วิธีการ รักษาอาการวิงเวียน

อาการ ‘วิงเวียน’ ที่ว่า นั้นจะแตกต่างกันไปตามแต่ละคน บางคนใช้อธิบายอาการหวิวๆ ยืนไม่อยู่ ในขณะที่คนอื่นๆ ใช้บอกอาการบ้านหมุน เอาเป็นว่าโรคนี้คลุมเครือน่าดู แถมเกิดจากมากมายหลายปัจจัย เวลาจะป้องกันหรือรักษาทีก็ต้องลองผิดลองถูก วันนี้เราเองก็มีวิธีรักษาอาการวิงเวียนมาแนะนำกัน

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 3:

รักษาปัจจุบันทันด่วน

ดาวน์โหลดบทความ

1
นั่งลงหรือนอนราบ. อาการวิงเวียนหรือหวิวๆ มักเกิดตอนคุณยืนอยู่หรือขยับเขยื้อนร่างกาย พอรู้สึกวิงเวียนเมื่อไหร่ให้นั่งหรือนอนลงทันที จะช่วยบรรเทาความรู้สึกเหมือนหัวหมุนไปได้บ้าง ที่สำคัญจะได้ไม่ล้มหัวฟาดด้วย
- ถ้านั่งอยู่ ให้ลองก้มหัวไปที่หว่างขา เลือดจะได้ไหลเวียนไปที่สมอง หรือจะนอนลงก็ได้ผลเหมือนกัน^{[1]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- นั่งหรือนอนอยู่อย่างนั้นสักประมาณ 1 - 2 นาที หรือจนกว่าจะหายวิงเวียน
2
ดื่มน้ำ. อาการวิงเวียนมักเกิดจากการขาดน้ำ สาเหตุก็คือคุณดื่มน้ำน้อยเกินไป หรือออกกำลังกายจนเสียเหงื่อแล้วไม่ได้ดื่มน้ำชดเชย บางทีก็มาจากอาการป่วยตอนคุณอาเจียน ท้องเสีย หรือเป็นไข้ ซึ่งจะทำให้เสียน้ำปริมาณมาก พออาการวิงเวียนทุเลาลงแล้ว คุณควรรีบดื่มน้ำหรือเครื่องดื่มอื่นๆ ทันที^{[1]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้ารู้สึกไม่ดี ดื่มน้ำได้ไม่มาก ให้ลองดื่มอย่างอื่นเช่นน้ำเกลือแร่ ชาร้อนผสมน้ำตาลเล็กน้อย ซุปข้น/ใส หรือน้ำผลไม้รสอ่อนๆ ก็ได้
บางทีคุณอาจวิงเวียนเพราะระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ โดยเฉพาะคนที่เป็นเบาหวาน (เพราะผลข้างเคียงจากยา)^{[2]Xแหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้National Health Service (UK)ไปที่แหล่งข้อมูล} พอรู้สึกวิงเวียนเมื่อไหร่ ให้หาอะไรทานเล็กๆ น้อยๆ อะไรก็ได้ที่เน้นแป้งหรือน้ำตาล อย่างช็อกโกแลตแท่งเล็กๆ หรือกล้วยหอมก็ได้เหมือนกัน
4
มุ่งความสนใจไปที่จุดใดจุดหนึ่ง. นักเต้นหลายคนมักจ้องไปที่จุดจุดเดียวเพื่อป้องกันอาการวิงเวียนที่อาจเกิดขึ้นตอนหมุนตัว คุณเองก็เอาเทคนิคนี้มาปรับใช้ได้เช่นกัน
- เพ่งมองไปที่จุดจุดเดียว อย่างรอยแตกที่เพดาน หรือคราบด่างดำบนพื้น ก็ช่วยให้สมองรับรู้ได้ว่าคุณไม่ได้กำลังหมุนตัวอยู่จริงๆ อย่างที่ร่างกายพยายามบอก
บางทีคนเราก็วิงเวียนได้เพราะความวิตกกังวลหรือกระวนกระวาย เวลาเกิดเรื่องกระทบจิตใจขึ้นมาคุณก็รู้สึกเหมือนหายใจได้ไม่เต็มปอด แต่จริงๆ แล้วสาเหตุมันมาจากคุณพยายามหายใจเข้า-ออกถี่เกินไปต่างหาก ถ้าเป็นแบบนี้ละก็ ลองหายใจให้ช้าลง หายใจลึกๆ ก็ช่วยให้คุณสงบ บรรเทาอาการวิงเวียนได้เหมือนกัน^{[3]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
6
หลีกเลี่ยงแสงจ้าๆ. ถ้าเกิดอาการวิงเวียนเมื่อไหร่ อย่ามองไปที่แสงสว่างจ้า กระทั่งแสงไฟจากทีวีหรือแล็ปท็อปก็ไม่ได้เหมือนกัน
- แสงจ้าๆ อาจทำให้คุณยิ่งตาลาย จนเวียนหัวหนักเข้าไปอีก
- ลองนั่งลงหรือนอนราบในห้องมืดๆ ไม่ก็หลับตาสัก 1 - 2 นาที
7
บริหารคอแบบ Epley maneuver.^{[4]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} วิธีบริหารแบบ Epley maneuver ก็คือเอียงหัวและคอ หรือหันหน้า เพื่อบรรเทาอาการวิงเวียน วิธีการ Epley maneuver นั้นจะทำให้หินปูนในหูชั้นในนั้นกลับเข้าที่ จะได้ไม่เกิดอาการวิงเวียนอีก คุณบริหารด้วยวิธี Epley maneuver ได้โดย
- นั่งลงแล้วหันหน้า 45 องศาไปทางหูข้างที่อื้อ
- จากนั้นนอนราบ หันหน้าค้างไว้แบบนั้น ประมาณ 1 - 2 นาที ก็น่าจะรู้สึกดีขึ้นแล้ว
- คราวนี้หันหน้า 90 องศาไปทางหูข้างที่ปกติดี จากนั้นหมุนตัวตามไป ตอนนี้คุณควรจะมองเห็นพื้นด้านล่างแล้ว
- ทำท่านี้ค้างไว้ ช่วงนี้อาจจะรู้สึกวิงเวียนขึ้นมาอีก แต่จะหายไปเองในไม่ถึงนาที
- ค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งช้าๆ
โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 3:

รักษาระยะยาว

ดาวน์โหลดบทความ

1
อย่าทำอะไรเร็วเกินไป. ถ้ารู้ตัวว่าเป็นคนเวียนหัวได้ง่าย สำคัญมากว่าจะทำอะไรต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป เพราะถ้าอยู่ๆ ก็หันรีหันขวางละก็ อาจส่งผลต่อความดันเลือดของคุณได้ ทำอะไรก็ทำให้ช้าๆ จะลุกจะนั่งก็ต้องระวังตัว ถ้าจับราวหรืออะไรเพื่อพยุงตัวได้ก็ดี
- ตอนเช้าเวลาลุกจากเตียง พยายามลุกแบบมีขั้นตอน อันดับแรกคือยันตัวนั่งบนเตียงก่อนช้าๆ แล้วค่อยขยับมาวางเท้าบนพื้นห้อง ผ่อนคลายครู่สั้นๆ หายใจเข้า-ออก แล้วถึงลุกขึ้นยืน
- เวลาจะเปลี่ยนท่าจากนั่งไปเป็นยืน ให้บริหารขานิดๆ หน่อยๆ ก่อน เลือดจะได้ไหลเวียนไปเลี้ยงทั่วถึง ลดอาการหน้ามืดเวียนหัว
ถ้าขาดน้ำจะส่งผลต่อความดัน ทำให้เวียนหัวได้ คุณจึงควรดื่มน้ำวันละ 6 - 8 แก้ว แต่ถ้าระหว่างเกิดอาการขาดน้ำ ให้รีบดื่มพวกน้ำเกลือแร่ที่ให้พลังงานสูง electrolyte ในเครื่องดื่มประเภทนี้จะช่วยคืนความสดชื่นให้คุณได้อย่างรวดเร็ว เห็นผลกว่าการดื่มน้ำธรรมดา นอกจากนี้อาหารที่มีรสเค็มหน่อยก็ช่วยได้เหมือนกัน
คุณเกิดอาการวิงเวียนหรือรู้สึกหวิวๆ ได้ถ้ากำลังเป็นโรคติดต่ออย่างหวัดหรือไข้หวัด ถ้าป่วยแล้วพักผ่อนให้เยอะๆ คุณก็จะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว บรรเทาอาการวิงเวียนได้^{[1]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
4
วิงเวียนเมื่อไหร่ให้จดไว้. ฟังดูแปลกๆ เนอะ แต่การจดรายละเอียดของอาการวิงเวียนในแต่ละครั้งไว้ จะทำให้คุณบอกได้ว่าอะไรเป็นตัวกระตุ้น คราวหน้าคราวหลังจะได้หลีกเลี่ยงทันไง
- เช่น คุณวิงเวียนเพราะกินน้อย ลุกเร็วเกินไป หรืออาบน้ำร้อนจัด พอรู้สาเหตุแล้วจะได้ป้องกันและหลีกเลี่ยง
ถ้าคุณเป็นคนเวียนหัวง่าย การใส่รองเท้าส้นสูงอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต ใส่รองเท้าแบนๆ ทำให้สมองเข้าใจท่าทางของร่างกายและทำให้ทรงตัวได้ดีกว่า แถมพอใส่รองเท้าส้นเตี้ยแล้ว หากเกิดอาการวิงเวียนจนสะดุดล้มเมื่อไหร่ ข้อเท้าจะได้ไม่แพลง
6
สภาพแวดล้อมต้องปลอดภัย. อันตรายที่อาจเกิดจากอาการวิงเวียน ก็คือคุณหัวหมุนจนล้มกระแทกอะไรเข้า ถ้ารู้ตัวว่าวิงเวียนบ่อยๆ ควรปรับภูมิทัศน์รอบตัว ทั้งที่บ้านและที่ทำงาน ให้ปลอดภัยหายห่วง
- เก็บให้เรียบ พวกสายไฟต่างๆ ที่คุณอาจสะดุดหัวฟาดได้เวลาเกิดอาการวิงเวียน
- ติดไฟกลางคืนดวงเล็กๆ ไว้ตามจุดต่างๆ จะได้ไม่ตาลายเพราะห้องนึงมืดห้องนึงสว่างจ้า
- อย่าปูพรมหนาเกินไป เพราะเดี๋ยวจะเดินแล้วยวบยาบ ทรงตัวไม่ค่อยดี
- ใช้แผ่นยางกันลื่นปูที่พื้นห้องน้ำและส่วนที่มักเปียกน้ำจนลื่นล้มได้
7
กินยาแก้เมา. พวกยาแก้เมาคลื่นเมารถ ก็ช่วยบรรเทาอาการวิงเวียนได้ คุณหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป หรืออาจปรึกษาแพทย์เพื่อจ่ายยาชนิดอื่นที่เห็นผลกว่า ยาที่ว่าก็เช่น
- Dimenhydrinate (Dramamine) มีทั้งแบบเม็ด แบบน้ำ และยาเหน็บ dimenhydrinate นี่แหละยาป้องกันและบรรเทาอาการคลื่นไส้ที่ดีที่สุด
- Meclizine (Bonine) ถ้าเป็นเด็กอายุ 12 ปีหรือต่ำกว่า ไม่ควรทานยา Meclizine เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงได้^{[5]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- Diphenhydramine (Benadryl) ปกติคนนิยมใช้เป็นยาแก้แพ้ รักษาผื่นคัน แต่ยา diphenhydramine ก็บรรเทาอาการคลื่นเหียนวิงเวียนได้เช่นกัน แถมหาซื้อง่ายอีกต่างหาก^{[6]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
หลีกเลี่ยงสารที่ส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือด. คนเรามักวิงเวียนเพราะความดันต่ำ เพราะฉะนั้นต้องหลีกเลี่ยงหรือลดพวกสารต่างๆ ที่ส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือด เช่น คาเฟอีน บุหรี่ แอลกอฮอล์ และสารเสพติดอื่นๆ^{[1]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
9
ระวังอาการอื่นๆ ที่อาจร้ายแรงกว่า. บางทีอาการวิงเวียนก็เป็นผลมาจากโรคที่ร้ายแรงกว่า^{[7]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} ถ้าคุณวิงเวียนบ่อยๆ หรือเป็นทีนานๆ ควรรีบปรึกษาแพทย์โดยด่วน
- หมอเขาจะได้ตรวจและทดสอบเพื่อวินิจฉัยหาโรคร้ายแรงที่อาจแฝงตัวอยู่ บางทีที่คุณวิงเวียนก็เพราะ
  - โรคของหูชั้นใน เช่น หูชั้นในอักเสบ โรคตะกอนหินปูนในหูชั้นในหลุด หรือโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน
  - โรคที่เกิดจากความเครียดหรือวิตกกังวล เช่น PTSD หรือโรคเครียดหลังประสบเหตุการร้ายแรง
  - โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ เช่น ภาวะหัวใจสั่นพริ้ว
  - โรค P.O.T.S. (อัตราหัวใจเต้นเร็วเวลาลุก) หรือโรคหลอดเลือดหัวใจอื่นๆ
  - โรควูบหรือหมดสติ
โฆษณา

วิธีการ 3

วิธีการ 3 ของ 3:

รักษาด้วยสมุนไพรพื้นบ้าน

ดาวน์โหลดบทความ

1
รักษาด้วยขิง. คนนิยมใช้ขิงเป็นสมุนไพรเพื่อการรักษามาเป็นเวลาหลายร้อยปีแล้ว รวมถึงบรรเทาอาการคลื่นเหียนวิงเวียน สรรพคุณของขิงนั้นไม่ใช่ลือกันไปเองแบบยาผีบอก แต่ได้รับการพิสูจน์แล้วทางวิทยาศาสตร์ว่าขิงสามารถบรรเทาอาการวิงเวียนได้ ดีไม่ดีจะได้ผลชะงัดกว่ายาที่คุณหาซื้อตามร้านด้วยซ้ำ ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะขิงช่วยกระตุ้นเลือดลมให้ไหลเวียนไปเลี้ยงสมองได้ดี ที่คุณวิงเวียนก็มาจากเลือดไหลเวียนได้ไม่ดีนี่แหละ^{[8]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} คุณสามารถใช้ขิงรักษาได้ด้วยวิธีการเหล่านี้
- ทานขิงสกัดแบบแคปซูล
- เคี้ยวรากขิงสดฝานเป็นชิ้นเล็กๆ
- ดื่มน้ำ ginger ale หรือน้ำขิง คุณชงน้ำขิงได้ง่ายๆ โดยต้มรากขิงชิ้นเล็กๆ แล้วดื่ม
- อมลูกอมหรืออมยิ้มรสขิง
น้ำ Celery หรือ ขึ้นฉ่ายฝรั่ง ช่วยบรรเทาอาการวิงเวียนอันเกิดจากความดันต่ำได้ คุณหาซื้อน้ำขึ้นฉ่ายได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป หรือจะคั้นเองสดๆ ที่บ้านก็ได้
ผสมแอปเปิ้ลไซเดอร์ 2 ช้อนชากับน้ำผึ้ง 2 ช้อนชา ลงในน้ำเย็นหรือร้อนก็ได้ จากนั้นดื่ม 3 ครั้งต่อวัน จะช่วยให้ความดันคงที่ แถมช่วยลดอาการวิงเวียนได้ด้วย
ถ้าคุณวิงเวียนเพราะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก ก็น่าจะลองทานยาหรืออาหารเสริมเพิ่มธาตุเหล็ก แล้วคอยสังเกตว่ามีอาการอื่นร่วมด้วยหรือเปล่า เช่น อ่อนเพลีย หายใจขัด หรือปวดหัว ถ้าสันนิษฐานว่าตัวเองเป็นโรคโลหิตจาง ให้ปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มทานยาหรืออาหารเสริมเพิ่มธาตุเหล็ก^{[9]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
แปะก๊วยเป็นหนึ่งในสมุนไพรที่อุดมไปด้วยสรรพคุณทางยา แปะก๊วย หรือ Ginkgo biloba นั้นช่วยบรรเทาอาการวิงเวียนได้ เพราะกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในหูชั้นใน ทั้งยังรักษาโรคบางชนิดในหูชั้นในได้อีกด้วย โดยมีให้คุณเลือกทานทั้งแบบเม็ด น้ำสกัด และใบแห้ง^{[10]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
สมุนไพรอีกชนิดที่มีสรรพคุณรักษาอาการวิงเวียนก็คือ Feverfew หรือ ดอกเก๊กฮวย นั่นเอง ไม่ใช่แค่ช่วยเรื่องปวดหัวไมเกรน แต่ยังลดการอักเสบในหูชั้นใน และกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดได้อีกด้วย วิตามินจากดอกเก๊กฮวยนั้นมีทั้งแบบแคปซูล เม็ด และยาน้ำสกัด^{[11]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
โฆษณา