วิธีการ สร้างอุปนิสัยที่ดี

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

การวางแผน

การบรรลุความสำเร็จ

การเอาชนะอุปนิสัยที่ไม่ดี

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

การสร้างอุปนิสัยที่ดีขึ้นมาใหม่บางทีก็เป็นเรื่องที่ยาก แต่มันก็คุ้มค่าหากเราพยายามที่จะสร้างมันขึ้นมา เพราะการมีอุปนิสัยที่ดีเพิ่มขึ้นจากเดิมจะช่วยให้ทั้งสุขภาพกายและใจของเราดีขึ้น แถมยังช่วยในการบรรลุเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ได้อีกด้วย และสิ่งที่คุณสามารถทำเพื่อสร้างอุปนิสัยขึ้นมาใหม่ก็คือ หาแรงจูงใจ สร้างสิ่งที่ช่วยเตือนสติ และติดตามความคืบหน้าของตัวเอง หากคุณมีอุปนิสัยแย่ๆ บางอย่าง จำไว้เลยว่า คุณอาจจะต้องกำจัดนิสัยเหล่านั้นออกไปก่อนที่จะสร้างอุปนิสัยที่ดีอันใหม่ขึ้นมาแทนที่

ขั้นตอน

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 3:

การวางแผน

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   กำหนดเป้าหมาย. ก่อนที่คุณจะเริ่มต้นสร้างอุปนิสัยใหม่ การพิจารณาเป้าหมายของตัวเองก่อนนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่คุ้มค่า นึกให้ออกว่าตัวเองหวังจะบรรลุเป้าหมายในเรื่องใด และต้องแน่ใจว่าเป้าหมายนั้นเป็นไปตามหลักการ SMART ซึ่งก็คือ S = Specific (มีความเฉพาะเจาะจง) M = Measurable (สามารถวัดผลได้) A = Action Oriented (มุ่งเน้นการปฏิบัติเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ต้องการ) R = Realistic (ตั้งอยู่บนความเป็นจริง) T = Time Bound (มีกำหนดขอบเขตของเวลา) ซึ่งหลักการนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการบรรลุเป้าหมายให้กับคุณ ดังนั้น ให้คุณพิจารณาถึงสิ่งที่คุณต้องการทำให้สำเร็จ แล้วเก็บรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งนั้นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ คำถามต่อไปนี้ จะเป็นคำถามที่ช่วยคุณพิจารณาเป้าหมายต่างๆ

   • Specific หมายถึง เป้าหมายที่ตั้งไว้นั้นมีความเฉพาะเจาะจง ไม่กว้างและไม่คลุมเครือ โดยให้ถามตัวเองว่า เราต้องการจะบรรลุผลในเรื่องใดและทำไม?
   • Measurable หมายถึง เป้าหมายที่ตั้งไว้สามารถวัดผลเป็นจำนวนได้ (วัดด้วยตัวเลข) โดยให้ถามตัวเองว่า ตัวเลขอะไรที่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายของเรา? และเป้าหมายนั้นจะวัดผลด้วยตัวเลขยังไง?
   • Action Oriented หมายถึง เป้าหมายที่ตั้งไว้นั้น เป็นบางสิ่งบางอย่างที่คุณสามารถปฏิบัติได้อย่างไม่ติดขัดและสามารถควบคุมได้ โดยให้ถามตัวเองว่า มีกิจกรรมที่เฉพาะเจาะจงแบบไหนบ้าง ที่เราจำเป็นต้องทำเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้? แล้วเราต้องทำกิจกรรมเหล่านี้บ่อยแค่ไหนถึงจะเพียงพอต่อเป้าหมาย?
   • Realistic หมายถึง เป้าหมายที่ตั้งไว้นั้น เป็นบางสิ่งบางอย่างที่คุณสามารถบรรลุผลได้ด้วยสิ่งที่คุณมีอยู่แล้ว โดยให้ถามตัวเองว่า เป้าหมายที่เราตั้งไว้นั้น ใช่สิ่งที่เรามีกำลังและความสามารถพอที่จะบรรลุผลหรือเปล่า? แล้วทำไมถึงใช่ หรือทำไมถึงไม่ใช่?
   • Time Bound หมายถึง เป้าหมายที่ตั้งไว้มีการกำหนดเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุด หรือมีเดดไลน์ที่คุณต้องทำเสร็จให้ทันเวลา โดยให้ถามตัวเองว่า เมื่อไรที่เราจะเริ่มปฏิบัติการเพื่อเป้าหมายนี้? เมื่อไรที่เราอยากจะให้เป้าหมายนี้บรรลุผล? จะเกิดอะไรขึ้นบ้างถ้าเราทำสำเร็จ? และจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราล้มเหลว?
2. 
   2
   ดูว่าตัวเองอยากจะสร้างอุปนิสัยแบบไหน. การมีอุปนิสัยที่ดี ที่สอดคล้องกับเป้าหมายที่คุณต้องการจะบรรลุผล สามารถเพิ่มโอกาสในการบรรลุเป้าหมายของคุณได้ ซึ่งหลังจากที่คุณได้กำหนดเป้าหมายไว้ และทำทุกอย่างเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้นแล้ว ให้คุณดูว่าอุปนิสัยแบบไหนที่มีส่วนช่วยในการบรรลุเป้าหมายนั้น พิจารณาเป้าหมายของคุณ แล้วถามตัวเองว่า อุปนิสัยแบบไหนที่จะช่วยเราบรรลุเป้าหมายนี้ได้?

   • ตัวอย่างเช่น หากเป้าหมายของคุณคือ ลดน้ำหนักลง 10 ปอนด์ (ประมาณ 4 กิโลกรัมกว่าๆ ) ให้ได้ใน 6 สัปดาห์ คุณอาจจะสร้างอุปนิสัยการเดินออกกำลังกายตอน 1 ทุ่มทุกวันขึ้นมาใหม่ก็ได้
3. 
   3
   พิจารณาแรงจูงใจของตัวเอง. เมื่อคุณรู้แล้วว่าเป้าหมายของคุณคืออะไร และอุปนิสัยที่คุณต้องการจะสร้างขึ้นมาใหม่เพื่อการบรรลุเป้าหมายครั้งนี้เป็นแบบไหน ให้คุณใช้เวลาสักพัก พิจารณาถึงแรงจูงใจของคุณ เพราะแรงจูงใจเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณอยากจะสร้างอุปนิสัยนี้ขึ้นมา ซึ่งแรงจูงใจที่ดีอาจจะเป็นความแตกต่างระหว่างความสำเร็จและความล้มเหลวในการสร้างอุปนิสัยอันใหม่ขึ้นมาก็ได้ ดังนั้น ใช้เวลาสักพักเพื่อพิจารณาถึงแรงจูงใจของตัวเองด้วย

   • ถามตัวเองว่า อะไรที่เป็นประโยชน์ของการสร้างอุปนิสัยอันใหม่นี้ขึ้นมา? แล้วอุปนิสัยใหม่นี้จะทำให้ชีวิตเราดีขึ้นอย่างไร?
   • เขียนแรงจูงใจของตัวเองลงกระดาษ คุณจะได้หยิบมันขึ้นมาดู เวลาที่คุณต้องการแรงผลักดันเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย
4. 
   4
   เริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ . แม้ว่าอุปนิสัยอันใหม่ที่คุณต้องการจะสร้าง เป็นบางสิ่งบางอย่างที่ยิ่งใหญ่ เราแนะนำให้คุณเริ่มต้นด้วยการเปลี่ยนแปลงทีละเล็ก ทีละน้อย เพื่อเพิ่มโอกาสในการบรรลุเป้าหมายก่อน หากคุณเปลี่ยนแปลงแบบหักดิบจนเกินไป คุณอาจจะไม่สามารถไปถึงเป้าหมายได้

   • ตัวอย่างเช่น หากคุณอยากจะหยุดกินของทอด ของอมน้ำมัน หรืออาหารที่มีน้ำตาลเยอะ คุณอาจจะพบว่า มันยากมากที่จะหยุดกินอาหารทุกประเภทได้ภายในครั้งเดียว กลับกัน คุณอาจจะพบว่ามันง่ายกว่ามาก หากคุณเริ่มต้นด้วยการหยุดกินอาหารทีละประเภท
5. 
   5
   ให้เวลากับตัวเอง. การสร้างอุปนิสัยขึ้นมาใหม่อาจต้องใช้เวลา บางคนสามารถทำได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ ในขณะที่บางคนต้องใช้เวลาหลายเดือน ซึ่งในขณะที่คุณกำลังสร้างอุปนิสัยใหม่ขึ้นมา ให้คุณจำไว้เสมอว่า มันอาจจะใช้เวลาสักหน่อยกว่าอุปนิสัยนั้นจะออกมาแบบอัตโนมัติ ดังนั้น คุณต้องอดทนและให้เวลากับตัวเองในระหว่างที่กำลังสร้างอุปนิสัยใหม่ขึ้นมา
6. 
   6
   คาดการณ์ไว้ว่าจะต้องมีอุปสรรคเกิดขึ้น. ในระหว่างการสร้างอุปนิสัยใหม่ คุณก็ต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคไปพร้อมๆ กัน ซึ่งการที่คุณรู้อยู่แล้วว่าตัวเองจะต้องพบเจอกับอุปสรรคต่างๆ อาจจะช่วยคุณเอาชนะอุปสรรคเหล่านั้น และสามารถไปไปต่อกับเป้าหมายของตัวเองได้ นอกจากนี้ มันยังเป็นเรื่องที่ดีที่จะจดจำไว้ว่า ถึงแม้ว่าคุณจะสะดุดล้มกับอุปสรรคเหล่านั้น แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะล้มเหลว

   • ตัวอย่างเช่น หากคุณล้มเหลวในการเดินออกกำลังกายทุกวันอย่างที่คุณตั้งใจไว้ อย่าเพิ่งท้อแท้ ขอเพียงแค่คุณรับรู้ไว้ว่า มันก็เป็นแค่วันที่แย่วันหนึ่งของคุณเฉยๆ จากนั้นก็เริ่มต้นเดินออกกำลังกายใหม่อีกครั้งในวันถัดไป
   โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 3:

การบรรลุความสำเร็จ

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   สร้างสิ่งที่ช่วยเตือนสติ. การมีสิ่งที่ช่วยเตือนสติ จะช่วยเตือนคุณให้ทำพฤติกรรมใหม่ทุกวัน ซึ่งสิ่งที่ดีที่สุดก็คือ การกำหนดบางสิ่งบางอย่างที่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคุณอยู่แล้ว มาเป็นสิ่งที่ช่วยเตือนสติคุณ เช่น การอาบน้ำในตอนเช้า หรือ การชงกาแฟ ตัวอย่างเช่น หากคุณอยากจะพัฒนานิสัยการใช้ไหมขัดฟันทุกครั้งที่แปรงฟัน ให้คุณกำหนดให้การแปรงฟันเป็นเครื่องเตือนสติคุณให้ใช้ไหมขัดฟัน เมื่อคุณได้ใช้ไหมขัดฟันซ้ำไปซ้ำมาทุกๆ วัน มันก็จะกลายเป็นอุปนิสัยที่มาแบบอัตโนมัติเอง

   • หากคุณคิดไม่ออกว่า จะใช้อะไรเป็นเครื่องเตือนสติ ที่จะสอดคล้องกับอุปนิสัยใหม่ที่คุณอยากมี ลองตั้งนาฬิกาปลุกในโทรศัพท์เพื่อเตือนตัวเองว่า มันถึงเวลาที่จะทำอุปนิสัยใหม่แล้ว
2. 
   2
   ปรับเปลี่ยนสิ่งอยู่รอบตัว. คุณสามารถเพิ่มโอกาสในการบรรลุเป้าหมายได้ ด้วยการปรับเปลี่ยนสิ่งที่อยู่รอบตัวคุณ ดังนั้น ลองหาวิธีการปรับเปลี่ยนสิ่งรอบตัวคุณ แล้วคุณจะพบว่า สิ่งเหล่านี้ทำให้การทำอุปนิสัยใหม่ง่ายขึ้นกว่าเดิมเยอะ และลองถามตัวเองด้วยว่า การปรับเปลี่ยนสิ่งรอบตัวแบบไหน ที่จะช่วยคุณทำอุปนิสัยใหม่ในแต่ละวันได้?

   • ตัวอย่างเช่น หากคุณอยากจะสร้างอุปนิสัยในการไปยิมทุกเช้าก่อนไปทำงาน คุณสามารถบรรลุเป้าหมายนั้นได้ ด้วยการเอาชุดออกกำลังกายออกมาวางเตรียมไว้ในตอนกลางคืน และวางกระเป๋ายิมไว้ที่ประตู
3. 
   3
   มีความใส่ใจให้มากขึ้น. เหตุผลที่ทำไมบางคนถึงมีปัญหาในการสร้างอุปนิสัยใหม่นั้นก็เพราะว่า พวกเขามักจะทำโดยไม่คิดและไม่คำนึงถึงสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่ แต่ถ้าคุณมีความใส่ใจต่อพฤติกรรมของตัวเองมากขึ้น คุณก็จะพบว่ามันง่ายต่อการสร้างอุปนิสัยใหม่ ดังนั้น ถามตัวเองถึงพฤติกรรมที่ขาดความใส่ใจ จนทำให้ตัวคุณเองต้องออกห่างจากการทำอุปนิสัยที่ดีอันใหม่ด้วย

   • ตัวอย่างเช่น หากคุณอยากจะสร้างอุปนิสัยการไปยิมทุกเช้า ให้คุณนึกถึงสิ่งที่จะหยุดคุณจากการทำสิ่งนั้นด้วย ถามตัวเองว่า อะไรคือสิ่งที่เราทำเป็นปกติทุกๆ เช้า? เราจะใช้เวลาไปกับอะไร หากไม่ได้ไปยิม? ทำไมเราถึงใช้เวลาไปกับสิ่งเหล่านั้น? แล้วมันทำให้เรารู้สึกอย่างไร?
   • เมื่อถึงคราวต่อไปที่คุณรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะเหลวไหลและกลับไปสู่นิสัยแย่ๆ อันเก่า ให้ถามคำถามเหล่านี้กับตัวเอง และพยายามดึงตัวเองให้ออกมาจากวงจรแย่ๆ นี้
4. 
   4
   บอกให้คนอื่นรู้. คุณสามารถช่วยให้ตัวเองตั้งมั่นอยู่กับการสร้างอุปนิสัยใหม่ ด้วยการแชร์เป้าหมายของคุณให้คนอื่นรับรู้ได้ โดยให้เพื่อนของคุณช่วยคุณโฟกัสอยู่กับอุปนิสัยใหม่นี้ดู ไม่แน่บางทีเพื่อนคนใดคนหนึ่งของคุณ ก็กำลังหวังที่จะสร้างอุปนิสัยใหม่ขึ้นมาเหมือนกันก็ได้ และเมื่อถึงเวลานั้นคุณก็สามารถตอบแทนพวกเขาได้เช่นกัน

   • ต้องแน่ใจว่าเพื่อนคนที่คุณขอให้ช่วย มีสิ่งที่จะช่วยให้คุณตั้งมั่นอยู่กับเป้าหมายได้ ตัวอย่างเช่น คุณอาจจะให้เงินจำนวนหนึ่งกับเพื่อนคุณ แล้วบอกกับเพื่อนคนนั้นว่าไม่ต้องให้คืน จนกว่าคุณจะทำนิสัยใหม่ออกมาได้อย่างอัตโนมัติแล้ว
5. 
   5
   ติดตามความคืบหน้าของตัวเอง. การคอยติดตามความคืบหน้าในการปรับปรุงอุปนิสัยของตัวเอง จะช่วยให้คุณมีแรงจูงใจและรู้ว่าจะต้องทำอย่างไรเมื่อบางสิ่งบางอย่างไม่เป็นไปตามแผน ให้คุณใช้สมุดบันทึกหรือแอปพลิเคชันในโทรศัพท์ ช่วยคุณในการติดตามความคืบหน้า ว่าคุณทำตามอุปนิสัยอันใหม่นี้บ่อยแค่ไหน โดยคุณอาจจะแชร์ความคืบหน้าของคุณผ่านโซเชียลมีเดีย (Facebook หรือ Twitter และอื่นๆ ) ก็ได้ การแชร์พัฒนาการของคุณให้คนอื่นรับรู้ สามารถช่วยให้คุณมีแรงจูงใจและทำตามเป้าหมายไปได้เรื่อยๆ
6. 
   6
   ให้รางวัลกับตัวเองสำหรับการมีส่วนร่วมในการสร้างอุปนิสัยขึ้นมาใหม่. คุณสามารถช่วยให้ตัวเองมีแรงจูงใจในการสร้างอุปนิสัยใหม่ได้ตลอดเวลา ด้วยการให้รางวัลตัวเอง โดยให้คุณเลือกรางวัลสักอย่างหนึ่งเมื่อคุณทำเป้าหมายสำเร็จ ซึ่งสิ่งง่ายๆ เช่นการให้รางวัลตัวเองด้วยเสื้อผ้าสวยๆ หลังจากที่คุณลดน้ำหนักได้เกือบ 5 กิโลกรัม สามารถสร้างความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ให้กับแรงจูงใจเพื่อไปสู่เป้าหมายของคุณได้

   • ต้องมั่นใจว่ารางวัลที่คุณเลือกนั้นเป็นสิ่งที่ดี และคุณสามารถหาได้โดยไม่ลำบากตัวเอง โดยเมื่อคุณบรรลุเป้าหมายได้สักอย่างแล้ว ให้คุณมอบรางวัลให้กับตัวเองหลังจากนั้น
   โฆษณา

วิธีการ 3

วิธีการ 3 ของ 3:

การเอาชนะอุปนิสัยที่ไม่ดี

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   สร้างความตระหนัก. อุปนิสัยที่ไม่ดีอาจจะเป็นสิ่งที่กำจัดได้ยาก เพราะมันกลายเป็นสิ่งที่ฝังแน่นและเป็นไปอย่างอัตโนมัติไปแล้ว ซึ่งสิ่งแรกที่คุณจำเป็นต้องทำเพื่อเอาชนะอุปนิสัยที่ไม่ดีก็คือ ตระหนักและระมัดระวังอุปนิสัยเหล่านี้ โดยคุณสามารถสร้างความตระหนักได้ ด้วยการจดและติดตามการกระทำทุกครั้งที่คุณเผลอทำอุปนิสัยที่ไม่ดีลงไป

   • ตัวอย่างเช่น หากอุปนิสัยแย่ๆ ของคุณคือการกินขนมคบเคี้ยวในช่วงระหว่างมื้ออาหาร ให้คุณเขียนใส่กระดาษแผ่นเล็กๆ ทุกครั้งที่คุณสังเกตว่าตัวเองกำลังกินของจุกจิกระหว่างมื้ออาหารอยู่ ทำแบบนี้ไปสัก 1 สัปดาห์ เพื่อดูว่าคุณทำพฤติกรรมแบบนั้นบ่อยแค่ไหน
   • การมีความตระหนัก หมายถึง การ 'เฝ้าดู' การกระทำและนิสัยของตัวเองที่ออกมาจากอุปนิสัยที่ไม่ดี โดยไม่มีการโทษตัวเอง เพราะมีการวิจัยออกมาแล้วว่า คนเรามีแนวโน้มที่จะทำผิดซ้ำๆ หรือทำนิสัยเดิมๆ อีก หากเราชอบโทษตัวเอง ซึ่งพฤติกรรมและอุปนิสัยที่ไม่ดีจะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป หากคุณมีความตระหนักถึงเรื่องนั้น
2. 
   2
   เตรียมการรับมือกับอุปนิสัยแย่ๆ . เมื่อคุณเริ่มมีความตระหนักมากขึ้นต่ออุปนิสัยแย่ๆ แล้ว ให้คุณเริ่มตอบโต้กับมัน พยายามเอาตัวเองออกมาจากพฤติกรรมแย่ๆ เหล่านั้น และดูด้วยว่าคุณได้จดบันทึกเมื่อคุณเผลอกลับไปทำพฤติกรรมเก่า หรือช่วงเวลาที่คุณต่อสู้กับพฤติกรรมแย่ๆ นั้นอย่างต่อเนื่องหรือเปล่า

   • ตัวอย่างเช่น หากคุณพบว่าตัวเองกำลังจะหยิบขนมขบเคี้ยวขึ้นมากินระหว่างมื้ออาหาร ให้คุณดื่มน้ำสักแก้ว หรือไม่ก็ออกไปเดินเล่นสักพัก
3. 
   3
   ให้รางวัลตัวเองสำหรับการต่อสู้กับอุปนิสัยที่ไม่ดี. มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะให้รางวัลแก่ตัวเองเมื่อต่อสู้กับอุปนิสัยที่แย่ๆ ของตัวเองได้ รางวัลพวกนี้จะช่วยกระตุ้นคุณให้ต่อสู้กับอุปนิสัยที่ไม่ดีต่อไป ซึ่งคุณต้องแน่ใจด้วยว่ารางวัลที่คุณเลือกมานั้น เป็นแค่การทำในสิ่งที่คุณพอใจ ไม่ใช่สิ่งที่เกี่ยวข้องหรือนำพาไปสู่อุปนิสัยแย่ๆ อีก

   • ตัวอย่างเช่น หากคุณสามารถต่อสู้กับอาการอยากกินของจุกจิกระหว่างมื้ออาหารได้ 1 สัปดาห์เต็ม คุณอาจจะให้รางวัลตัวเอง ด้วยการซื้อหนังสือเล่มใหม่ หรือไม่ก็เข้าร้านเสริมสวย
   โฆษณา

เคล็ดลับ

• ต้องมีความอดทน เพราะว่าการเปลี่ยนพฤติกรรมต้องใช้เวลาและความพยายาม

โฆษณา

คำเตือน

• หากคุณกำลังติดยาหรือแอลกอฮอล์ คุณอาจจะต้องปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญ ให้พวกเขาช่วยคุณกำจัดอุปนิสัยแย่ๆ แบบนั้นออกไป แล้วแทนที่ด้วยอุปนิสัยที่ดีอันใหม่ ดังนั้น ปรึกษากับแพทย์หรือผู้ดูแลด้านสุขภาพจิตเพื่อขอความช่วยเหลือจากพวกเขาจะดีที่สุด

โฆษณา