามอย่าเข้าไปเจ้ากี้เจ้าการ ให้คำแนะนำเมื่อคนคนนั้นพร้อมรับฟัง และถ้าผู้อื่นไม่สนใจจะฟังคำแนะนำ ก็ปล่อยเขาไปก่อน
  • ถ้าคนที่เราต้องการช่วยเหลือไม่สามารถคิดบวกได้ง่ายดายนัก เขาควรได้รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ แนะนำให้คนคนนั้นไปหาผู้เชี่ยวชาญ หากเห็นว่าเขาไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ ดูเศร้าตลอดเวลา หรือเกรงว่าเขาจะทำร้ายตัวเอง[17]
  • ให้ผู้อื่นได้ใคร่ครวญถึงความสัมพันธ์ที่ตัวเขาเองมีต่อคนอื่น ถ้ามีใครในชีวิตของเขามักจะกดขี่ข่มแหงหรือทำอะไรก็ตามที่ทำให้คนคนนั้นรู้สึกไม่ดีต่อตนเอง อาจแนะนำให้เขายุติความสัมพันธ์หรือหลีกเลี่ยงการพบเจอคนแบบนั้น
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Klare Heston, LCSW
ร่วมเขียน โดย:
นักสังคมสงเคราะห์ทางแพทย์
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Klare Heston, LCSW. แคลร์ เฮสตันเป็นนักสังคมสงเคราะห์ทางแพทย์อิสระที่มีใบอนุญาตในโอไฮโอ เธอได้รับปริญญาโทด้านสังคมสงเคราะห์ศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียคอมมอนเวลธ์ในปี 1983 บทความนี้ถูกเข้าชม 2,532 ครั้ง
หมวดหมู่: มิตรภาพ
มีการเข้าถึงหน้านี้ 2,532 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา