วิธีการ รักษาแผลระคายเคืองจากต้นตำแย

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

ทำความสะอาดบริเวณที่ถูกต้นตำแย

ใช้วิธีบรรเทาอาการ

รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ควรไปพบแพทย์

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

ต้นตำแยเป็นพืชที่พบได้ทั่วโลก พืชชนิดนี้เป็นพืชยืนต้นสลับล้มลุก หมายความว่ามันเป็นพืชสมุนไพรที่จะเติบโตในพื้นที่เดิมทุกๆ ปี ใบและลำต้นจะปกคลุมไปด้วยโครงสร้างคล้ายขนที่เปราะบางและมีรู ขนนั้นจะเป็นเหมือนเข็มทิ่มผิวหนังคุณเมื่อไปสัมผัสโดนมันเข้า สารเคมีจะถูกปล่อยออกมาจากท่อบริเวณขนของมัน และทำให้รู้สึกระคายเคืองและเป็นผื่นคัน อาการระคายเคืองและผื่นจากต้นตำแยนั้นเจ็บมาก แต่สามารถรักษาได้

ขั้นตอน

ส่วน 1

ส่วน 1 ของ 3:

ทำความสะอาดบริเวณที่ถูกต้นตำแย

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   พยายามอย่าจับแผลช่วงแรกๆ. ถ้าเป็นไปได้ อย่าจับหรือเกาบริเวณที่ถูกต้นตำแยประมาณ 10 นาที ราดน้ำสะอาดลงบนแผลโดยห้ามสัมผัส แม้ว่ามันจะเจ็บมากในตอนแรกๆ แต่ถ้าคุณไม่ไปจับหรือเกา ก็จะช่วยให้ไม่เจ็บนานเป็นวันได้

   • สารก่อระคายจากพืชชนิดนี้จะแห้งติดอยู่บนผิวหนัง จึงสามารถล้างออกด้วยน้ำและสบู่ได้ หากเลี่ยงไม่สัมผัสหรือเกาบริเวณที่โดนก็จะทำให้สารนั้นไม่ซึมเข้าสู่ผิวหนัง ซึ่งถ้ามันซึมเข้าไปก็จะยิ่งเจ็บนานขึ้นจนอาจเป็นวันๆ เลยทีเดียว
   • สารที่ต้นตำแยปล่อยออกมานั้น ได้แก่ อะซีติลโคลีน ฮิสทามีน เซโรโทนิน โมโรอิดิน ลูโคตรีน และอาจมีกรดฟอร์มิกด้วย
2. 
   2
   ใช้น้ำกับสบู่. น้ำและสบู่จะช่วยทำความสะอาดบริเวณผิว และชะล้างสารเคมีจากพืชที่ทำให้เกิดอาการเจ็บแสบ บวม เป็นรอยแดงและคัน ส่วนใหญ่เมื่อล้างแผลแล้วจะหายเจ็บเลย หรือไม่ก็เจ็บน้อยลงมาก
3. 
   3
   ใช้ผ้าสะอาด. ถ้าคุณไม่มีสบู่หรือน้ำอยู่ใกล้ตัว ให้ใช้ผ้าสะอาดค่อยๆ เช็ดเศษดินและเศษต้นตำแยออกจากผิวให้หมด
4. 
   4
   เอาเทปกาวแปะ. ค่อยๆ แปะเทปกาวหนาและเหนียวอย่างเทปผ้าลงบนบริเวณที่โดนแล้วดึงออก เป็นการช่วยเอาเส้นใยต่างๆ ที่ฝังอยู่ที่ผิวหนังออกไป
5. 
   5
   ลองใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดขน. ถ้าเทปกาวกำจัดเศษต้นตำแยออกจากผิวหนังไม่หมด ลองใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดขนก็ได้

   • ทาแว็กซ์กำจัดขนลงไปแล้วปล่อยให้แห้งประมาณ 5 นาที แล้วลอกออกเบาๆ ให้เศษพืชหลุดติดไปด้วย
   โฆษณา

ส่วน 2

ส่วน 2 ของ 3:

ใช้วิธีบรรเทาอาการ

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   รู้ว่าจะต้องเจออะไรบ้าง. คุณจะค่อนข้างเจ็บ ปวดแสบปวดร้อน และคัน ระยะเวลาของอาการนั้นแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล และขึ้นอยู่กับวิธีทำความสะอาดแผลเบื้องต้นตามที่กล่าวไปด้วย

   • จะมีผื่นเหมือนเป็นลมพิษ แต่มีตุ่มพองขาวๆ ด้วย ผิวหนังบริเวณที่โดนจะบวม อักเสบ และเป็นรอยแดง
2. 
   2
   ใช้พืชชนิดอื่นรักษา. น้ำที่ได้จากใบของต้นด็อควีด (dock weed) หรือจูเวลวีด (jewelweed) อาจช่วยได้ พืชพวกนี้มักจะอยู่ในพื้นที่เดียวกับต้นตำแย หาให้เจอแล้วนำใบมาบดจนน้ำออก แล้วโปะบริเวณแผล

   • ข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการใช้พืชเหล่านี้รักษาอาการนั้นมีน้อยมาก แต่ก็มีการใช้กันมาเป็นเวลานานหลายร้อยปีแล้ว
   • ต้นด็อควีดมักจะโตในพื้นที่เดียวกับต้นตำแย มีความสูงตั้งแต่ 20 นิ้วไปจนถึงประมาณ 50 นิ้ว มีใบยาวประมาณ 16 นิ้ว ลักษณะใบจะใหญ่มาก ทรงรี ปลายมน และมีขอบหยัก ใบด้านล่างจะมีสีออกแดงไปจนถึงก้าน
   • ต้นจูเวลวีดเป็นพืชชนิดเดียวกับต้นเทียน โดยทั่วไปจะโตในพื้นที่เดียวกับต้นตำแยเช่นกัน สารเคมีที่อยู่ในน้ำจากใบและลำต้นของจูเวลวีดสามารถต้านฤทธิ์ของหนามต้นตำแยได้เป็นอย่างดี
3. 
   3
   พยายามอย่าเกา. บริเวณแผลอาจจะคันมาก แต่พยายามอย่าไปเกา เพราะการเกาจะยิ่งทำให้ระคายเคืองและอาจเป็นแผลจนอาการยิ่งแย่ลงได้

   • สำหรับเด็กเล็ก คุณอาจต้องใส่ถุงมือนุ่มๆ ให้เขาเพื่อป้องกันไม่ให้เกา และตัดเล็บให้สั้นด้วย
4. 
   4
   ประคบเย็น. ประคบเย็นที่บริเวณแผลเพื่อช่วยบรรเทาความเจ็บปวด อุณหภูมิต่ำๆ จะช่วยลดอาการบวมแดงและช่วยให้รู้สึกดีขึ้นได้
5. 
   5
   ใช้ผงฟูผสมน้ำแล้วทา. ใช้ผงฟูกับน้ำสำหรับทาบริเวณผื่น โดยใช้น้ำเย็น มันจะช่วยบรรเทาอาการคัน อักเสบและแสบร้อน

   • ค่อยๆ ทาส่วนผสมนี้ลงบริเวณแผล โดยใช้วิธีแตะเบาๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ระคายเคืองมากขึ้น
6. 
   6
   ใช้ว่านหางจระเข้. ทาแผลด้วยน้ำว่านหางจระเข้สดหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้เข้มข้น วิธีนี้จะช่วยให้ผิวหนังที่อักแสบและแดงหายดีขึ้น และลดความรู้สึกแสบร้อนที่ผิว
7. 
   7
   หลีกเลี่ยงอุณหภูมิสูง. แช่หรืออาบน้ำเย็น และพยายามอย่าให้อะไรร้อนๆ มาโดนผิวบริเวณนั้น อุณหภูมิต่ำๆ จะช่วยบรรเทาความเจ็บปวด ทั้งยังช่วยลดรอยแดงและการอักเสบได้ดีกว่า
8. 
   8
   ซื้อยามาใช้. ครีมทาเฉพาะส่วน ขี้ผึ้ง หรือโลชั่นที่มีส่วนผสมของสารไฮโดรคอร์ติโซน (hydrocortisone) สามารถช่วยลดผื่นแดงและอาการคันได้

   • ใช้ยาทาเฉพาะส่วนที่มีส่วนผสมของไฮโดรคอร์ติโซนเพื่อรักษาผื่นแดง ทำตามคำแนะนำบนฉลาก ผื่นที่เป็นรอยแดง คัน และอักเสบอาจจะหายยากเพราะผิวหนังบาดเจ็บจากการสัมผัสกับต้นตำแยโดยตรง
   • โลชั่นคาลาไมน์ (Calamine) หรือ คาลาดริล (Caladryl®) สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อนและคันได้
   • ยากินต้านฮิสทามีนก็อาจช่วยลดอาการได้ ยาที่มีขายทั่วไป เช่น ยาเซทิไรซีน (cetirizine) ยี่ห้อเซอร์เทค (Zyrtec®) ยาลอราทาดีน (loratadine) ยี่ห้อคลาริติน (Claritin®) และยาไดเฟนไฮดรามีน (diphenhydramine) ยี่ห้อเบนาดริล (Benadryl®)
   • ใช้ครีมหรือขี้ผึ้งที่มีตัวยาปฏิชีวนะ มีขายทั่วไปตามร้านขายยา และมีส่วนผสมของสารต้านการติดเชื้อ ใช้ทาบริเวณที่โดนต้นตำแยได้โดยตรง ความเย็นของยาจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด และคุณสมบัติของครีมจะช่วยป้องกันการติดเชื้อได้
   • คุณสามารถกินพวกยาแก้ปวดเพื่อรักษาอาการปวดได้ ถ้าไม่เป็นโรคหรือมีเงื่อนไขใดๆ ที่ห้ามใช้
   โฆษณา

ส่วน 3

ส่วน 3 ของ 3:

รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ควรไปพบแพทย์

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ควรพบแพทย์ทันทีหากมีอาการแพ้เกิดขึ้น. แม้จะพบไม่มาก แต่บางคนอาจแพ้พืชชนิดนี้หรือสารเคมีที่มันปล่อยออกมา อาการแพ้อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ควรรีบไปพบแพทย์อย่างเร็วที่สุด
2. 
   2
   รู้ทันอาการแพ้. โทรไปที่เบอร์ 911 หรือไปห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลทันทีหากมีอาการแพ้อย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้

   • หายใจลำบาก มีเสียงหวีด หรือรู้สึกจุกแน่นในลำคอ
   • แน่นหน้าอกจนหายใจไม่ออก
   • มีอาการบวมในช่องปาก รวมทั้งลิ้นหรือริมฝีปากด้วย
   • มีผื่นคันลุกลามนอกเหนือจากบริเวณที่โดน และลามไปทั่วร่างกาย
   • ปวดท้อง เป็นตะคริว อาเจียน หรือท้องร่วง อาจเป็นส่วนหนึ่งของอาการแพ้
3. 
   3
   ติดต่อกุมารแพทย์หากเด็กโดนต้นตำแย. แพทย์จะสามารถสั่งจ่ายยาทาเฉพาะส่วนให้ หรือแนะนำวิธีรักษาอาการสำหรับเด็กให้ได้
4. 
   4
   ติดต่อแพทย์หากมีอาการรุนแรง. ถ้าแผลที่ถูกต้นตำแยเริ่มลุกลาม หรืออาการไม่ดีขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง ให้รีบติดต่อแพทย์ แพทย์จะสั่งจ่ายยาทาแผลหรือยากินชนิดแรงที่ช่วยยับยั้งอาการอย่างได้ผลให้
5. 
   5
   ไปพบแพทย์หากแผลมีอาการติดเชื้อ. ถ้าคุณเกาบริเวณที่โดนต้นตำแยจนผิวหนังเป็นแผล อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้

   • ถ้าคุณมีแผลแสบร้อน เป็นหนอง หรืออักเสบมากกว่าบริเวณอื่นๆ แสดงว่าอาจจะติดเชื้อเข้าแล้ว ควรติดต่อแพทย์โดยเร็วถ้าคุณมีอาการเหล่านี้หรือมีไข้ แพทย์อาจสั่งจ่ายยาทาฆ่าเชื้อหรือขี้ผึ้ง หรือยาปฏิชีวนะให้กินสักชุดก็ได้
   โฆษณา

เคล็ดลับ

• พยายามอย่าเกาบริเวณแผล เพราะอาจทำให้ยิ่งระคายเคืองได้
• ทำความสะอาดและรักษาแผลทันที และทายาเรื่อยๆ ถ้ายังรู้สึกระคายเคือง
• ความรู้สึกเจ็บๆ คันๆ จะอยู่เป็นชั่วโมงไปจนถึงเป็นวันๆ ขึ้นอยู่กับความบอบบางของผิวคุณ
• ถ้าวิธีรักษาหนึ่งใช้ไม่ได้ผล ให้ลองใช้วิธีอื่น
• ไปพบแพทย์หากอาการรุนแรง ลุกลาม และมีการเปลี่ยนแปลงหรือแย่ลง อย่ามองข้ามความช่วยเหลือจากแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดกับเด็ก
• คุณสามารถใช้น้ำส้มสายชูทาบริเวณแผล โดยใช้ผ้าสะอาดซับ
• การแช่บริเวณแผลในน้ำชาแก่ๆ ผสมเกลือจะช่วยลดอาการเจ็บปวดได้
• พยายามคิดถึงเรื่องที่ชอบเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากความเจ็บปวด และทำให้คุณไม่เผลอเกา จะได้หายเร็วขึ้น
• โดยปกติต้นตำแยจะขึ้นอยู่แถวๆ ริมแม่น้ำหรือพื้นที่ชื้นๆ ถ้าคุณไปโดนเข้า ให้รีบไปที่แหล่งน้ำและนำโคลนหรือดินจากก้นแม่น้ำมาถูบริเวณที่โดนสัก 2-3 รอบ

โฆษณา